ตอนที่แล้วตอนที่ 334 เหตุผลที่ต้องชนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 336 หอกเงินอัคคีนรก

ตอนที่ 335 เย่เฉาเกอผู้น่ากลัว


เม็ดแสงสีเงินค่อยๆ ลอยออกมาจากตัวของจิ่งหาว เม็ดแสงสีเงินนี้ดูเหมือนดวงดาวลอยอยู่เหนือหัวจิ่งหาว

เลือดที่ไหลออกมาจากปากของจิ่งหาวอย่างต่อเนื่องก็ค่อยๆลอยด้วยเช่นกัน

แสงเงินที่อยู่เหนือศีรษะของเขาดูเหมือนจะถูกดูดเข้าหากระบี่ของเขา  มันถูกดึงดูดทีละเม็ดๆต่อเนื่องจนดูเป็นสายเข้าหากระบี่

กระบี่ในมือของเขาถูกดันไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวล

“รังสีกระบี่แสง”

เหมือนก่อนนั้นแสงเงินนับไม่ถ้วนเข้าไปในตัวกระบี่ของเขา

ดวงตาของเย่เฉาเกอเบิกโพลงความรู้สึกถึงอันตรายเพิ่มขึ้นในใจทันที

รังสีเงินกระจายออกมาจากปลายกระบี่ของจิ่งหาว  และกลายเป็นกระบี่แสงสีเงินยิงออกมา

แย่แล้ว!

สีหน้าของเย่เฉาเกอเปลี่ยน  เขาพยายามหลบไปทางขวา  แต่ลำแสงมาไวกว่าที่เขาคิด “ชี่...” เกิดรอยแผลเลือดที่อกของเขาเลือดหยดลงมาจากอากาศ

ตาของเย่เฉาเกอเบิกกว้าง เขามีสีหน้าเหลือเชื่อ

เป็นไปไม่ได้

ลำแสงเงินยิงทะลุหน้าอกเขาและเกิดรูขนาดหัวแม่มือที่หน้าอกของเขา

เขาถูกยิงจริงๆ... ด้วยความเร็วของเขาเขาหลบไม่พ้นได้ยังไง?

เหมือนกับว่ามันเร็วเท่ากับแสง

สุดยอดวิชาโดดเด่นตามที่คาดจริงๆ  น่าตื่นเต้นมาก

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

เย่เฉาเกอหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเลือดพุ่งออกมาจากอกของเขาย้อมเสื้อผ้าจนเปื้อน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ  ผมของเขาสั่นไหวอยู่ในอากาศ เหมือนกับว่าเขาได้รับข่าวที่มีความสุข

เขาหยุดหัวเราะสายตาจับจ้องมองมาทางจิ่งหาว

“จิ่งหาวเจ้าไม่ทำให้การรอคอยของข้าต้องสูญเปล่า”

จิ่งหาวมีแสงสีเงินครอบคลุมตัวเผชิญหน้ากับเย่เฉาเกอผู้บ้าคลั่งเขาไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย  เขาไม่พูดและไม่พูดสิ่งที่เขาคิด แต่เขาใช้วิชากระบี่ของเขาอย่างสงบและอดทนเชื่อมั่นในตนเอง

แม้ว่าในอดีต เมื่อเผชิญกับเย่เฉาเกอผู้โดดเด่นเสมอ  เขาก็ไม่เคยกลัวและไม่เคยนับถือเขา  เขายังคงเป็นเหมือนก้อนศิลาใหญ่บนภูเขานิ่งเงียบไม่พูดอะไร  แต่เขามีโลกของเขาเอง

อย่างไรก็ตามคนที่แข็งแกร่งคือเขา  คนที่อ่อนแอคือข้า

ข้ามีเป้าหมายของข้า และข้าจะตระหนักถึงมัน ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าก็จะอ่อนแอและไร้พลังอยู่เสมอ

ข้าจะเดินไปตามเส้นทางของข้าเอง ตลอดไป

ความสงบในดวงตาของจิ่งหาวพิสูจน์ว่าเขากระตือรือร้นและภาคภูมิใจ  เขาชูกระบี่ในมือ แสงเงินรอบๆตัวเขาปล่อยเส้นด้ายแสงสีเงิน  และเส้นด้ายทั้งหมดวิ่งเข้าไปหากระบี่ของเขา

เย่เฉาเกอชูกระบี่ที่เต็มไปด้วยรอยบิ่นเหนือศีรษะเขา

แววจริงจังแฝงอยู่ในดวงตาของเขา

เขาฟันกระบี่ลง

ขณะเดียวกันจิ่งหาวก็ไสกระบี่ออกไป

รังสีกระบี่เงินที่ถูกปล่อยออกมาหนากว่าครั้งก่อนหลายเท่า

ปัง!

กระบี่แสงสีเงินรวดเร็วกว่าปราณกระบี่ไร้สภาพของเย่เฉาเกอ  เมื่อปราณกระบี่ไร้สภาพยิงออกมาในระยะใกล้มันก็ปะทะกับลำแสงเงิน

พลังงานทั้งสองแข็งแกร่งพอกัน ทั้งเป็นมวลพลังขนาดใหญ่เย่เฉาเกออยู่ใกล้กว่าไม่มีเวลาหลบเขาถูกดูดเข้าไปในคลื่นและกระเด็นออกไปเกินกว่าสิบเมตร

“สาแก่ใจนัก”

เย่เฉาเกอบาดเจ็บทั่วตัวก็ยิ่งตื่นเต้นมาก  เขาตีลังกาขณะถูกเหวี่ยงกลับและใช้กระบี่เหล็กกล้าในมือฟันอีกครั้ง

ตัวกระบี่สั่นสะท้านด้วยความถี่ที่น่าอัศจรรย์ทำให้เกิดระลอกรอบอากาศนับไม่ถ้วน รอยแตกที่ตัวใบมีด จากนั้นก็  รอยแตกขนาดเล็บนิ้วมือหลุดออกมาจากตัวกระบี่จากนั้นก็กลายเป็นฝุ่นผง

วืดดดด

ปราณกระบี่ไร้สภาพปะทะเข้ากับรังสีกระบี่แสงอีกครั้ง

ปัง!

รังสีกระบี่แสงสลายทำให้จิ่งหาวครางด้วยความเจ็บปวดจากการสะท้อนกลับรุนแรง  ปัง ปัง ปัง ทุกๆ ย่างก้าวของเขาหนักหน่วงเป็นพันชั่ง เนินทรายใต้เท้าระเบิดออก  รอบๆพื้นที่มีฝุ่งทรายฟุ้งกระจาย

กระบี่เหล็กในมือของเย่เฉาเกอไม่สามารถทนรับได้  มันแตกหักกลางทันที อากาศที่แหลมคมสร้างบาดแผลรอยเชือดเฉือนบนร่างกายของเขาโลหิตหลั่งไหลออกมามากขึ้น

ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจ เนื่องจากเขาตื่นเต้น เขาพุ่งลงมาทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  เอาอีกครั้ง!”

เขายืมกำลังจากแรงโน้มถ่วง และเงื้อกระบี่หักในมือในอึดใจเดียวสะบัดกระบี่ฟาดฟันถึงสิบครั้ง

จิ่งหาวมีเลือดอยู่ที่ริมฝีปาก  ชุดของเขาฉีกขาด  เมื่อเห็นเย่เฉาเกอเข้ามาใกล้  เขาตะโกน “ม่านกระบี่แสง”

แสงเงินทะลักออกมาจากปลายกระบี่อย่างรุนแรงและพุ่งขึ้นไปเหนือศีรษะของจิ่งหาว  ขณะที่เขากุมกระบี่ด้วยมือทั้งสอง

ขณะเย่เฉาเกอกำลังเข้ามา เขาฟันใส่

ปง  ปง  ปง!

ทุกครั้งที่กระบี่แสงปะทะใส่ปราณกระบี่ไร้สภาพ  มือจิ่งหาวจะสั่น  เขาจ้องมองอย่างโกรธเกรี้ยวและใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดฟันใส่อีกครั้ง

แรงฟันที่แข็งแกร่งเปลี่ยนสภาพเป็นม่านแสงที่กว้างครอบคลุมเย่เฉาเกอไว้ภายใน

พอม่านแสงสัมผัสพื้น

ปัง!

แสงเงินแพรวพราวทำให้เกิดพายุทรายครอบคลุมไปทั้งท้องฟ้า

เมื่อพายุทรายหายไป เกิดมีร่องลึกยาวตั้งแต่ด้านหน้าจิ่งหาวยืดขยายออกไปไกลจนสุดสายตา

“แฮก.... แฮก...แฮก...”

จิ่งหาวหอบหายใจ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นทั่วร่าง มือทั้งสองที่ยังจับกระบี่กำลังสั่นอย่างควบคุมมิได้  ใจของเขาว่างเปล่า  เขาดึงพลังทั้งหมดของเขาออกมาโจมตีและไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้ว

เผียะ  เผียะ  เผียะ

ทันใดนั้นร่างของเขา มีรอยเลือดและบาดแผลนับไม่ถ้วน พลังโจมตีจากปราณกระบี่ไร้สภาพทำให้เกิดบาดแผลนับไม่ถ้วนบนร่างกายของเขา  เพียงแต่จิ่งหาวใช้พลังทั่วร่างเพื่อโจมตีจึงทำให้กล้ามเนื้อของเขาตึงเครียดเหมือนเหล็กและเลือดไม่สามารถไหลได้  หลังจากคลายใจแล้วบาดแผลจึงเริ่มปรากฏโลหิตเริ่มไหล

เราชนะหรือเปล่า...

นั่นคือความคิดสุดท้ายของจิ่งหาว  ขณะที่ตาของเขาสูญเสียการรับรู้

เขาล้มลงกับผืนทราย

“หึ  หึ หึ ”

ร่างๆ หนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือดพยายามเดินกลับมาด้วยระยะที่ไกลเกินกว่าสองสามกิโลเมตร  เห็นได้ชัดว่าเป็นเย่เฉาเกอ  สารรูปของเขาดูน่าสมเพชตลอดทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดและทราย ที่สะดุดตาที่สุดก็คือบาดแผลบนไหล่ซ้ายของเขาที่พาดยาวมาทางขวาจนถึงท้อง เหมือนกับว่าอกของเขาจะแตกหักและเปียกชุ่มไปด้วยเลือด

กระบี่ในมือของเขาเหลืออยู่แต่ด้ามเท่านั้น

“ข้า...ไม่ได้รออย่างสูญเปล่า...”

เย่เฉาเกอลากเท้าเข้าหาจิ่งหาวทีละก้าวๆ  ใบหน้าของเขาไม่แสดงอาการเจ็บปวดอะไรแต่ตรงกันข้าม  เป็นความสุขที่มิอาจพูดได้

“น่าเสียดาย  มันยังไม่พอ, ยังไม่พอ, ความเกลียดของเจ้ายังกล้าแกร่งไม่พอ  วิธีนี้, ข้าสามารถทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้,และเป็นคู่ต่อสู้ที่แกร่งกล้าขึ้น”

เย่เฉาเกอพึมพำกับตัวเอง

แผลบนร่างของเขาฟื้นฟูเยียวยาในตัวมันเองอย่างรวดเร็ว  พอเวลาผ่านไปเมื่อเขามาถึงร่างจิ่งหาว  ร่างของเขาก็แทบจะสมบูรณ์มีเพียงแต่ขาวซีดเท่านั้น

เขาแบกตัวจิ่งหาวที่หมดสติขึ้นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์และเย็นชาฉายอยู่บนใบหน้าของเขา

“ข้าต้องการให้เจ้าเห็น  วิธีที่ข้าสังหารพวกมันทุกคน”

**************

ค่ายทหารที่เจ็ด

ปัง!

ห้องฆ่าตัวตายระเบิดทันที ท่ามกลางควันหนาทึบ  มีร่างๆหนึ่งกวัดแกว่งกระบี่สองเล่มเดินออกมาจากควันช้าๆ

ตลอดทั้งร่างของถังเทียนมีเปลวเพลิงที่หมองและใสครอบคลุม  ตาของเขาเย็นชามาก

ฉัวะ, ถังเทียนหายไป

พลังงานทะลักไหลเข้ามาในร่างถังเทียนโดยไม่เหลือก้าวย่างลมพรางของเขาถูกใช้จนอยู่ในสภาพที่ดียอดเยี่ยมที่สุด

ความเร็วของเขาเร็วพอๆ กับสายฟ้าปรากฏเป็นภาพพร่าเลือนไล่ตามหลัง  ราวกับว่าเป็นเพียงสายลม

เร็วเข้า, ข้าต้องเร็วขึ้น,  ต้องเร็วขึ้น

ถังเทียกัดฟัน ในใจของเขากังวลมาก เขายังคงกระตุ้นปราณแท้ในร่างกายของเขา ขณะโดดออกมาจากป่าบรอนซ์

ทุกคน, อดทนเอาไว้!

เมื่อเห็นเส้นทางจากระยะไกล  เขาวิ่งทันทีโดยไม่ลังเลใจ

หยาหยาที่กำลังขุดพื้นที่อยู่ไกลๆ โบกมือให้อย่างตื่นเต้นมันร้องแล้วกระโจนไล่ตามหลังถังเทียน แต่ถังเทียนจะมีเวลาสนใจมันในตอนนี้ได้ยังไง?  เขาไม่ลดความเร็วลงและวิ่งอย่างบ้าคลั่ง

เหงื่อที่พรั่งพรูหลั่งไหลจากหน้าของเขาปลิวกระเด็นไปเบื้องหลังเขาทั้งหมด  เขาไม่สนใจแม้แต่จะปาดออกจากใบหน้า

มีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของเขา  เร็วขึ้น เร็วขึ้น  เร็วขึ้น!

หยาหยาพอไม่ได้รับความสนใจก็โกรธ  ทันใดนั้น นัยน์ตาของมันเป็นประกายมันโดดขึ้นหลังแพะภูเขาบรอนซ์ และดึงเต่าและกระรอกบรอนซ์มากับมันด้วย แพะภูเขาบรอนซ์วิ่งอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน  อสูรจักรกลที่แต่เดิมกำลังขุดเจาะพากันตามมาเป็นพรวนกันหมด  ในพริบตากองทัพอสูรจักรกลก็มุ่งหน้าไปทิศทางที่ถังเทียนวิ่งไป

บนหลังของแพะภูเขา หยาหยาท้าวสะเอว สีหน้าของมันองอาจ มันดูสง่างามคล้ายกับว่าผ่านการตัดสินใจอะไรบางอย่าง

******************

สายตาของจางเจิ้งจับจ้องอยู่ที่ถังอี้ และทันใดนั้นเขาสัมผัสได้ถึงร่องรอยความพอใจ  เขารู้ว่าเขาไม่แข็งแกร่งและจะกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของคู่ต่อสู้ได้  ดังนั้นเขาได้เตรียมกับหลุมพรางไว้สองสามอย่าง

แต่ก็ยังมีคนโง่ถูกหลอกจนได้

จางเจิ้งตะโกนทันที “ฆ่า!”

แสงรังสีร้อยสายวาบขึ้นในท้องฟ้าและปกคลุมเหนือศีรษะของเขาในทันใด รังสีดาบและหอกเกินกว่าร้อยเล่มก่อตัวเป็นวังวนอากาศรอบๆ ถูกตัดทำลายอย่างต่อเนื่องจนปั่นป่วนเป็นพายุ

แรงเหวี่ยงจากการเข้ามาถึงของถังอี้นั้นเร็วอย่างน่าประหลาด เขาปรากฏตัวอยู่ในวังวนทันทีและไม่มีเวลาจะถอนตัวออกไป

จางเจิ้งไม่สามารถอดกลั้นความยินดีไว้ได้  กระบวนวิชานี้ทดสอบมาแล้วได้ผลดีน่าพอใจ

เพียงชั่วเวลานั้นรังสีแพรวพราวเปล่งประกายสว่างจากภายในวังวนทันที

หน้าของจางเจิ้งแข็งค้างทันที  นี่มัน...

“ทำลาย!”

เสียงตวาดทุ้มต่ำแต่ดังปานสายฟ้าผ่าดังขึ้น

จางเจิงได้แต่มองกลุ่มแสงสีขาว จากนั้นก็ไม่เห็นอะไรเขาเริ่มตื่นตกใจ

เขาเริ่มถอยหลังออกมาอย่างไม่คิดอะไรทั้งนั้น

ปัง!

ทรายสาดกระเซ็นโดนหลังของเขา ด้วยพลังที่มากมหาศาลอย่างประหลาดเขาสั่นด้วยความเจ็บปวด

แสงรัศมีกระจายหายไป ใบหน้าของจางเจิ้งมีทรายเกาะเต็มไปหมดขณะที่เขามองดูหลุมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางห้าเมตร  หน้าของเขาซีดขาว  และร่างของเขาสั่นอย่างมิอาจระงับได้

น่ากลัว...น่ากลัวเกินไป!

ถังอี้ตวาดก้อง ใช้พลังดาบทั้งที่อยู่บนหลังม้าอีกครั้งใบหน้าของเขาสงบเหมือนน้ำเย็น เขาชูดาบสูงและตะโกนกึกก้อง  “สู้!”

กองกำลังหมาป่าต่างก็ตื่นตระหนกเพราะพลังดาบที่ร้ายกาจของถังอี้  และเริ่มรู้เลือดลมพลุกพล่านราวกับว่ามีบางอย่างติดขัดอยู่ที่อกไม่สามารถระบายออกได้  พวกเขาอดไม่ที่จะชูดาบโค้งและตะโกนอย่างแข็งขัน“สู้!”

เสียงโห่ร้องของคนสองร้อยคนดังกึกก้องต่อเนื่องเหมือนสายน้ำ

ทหารค่ายหางแฉกกลับมีสีหน้าแตกต่าง

ภายในกระบวนศึกของศัตรู ถังอี้ค่อยๆกระตุ้นม้าเดินราวกับว่าเป็นที่ไม่มีคนอยู่ เหล่านักสู้รอบๆ ตัวเขาไม่มีใครกล้าสู้กับเขา  ต่างหลบเปิดทางให้เขาเดินผ่านไป

ถังอี้ชูดาบฟันขาม้า ดาบฟันขาม้าสีดำสนิทเป็นเหมือนกับธงศึก สายตาของทุกคนจับตาอยู่ที่สัญลักษณ์ในสมรภูมิ กองทัพชาวหมาป่ารวมตัวอยู่หลังถังอี้อย่างรวดเร็ว  ทุกคนสั่นด้วยความตื่นเต้น  การต่อสู้ของพวกเขากำลังขึ้นสู่จุดสูงสุด

“ขบวนเงื่อน!  รีบตั้งขบวนเงื่อน!”

เสียงตกใจของจางเจิ้งดังเนื่องมาจากภายในขบวนทัพของศัตรู  ศัตรูยังคงถอยต่อเนื่องต้องการจะเพิ่มระยะห่างอีกครั้ง

บนหลังม้า ถังอี้นั่งตัวตรงมองดูพวกเขาอย่างสงบ ขณะที่พวกเขาพยายามตั้งขบวน

ความสงบและความสง่างามปรากฏอยู่ในดวงตาเขาซึ่งเต็มไปด้วยความภูมิใจ

ถ้าข้าไม่สามารถโค่นเจ้าพวกร้ายกาจนี้  แล้วข้ายังจะมีหน้าใช้ชื่อกองทัพที่ไม่เหมือนใครนี้ได้ยังไง?

ดวงตาที่สง่างามของเขาเบิกกว้างทันที  รังสีเยือกเย็นระเบิดออกทันที  เขาใช้เท้ากระตุ้นที่ท้องม้า ตะโกนลั่น  “ฆ่า!”

“ฆ่า!”

ทหารชาวหมาป่าตะโกนอย่างแข็งขันเหมือนกับว่าพวกเขาเชื่อมโยงผูกพันกันด้วยด้ายที่มองไม่เห็น  พวกเขาทุกคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน ในเวลาเดียวกัน

ดาบของทุกคนส่องประกายพร้อมกับเรืองแสงขึ้นถ้ามองมาจากด้านบนที่สูงท่านจะตระหนักได้ว่ารังสีดาบทั้งหมดครอบคลุมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันรายล้อมกองทัพหมาป่าจนดูเหมือนสิ่วที่แหลมคม

ก่อตั้งกระบวนสิ่ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด