ตอนที่ 337 พลังโจมตีไร้ต่อต้าน
การโจมตีที่ค่ายหางแฉกของจางเจิ้งเผชิญทำให้กำลังใจลดลง แต่ภายใต้คำสั่งของจางเจิ้ง พวกเขาตั้งขบวนอีกครา
แต่พลังโจมตีของกองทัพหมาป่าน่ากลัวมากกว่าที่พวกเขาคิด
ถังอี้อยู่ข้างหน้ากระบวนทัพวิ่งเข้าพวกเขาพลางฟันดาบฟันขาม้า ที่ตามมาข้างหลังเขาคือกองทหารชาวหมาป่าต่างก็ปลดปล่อยพลังดาบพร้อมกัน
พวกเขาสามารถเห็นได้แต่เพียงกองทัพที่มีรังสีดาบครอบคลุมข้างหน้าอย่างรวดเร็วกลายเป็นรังสีดาบครอบคลุมแปดทิศทางซึ่งมีขนาดยาวเกินสามเมตร
รังสีดาบยักษ์ครอบคลุมแปดตำแหน่งส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งตรงเข้าหากระบวนศึกของศัตรู โดมแสงครอบคลุมกระบวนทัพของศัตรูแตกกระจายเหมือนแก้วแตกทันที
รังสีดาบที่เหลือไม่ได้รับผลและพุ่งเข้าไปในทัพของศัตรูทันที
ทหารจากค่ายหางแฉกถูกตัดฟันในทุกตำแหน่งเนื้อและเลือดกระเซ็นไปทุกที่บนพื้น กระบวนศึกของค่ายหางแฉกเหมือนถูกไถตัดผ่านไป
จางเจิ้งหวาดกลัวอย่างหนัก นี่... นี่....ผู้บัญชาการทัพนี่..เขา..
เขาไม่เคยได้ยินวิธีการที่ไร้ต่อต้านนั้นมาก่อน จึงได้แต่ตะลึง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นแค่หน่วยทะลวงฟันกล้าตาย และพวกเขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร? หรือว่าพวกเขาหลอกให้ตายใจ
“ฆ่า!!”
ถังอี้สั่งกางทัพของเขา และเหมือนกับสิ่วพวกเขาทะลวงผ่านเข้าไปในแถวของศัตรู
ทหารที่อยู่เบื้องหลังถังอี้กำลังหอบหายใจ พวกเขาไม่มีพลังเหลือสู้ต่อไป การโจมตีครั้งสุดท้ายใช้พลังของพวกเขาไปมากกว่าครึ่ง แต่พวกเขายังคงดำเนินการต่อไป ต่อให้ร่างพวกเขามีเพลิงลุกรุนแรง แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนล้าหมดพลัง พวกเขาก็ไม่กลัวจนถึงที่สุด
ทุกคนตะโกนพร้อมกัน “ฆ่า!”
เสียงตะโกนกึกก้อง ทำให้บรรยากาศเหมือนอย่างที่เขาโปรดปราน
ทหารค่ายหางแฉกได้รับผลจากการจู่โจมของกองทัพหมาป่า ขวัญกำลังใจที่ตกต่ำอยู่ก่อนนั้นก็พังทลายในทันที ทหารขลาดเขลาสองสามคนร้องไห้หันหลังวิ่งหนีทันที ทหารเหล่านี้พอสูญเสียการควบคุมทั้งหมดก็ส่งผลเหมือนกับหิมะถล่มทลายทันที
จางเจิ้งรู้สึกท้อแท้ที่ทหารของตนเองหลบหนี
ทันใดนั้นมีเสียงควบม้าดังมาจากด้านหลังของเขา
“จัดการกับคนทรยศก่อน”
รังสีดาบใหญ่กวาดเรี่ยพื้นและฟันทหารหักหลังผู้กำลังหนีทัพล้มลง
ถังอี้กระตุ้นม้าเข้าหาร่างจางเจิ้ง เขาดูมีเสน่ห์มากในสายตาของทหารผู้ตื่นเต้นและเลื่อมใส หน้าของเขาสงบมากไม่มีร่องรอยของความยินดีอยู่ในตาของเขา
ความตายของศัตรูแบบนี้ไม่ควรค่าแก่การฉลอง
เขาเริ่มคิดวิธียกระดับมาตรฐานของกองทัพหมาป่า ด้วยมาตรฐานขนาดนี้ จะดีใจไปเพื่ออะไร?
