ตอนที่แล้วตอนที่ 339 ถังเทียนมาแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 341 เดชกระบี่ปลอดสำเนียง

ตอนที่ 340 เพลิงของถังเทียน


ร่างของถังเทียนถูกเพลิงปกคลุมกระพริบวูบวาบ สีหน้าที่เยือกเย็นของเขาทำให้คนที่เห็นเขาไม่คุ้นเคย

หรือว่าเขาเอาชนะห้องฆ่าตัวตายจนได้?

ปิงถอนหายใจโล่งอก เขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป พยัคฆ์ฟ้าพังครืนเสียงดังสนั่น ทำให้ปิงหลุดออกมาชิ้นส่วนพยัคฆ์ฟ้าแตกกระจาย  พลังของเย่เฉาเกอน่ากลัวเกินไปจริงๆ  แม้ว่าพลังของปิงจะไม่ใช่สิ่งที่มันคุ้นเคย แต่คนที่วิปริตอย่างนั้นความจริงเป็นเพียงรุ่นเยาว์อันดับหกของสมาพันธ์ชาวยุทธ

สมาพันธ์ชาวยุทธแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่?

แต่ ขณะที่ปิงมองดูถังเทียน  ความกังวลใจของเขาผ่อนลงทันที

ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น หลิงซิ่วก็ยังถอนหายใจโล่งอก

ไม่เป็นไร, ในสายตาของทุกคนเมื่อพูดถึงเรื่องร่างกายที่ไม่ธรรมดา หนุ่มชาวฟ้ามิได้ด้อยกว่าผู้ใด ตัวประหลาดกับตัวประหลาดเจอกันเหมาะสมกันดีไม่ใช่หรือ?  เจ้าทั้งสองน่าจะเริ่มสู้กันเร็วกว่านี้  เราจะได้ดูกัน และมีความสุขกับการชมการต่อสู้,ปรบมือบ้าง นั่นก็คงจะดี..

ดีแล้ว แม้ว่าเขาจะมาสายไปบ้าง  แต่อย่างน้อย เขาก็ยังมาถึงที่นี่

สภาพจิตใจของหลิงซิ่วผ่อนคลายทันที  เขาไม่กลัวตาย แต่ถ้าอาเฮ่อต้องมาตายเพื่อเขา และต่อหน้าเขา  ต่อให้เขาต้องตาย  หลิงซิ่วคงตายตาไม่หลับ

อาเฮ่อ....

อาเฮ่อที่ยังอยู่ข้างหน้าเขา ยังไม่ขยับแม้แต่น้อย

อาการบาดเจ็บของเขาไม่น่าจะรุนแรงเกินไปกระมัง?...

หลิงซิ่วซาบซึ้ง เขากังวลอยู่ตลอดเวลา  แต่เขาโพล่งออกมา “เฮ้, เจ้าคนอวดเก่ง  ทำไมเจ้าไม่ชักกระบี่เล่า?”

คนอวดเก่ง.....

อาเฮ่อหันศีรษะมาทำหน้าไร้เดียงสา  “กระบี่ข้ายังถูกบรรพบุรุษข้าผนึกเอาไว้ข้ายังชักไม่ออก”

หลิงซิ่วจึงค่อยเข้าใจ เขามักคิดว่าอาเฮ่อมักทำทีสง่างามไม่ยอมชักกระบี่  แต่เป็นเพราะเขาไม่สามารถทำได้  ฟลามิงโกก็หมดกำลังเช่นกันและนั่งหมอบอยู่บนพื้น เขาลูบศีรษะของมันด้วยความสงสาร

พักซะเถอะ  เจ้าบ้าตัวประหลาดมาถึงนี่แล้ว

จริงสินะ, เจ้าตัวประหลาดมาถึงนี่แล้ว

ถ้าจะมีคคนในกลุ่มที่อาจจะเอาชนะเย่เฉาเกอได้  นั่นก็คงจะมีแต่เพียงถังเทียน  เจ้านั่นไม่อาจประเมินได้ด้วยความรู้สึกธรรมดา

แต่บางมีความรู้สึกบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับเขา...

หลิงซิ่วสีหน้าเขียวคล้ำขณะที่เขามองดูถังเทียน  ขณะที่สีหน้าอาเฮ่อดูจริงจัง  ทั้งสองคิดถึงตอนที่สู้กับเมิ่งเว่ย  ถังเทียนอยู่ในสภาวะที่แปลก  และหลังจากต่อสู้  ถังเทียนจดจำอะไรไม่ได้

คนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาก็คือคนเดียวกันคนผู้นี้มีความลับซ่อนอยู่ในตัวเท่าใดกันแน่?

“เจ้าคือถังเทียนใช่ไหม?”  เสียงของเย่เฉาเกอดังก้องท้องฟ้า

ถังเทียนไม่ตอบ

มีแต่เพียงเสียงทรายแตกระเบิดร่วงลงมากระทบพื้นเหมือนฝน  กางเกงที่ฉีกขาดรุ่งริ่งไม่สามารถซ่อนรอยช้ำที่ขาเขาได้  เสียงทรายที่ร่วงเหมือนฝนกลบเสียงฝีเท้า

ฝ่าเท้าของเขาก้าวลงบนผืนทราย  เพลิงหลอมเม็ดทรายและทิ้งไว้แต่รอยเท้าสีดำซึ่งถูกทรายกลบบังอย่างรวดเร็ว

เขาลืมไปว่าเขาได้ต่อสู้มาไม่หยุดในห้องฆ่าตัวตาย  เขาลืมไปว่าเขาข้ามอุปสรรคท่าเท้าลมพรางและวิ่งมาหลายวันหลายคืน  เขาลืมไปว่าร่างของเขาเหนื่อยจัด เขารู้สึกแต่เพียงว่าหัวใจเขากำลังเร่าร้อน  ร่างกายเร่าร้อน แต่แม้จะเป็นเปลวเพลิงแต่แฝงความหนาวเยือกเย็นด้วย

โลกของถังเทียนเงียบสงัดมาก และได้ยินแต่เพียงเสียงหัวใจเต้นและลมหายใจของเขา  เขาพึมพำในใจ ราวกับว่าเขาพูดกับตนเอง เหมือนกับว่าเขากำลังพึมพำอย่างเย็นชา

ทำไมหัวใจข้ารู้สึกเหมือนมีไฟ

เพราะเรากำลังจะไปกลุ่มดาวกางเขนใต้  เราต้องการแข็งแกร่งด้วยกัน  เราต้องการเที่ยวผจญภัยสวรรค์วิถี

เพราะฝันของเรา สัญญาของเรา ภายใต้ดวงดาว ทุกคนอย่าลืมดีกว่า

อย่าทิ้งความคิดฝันที่เต็มไปด้วยปณิธาน, อย่าอ้างว่าเราเด็กและไม่มีประสบการณ์  อย่าอ้างว่าผลออกมาเพราะกำหนดไว้แล้ว

อย่าบอกว่า เฮ้ย..หยุดฝันได้แล้ว

ข้ากำลังสู้เคียงข้างพวกเจ้าทุกคน  และหัวใจข้ายังคงเต้น  ลมหายใจข้ายังไม่หยุดและข้าสามารถสัมผัสได้ถึงสายลมและแสงแดด

ทำไมเลือดข้าถึงได้เร่าร้อนนัก

เพราะกลุ่มดาวกางเขนใต้ยังคงอยู่ไกล  ข้าจะล้มเหลวที่นี่ได้อย่างไร?

เพราะข้ายังมีข้อสงสัยอีกมากมาย  แล้วข้าจะหยุดอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

เพราะข้ายังไม่มีอะไรมาก!

ข้าจึงต้องการชนะ

ข้ามีสิ่งเดียวที่บอกเจ้าได้  ข้าคือถังเทียน!

