ตอนที่แล้วEp.520 - เอฟเฟกต์ของเงากระบี่บิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.522 - มหาสงครามเริ่มขึ้น

Ep.521 - เตรียมพร้อมสำหรับการปิดล้อม!


1/3

Ep.521 - เตรียมพร้อมสำหรับการปิดล้อม!

คิมแทจุนแม้มีเลเวล 15 แต่พลังรบไม่ได้แข็งแกร่งนัก

ซูหยุนปิงไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการทำเสน่ห์ถาวร

คิมแทจุนทำสัญญากับเฮสการ์แล้ว หากถูกเฮสการ์ตรวจพบว่าทรยศ เขาสามารถโดนฆ่าได้ตลอดเวลาตามเอฟเฟกต์ของสัญญา

แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ คิมแทจุนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ภายใต้อิทธิพลของเสน่ห์ถาวร คิมแทจุนได้กลายเป็นทาสของซูหยุนปิงอย่างสมบูรณ์

คำสั่งและเจตจำนงของเธออยู่เหนือทุกสิ่ง

เธอสามารถทำให้เขาที่ภักดีต่อเฮสการ์หักหลังได้อย่างไม่ลังเล

เธอสามารถทำให้คนซื่อสัตย์ละเมิดศีลธรรมได้อย่างไม่ต้องชั่งใจ

การที่ได้ คิมแทจุนแทรกซึมเข้าไปแล้วทำลายศัตรูจากภายใน จะช่วยให้โอกาสชนะในสงครามนี้เพิ่มขึ้น

ประมาณสองสามวันต่อมา

ข่าวจากสถาบันวิจัยเหนี่ยวนำมนตรามังกรฟ้าก็มาถึง

วัสดุที่ฮังอวี่รวบรวมจากคอนเนคชั่นทั้งภายในและภายนอกประเทศของเขา สามารถผลิตระเบิดเหนี่ยวนำมนตราได้เพียงสามลูกเท่านั้น

แต่ระเบิดที่ว่า ล้วนเป็นไอเท็มสีม่วงเลเวล 16 ทั้งสิ้น!

แต่ละลูกมีรัศมีสังหารสูงถึงหลายร้อยเมตร คลื่นกระแทกหลังการระเบิดสามารถกระจายออกไปได้หลายเท่า หากวางมันกลางเมืองเล็กๆ พื้นที่ในเมืองอาจถูกทำลายเกินกว่าครึ่ง!

แม้ขนาดของเมืองมังกรจะใหญ่กว่าเมืองเล็กมาก แต่ถ้าจุดชนวนระเบิดเหนี่ยวนำมนตราสามลูกพร้อมกันในตำแหน่งและเวลาที่เหมาะสม  อย่างน้อยก็สามารถสร้างความเสียหายแก่ทัพศัตรูได้เป็นอย่างมาก ไม่ก็สามารถทำลายแหล่งกำเนิดพลังงานป้องกันจากภายนอก

ให้ผลดีกว่าการระดมยิงปืนใหญ่นับร้อยกระบอกจากภายนอก

แม้เฮสการ์จะฉลาดแกมโกงเพียงใด แต่มันคงคาดไม่ถึง ว่าสมุนที่กราบแทบเท้ามันเมื่อสองสามวันก่อน สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ให้ข้อมูลสำคัญของเผ่าพันธุ์มนุษย์แก่ตัวมันเอง เวลานี้กลับแปรพักตร์

เพื่อให้แผนทำลายจากภายในเป็นไปอย่างราบรื่น ฮังอวี่ไม่เพียงมอบระเบิดสีม่วงทั้งสามลูกแก่คิมแทจุน แต่ยังมอบไอเท็มระเบิดเหนี่ยวนำมนตราสีฟ้าแก่เขาอีกกองใหญ่ รวมไปถึงคัมภีร์สกิลและไอเท็มอื่นๆอีกจำนวนมาก

ทุกอย่างเป็นไปตามแผน

ในขณะที่ฝ่ายฮังอวี่กำลังเตรียมพร้อม ข่าวใหม่จากในโลกวิญญาณก็ถูกส่งมา : นอกจากสามแคว้นที่อยู่ติดกันอย่างแคว้นเดียวดาย แคว้นทุ่งขจี แคว้นทะเลตะวันตกแล้ว อีกทั้งแคว้นในอาณาจักรมังกรโลกาก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวเช่นกัน

จ้าวหมิงกล่าวว่า “ตัดสินจากเบาะแสที่เราได้จากมนุษย์ในแคว้นอื่นๆ ทุกแคว้นกำลังระดมพล แม้ยังไม่ทราบเจตนา แต่ไม่น่าใช่เรื่องดี”

ฉูเทียนหัวกล่าวว่า “มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือในที่สุดทั้งหกแคว้นก็ตกลงยอมร่วมมือกับราชามังกรแล้ว มีแนวโน้มที่พวกมันจะระดมทัพไปรวมกับสันเขามังกร”

ถูกตัอง

นี่คือความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว มิฉะนั้นทั้งหกแคว้นคงไม่เคลื่อนไหวพร้อมกันเช่นนี้

เกรงว่าเฮสการ์คงมอบสิ่งล่อลวงที่ไม่อาจต้านทานแก่ผู้ครองแคว้นและเหล่าขุนนางใหญ่

ในที่สุดสามารถบังคับให้ชาวโลกวิญญาณเหล่านี้เลิกรอและเฝ้าดู หันมาร่วมมือกันต่อต้านเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างสมบูรณ์

เป็นที่ประจักษ์แล้ว ว่าที่เฮสการ์ยอมทำข้อตกลงครั้งใหญ่เช่นนี้ ก็เพื่อกำจัดภัยคุกคามอย่างเผ่ามนุษย์โดยเร็วที่สุด

ฮังอวี่กล่าวว่า “แค่พลังรบของสันเขามังกรก็น่ากลัวมากแล้ว ถ้าพวกมันประสบความสำเร็จในการรวมพันธมิตรจากแคว้นอื่น สถานการณ์ของเราจะล่อแหลมมาก!”

เขาชั่งใจอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจ “ประกาศให้ทุกทัพขึ้นสู่เมืองหนามทมิฬ!”

ฉู จ้าว และคนอื่นๆเข้าใจดีว่าประโยคนี้หมายความว่ายังไง

เมืองหนามทมิฬคือป้อมปราการเคลื่อนที่

ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ ฮังอวี่สั่งให้ยกพลเข้าเมือง ชัดเจนว่าต้องการเป็นฝ่ายบุกศัตรู!

“มีโอกาสชนะมากแค่ไหน?” จ้าวหมิงแม้มีฐานะเป็นผู้บริหารระดับสูงของมังกรคาม  แต่เขาเป็นกลางเสมอมา ดังนั้นเอ่ยถามถึงการตัดสินใจครั้งนี้

“ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของเรา เอาจริงๆมันค่อนข้างเสี่ยง”

“แต่ฉันสนับสนุน!” ฉูเทียนหัวพยักหน้า “เพราะพวกเราเตรียมตัวมานานแล้ว ถึงเวลาสุกงอม เฮสการ์ไม่เปิดโอกาสให้พวกเราเติบโตอีกต่อไป แทนที่จะเป็นฝ่ายตั้งรับ สู้บุกให้มันจบๆไปเลยดีกว่า!”

“การรวมทัพพันธมิตรหกแคว้นกับกองทัพสันเขามังกรต้องใช้เวลา” ฮังอวี่กล่าว “พวกเราจะยุติเหตุการณ์นั้นก่อนที่จะมีการรวมทัพเสร็จสิ้น”

“เห็นด้วย!”

“ได้เวลาสู้แล้ว!”

“สังหารราชามังกรคลั่ง!”

ฝูงชนต่างแสดงท่าทีสนับสนุน

ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนของพันธมิตรหนามทมิฬอย่างนาเซอร์ คูเวตัน ทาเซีย หรือชาวพื้นเมืองต่างให้การสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้

พวกเขารอวันนี้มานานเกินไปแล้ว

ถึงเวลาปฏิบัติการจริงเสียที!

เมืองพันหนองน้ำส่งกองกำลัง 10,000 นาย!

เมืองเพลิงทมิฬส่งกองกำลัง 10,000 นาย!

เมืองธารทะเลทรายส่งกองกำลัง 10,000 นาย!

เมืองฟ้าเดียวดายส่งกองกำลัง 20,000 นาย!

ทหารของเมืองหนามทมิฬอีก 9,000 นาย และทหารจากเมืองขนาดเล็กและกลางอื่นๆทั่วแคว้นเดียวดาย ตัวอย่างเช่น เมืองขุนเขาไฟและเมืองเล็กต่างๆส่งกองกำลังมารวมๆกันกว่า 20,000 นาย!

สุดท้ายเป็นสายพันธุ์ที่มีสติปัญญาจากทั้งแคว้นเดียวดายและพันธมิตรหนามทมิฬ ที่เมื่อรวมกันแล้วเท่ากับ 1,000 ชีวิตพอดิบพอดี

นี่คือกองทัพเต็มอัตราศึก!

พวกเขาระดมกองกำลังเกือบทั้งหมดที่มี ทิ้งสมุนทหารเพียงน้อยนิดไว้ป้องกันเมือง

การทุ่มหมดหน้าตักเช่นนี้ หากแพ้เดิมพันนั่นหมายถึงความสิ้นหวัง!

ด้านแคว้นทุ่งขจีและ แคว้นทะเลตะวันตก แม้ทั้งสองจะถูกฮังอวี่ควบคุมทางอ้อม แต่สถานการณ์ของทั้งสองแคว้นไม่มั่นคงนัก ฮังอวี่สามารถดึงสมุนทหารจากแคว้นทุ่งขจีมาได้ 20,000 นาย และชนชั้นยอด 10,000 นายจากแคว้นทะเลตะวันตก เท่านั้น

นี่คือขีดจำกัดแล้ว

เมื่อรวมกันขนาดของกองทัพเรียกได้ว่าเกินหลักแสน!

แต่ก็ดูเหมือนยังไม่พอ

สงครามระดับทัพหลักแสนในอาณาจักรมังกรโลกา ถือเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่หาได้ยากมาก!

เนื่องจากเตรียมการมานานหลายวันแล้ว ดังนั้นกองทัพกบฏจึงรวมตัวกันได้อย่างรวดเร็ว

เมืองหนามทมิฬลอยไปยังตำแหน่งต่างๆในแคว้นเดียวดาย จากนั้นหยุดรับกองทัพทหารจากแคว้นทุ่งขจีและแคว้นทะเลตะวันตก เป็นอันเสร็จสิ้นการระดมพล

เนื่องจากปฏิบัติการครั้งนี้ใหญ่โตมาก ดังนั้นไม่มีทางปิดเป็นความลับ

และทางมังกรครามก็ไม่ได้ห้ามสื่อต่างๆมาทำข่าวเช่นกัน เวลานี้ผู้สื่อข่าวจากทั่วทั้ง อาณาจักรมังกรโลกา ทั้งหมดติดตามกองทัพฮังอวี่ขึ้นมายังเมืองหนามทมิฬ

...

ในคอลัมน์ 《ข่าวด่วนโลกวิญญาณ)》เวลานี้มีคนรับชมรายงานสดผ่านหน้าจอกว่าหลักร้อยล้านคน!

ทุกคนที่รับชมสามารถเห็นได้ ว่าบนป้อมปราการเหล็กดำทรงพีระมิดหลายแห่งภายในเมืองหนามทมิฬ แต่ละชั้นเต็มไปด้วยทหาร

นอกเหนือไปจากนี้ ตามทางเดินต่างๆ หรือกลางจัตุรัสยังเต็มไปด้วยผู้คนหนาแน่น

นักข่าวบันทึกภาพขณะเดียวกันอธิบายอย่างตื่นเต้น “สิ่งที่ทุกท่านเห็นอยู่ในขณะนี้คือภาพสดๆของเมืองหนามทมิฬ ข้างในเมืองรวบรวมกองทัพไว้นับแสนนาย และตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้น คาดว่าจะถึงที่หมายในเวลา 1 - 2 วัน”

“ทุกท่านจะมองเห็นได้ ว่าภายในเมืองหนามทมิฬ ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยโครงสร้างป้อมปราการเจ็ดแห่ง แต่ละแห่งเชื่อมถึงกัน สามารถโยกย้ายทหารจำนวนมากเพื่อป้องกันการโจมตีจากภายนอกได้”

“ทั้งในและนอกกำแพงเมืองหนามทมิฬ มีการติดตั้งอาวุธเหนี่ยวนำมนตราจำนวนมาก ส่วนใหญ่มาจากโลกมนุษย์ของเรา ครั้งนี้มีปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราระยะไกลมากถึง 1,200 กระบอก!”

“นอกจากนี้ เผ่ามนุษย์เรายังได้ก่อตั้งทีมหุ่นรบ ทีมโพชั่นมนตรา และทีมคัมภีร์สกิล ฯลฯ อีกด้วย หน่วยปฏิบัติการพิเศษมีหลายประเภทมาก แต่รายละเอียดไม่สะดวกจะอธิบายตอนนี้”

“หลังจากรวมพลในเมืองหนามทมิฬแล้ว ทุกคนจะอยู่ภายใต้การนำทัพของบอสฮังและองค์กรมังกรคราม บินข้ามแคว้นต่างๆ ข้ามภูมิประเทศอันซับซ้อนของสันเขามังกร เปิดจากโจมตีทางอากาศใส่เมืองมังกร!”

...

นักข่าวสัมภาษณ์โฆษกของมังกรคราม

นักข่าวถาม “คุณคิดว่าสงครามครั้งนี้มีความสำคัญต่อมนุษย์เราอย่างไรบ้าง?

เจียงหนานตอบกลับด้วยใบหน้าจริงจัง “เป็นเวลากว่าปีครึ่งแล้วที่โลกวิญญาณมาเยือน แต่มนุษย์ไม่เคยมีที่ยืนในโลกวิญญาณอย่างแท้จริง พวกเราได้แต่คลำทางและออกสำรวจอยู่เสมอ เสียสละเลือดเนื้อและน้ำตานับครั้งไม่ถ้วน สงครามครั้งนี้มีความสำคัญต่อยุคสมัยมาก มันจะเป็นการเปิดศักราชใหม่ของมนุษย์ชาติ!”

นักข่าวถามอีกครั้ง “ดูเหมือนศึกนี้บอสฮังจะมั่นใจมาก นี่เรื่องจริงไหม?”

เจียงหนานกล่าวว่า “ถูกต้อง! ผู้นำของเราไม่เคยแพ้! และสงครามครั้งนี้ก็เหมือนกัน--

--พวกเราชนะแน่นอน!”