ทักษะที่โดดเด่นของข้าก็คือ โจมตี
**********
ตลอดทางที่ผ่านมามีแต่เพียงเสียงของถังเทียนวิ่งแหวกอากาศจนได้ยินเสียง
เหงื่อยังคงไหลย้อยจากใบหน้าของเขา ตัวเขาเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บ เขาไม่มีเวลาได้พักในช่วงสิบแปดวันในห้องฆ่าตัวตาย
สายลมหวีดหวิวผ่านหูของเขา ขณะที่เขาวิ่งเต็มกำลัง
เร็วเข้า! เร็วเข้า! เร็วขึ้นอีก!
เขาไม่เคยเพ่งสมาธิให้การการวิ่งมากมายมาก่อน เขาทุ่มเทกำลังวิ่ง วิ่งอย่างสุดชีวิต
เขาใช้วิชาก้าวย่างลมพรางที่ค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลง ฝีเท้าของเขาเบาขึ้นทุกที แรงเสียดทานระหว่างเขากับอากาศเริ่มน้อยลง เขาไม่ได้ยินดีเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากเขาพยามทุ่มเททุกอย่างให้เร็วขึ้น
เขาหวังลมๆ แล้งๆ ว่าเวลาจะช้าลงสำหรับเขา
เขาขบริมฝีปากแน่น ด้วยดวงตาที่มุ่งมั่นดึงดันของเขา เปลวเพลิงลุกพรึ่บโหมรุนแรง
เร็วขึ้น
ถังเทียน เจ้าสามารถทำได้แน่ เจ้าทำได้แน่นอน ทำได้ ทำได้แน่ๆ
ปัง!
ทันใดนั้นร่างของเขาเบาโหวงแรงเสียดทานอากาศทั้งหมดดูเหมือนหายไปจนไม่มีร่องรอยและเหมือนกับว่าเท้าของเขาก้าวอยู่บนพื้นลม ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากมายทันที
ร่างของเขากระพริบในช่วงต่อมาก็ปรากฏห่างออกไปสามร้อยเมตร
บนกระดานสุดยอดวิชาโดดเด่น มีอีกหนึ่งรายชื่อสว่างวาบขึ้นมา
ใบหน้าของเขากำลังหลั่งเหงื่อโชก ขณะที่เขากัดฟันไม่มีใครสามารถหยุดเด็กหนุ่มผู้นี้ได้
*******************
ความเร็วของเหลียงชิวยังไม่นับว่าเร็ว วิชาท่าร่างของเขายังคงไม่มีอะไรพิเศษ แต่ลูกตุ้มหนักทั้งสองเป็นเหมือนค้อนหนักที่พอถูกเหวี่ยวก็เกิดเสียงหวีดหวิวต่ำ ลูกตุ้มเหล่านั้นพอกระแทกใส่อาวุธก็ทำลายทุกอย่างที่มันกระทบ
ความเร็วของมือเขาไม่นับว่าเร็ว แต่พลังกลับแปลกประหลาด ไม่ว่าเขาเคลื่อนผ่านอะไรทั้งหมดจะตกอยู่ในความยุ่งเหยิงทันที
หลังจากฝึกฝนอยู่ในสายน้ำ เขาสามารถสะสมพลังที่น่าทึ่งได้ทันเวลาแค่เพียงช่วงยกมือ การโจมตีของเขาเรียบง่ายไม่ปรากฏรัศมีใดๆ แต่พลังของลูกตุ้มเหล็กสามารถเจาะเกราะหนาได้และกระแทกทำร้ายนักสู้โดยตรง
วิชาผสานหยินหยางคือวิชาที่สมควรถูกยกย่องว่าเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่น
แม้ว่าเหลียงชิวยังไม่ปลุกแก่นแท้วิชาผสานหยินหยางให้ตื่นขึ้นได้ก็ตามแต่ด้วยความรู้ความเข้าใจในปัจจุบัน เขาก็เป็นเหมือนพยัคฆ์ร้ายที่ทรงพลังซึ่งไม่มีใครสามารถหยุดได้
ทันใดนั้นสายลมวูบหนึ่งผ่านหูเขาไป
หัวใจของเหลียงชิวเย็นยะเยือก เขาคำรามและสะบัดข้อมือ โซ่เหล็กรอบข้อมือเขาถูกดึงขณะที่ลูกตุ้มเหล็กพุ่งตามมา และยิงไปที่ด้านหลังของเขา
ปัง!
เสียงกระแทกต่ำลึกดังออกมาจากด้านหลังของเขาและมีบางคนอุทาน “ระวัง,ปราณของเขาประหลาด!”
ขณะเดียวกัน เสียงลมสองสายดังออกมาจากด้านข้างของเหลียงชิวและจากพวกเขานั้น เหลียงชิวรู้ได้ว่าเขาพบกับทหารฝีมือดีในที่สุด!
แม้ว่าเขาจะชะงักอยู่เล็กน้อย แต่เหลียงชิวสูดลมหายใจลึกเขาไม่รุกหรือรับแต่ยืมพลังของลูกตุ้มเหล็ก ร่างของเขาเอนกลับข้างหลังทันที ทหารฝีมือดีด้านหลังเขาไม่ทันฟื้นตัวจากการโจมตีครั้งแรกและความเคลื่อนไหวต่อมาของเหลียงชิวก็คาดไม่ถึงอย่างมาก ทำให้เขาตะลึง แต่เขาก็รู้ว่าถ้าเขาหลบเขาจะโดนรุมโจมตีพังทลายทันที
เขากัดฟันและฟันใส่เหลียงชิวที่กำลังล้ม
เหมือนกับว่าเหลียงชิวมีตาที่หลังศีรษะของเขา เขายกศอกทันที ฮึ่ม..ลูกตุ้มล่ามโซ่เหล็กปรากฏจากใต้รักแร้เขา และตรงเข้าใส่หน้าของเขา เมื่อเห็นลูกตุ้มเหล็กนักสู้ผู้นี้แตกตื่นและใช้ดาบฟันใส่ลูกตุ้มเหล็กตามสัญชาตญาณ
ปัง!
พลังที่แข็งแกร่งสายหนึ่งเข้ามาในร่างของเขาผ่านตัวดาบทำให้อกของเขารู้สึกเจ็บปวดจนต้องอ้าปากกระอักโลหิต
เหลียงชิวต้องการจะจู่โจมทำร้ายเพิ่มอีกครั้ง แต่มีรังสีดาบสองเล่มฟันตรงเข้ามาหาเขา แขนทั้งสองของเขาสั่นอย่างช่วยไม่ได้และโซ่เหล็กทั้งสองถูกดึงกลับมาหาเขาและปะทะกับรังสีดาบทั้งสอง
ปัง!
ร่างของเหลียงชิวสั่นและเขาถอยหลังออกไปสองก้าว
เมื่อเหลียงชิวมองดูพวกเขา พวกเขาเป็นทหารฝีมือดีเช่นกัน ทั้งสามคนสวมเกราะที่แตกต่างกันเมื่อเทียบกับพวกที่เหลือ เขาพันโซ่ลูกตุ้มเหล็กรอบมือของเขา หน้าของเขาสงบเย็นเหมือนน้ำ เพราะเขารู้ การต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเริ่ม
ในทุกกองทัพ จะต้องมียอดฝีมือคอยดูแลเป็นเรื่องยากจะเข้าใจการทหารได้โดยปราศจากยอดฝีมือ การใช้ยอดฝีมือไม่ใช่แค่เพียงใช้สู้กับยอดฝีมือฝ่ายศัตรูเท่านั้น แต่ยังสามารถทำลายภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นได้
ร่างของซือหม่าเซียงซานเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วไปทุกที่ ทหารเกราะเหล็กใหญ่ช่วยให้เขาได้เปรียบมาก เขาเหมือนงูที่คล่องแคล่วว่องไวเคลื่อนไหวเข้าออกเหมือนเงาสายลม ตราบใดที่เขาเห็นจุดอ่อน เขาจะใช้จุดอ่อนจากมันทันที
นักสู้ที่ตายในเงื้อมมือเขาทั้งหมดมีร่องรอยบาดแผลที่น้อยมาก
โจมตีหนึ่งครั้งฆ่าหนึ่งคน จากนั้นเคลื่อนที่ต่อไป
เทียบกับเหลียงชิวแล้ว วิธีโจมตีของซือหม่าเซียงซานน่ากลัวมาก
ทันใดนั้นรังสีเยือกเย็นปรากฏอยู่หลังตัวซือหม่าเซียงซานโดยไม่ต้องคิด เขาซ่อนตัวเองเหมือนงู และพุ่งบินออกมาเลียดตัวกับพื้น
แคล้ง
รังสีดาบเล่มหนึ่งด้านหลังเขา ฟันลึกลงไปในพื้น
รังสีอำมหิตเย็นเสียดกระดูกทำให้ขนทุกเส้นบนตัวเขาลุกชัน เขาไม่กล้าหยุดและพุ่งไปข้างหน้าสุดกำลัง แต่รังสีเยือกเย็นบนหลังของเขาเหมือนแมลงกัดกินกระดูกไม่ถูกทำให้หวั่นไหว
มือกระบี่ชุดดำทั้งสูงทั้งต่ำสามคนไล่ตามหลังเขากระชั้นชิด
คู่ต่อสู้ของหานปิงหนิงคือแฝดหญิงคู่หนึ่งแม้ว่าทั้งสองจะอ่อนแอกว่า แต่พวกนางดูเหมือนจะสื่อสารทางจิตได้และเชื่อมโยงกันในระดับลึกมากด้วยการสื่อสารที่ดีนอกจากนี้ยังเพิ่มนักสู้ประหลาดยี่สิบคนรายล้อมนาง จึงนับได้ว่าก้ำกึ่งพอกัน
ความเคลื่อนไหวของอาโมรี่หนักกว่า รอบตัวเขาเป็นกลุ่มคนเล็กๆสามกลุ่มรวมแล้วเกินสามสิบ
มีแต่เพียงปิงที่งานง่ายกว่า เขาคุ้นเคยกับวิธีการทำงานของกองทัพอย่างมากและไม่เคยติดชะงักอยู่กับที่นับตั้งแต่เริ่ม แต่ช่วงนั้นหัวใจเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่ไม่เห็นผู้นำทัพศัตรูเลย
เห็นได้ชัดว่าศัตรูเข้าใจความตั้งใจของปิง และยังคงตระหนักถึงจุดอ่อนว่าอาโมรี่และพวกที่เหลือไม่มีประสบการณ์สู้ในกองทัพ ดังนั้นเขาตัดสินใจให้นักสู้ฝีมือดีไปสกัดคนทั้งสี่และเก็บกำลังส่วนใหญ่เคลื่อนลงสนามรบ
แล้วจากนั้น เป้าหมายใหญ่ของศัตรูที่เหลืออยู่ก็มีเพียงคนเดียวนั่นก็คือปิง!
ใบหน้าไพ่ของปิงไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ปากเขาแสยะยิ้มเล็กน้อย
ข้ากำลังรอเจ้า
ผู้บัญชาการฝ่ายตรงข้ามใช้นักสู้ฝีมือดีคอยกันอาโมรี่และพวกที่เหลือ แต่อิทธิพลของทั้งสี่นั้นทำให้เกิดช่องว่างใหญ่ ถ้าอธิบายให้ชัดขึ้นก็คือผู้บัญชาการของศัตรูเหมือนกับควบคุมข่ายขนาดมหึมา จากนั้นเกิดมีรูโหว่ขนาดมหึมาสี่ช่องในข่ายนั้น
ภาพที่ชัดเจนผุดขึ้นในใจของปิง
คนอื่นอาจจำเป็นต้องรอเจ้าเพื่อยืนยันตำแหน่งเจ้า แต่สำหรับข้า เจ้าขังตัวเองอยู่กับที่แล้ว
ทันใดนั้นปิงเงยหน้าสายตาเขาจ้องมองในระยะห่างออกไปเก้าสิบเมตร
สายตาเขาไปหยุดอยู่ที่กลุ่มทหารตรงกลางเป็นกลุ่มที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ถ้าตรวจสอบอย่างระมัดระวังท่านจะตระหนักได้ว่าพวกเขาก่อแนวป้องกันเป็นวงกลม
สายตาปิงจับอยู่ที่หน้าของบุรุษวัยกลางคน
หวงฝู่หงตระหนักได้ว่าพยัคฆ์ฟ้ากำลังมองมาที่เขาและหน้าของเขาเปลี่ยนทันที ศัตรูพบตำแหน่งของเขาแล้ว!
พยัคฆ์ฟ้ากระตุ้นพลังเคลื่อนไหว เตรียมโจมตี
ทันใดนั้น ปิงรู้สึกถึงปราณที่อันตรายมากเขาเงยหน้าขึ้นก็ตระหนักได้ว่ามีร่างๆ หนึ่งมาปรากฏอยู่เหนือพวกเขา
เย่เฉาเกอ!
เมื่อปิงเห็นจิ่งหาวอยู่ในเงื้อมมือของเย่เฉาเกอสีหน้าเขาเปลี่ยน
“ระวัง!”
ปิงตะโกนก้องได้ยินทั้งสนามรบ
เพียงชั่วเวลานี้เสียงหัวเราะบ้าคลั่งของเย่เฉาเกอก็ดังขึ้น “พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
เขาถือกระบี่ของจิ่งหาวและรี่ลงมาทันทีเหมือนกับพายุพร้อมกับปล่อยรังสีกระบี่สิบสาย
วืดดดดดดด
ในท้องฟ้าเหนือศีรษะทุกคนปราณกระบี่นับไม่ถ้วนเริ่มฟันลงมาและตัดฟันทุกสิ่งทุกอย่างเบื้องล่างเหมือนกับสายน้ำที่ไหลเร็วรี่ ร่างของเย่เฉาเกอกลายเป็นเลือนลางทันที
ปราณกระบี่ไร้สภาพระดมโจมตีลงมาเป็นสายฝนโดยไม่เลือกฝ่าย
หวงฝู่หงกำลังจดจ่ออยู่ที่ปิงไม่สามารถสนองตอบได้ทันเวลา ปราณกระบี่ไร้สภาพร่วงลงมาในสนามรบทำให้โลหิตนับไม่ถ้วนฉีดพุ่งกระจายทันที เมื่อไม่สามารถป้องกันได้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที
ตาของของหวงฝู่หงแทบถลนออกจากเบ้า เขาไม่คิดเลยว่าเย่เฉาเกอจะไม่จำแยกแยะสหายกับศัตรู
อาโมรี่หยิบโล่ใหญ่ขึ้นมาป้องกันตัวตามสัญชาตญาณ
ปัง!
เหมือนกับว่าอาโมรี่ถูกทุบด้วยค้อนหนัก เขาตะลึงอยู่ในใจทรายใต้เท้าเขาระเบิดออกทันทีกลายเป็นหลุมลึกสิบเมตรกว้างสิบห้าเมตร
ที่น่าตกใจก็คือเลือดเริ่มไหลออกมาจากมือที่กวัดแกว่งโล่ของเขา
ภาพเงาสีฟ้าผ่านมาด้านข้างเขา,อาโมรี่หน้าซีดเหมือนกระดาษและเริ่มวิ่ง
“ถอย!”
ปิงผู้มากไปด้วยประสบการณ์ใช้ความได้เปรียบของเขาโดยไม่ลังเล ปฏิกิริยาของเขาแสดงออกมาอย่างรวดเร็วที่สุด ในช่วงเวลานั้นเขาตัดสินความแตกต่างของพลังได้ทันที พยัคฆ์ฟ้าฉุดอาโมรี่และมาปรากฏตัวข้างเหลียงชิว ปิงสงบจิตใจมาก เขาไม่ลืมว่าเหลียงชิวและอาโมรี่มีจุดอ่อนที่สุดในกลุ่มคนทั้งสี่ก็คือวิชาตัวเบา
นอกจากอาโมรี่ผู้เจ็บตัวจากการโจมตีแล้ว อีกสามคนรู้สึกตัวได้และหลบหนีได้ทัน
โดยไม่ต้องพูดซ้ำหานปิงหนิงและซือหม่าเซียงซานตามหลังปิงมาติดๆ วิ่งอย่างบ้าคลั่ง
เย่เฉาเกอหยุดอยู่ในกลางอากาศและพึมพำกับตัวเอง “ให้เจ้าเด็กพวกนี้ตายให้หมดและจากนั้นฉากภาพนี้จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ฮ่าฮ่าอ่าฮ่า”
เขาแบกจิ่งหาวอย่างใจเย็นและไล่ตามไปยังตำแหน่งที่ปิงและพวกที่เหลือหลบหนี