ข้าแค่ต้องการบอกเจ้า ข้าจะเอาชนะเจ้าให้ได้ และใช้ร่างเจ้าเป็นก้อนหินสำหรับหยั่งเท้าก้าวไป

ถังเทียนเงยหน้า สายตาของเขาเต็มไปด้วยความต้องการต่อสู้ เพลิงร้อนมากจนยากจะมองเห็นโดยตรงได้

ปัง! กระบี่ปลอดสำเนียงในมือซ้ายของเขามีเพลิงสีฟ้าครอบคลุม  กระบี่เซียนกักสมุทรในมือขวาระเบิดเปลวเพลิงดำและร่างถังเทียนหายไปทันที

หัวใจของเย่เฉาเกอตื่นตัวถึงอันตราย  เนื่องจากเย่เฉาเกอรู้สึกถึงอันตรายที่รุนแรงซึ่งผ่านเข้ามาถึงกับทำให้ขนทุกเส้นทั่วตัวเขาลุกชัน

เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของเขาเปลี่ยน

กระบี่แสงสีฟ้าและดำตัดไขว้กันสะท้อนเข้าในตาของเขา ขณะที่เย่เฉาเกอได้แต่เอากระบี่มาป้องกันไว้ข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว

กระบี่ในมือของเขาแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ทันที  พลังที่เหลือเชื่อกระแทกหน้าอกของเขา

เย่เฉาเกอกระเด็นออกไปเหมือนกับลูกเด้งกลายเป็นรูปร่างเงาดำพุ่งลงเนินทราย

ปัง!

พลังมหาศาลทำให้เนินทรายถูกเป่ากระจายทันที

ถังเทียนยืนอยู่กลางอากาศ มองดูพื้นข้างล่างอย่างเย็นชา

เมื่อกางเขนฟ้า-ดำปรากฏอยู่ในท้องฟ้า ปิงสั่นทันทีเหมือนกับว่าเขาถูกฟ้าผ่า สมองของเขาว่างเปล่าและความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมา

บุรุษหนุ่มนั่งร้องไห้กับพื้นฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งลูบศีรษะของเขา

“เด็กน้อย,อย่ากังวลไปเลย เคียวกางเขนเขียวแดงเรียนยากไปบ้าง”

บุรุษหนุ่มหยุดร้องไห้ หน้าของเขาเต็มไปด้วยคราบน้ำตาเขาถาม “ผู้กองใช้เวลาเรียนนานมากด้วยเหรอ?”

“เออ,ข้าจะไปจำเรื่องอย่างนั้นได้ยังไง” ร้อยเอกหัวเราะ แต่หน้าเขากลายเป็นเคร่งขรึม  “แต่สำหรับวิชานี้เจ้าจะต้องฝึกฝนหนักแน่นอน  เพราะเป็นวิชาพิชิตชัยขั้นสูงสุดมันทรงพลังมาก”

“วิชาพิชิตชัยขั้นสูงสุด?”  เด็กหนุ่มสนใจทันทีสายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้

“อืม,มันเรียกว่าท่าดาบกางเขนฟ้านรก มีแต่ผู้เชี่ยวชาญจึงจะใช้ออกได้ ข้าเองก็ทรงพลังไม่ใช่หรือ! ฮ่าฮ่าฮ่า....”

“ชื่อแปลกประหลาดแบบนั้นทำไมถึงเรียกว่าท่าดาบกางเขนฟ้านรกล่ะ?”

“โอวก็เพราะการฟันแนวขวางเป็นสีฟ้า เหมือนท้องฟ้าและการฟันแนวตั้งสีดำเหมือนนรกไงเล่า..”

ท่าดาบกางเขนฟ้านรก...

แต่เมื่อเขาตระหนักว่าท่าฟันกางเขนของถังเทียนแนวขวางเป็นสีดำและแนวตั้งเป็นสีฟ้า ปิงถอนหายใจโล่งอก แต่เพราะเหตุผลบางอย่างหัวใจเขารู้สึกผิดหวัง  เขาหัวเราะเยาะตัวเอง เขามักจะหวังอยู่เล็กน้อยว่านายกองจะทิ้งร่องรอยไว้ให้เขา

หลังจากหายตกใจแล้ว ปิงให้ความสนใจมากขึ้น

พลังของถังเทียนมากมายทรงพลังอย่างแท้จริง

แต่วิชากระบี่ของเขาประหลาด  ครั้งล่าสุดเมื่อเขาเรียกกระบี่เซียนกักสมุทรปิงคาดเดาได้ไม่กี่อย่าง และด้วยกระบี่คู่ในปัจจุบันฟันไขว้กันนั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีนักสู้คนไหนทำกัน นอกจากวิชากระบี่พื้นฐาน ถังเทียนไม่ได้เรียนวิชากระบี่อื่นอีกเลย

หรือว่าจะ มีวิชากระบี่ที่เป็นมรดกปิดผนึกไว้ในตัวถังเทียน?

หรือว่าผนึกไว้ในกระบี่เซียนกักสมุทร?

การคาดเดาทั้งสองนี้ เพื่อเป็นการคาดเดาถึงบิดาผู้ลึกลับของถังเทียน  ปิงสงสัยมาก ข้อเสียใจประการเดียวก็คือท่าดาบกางเขนที่ฟันลงไม่ใช่ท่าดาบฟ้านรก

แต่เย่ฉาเกอไม่ได้อาจรับได้ง่ายๆ เช่นกัน

ปิงส่ายศีรษะเขาตั้งใจจะหาตัวผู้เฒ่าเฟ่ยเพื่อถามว่าพลังสายเลือดของเย่เฉาเกอเป็นพลังแบบใดกันจึงสามารถรับพลังโจมตีเช่นนั้นได้ แต่ก็ยังสมบูรณ์ดีราวกับว่าเขาเป็นอมตะ

ปัง!

เนินทรายระเบิดออก เย่เฉาเกอลอยตัวขึ้นมาในอากาศทันที  ลักษณะของเขาค่อนข้างน่าอนาถ อกของเขามีรอยประทับเป็นกางเขนฟ้าดำซึ่งดูน่ากลัว

หน้าของเย่เฉาเกอบิดเบี้ยว รอยประทับกางเขนบนหน้าอกของเขาเป็นพลังงานประหลาดแตกต่างกันสองอย่างซึ่งแทรกซึมเข้าไปในร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง

เป็นไปตามคาดหัวหน้ากลุ่มคนพวกนี้ถังเทียนแข็งแกร่งกว่าคนที่เหลือมากนัก

และ..กลุ่มคนพวกนี้ก็คุ้มค่ากับการคาดหวังจริงๆ

นอกจากถังเทียน อีกสามคนที่สามารถทำร้ายเขาได้ก็คือ จิ่งหาว, อาเฮ่อ และปิง รังสีกระบี่ของจิ่งหาวทำให้ร่างกายของเขาเสียเลือดไปบ้าง  อาเฮ่อเป็นคนที่สามารถทำร้ายร่างกายของเขาได้  ซึ่งเขายังไม่สามารถฟื้นสภาพได้  กางเขนของปิงและถังเทียนมีความแตกต่างกัน  แต่เรื่องพลังนั้นมิได้ด้อยกว่ากันเลย

ที่สร้างผลได้บาดเจ็บหนักที่สุดก็คือกางเขนของถังเทียน

ถังเทียนไม่ได้โจมตีต่อ ท่าฟันกางเขนสิ้นเปลืองพลังงานมาก ซึ่งร่างกายของเขาเหนื่อยล้าแล้ว

กำลังของเพลิงดำมิติว่างไม่ใช่สิ่งที่เย่เฉาเกอพบว่าแปลก  แต่...

สายตาของเขาจับจ้องมองดูกระบี่ปลอดสำเนียงในมือซ้ายของถังเทียนกระบี่ยังคงมีพลังแปลกประหลาด

น่าเสียดาย เทียบกับวิชากระบี่แล้ว  เจ้าอ่อนแอเกินไป!

เย่เฉาเกอแค่นเสียงหยิบกระบี่เหล็กออกมาจากตู้อควาเลียส  สะบัดกระบี่เบาๆและกวัดแกว่งใส่ถังเทียนคราวหนึ่ง

ถังเทียนควงกระบี่เซียนกักสมุทรในมือขวาเพลิงดำมิติว่างกลายเป็นรังสีกระบี่ปะทะเข้ากับปราณกระบี่ไร้สภาพของเย่เฉาเกอและปลดปล่อยเสียงระเบิด

ปง!

อากาศแตกระเบิดออกและเปลวเพลิงดำกระเด็นกระจายไปทั่ว

เย่เฉาเกอไม่ขยับ แต่ประกายวาบผ่านดวงตา เป็นไปตามคาด วิชากระบี่ของถังเทียนยังไม่เชี่ยวชาญ คนทั่วไปอาจจะไม่รู้สึก แต่เย่เฉาเกอฝึกวิชากระบี่มาหลายปี ความเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดเขาย่อมรู้ได้

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เตรียมตัวตายได้แล้ว”

พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ทรงพลัง  เย่เฉาเกอปล่อยปราณกระบี่ของตนลงมาราวกับฝนเท

กระแสปราณกระบี่ไร้สภาพพุ่งเข้าหาถังเทียน เขาคำรามขณะที่กระบี่ทั้งสองฟันลงในแนวตั้ง รังสีกระบี่สีฟ้าและดำทั้งสองพุ่งเข้าหาเย่เฉาเกอ

ปัง ปัง ปัง!

รังสีกระบี่ระเบิดกลางอากาศ

ระลอกคลื่นของปราณกระบี่ไร้สภาพและรังสีกระบี่ฟ้าดำระเบิดเหมือนพลุไฟ

ถังเทียนรู้สึกว่าบางอย่างไม่ถูกต้องใจของเขายังคงรู้สึกความเย็นยะเยียบแฝงอยู่ตั้งแต่ต้น  สายความเย็นที่ทำให้เขารู้สึกคมชัดเป็นพิเศษ แต่เพลิงปรารถนาต่อสู้ท่วมเต็มอยู่ทุกส่วนของร่างกาย  ดังนั้นสายกระแสความเย็นยะเยียบถูกความต้องการต่อสู้ที่เหมือนลาวากดดันห่างออกไป

ทันใดนั้นดูเหมือนว่าปราณกระบี่ไร้สภาพที่แตกต่างทะลวงผ่านรังสีกระบี่ฟ้าและดำเข้ามาถึงต่อหน้าถังเทียน

ปราณกระบี่ไร้สภาพนี้มาในสภาพรังสีแสงจาง

อย่างนั้นแผนของเขาอยู่ตรงนั้นเอง

ถังเทียนคำรามกระบี่เซียนกักสมุทรในมือระเบิดพลังแสงสีดำหม่นเพิ่มขึ้นและฟันกระบี่แนวขวาง

รังสีกระบี่สีหม่นและปราณกระบี่ไร้สภาพบดกระแทกใส่กันอย่างรุนแรง  เมื่อพลังที่แข็งแกร่งปะทะกันเกิดรังสีแพรวพราวจนถังเทียนตาพร่า

ภาพกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏต่อหน้าถังเทียน, เย่เฉาเกอ!

รูปปากของถังเทียนแสดงออกถึงความมั่นใจ เขาตวาดลั่น“ปลอดสำเนียง”

กระบี่ปลอดสำเนียงในมือซ้ายของเขาพลันเปล่งประกายด้วยรังสีแพรวพราวที่เหมือนกันและฟันออกไปอย่างเกรี้ยวกราด

ถังเทียนวางแผนโจมตีเป็นเวลานาน พลังของกระบี่ปลอดสำเนียงและปราณแท้ในร่างของเขาทะลักขึ้นมาอย่างรุนแรง

รังสีน้ำเงินแพรวพราวปรากฏอยู่ที่ปลายกระบี่ปลอดสำเนียงหดขนาดเหลือเท่ากำปั้นมันกระแทกใส่กระบี่ของเย่เฉาเกอ

ปัง!

ลูกกลมแสงบนปลายกระบี่ปลอดสำเนียง แตกระเบิดออกมาทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด