ตอนที่ 334 เหตุผลที่ต้องชนะ
เสียงเพลงลอยมาตามลม,ธงของกองทัพโบกสะบัด ควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ
ยิ่งเขาคิดมากความตั้งใจสู้ก็ยิ่งลุกโชน
ปิงกำลังควบคุมพยัคฆ์ฟ้าภาพที่ปรากฏในสายตาเขาผ่านไปรวดเร็วเป็นเส้นสีสันต่างๆ ความเร็วของพยัคฆ์ฟ้าถึงระดับสูงสุดแล้วปีกที่หลังของเขาบินตัดอากาศสั่นกระพืออย่างรวดเร็ว
หน้าไพ่ของปิงไม่มีความกลัวะมีแต่ความรู้สึกสงบเย็นเป็นปกติ ทันใดนั้นพยัคฆ์ฟ้ากางแขนออกเหมือนปีก
ซี่.. ซี่.. ซี่...
แรงเสียดทานระหว่างพยัคฆ์ฟ้าและอากาศก่อให้เกิดประกายไฟอุณหภูมิสูงทำให้กรงเล็บของพยัคฆ์ฟ้าเรืองแสงสีแดง เหมือนกับว่าเพิ่งออกมาจากเตาเผา กรงเล็บร้อนแดงมีอุณหภูมิสูงและความเร็วที่น่าทึ่งมาพร้อมกับความเคลื่อนไหวของพยัคฆ์ฟ้า
ร่างของพยัคฆ์ฟ้าเหยียดออกเต็มที่กลายเป็นเหมือนหอกตรง
ร่างของพยัคฆ์ฟ้าพร่าเลือนด้วยความเร็วสูงเปลี่ยนเป็นสีแดงและเขียวไขว้ตัดกันเป็นรูปไม้กางเขนพุ่งเข้าใส่แนวแถวของข้าศึก
เคียวกางเขนเขียวแดง
ทันใดนั้นเคียวกางเขนเขียวแดงเปล่งประกายขึ้น หวงฝู่หงสีหน้าเปลี่ยน อาวุธจักรกลสีฟ้าเป็นคนที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด กองทัพเหล็กกล้าคือกองทัพที่เป็นอาวุธจักรกลครึ่งหนึ่ง และในฐานะผู้บัญชาการหวงฝู่หงมีความรู้มากกว่าช่างจักรกลทั่วไป และด้วยเพียงการชำเลืองมองเขาสามารถบอกได้เลยว่าอาวุธจักรกลสีฟ้าไม่ธรรมดาแน่นอน
แน่นอนเมื่อเคียวกางเขนเขียวแดงปรากฏ นั่นทำให้เขากลัว
แม้จะกลัวแต่ปฏิกิริยาของเขาก็รวดเร็วมาก
นักสู้แถวหน้าทั้งหมดตั้งโล่ขนาดใหญ่สร้างแนวป้องกันในพริบตาแสงรัศมีก็ครอบคลุมด้านหลังโล่ด้วยความเร็วที่น่าทึ่งสร้างเป็นกำแพงโล่แสง
เคียวกางเขนเขียวแดงปะทะใส่กำแพงโล่แสง
เพล้ง!
เสียงเหมือนแก้วแตกดังขึ้น กำแพงโล่แสงระเบิดกระจายเป็นเสี่ยงๆ ทันที เศษเล็กเศษน้อยกระจายออกไปเหมือนกับเกล็ดหิมะร่วง
กางเขนเขียวแดงทะลวงเข้าไปในกลุ่มคนอย่างเหี้ยมหาญ
เกราะบนร่างของทหารเกราะเหล็กทั้งหมดยู่ยี่เหมือนกระดาษ ทั้งหมดถูกตัดเป็นชิ้น ซี่โครงหักและโลหิตกระจายไปทั่วทุกที่
รูปขบวนเดิมเหมือนถูกไถเป็นรอยเลือด
หวงฝู่หงถึงกับตาแดง ทหารทุกคนติดตามเขามายาวนาน และในพริบตาพวกเขาบาดเจ็บล้มตายเกินกว่าสิบ เขาต่อสู้ศึกมาทุกรูปแบบ แต่ทหารเกราะเหล็กไม่เคยประสบความสูญเสียขนาดนี้มาก่อน
ทหารคนอื่นโกรธแค้น นักสู้ที่อยู่ใกล้ๆพุ่งเข้าต่อกรกับปิงเป็นคนแรก ขณะที่นักสู้ที่อยู่หลังพากันหนุนเนื่องไม่สนใจว่าจะต้องสิ้นเปลืองปราณแท้แค่ไหน พวกเขาปลดปล่อยการโจมตีพยัคฆ์ฟ้าโดยไม่ยั้งมือ
พยัคฆ์ฟ้าตกอยู่ในวงล้อมสิ้นเชิง
*******************
ห้องฆ่าตัวตาย
ตามตัวถังเทียนเต็มไปด้วยร่องรอยบาดเจ็บและเขาหอบหายใจขณะที่ถือกระบี่เซียนกักสมุทร
ถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยร่อยรอยบาดเจ็บและหอบหายใจเช่นกันมือของเขาก็ถือกระบี่เซียนกักสมุทรเช่นกัน
ถังเทียนไม่สามารถจำได้ต่อไปว่าเกิดการต่อสู้กันระหว่างพวกเขามาแล้วกี่ครั้งกันแน่ ทุกๆ การต่อสู้จะเสมอกัน ทุกการต่อสู้เหมือนตกอยู่ในบึง มันยากลำบากจนเขาลำลักหายใจไม่ออก
จากนั้นเขาตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้คิดหาวิธีเอาชนะ เขาพยายามใช้วิธีการต่างๆ เช่นหลังจากกระตุ้นพลังตาสีแดงได้ เขาก็เรียกกระบี่เซียนกักสมุทรออกมาใช้ แต่ศัตรูก็ยังทำด้วยวิธีเดียวกันทั้งยังเรียกกระบี่เซียนกักสมุทรออกมาใช้ได้อีกด้วย
ถังเทียนใช้พลังของเขาทั้งหมดคิดทำให้ตนเองแข็งแกร่งมากขึ้นจนตัวเขาเองก้าวหน้าครั้งใหญ่ เขาพบวิธีควบคุมเพลิงดำมิติว่างและวิธีเรียกกระบี่เซียนกักสมุทร
ในขณะที่ถังเทียนอีกคนหนึ่งก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาดใจพอๆกัน ทั้งยังเรียนรู้วิธีเรียกกระบี่เซียนกักสมุทรอีกด้วย
เขาจะเอาชนะได้ยังไง?
ถังเทียนมั่นใจในตอนแรก แต่ตอนนี้เขาเพิ่งรู้สึกเหมือนว่าแพ้ เขาพยายามคิดหาวิธีการทั้งหมดแต่ไม่ว่าเขาจะคิดยังไง ฝ่ายตรงข้ามก็คิดได้เช่นกัน
ถังเทียนหันไปมองดูหลังคาและตอนนั้นเองเขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาอยู่ในนั้นมานานเก้าสิบวัน
เดี๋ยวก่อน!
90 วัน!
ม่านตาเขาหดลีบลง
การอยู่ในนี้เก้าสิบวัน ก็หมายความว่าเวลาข้างนอกผ่านไป 18 วัน
18 วัน!
เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดใจของเขาว่างเปล่า มือเริ่มเย็นเฉียบ ถ้าเป็นไปตามแผนของปิง เขามีเวลาเต็มที่เพียง18 วัน
“....ถ้าเจ้าพลาดการต่อสู้ครั้งนี้,หลิงซิ่วจะตาย, อาเฮ่อจะตาย, อาโมรี่จะตาย, หานปิงหนิงจะตาย, เหลียงชิวจะตาย, ซือหม่าเซียงซานจะตาย, หัวหม่าเอ๋อจะตายชาวเผ่าหมาป่าจะถูกกวาดล้าง จะไม่มีใครเหลือรอด และทุกคนจะต้องตาย...”
คำพูดของปิงก้องอยู่ในใจของเขาทำให้ตาของถังเทียนสูญเสียเป้าหมาย
ทุกคนจะตาย..... ทุกคนจะตาย....
ความกลัวและความสิ้นหวังประดังเข้ามาในจิตใจของเขา ความคิดของเขาขาวโพลนเหมือนกระดาษเปล่า ตลอดทั้งร่างสั่นสะท้าน
ไม่,ปิงต้องพูดเกินไปแน่ๆ...
หลิงซิ่วแข็งแกร่งมาก...
อาเฮ่อก็ทรงพลังด้วยเช่นกัน....
และยังมีปิง,เขามีความคิดที่หลากหลายมาก เขาคือปรมาจารย์ด้านกลยุทธ์
และอาโมรี่และคนที่เหลือ...
แต่... แต่,ทำไมข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจเล่า?
ทำไม....
ทุกคนจะตาย... ไม่...
ถังเทียนกำลังสั่นจนมิอาจควบคุมตัวเองไว้ได้ เขาทุ่มเทพลังที่เหลืออึดสุดท้ายลงไปในกระบี่กักสมุทร เหมือนกับว่ามันคือฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย
แม้หลิงซิ่วจะมีอารมณ์รุนแรงแต่เมื่อต้องต่อสู้ เขาจะเป็นคนแรกทิ่วิ่งเข้าใส่ อาเฮ่อเป็นคนดีเสมอพร้อมจะทำทุกอย่างและเขามักจะช่วยแก้ปัญหาให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ลุงปิงที่ชอบเอาแต่โม้ แต่เขามีความคิดหลากหลาย อาโมรี่ค่อนข้างโง่และถูกหลอกได้ง่ายๆ หานปิงหนิงไม่ชอบพูด แต่นางเป็นคนใจดี เหลียงชิวเป็นคนที่มั่นคงและตรงไปตรงมาน่าเชื่อถือ ซือหม่าเซียงซานนิสัยประหลาดอยู่บ้างและชอบใช้คำพูดขวานผ่าซาก
แล้วยังถังอี้,หัวหม่าเอ๋อ...
มากเกินไปแล้วที่ทุกคนทุ่มเทให้ที่นี่...มากเหลือเกิน..ทุกคนเป็นคนดีมากและควรค่าแก่การเชื่อถือ ทุกคนกำลังเสี่ยงชีวิต ทุกคนกำลังต่อสู้ ทุกคนกำลังทำเพื่อข้า สู้เพื่อข้า...
ข้าสัญญาไว้แล้วว่าจะต่อสู้เคียงคู่กัน...
ข้าสัญญาไว้กับทุกคนว่าเราจะไปกลุ่มดาวกางเขนใต้พร้อมกันทุกคน
เราสัญญากันแล้วทุกคนจะต้องแข็งแกร่ง...
สัญญา....
ถังเทียนไม่อาจทนได้อีกต่อไป น้ำตาเขาเริ่มคลอเบ้าและเริ่มร้องไห้
“ถังเทียน” คนที่อยู่ตรงข้ามเขายืนขึ้นและจ้องมองเขา
“ทุกคนเป็นคนดีมาก... ทุกคนสัญญากันแล้ว... สัญญา..เราสัญญากันแล้ว....”
ถังเทียนเงยหน้าขึ้นเขารีบเช็ดตาทันทีและหยุดร้องไห้
บางสิ่งบางอย่างดูเหมือนจะกระจ่างในดวงตาเขา
“ไม่, ข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาตาย ไม่ยอมเด็ดขาด”
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม!”
ถังเทียนพูดกับตนเอง ขณะที่เขาชักกระบี่ปลอดสำเนียงถือไว้ในมือซ้าย มือขวาเป็นกระบี่กักสมุทรขณะที่เขาจ้องมอง ‘ถังเทียน’ที่อยู่ตรงข้ามเขา ‘ถังเทียน’ นั้นรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของเขาและแสดงท่าทีระมัดระวัง
ถังเทียนถอยหลังมาหนึ่งก้าวอยู่ในท่านั่งม้า เขาโน้มตัวไปข้างหน้า
“ก่อนนั้นข้าไม่พบเหตุผลที่จะเอาชนะเจ้า แต่เดี๋ยวนี้ข้ามีแล้ว
ถังเทียนกัดฟันหน้าของเขามองดูดุร้าย
“เจ้าเหมือนข้าจริงๆ แต่เจ้าไม่สามารถคิดถึงการตายของสหายเจ้าได้”
“แต่ข้าคิดได้!”
เมื่อกล่าวเช่นนั้นเขากระตุ้นพลังหัวใจน้ำแข็งของเนตรราชันย์มยุราและเพลิงดำมิติว่างของพลังตาแดงทำให้พลังทั้งสองปะทะกัน
“ข้ากำลังคิดอยู่หรือ? ทำไมเขาใช้เพลิงดำมิติว่างและหัวใจน้ำแข็งฟ้าเล่า? ทำไมไม่ใช้ส่วนผสมอื่น? นอกจากนั้นทั้งสองยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ต้องมีเหตุผลที่ลึกซึ้งมากอย่างแน่นอน...”
คำพูดของผู้เฒ่าเฟ่ยผุดขึ้นมาในใจของถังเทียน
ปัง!
ร่างของถังเทียนมีรังสีแพรวพราวระเบิดออก รังสีที่เข้มข้นทำให้แม้แต่ห้องฆ่าตัวตายยังสั่นสะเทือน
เหมือนกับว่าถังเทียนถูกเหวี่ยงเข้าไปในมิติมืดดำและสูญเสียสัมปชัญญะไปชั่วขณะ
ทันใดนั้นปากของเขาแค่นเสียงเย็นชา
ถังเทียนพึมพำกับตัวเอง แต่เป็นเสียงที่เย็นชาและประหลาด
“หึ.. เจ้าหมดหวังที่จะชนะใช่ไหม? ไหนว่าเจ้าไม่กลัวตายไงเล่า?”
“สละชีวิตเจ้าเองเพื่อคนอื่น ช่างเป็นวิธีคิดที่โง่เขลาเบาปัญญาโลกนี้เป็นสถานที่เห็นแก่ตัว ผลประโยชน์ตนเองเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตายเพื่อพวกเขาแล้วเจ้าจะได้อะไร?”
“ช่วยไม่ได้ แต่ความตายเจ้าดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อข้า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็มาเลย”
มาเลย... มาเลย..
เสียงสะท้อนดังก้องออกมาข้างนอก
ร่างของถังเทียนสั่นสะท้านและเขาหนาวสะท้านไปทั้งตัวจนถึงกระดูก ทันใดนั้นเขาสะท้านพรวดพราดได้สติทันที
นั่นดูเหมือนว่า..ข้าเพิ่งงีบไปหรือ?
ความมืดรอบๆตัวเขาเหมือนกับกระแสน้ำที่ลดถอยลงไป
เขารู้สึกเหมือนกับว่าใจของเขามีหลายอย่างวนเวียนอยู่รอบ
พลังที่แข็งแกร่งชอนไชไปทั้งร่างของเขา แอ่งตันเถียนของเขากลายเป็นเหมือนบ่อเพลิงที่มีเพลิงสีฟ้าและสีดำเพลิงฟ้าดำลุกโชนออกมาจากตันเถียนของเขา และโคจรไปตามเส้นชีพจร
กระบี่ปลอดสำเนียงในมือของเขาเปล่งพลังเพลิงสีน้ำเงินทันที ขณะเดียวกันกระบี่กักสมุทรก็ปลดปล่อยเพลิงดำ
ถังเทียนไขว้กระบี่ทั้งสองโดยสัญชาตญาณ
กากบาทน้ำเงินดำสว่างลุกโชนทันที
***************
จิ่งหาวและเย่เฉาเกอต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทั้งสองคนเหมือนกับเงาที่บินอยู่ในอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปะทะของทั้งสองคนทำให้ระลอกคลื่นอากาศปั่นป่วนเหมือนกับมีมีดฟันแทงอยู่ทั่วทุกตำแหน่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! จิ่งหาว, เจ้ามีฝีมืออยู่เท่านี้เองหรือ?”
เย่เฉาเกอหัวเราะเหมือนเป็นบ้า กระบี่เหล็กในมือเขาซึ่งหนักเกินพันชั่งใช้ออกอย่างรวดเร็ว
“นี่คือพลังทั้งหมดของเจ้าใช่ไหม?” เย่เฉาเกอเยาะเย้ยและตะโกน“ข้าอุตส่าห์รอเจ้ามาตั้งนาน แต่เจ้ายังอ่อนแอถึงเพียงนี้เชียวหรือ? เจ้าทำให้ข้าผิดหวัง! เจ้ามันสวะไร้ประโยชน์สมควรตายได้แล้ว”
เย่เฉาเกอโกรธ เขาตวัดกระบี่ทันทีและทันใดนั้นเขากับกระบี่ก็หายไปในอากาศ
ม่านตาของจิ่งหาวหดแคบทันที เขาขวางกระบี่ป้องกันที่หน้าอกทันที
เงาสายหนึ่งกระแทกใส่กระบี่ของเขาทำให้เขารู้สึกหวานวูบในลำคอ เหมือนกับว่าเขาเป็นลูกบอลที่ถูกไม้เบสบอลหวดใส่
“ตาย ตาย ตาย ตาย!”
เสียงโกรธเกรี้ยวดังอยู่เหนือศีรษะเขา ขณะที่เขาสูญเสียการควบคุมร่างกาย จิ่งหาวกัดฟันและกำกระบี่แน่น
แคร้ง!
พลังที่น่ากลัวทะลักมาตามตัวกระบี่ขณะที่ร่างของจิ่งหาวร่วงลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
บึ้ม!
พื้นล่างเนินทรายระเบิด
เย่เฉาเกอยังลอยตัวอยู่ในอากาศ หน้าของเขายังแสดงอาการโกรธ
“สวะเอ๊ย...จงตายไปซะ”
เขาเงื้อกระบี่เหล็กในมือและแทงไปตำแหน่งที่จิ่งหาวร่วงลงไป เขาเหวี่ยงกระบี่ออกไป
เฟี้ยวววว
เสียงกระบี่เหล็กแหวกอากาศเป็นเสียงครางต่ำ
ไม่มีแสงรัศมี แต่เนินทรายระเบิดออกไป
ฝุ่นทรายฟุ้งสูงขึ้นถึงสิบเมตรพลังน่าหวาดหวั่นมาก
ทันใดนั้น รังสีเงินพุ่งทะยานขึ้นสู่อากาศจากภายในเนินทราย เสียงกระบี่กระพือแหวกอากาศ
อากาศรอบตัวเย่เฉาเกอเริ่มสั่น
เย่เฉาเกอมีสีหน้าไร้ความรู้สึก หน้าของเขาแลดูชั่วร้ายขึ้น เขาหัวเราะอย่างองอาจ “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า จิ่งหาว ให้ข้าดูฝีมือที่แท้จริงของเจ้าหน่อย สุดยอดวิชาโดดเด่นของเจ้าเป็นเช่นไรข้าจะอดทนยอมดู”
ดวงตาของเขาเหมือนกับย้อมเลือด เขาเลียริมฝีปาก มองดูเหมือนกับคนบ้าคลั่ง
“จิ่งหาว, ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ข้าจะกวาดล้างดาวดวงนี้, จงโกรธเข้าไป, โกรธสิ! เกลียดข้า! เกลียดข้าจนบ้าไปเลย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า วิธีแบบนั้นเจ้าจะได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และทำให้ข้าตื่นเต้นยิ่งขึ้น!”
แสงสีเงินด้านล่างสว่างขึ้นและสว่างมากขึ้นทุกที เสียงอากาศครางยังดังต่อเนื่อง ปรากฏร่างหนึ่งภายในกลุ่มแสงเงินอยู่ต่อหน้าต่อตาเย่เฉาเกอ
จิ่งหาวมีแสงเงินครอบคลุมมีรอยเลือดที่ปาก สีหน้าของเขาเคร่งขรึมจริงจัง เขาเงื้อกระบี่.....