ตอนที่ 336 หอกเงินอัคคีนรก
กว่างอู๋มองดูบุรุษหนุ่มชุดขาวนั่งอยู่บนหลังฟลามิงโกอย่างตื่นตระหนก
หลังจากปะทะฝีมือเกินกว่ายี่สิบกระบวนท่าหลิงซิ่วก็ยังอยู่ได้สบาย ไม่มีทีท่าว่าเหนื่อยล้า ตั้งแต่เริ่มต้นกว่างอู๋คิดว่าหลิงซิ่วแข็งแกร่ง แต่เขายังมั่นใจว่าเขาเหนือกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปราณเที่ยงแท้ของหลิงซิ่วน้อยกว่าเขามากมาย กว่างอู๋มองว่านั่นคือจุดอ่อน
เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่มีปราณแท้อ่อนกว่า วิธีการที่ดีที่สุดเคือเข้าปะทะโดยตรงไม่ต้องสนใจรูปแบบการโจมตีและใช้พลังช่วงชิงชัยชนะ
ดังนั้นกว่างอู๋ผู้มีประสบการณ์จึงไม่ลังเลใจที่จะเริ่มเข้าปะทะ
แต่หลังจากผ่านไปเกินกว่ายี่สิบกระบวนท่าชีพจรปราณของหลิงซิ่วไม่มีอาการอ่อนล้าเลยสักนิด ตรงกันข้าม เขากลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น พลังของหอกหนักหน่วงมากขึ้น
เจ้าหมอนี่เป็นตัวประหลาดแบบไหนกันแน่?
มิน่าเล่ากว่างอู๋สงสัยว่าบนตัวดาบโลหิตของเขามีร่องรอยแผลเงินสองสามรอยและไม่ว่าเขาจะพยายามกระตุ้นปราณแท้ของเขายังไง เขาก็ไม่สามารถลบรอยเหล่านี้ได้ มันคืออะไรกันแน่
หลิงซิ่วลูบหอกเงินในมือของเขา ดวงตาสีแดงเพลิงเข้มข้นอย่างมิอาจอธิบายได้
ความฝันในสมบัติพิเศษฝันร้ายของเฮอคิวลิสเหมือนกับเป็นเรื่องเมื่อชาติที่แล้วฝันร้ายที่กวนใจเขายาวนานแข็งแกร่งมากกว่าคนปกติ ดังนั้นการต่อสู้ใน “ฝันร้ายของเฮอคิวลิส” เป็นการสร้างความขมขื่นใจให้เขามาก
พาหนะน้ำแข็งเงินคือฝันรบกวนใจของเขาก็คือพาหนะน้ำแข็งเงินจริงๆ
“หอกเงินน่าจะอ่อนเหมือนหิมะ และบริสุทธิ์เหมือนปุยเมฆ กระพรวนลมเขาแกะสายลมเย็นจะไม่มีทางจับเสียงเจ้าได้ ตะวันฉายส่อง แต่ไม่มีเงามืดครึ้ม เพราะหอกเงินตั้งตรงเกินไปครอบคลุมหัวใจข้า ดวงดาวปกป้องวิญญาณของข้า
เสียงเพลงยังคงดังต่อเนื่องอยู่ในฝันร้ายของเฮอคิวลิส ภาพเลือนรางและเจตนาที่ครอบคลุมหอกทำให้จิตวิญญาณของเขาหวั่นไหว
หลังจากฝืนทนฝึกฝนวิชาหอกของเขาความเข้าใจในวิชาหอกทะเลจุดของพาหนะเงินของเขา ไม่ใช่สิ, หอกดาราแห่งกลุ่มดาวแกะพลันแจ่มแจ้งอย่างรวดเร็ว หลิงซิ่วค่อยๆรู้สึกถึงความลึกลับของวิชาหอกดาราแห่งกลุ่มดาวแกะ
หอกทะเลจุดของเขาเกิดขึ้นต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุดมุ่งแสวงหาชัยชนะผ่านปริมาณ แต่หอกดาราแห่งกลุ่มดาวแกะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง อาจกล่าวได้ว่าเปลี่ยนซับซ้อนเป็นเรียบง่าย รังสีหอกเหมือนกับดวงดาว ทุกหอกล้วนหนักหน่วง การยืมพลังเฉื่อยจากพาหนะทำให้พลังของหอกแข็งแกร่งมาก ทันทีที่เขาเริ่มสู้ด้วยพาหนะน้ำแข็งเงินหลิงซิ่วได้พบประสบการณ์ที่คมหอกของพาหนะน้ำแข็งเงิน ซึ่งทำให้เขาบินได้โดยตรง
เคล็ดวิชาหอกมีพลังสะสมที่น่ากลัว
หลิงซิ่วสงสัยว่าอาจารย์ของเขายังถ่ายทอดวิชาให้ไม่ครบ ความแตกต่างระหว่างหอกทะเลจุดและหอกดาราแห่งกลุ่มดาวแกะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ผลที่ได้กลับเป็นวิชาหอกสองรูปแบบแตกกต่างกัน
หลิงซิ่วหลงใหลวิชาหอกที่เขาพบเห็นใหม่นี้และซึมซับรับทุกอย่างด้วยความกระหาย
เขาจำไม่ได้ว่าเขาสู้ภายในฝันไปกี่ครั้ง เขาสู้และทำตามวิชาโดยไม่สนใจความเหนื่อยล้าขณะที่เขาฝึกฝนหอกดาราแห่งกลุ่มดาวแกะ
เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมฝันร้ายของเขาที่ตามหลอกหลอนถึงได้กลายเป็นพาหนะน้ำแข็งเงินไปเสียได้ เขาคิดว่าฝันร้ายของเขาคงจะหักหลัง แต่ว่าในฝันร้ายของเฮอคิวลิสไม่มีเวลาให้เขาไตร่ตรองมากนัก
ในที่สุดเขาก็ออกมาจากการต่อสู้ที่ขมขื่นได้ เขาถอนหายใจโล่งอก และกระตืนรือร้นมากขึ้น
หลิงซิ่วมองดูกว่างอู๋ที่อยู่ต่อหน้าเขาแล้วรู้สึกมีความสุขมาก เขาถูกข่มขี่อยู่ในฝันร้ายของเฮอคิวลิสตั้งแต่ต้นจนจบและเอาชนะนักรบพาหนะน้ำแข็งเงินไม่ได้ทั้งไม่รู้วิธีออกจากฝันร้ายนั้น
แต่หลังจากถูกข่มถูกต้อนอยู่หลายวัน แม้เขาจะรู้ว่าคู่ต่อสู้คือนักรบพาหนะเงินในตำนาน หัวใจของหลิงซิ่วยังอดทนต่อเพลิงที่ชั่วร้าย นิสัยของเขาดุร้ายและโผงผางอะไรก็ตามที่ทำให้เขาไม่สบายใจ เขาจะต้องจัดการ เพลิงชั่วร้ายในใจเขาแทบช่วยต้านศัตรูไม่ได้เป็นเพราะศัตรูแข็งแกร่งเกินกว่าจะปราบได้
ความตั้งใจใช้พลังปะทะพลังของกว่างอู๋ยังคงเป็นความปรารถนาของเขาอยู่
และแม้ว่าฝันร้ายของเฮอคิวลิสได้ช่วยเหลือในการฝึกฝนวิชาหอกของเขา แต่ก็ยังอยู่ในสภาพเสมือนฝันมันไม่ใช่ความจริง หลิงซิ่วสัมผัสหอกเงิน แม้ว่าความรู้สึกจะคล้ายกันแต่ก็แตกต่างกันจากในความฝัน
จากเริ่มต้นต่อสู้ วิชาหอกของเขาสั่นคลอน
ขณะที่เกิดขึ้น กว่างอู๋วางแผนเอาชนะโดยใช้พลังปะทะทำให้เขามีเวลาอดทนต้านรับการโจมตีถึงยี่สิบครั้ง จึงทำให้หลิงซิ่วมีความคุ้นเคยมากขึ้น ขั้นตอนของหอกดาราแห่งกลุ่มดาวแกะค่อยๆ ถูกปลดปล่อย ดังนั้นพลังหอกของเขาจึงค่อยๆ หนักหน่วงขึ้นทุกที
ผมเงินของเขาพัดพลิ้วตามสายลม สีหน้าของเขาบ่งบอกเต็มเปี่ยมว่าต้องการสู้ การสู้รูปแบบนี้เป็นวิธีโจมตีที่โปรดปรานของเขา ในฝันร้ายของเฮอคิวลิสเขาได้เรียนรู้ทักษะใช้งานที่มีประโยชน์มาก และนั่นคือสำหรับนักสู้บนพาหนะสู้กับคน
พาหนะน้ำแข็งเงินปรากฏต่อสู้กับเขาซึ่งก็หมายความว่ามีคนและนักสู้บนพาหนะสู้กันตัวต่อตัว
อาจารย์ของเขาล่วงลับเร็วเกินไป ดังนั้นหอกทะเลจุดจึงทำให้เขาต้องคลำทางใช้เป็นส่วนใหญ่ เขามีความสุขรู้สึกได้ถึงพลังคุกคามคนอื่นได้ขณะนั่งอยู่บนฟลามิงโกแต่เขายังมิได้ฝึกฝนทักษะบนหลังพาหนะเป็นอย่างดี
ดังนั้นนักสู้พาหนะน้ำแข็งเงินจึงปรากฏให้เขาเห็นแสดงให้เห็นถึงพลังของนักสู้กับพาหนะซึ่งช่วยเปิดโลกทัศน์และทำให้รู้แจ่มแจ้งถึงวิธีใช้พาหนะเขาต่อสู้
นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงซิ่วจดจำมาใช้
หลังจากไม่ประสบผลสำเร็จในช่วงสองสามครั้งแรกแต่ก็ทำให้เขาเข้าใจได้ดีขึ้น ฟลามิงโกคืออสูรจักรกล แต่ระดับการบริโภคพลังงานจากหินดวงดาวไม่ต่างจากการใช้ปราณแท้ของเขาเท่าใดนัก
จุดที่สำคัญที่สุดก็คือคนและพาหนะต้องเป็นหนึ่งเดียวซึ่งก็คือใช้ปราณแท้ระหว่างทั้งสองสะท้อนส่งผ่านกันไปมา
หลังจากพยายามทำอยู่หลายครั้ง ฟลามิงโกก็ค่อยๆเข้าใจความตั้งใจของหลิงซิ่ว ดังนั้นปราณแท้ในร่างของมันจึงเพิ่มขึ้นทันที
ปัง!
เปลวเพลิงของฟลามิงโกลุกพรึ่บท่วมตัวหลิงซิ่วทันที หนึ่งคนหนึ่งพาหนะกลายเป็นบอลเพลิง พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นพรวดพราด
หลิงซิ่วปลาบปลื้มใจ สำเร็จแล้ว!
เพลิงของฟลามิงโกไม่ทำให้เขารู้สึกร้อน แต่เป็นความรู้สึกอบอุ่นและสบายอย่างอธิบายไม่ถูก ที่สำคัญที่สุด ปราณของเขาและฟลามิงโกกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
ต้องเป็นอย่างนั้นแน่
ฟลามิงโกก็ตื่นเต้นพอกัน เมื่อจะเข้าโจมตี มันส่งเสียงร้องทันทีและเพิ่มความเร็วมากกว่าเดิม
หลิงซิ่วนั่งอยู่ด้านบนทัศนวิสัยที่เห็นกลายเป็นสั่นคลอนมาก แต่รอบๆ ตัวเขาแจ่มชัดเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในเงื้อมมือของเขา
หลิงซิ่วรู้สึกตื่นเต้นมากและรู้สึกดีมาก!
จากสภาพสั่นคลอนกลายเป็นความคุ้นเคย เขาพบว่าพลังกับพลังทำให้เขารู้สึกว่าเพลิงร้ายในหัวใจเขาถูกชำระ ในช่วงเวลานั้นความรู้แจ่มแจ้งของคนและพาหนะกลายเป็นหนึ่งเดียวทำให้เขารู้สึกอยู่ในจุดสูงสุดไม่ว่าจะเป็นปราณ,พลังหรือจิตวิญญาณ
พลังโจมตีกลายเป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
กว่างอู๋สีหน้าเปลี่ยน เขารู้สึกแต่เพียงว่าเปลวเพลิงที่หนาแน่นวิ่งตรงเข้าหาเขา อุณหภูมิของอากาศรอบด้านร้อนลวกรังสีฆ่าฟันที่ซึมลึกถึงกระดูกเต็มอยู่ในบรรยากาศ
เขารู้สึกเหมือนกับว่ายืนอยู่ในทะเลทรายร้อนระอุและเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่มีที่ใดให้หลบซ่อน
ใจของเขาเตือนตนเองถึงความรู้สึกที่ไม่เคยประสบพบมาก่อน เขารู้ว่าได้เวลาที่เขาจะต้องต่อสู้สุดกำลังแล้ว เพราะคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเกินไปถึงขนาดสั่นสะท้านขวัญวิญญาณได้
ถึงเวลานั้นเขาคิดถึงการถอยหนีหรือว่าจะยอมพบจุดจบสิ้นชีวิตที่นี่ การต่อสู้โดยตรงเพื่อชีวิตของเขาอาจทำให้เขามีโอกาสรอดชีวิต เขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วน และแม้ว่าเขาจะหวาดหวั่นต่อการโจมตีที่ทรงพลังสง่างามของหลิงซิ่วก็ตาม แต่ในช่วงเวลานั้นเขาทำการตัดสินใจ
กว่างอู๋เปล่งแสงจนถึงเส้นผม ปราณแท้ของเขาถูกปลดปล่อยจนดูเหมือนบ้าคลั่ง เสื้อผ้าบนร่างกายเขาเริ่มสะบัดรัศมีสีแดงโลหิตหนาแน่นทันทีและเข้มข้นจนดูเหมือนโลหิต
รัศมีสีแดงดุจโลหิตบนตัวดาบของเขาก็ประหลาดแสงสีโลหิตเข้มข้นมารวมตัวอยู่ที่ตัวดาบ เหมือนกับว่ามันมาจากดินแดนเทพอสูร แม้แต่แสงรอบๆก็ถูกดูดซับด้วยรังสีแดงเข้มมองดูเหมือนหลุมดำเพิ่มความเยือกเย็นประหลาดรอบๆตัวดาบ
ริ้วรอยความเย็นหนาแน่นและรัศมีแดงเข้มน่ากลัวพาดผ่านนัยน์ตาของเขา เขาขบริมฝีปากกลืนเลือดบางส่วนเข้าปากรอเวลาที่เหมาะ
ช่วงเวลานั้น หลิงซิ่วโจมตีเข้ามาถึง
เปลวเพลิงลุกโหมกระหน่ำ พลังรุนแรงราวกับสายฟ้าและรังสีที่เยือกเย็นขยายอยู่ภายในเปลวเพลิงสีแดง
หอกเงินอัคคีนรก!
กว่างอู๋สลัดความคิดกวนใจทั้งหมดออกไปเขาพ่นเลือดในปากเขาทันทีและตวาดกึกก้อง “ฟัน”
นี่คือวิชาช่วยชีวิตของเขา “ลำนำสายฟ้าโลหิต”
หลิงซิ่วรู้สึกแน่นหน้าอกบทเพลงชั่วร้ายผ่านเข้ามาในความคิดสู่สมองของเขาทำให้เลือดในร่างกายของเขาแข็งค้างไปชั่วขณะ เขาตะลึงทันที นั่นมันวิชาอะไร แต่ในทันใดกระพรวนเงินเขาแกะบนหอกของเขาก็ส่งเสียงดังนุ่มนวลกังวาลแต่หลิงซิ่วกลับรู้สึกดังเหมือนฟ้าผ่า เขารู้สึกแต่เพียงว่าสมองมึนเงง จากนั้นร่างกายผ่อนคลาย ความหนาวประหลาดหายไปทันที
ใบหน้าชั่วร้ายของกว่างอู๋และดาบสีโลหิตเข้มปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาทันที
หลิงซิ่วแทงหอกออกไปทันที
ปลายหอกเงินที่เคลือบของเหลวเงินปะทะกับคมดาบของกว่างอู๋อย่างแม่นยำ
ใบหน้าของกว่างอู๋กลายเป็นหวาดหวั่นเหลือเชื่อทันที
ปัง!
ดาบโลหิตระเบิดแตกกระจายเป็นเสี่ยงต่อหน้าหลิงซิ่วและหลิงซิ่วสะบัดข้อมือโดยไม่ต้องคิด
กลุ่มชิ้นส่วนที่ติดไฟกลุ่มหนึ่งตกร่วงบนทราย ร่องรอยสีแดงยังปรากฏอยู่ในอากาศและดูเหมือนกับมีปีกเฉียดผ่านกว่างอู๋ไป
กว่างอู๋เหมือนกับหุ่นกระบอก ยังคงค้างอยู่ในท่าฟันไม่ขยับแม้แต่น้อย
ไม่กี่วินาทีต่อมาเลือดหยดหนึ่งก็เริ่มไหลออกมาจากหน้าผากเขา
ปัง!
ศีรษะของกว่างอู๋แตกระเบิดโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆร่างที่ไร้ศีรษะร่วงลงพื้นเหมือนกับท่อนไม้
หลิงซิ่วหยุดและหันกลับมา จิตใจเขาปั่นป่วนด้วยความรู้สึกที่เหลือเชื่อ
เขาทำได้.. เขาฆ่าตาเฒ่านั่นได้จริงๆ
นี่คือหอกดาราแห่งกลุ่มดาวแกะหรือ?
นี่คือวิชาของนักสู้พาหนะเงินหรือ?
แข็งแกร่ง... แข็งแกร่งจริงๆ! วิชาที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?
อาจารย์! ท่านเห็นไหม? เสี่ยวซิ่วแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว
เขาตื่นเต้นจัดทั้งที่ตอนนี้ตนเองไม่เหลือปราณแท้ในตัวเลย แม้ว่าหอกของเขาจะน่ากลัวมากแต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่าต้องใช้พลังทั้งหมดในร่างกาย แต่เขาไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่น้อย ตลอดทั้งตัวเขารู้สึกเหมือนกับแช่อยู่ในความรู้สึกปิติยินดี
หย่งเซียนจงที่เฝ้ามองการต่อสู้อย่างสบายๆพรวดพราดลุกขึ้นยืน เขามองดูอย่างตกตะลึงเมื่อกว่างอู๋ล้มลง เหมือนกับว่าถูกฟ้าผ่า เป็นพลังโจมตีที่พิเศษไม่ธรรมดาเลย
นั่นคือกว่างอู๋.....
แต่หย่งเซียนจงยังเคยชินกับฉากภาพดังกล่าว แม้ว่าใจในเขาจะตกใจ แต่สีหน้าเขายังแสดงออกอย่างสงบ
นั่นมัน....
เขาหันหน้าไปมองเพลิงที่ดับมอดแล้วและพูดไม่ออก
กลุ่มเพลิงค่อยๆ มอดดับลงร่างของเด็กหนุ่มชุดขาวปรากฏอยู่ในสายตา เขามีท่าทีเหนื่อยล้า แม้แต่หอกในมือของเขาก็กำลังสั่นเหมือนกับว่าพลังโจมตีนั้นใช้พลังของเขาไปจนหมดสิ้น
หลิงซิ่วไม่มีพลังเหลือไว้สู้อีกต่อไป
หย่งเซียนจงไม่กล้าดูแคลนเขาแม้แต่น้อย ระดับของเขาเองกับกว่างอู๋ห่างกันไม่มากดังนั้นแม้ว่ากว่างอู๋ไม่สามารถต้านรับการโจมตีนั้นได้ แล้วเขาจะทำได้หรือไม่
หย่งเซียนจงไม่แน่ใจ
เด็กหนุ่มนั่นเป็นใครกันแน่? วิชาหอกของเขาชื่อว่าอะไร?
อาเฮ่อก็ประหลาดใจพอๆ กันปกติเขาเชื่อฝีมือของหลิงซิ่ว แต่เขาไม่คิดเลยว่าหลิงซิ่วจะเอาชนะกว่างอู๋ได้เร็วขนาดนั้นและความจริงก็คือเขาพร้อมที่จะโดดเข้าไปช่วยเหลือ
เขาไม่คิดเลยว่าหลิงซิ่วจะแข็งแกร่งได้มากมายขนาดนั้นจริงๆ
แววตาของอาเฮ่อฉายแววตื่นเต้นและมีความตั้งใจจะสู้
เป็นไปตามที่คาด เขาคือทายาทนักสู้พาหนะน้ำแข็งเงิน
อาเฮ่อกำกระบี่กระเรียนในมือของเขาแน่นและอดปลาบปลื้มไม่ได้
ทุกคนฝีมือแข็งแกร่งกันทั้งนั้น!