ตอนที่ 333 หวงฝู่หง
นอกจากอาเฮ่อและหย่งเซียนจงที่อยู่สภาวะแปลกประหลาด การต่อสู้อีกด้านหนึ่งกลับตึงเครียดมาก
ปิงจับตามองกองทหารที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นในปัจจุบัน การจัดขบวนของฝ่ายตรงข้ามแน่นหนามาก ทหาร 500 นายยืนหยัดมั่นคงไม่มีเสียงแต่อย่างใด
ทั้งหมดนั้นสวมชุดเกราะที่ไม่เหมือนใครดูคล้ายกับเกราะแต่ว่าหนากว่า มีกลไกเสริมช่วยมากมาย ราวกับว่าเป็นอาวุธจักรกลอย่างง่ายแต่ว่าเบากว่าอาวุธจักรกล
ปิงคุ้นเคยกับอาวุธจักรกลดีอยู่แล้วเพียงแค่เห็นเขาก็เข้าใจความคิดของศัตรู
อาวุธจักรกลน้ำหนักเบา?
เทียบกับอาวุธจักรกลดั้งเดิมมันยังเบากว่ามาก และมีความสามารถป้องกันระดับกลาง วิศวกรจักรกลของฝ่ายตรงข้ามก็มีความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน แต่ในแง่ความสำเร็จของวิชาจักรกลพวกเขายังอ่อนกว่าเซรีนมากมายนัก
การตั้งขบวนของฝ่ายตรงข้ามแน่นหนา และเขาสามารถบอกได้ว่าพวกเขาได้รับการฝึกฝนและมีประสบการณ์การรบโชกโชน
“อาโมรี่, เจ้ามีพลังแข็งแกร่งที่สุด ตำแหน่งหัวธนูเป็นตำแหน่งสำคัญที่สุดมีแต่เพียงเจ้าเท่านั้น! พ่อหนุ่ม, เราฝากความหวังไว้กับเจ้า!”
ปิงแนะนำอย่างอดทนและเป็นระบบแทบจะใช้สำเนียงปลอบโยนเหมือนกับผู้ใหญ่คุยกับเด็กน้อย
ปิงไม่หวังพึ่งสติปัญญาของอาโมรี่ แต่อาโมรี่คือผู้เชี่ยวชาญในการจู่โจมทำลาย ดังนั้นงานนี้จึงต้องปล่อยให้เขา ไม่ว่าจะเป็นการตั้งขบวนแบบไหนกับคนถึกและไร้เหตุผลวิ่งเข้าใส่โดยไม่ยั้งคิด ย่อมจะต้องมีจุดอ่อนให้เห็นแน่นอน
อาโมรี่มีสีหน้าตื่นเต้นและเริ่มตบอก “ลุงนี่, ตาถึงอย่างคิดไว้จริงๆ! วางใจได้! นักสู้จอมห้าวผู้นี้จะฆ่าให้เรียบจนเลือดไหลเป็นลำธารเลย”
พร้อมกับรังสีฆ่าฟันที่ถูกปลดปล่อย เขาเดินนำหน้าทุกคนและกวัดแกว่งดาบชี้ไปที่กองกำลังข้างหน้า “พวกเจ้าไม่มีหวังแล้ว นักรบจอมห้าวคนนี้จะกวาดล้างพวกเจ้าให้เรียบ”
ไม่มีใครยุ่งกับเขาสักคน
“วัวแมงวัน, พวกมันดูถูกเจ้าอยู่นะ” ซือหม่าเซียงซานพูดเย็นชา “ไปเลย! แสดงฝีมือให้พวกมันเห็นว่าเจ้าทำอะไรได้บ้าง!”
ตาของอาโมรี่เรืองแสงแดง เขากู่ร้องและก้าวยาววิ่งเข้าหาศัตรู
ขณะเดียวกันทุกคนก็ถูกปลุกระดม
หวงฝู่หงมองดูกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าเขา สีหน้าของเขาเยือกเย็นและจัดเจนไม่มีความดีใจหรือโกรธ กองทหารเหล็กกล้าเป็นกองทัพของกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ของสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ เขาอยู่ในกองทัพมานานสี่สิบปีแล้ว เขาเริ่มเป็นทหารตั้งแต่ยังมีตำแหน่งน้อยและเลื่อนขึ้นจนมีตำแหน่งเช่นวันนี้
เขามีประสบการณ์โชกโชน
ความจริงเขาไม่เห็นด้วยกับภารกิจ ขณะที่เขารู้สึกว่ามีความหมายลึกๆซ่อนอยู่ เขาใช้ความเพียรพยายามมากมายสร้างกองทัพเหล็กกล้า นอกจากระดับของสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือแล้ว เขารู้น้ำหนักของตัวเอง
แต่ทำอย่างไรได้ เจ้านายของเขาโดนเย่จิ่วกดดันจนต้องเข้าร่วม
กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ไม่นับว่าเป็นกลุ่มดาวที่มีกองทัพที่แข็งแกร่งในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ และเพียงสิ่งเดียวที่มีค่าก็คือกองกำลังทหารเหล็กกล้าที่มีราคาแพง เจ้าของกองทัพหมกมุ่นอยู่กับวิชาจักรกลอย่างลึกซึ้งและเนื่องจากว่าเจ้าของค่ายก้าวร้าวและทะเยอทะยาน ด้วยความตื่นเต้นของเขา เขาสร้างกองทัพจักรกลขึ้นมา
หลังจากหวงฝู่หงรับดูแลกองทัพ เขาพบช่างจักรกลคนหนึ่งที่ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องเล็กน้อยทั้งหมด และจากนั้นช่วยให้เขาสร้างกลยุทธ์พิเศษ เพียงเท่านั้นกองทัพเหล็กกล้าก็เริ่มแสดงคุณค่าของมัน
หวงฝู่หงปกติบัญชาการกองทัพเหล็กกล้าและชนะมาได้สองสามศึกทำให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งเป็นจรวดในขอบฟ้าเหนือ
เหตุผลที่เขาต้องการสู้ก็เพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นขุนพลวิญญาณผู้นำทหารที่แข็งแกร่ง รังสีควบคุมที่น่าทึ่งและโดดเด่นนั้นทำให้หวงฝู่หงสูดลมหายใจหนาวเหน็บ หวงฝู่หงมีความมั่นใจในตนเองเสมอ แต่เมื่อเห็นรังสีควบคุมที่น่าหวาดหวั่นกับตาตนเอง เขาคิดว่าเขาเองคงไม่มีทางมีความสำเร็จได้ขนาดนั้นแน่ สำหรับกองทหารเหล็กกล้าเมื่อต้องเผชิญกับขุนพลวิญญาณผู้นำทหาร หวงฝู่หงรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก
กองทัพเหล็กกล้ามีมูลค่ามหาศาลก็จริง แต่ในสายตาของเขาก็ยังไม่มีความโดดเด่นพอ ถึงที่สุดแล้วเจ้าปกครองดวงดาวก็ไม่ยังไม่ยอมทุ่มทุนในกองทัพอย่างเพียงพอ เนื่องจากกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์มีความสงบสุขเกินไป ดังนั้นสถานการณ์ของกองทัพจึงมิสู้ดี
แต่เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามีเพียงห้าคน หวงฝู่หงก็สงบใจได้
กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์เป็นกลุ่มดาวที่สงบสุข ดังนั้นงานของกองทัพเหล็กกล้าส่วนใหญ่ก็คือกำจัดโจร จัดการกลุ่มเล็กๆ ราวสิบคนเพื่อให้ประสบการณ์ของหวงฝู่หงมากขึ้น
เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามวิ่งตรงเข้าหาคนของเขาอย่างสับสนโดยไม่เปลี่ยนกระบวนประกายตาเยือกเย็นของหวงฝู่หงวาบขึ้นมาทันที
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร สีหน้าเขาเคร่งขรึม ทหารของเขารู้ว่าจะต้องทำยังไง
รูปขบวนของแนวนักสู้ชั้นนอกถอยกลับทันที
อาโมรี่ไม่กลัวและไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น เหมือนกับสัตว์ป่าคลั่งตัวหนึ่ง เขาวิ่งเอาหัวนำไปก่อน
ทหารโล่สองคนก่อแนวป้องกันขวางอยู่ข้างหน้าเขา หอกยาวสามเล่มโผล่ออกมาจากช่องว่าง
ทันใดนั้นรูปขบวนกลายสภาพเป็นอันตรายไม่มีช่องว่างทันที
อาโมรี่คำรามรัศมีเหลืองครอบคลุมดาบในมือเขาฟันลงใส่หอกยาวทั้งสามเหมือนกับค้อนทุบทำให้หอกกระเด็น อาโมรี่มองหาช่องว่างขณะที่เขาฟันใส่โล่ตรงๆ
แก๊ง
นักสู้สองคนรู้สึกปวดสะท้านข้อมือทันทีพลังที่ดุเดือดรุนแรงผ่านตรงเข้ามาเหมือนกับสัตว์ป่ากระแทกใส่อย่างรุนแรง ร่างของพวกเขาปลิวทันที นักสู้สองคนข้างหลังไม่ทันมีเวลาได้ตั้งแนวป้องกันและสี่หรือห้าคนถูกกระแทกล้ม
อาโมรี่ยังคงวิ่งเข้าใส่ต่อและรังสีหอกเจ็ดถึงแปดสายแทงใส่ที่หน้าอกและชายโครงเขาอย่างคล่องแคล่วเพื่อทำร้ายเขา
ติง ติง ติงกระบี่เงินปรากฏด้านขวาเขาทันทีคลื่นกระบี่นุ่มนวลพลันแตกกระจายรังสีออกมาทันทีต้านรับรังสีหอกสองสามสาย คลื่นความเย็นถูกปล่อยใส่ในทุกๆกระบี่อย่างอ่อนช้อยงดงาม
เสียงทึบของลูกตุ้มเหล็กดังขึ้นกระแทกใส่รังสีหอกจนสลายหายไป
ความตือรือร้นของอาโมรี่เพิ่มมากขึ้น เขาตวาดลั่น “ย่าห์ๆๆ เจอดาบของข้าบ้าง!”
เขาก้าวยาวพอถึงครึ่งทางเขาบิดเอวตวัดดาบของเขา
รังสีดาบเหลืองเป็นทางยาวเหมือนขีดเขียนปากกา แม้แต่ท่าที่แปลกประหลาดของอาโมรี่ก็ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในรังสีดาบ
นักสู้ที่อยู่ต่อหน้าอาโมรี่ประหลาดใจและยกอาวุธป้องกันอกพวกเขาไว้
ปัง!
นักสู้สามคนที่ข้างหน้าอาโมรี่เสียหลักถอยหลังไปห้าหกก้าวทุกคนก่อนจะหยุดนิ่งได้ แต่สิ่งที่แปลกก็คือพวกเขากลายเป็นเหมือนหุ่นไม้ แครก แครก แครกเกราะบนตัวพวกเขาทั้งหมดมีรอยแตกร้าวเหมือนใยแมงมุมปรากฏมีเลือดไหลออกมาตามรอยแตกร้าวแดงฉาน
ทั้งสามคนตายทันที
สีหน้าของอาโมรี่ดุร้าย กล้ามเนื้อทั่วตัวเขาเปล่งประกาย
พลัง! พลังของเขามากกว่าเมื่อก่อนสามเท่าพลังของสายเลือดเผ่าพันธุ์หมีโบราณบริสุทธิ์ 50 % ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้น ปกติพลังเถื่อนถึกของเขาก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้วและด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นอีกสามเท่านี้ กลับกลายเป็นพลังที่น่ากลัวมาก พลังของดาบวายุปฐพีในมือของเขาก็ใช้ได้อย่างน่ากลัว
อาโมรี่บรรเทาอารมณ์ลงและฉีกเสื้อของเขาทันที ใครๆสามาถเห็นร่างของเขาซึ่งเหมือนกับหลอมขึ้นจากทองแดงกับโลหะเห็นชั้นผิวเป็นมันวาวอย่างเห็นได้ชัด
เขาคำรามและวิ่งเข้าใส่กระบวนทัพทันที
เมื่อเผชิญหน้ากับรังสีดาบและปลายหอก ความจริงเขาไม่ได้หลบแต่ปล่อยให้กระทบใส่ร่างของเขา
กระบี่และหอกที่สามารถแทงและตัดแผ่นเหล็กได้เพียงแต่ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างของอาโมรี่ เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย และฉวยโอกาสฟันใส่อีกสองคน
ผิวทองแดงกระดูกเหล็ก!
ม่านตาของหวงฝู่หงหดลีบ ความเหี้ยมหาญของคู่ต่อสู้เกินไปกว่าที่เขาคาดไว้มาก และในการปะทะเพียงครั้งเดียว เขาสูญเสียมือดีไปถึงสองคน
ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่ง ช่างเป็นคนที่น่ากลัว
หวงฝู่หงลดมือลงและดึงขึ้นเล็กน้อยทันที
ทันใดนั้น นักสู้รอบๆตัวอาโมรี่และที่เหลือพากันถอยและสร้างพื้นที่ว่างวงกลม
หัวใจปิงเต้นเร็ว เขารู้แผนของคู่ต่อสู้ทันทีและตะโกนด้วยความกังวล “เข้าไปในกลุ่มคน”
เพียงเวลาไม่นานหอกและรังสีดาบระดมลงมาเหมือนกับฝน โจมตีมาจากทุกทิศ
“ให้ข้าเอง”
เสียงเยือกเย็นและชัดใสดังขึ้น หานปิงหนิงสะบัดข้อมือและกระบี่มังกรเงินฟันเป็นรูปวงกลมและมีรังสีกระบี่ระเบิดออกไป
รังสีกระบี่ของหานปิงหนิงมีลักษณะเฉพาะตัวมากเนื่องจากมีกลุ่มหมอกถูกเกล็ดก้อนน้ำแข็งสร้างขึ้น
หลังจากดูดกลืนสายเลือดหัวใจดาวแปดเหลี่ยนระหว่างทุกอิริยาบถเคลื่อนไหวของนาง จะมีปราณเย็นแผ่ออกมา วิชากระบี่ของนางเป็นวิชาที่สมบูรณ์แบบ พลังน้ำแข็งที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างนางมีระดับความเย็นสูงสุด ความเข้าใจเรื่องความเย็นของนางลึกซึ้งมากขึ้นดังนั้นความเข้าใจพลังน้ำแข็งของนางก็มากขึ้นเช่นกัน
ไอระเหยของรังสีกระบี่กระจายทำให้ระลอกปราณเย็นแทรกซึมออกมา
หอกและดาบที่กวาดใส่หมอกเย็นมีชั้นน้ำแข็งเกาะและกลายเป็นน้ำแข็งหลังจากกวาดผ่านแค่เพียงระยะสั้นๆ
พวกเขาฉวยโอกาสย่นระยะห่างระหว่างพวกเขากับศัตรู
ซือหม่าเซียงซานติดตามมาด้านหลังเหมือนภูตพราย การแสดงความแข็งแกร่งของอาโมรี่และหานปิงหนิงทำให้เขาประหลาดใจมาก
ทันใดนั้นเสียงของปิงดังเข้าหูของเขา
“ให้สังเกตว่ามีคนประหลาดอยู่ข้างใน เราต้องหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้าม เขาซ่อนตัวอยู่ภายในนั้น ตราบใดที่เราหาเขาพบ เราจะชนะ”
ปิงหาร่องรอยผู้บัญชาการไม่พบแม้แต่น้อย ผู้บัญชาการหลายคนเหมือนซ่อนตนเองอยู่ในกลุ่มทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สั่งการที่ไม่แข็งแกร่งและเพื่อป้องกันการถูกศัตรูจับตัว พวกเขาจะปะปนอยู่ในหมู่ทหาร นับว่าเป็นความคิดที่แยบยลอย่างหนึ่ง
ปิงไม่ใช้ตาของเขา แต่มองดูประกายหอกดาบอย่างระมัดระวัง
มีอยู่หลายวิธีที่ผู้นำทหารจะใช้พลังควบคุมของเขา แต่ก็ยังมีกฎที่ต้องปฏิบัติตาม มีเพียงผู้นำทหารผู้ฉลาดสามารถซ่อนเร้นและปิดบังเครื่องหมายของพวกเขาได้ การปกปิดก็เป็นแค่เพียงการปกปิดเท่านั้น ผู้นำทหารก็คือหัวใจของการควบคุมรังสีของกองทัพ และพวกเขาคือจุดศูนย์กลางของการรบ
แต่หลังจากคลื่นโจมตีสองระลอกผ่านไปแล้ว ปิงก็ยังหาร่องรอยของฝ่ายตรงข้ามไม่เจอ
เป็นผู้นำที่ฉลาด
เขาอยู่ที่ไหนกันแน่?
ปิงคิดในใจอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์แบบไหนที่ผู้นำทหารแบบนี้เกลียดที่สุด?
คำตอบแทบจะออกมาทันที..... ความวุ่นวาย!
ใช่แล้วผู้นำทหารเหล่านี้จะเกลียดความสับสนวุ่นวาย ยิ่งมีความสับสนวุ่นวายเพิ่มเข้ามา ก็ยิ่งยากจะทำให้เขาควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ และตราบใดที่เขาสร้างความวุ่นวายสักสองสามที่ รังสีควบคุมของของฝ่ายตรงข้าก็จะตกอยู่ในความวุ่นวายสับสน ประสิทธิภาพจะลดลงอีกมากมาย
ตราบเท่าที่ประสิทธิภาพลดลงมากมาย ร่องรอยของผู้สั่งการจะปรากฏออกมาอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาจะสามารถค้นหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้ามได้!
ตราบใดที่เขาหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้ามได้ ชัยชนะจะตกอยู่ในมือของเขา ผู้บัญชาการของคู่ต่อสู้ไม่แข็งแกร่งและความจริงข้อนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเขา
“ใช่แล้ว มันต้องเป็นอย่างนั้น!”
“ทุกคน, แยกย้ายกันโจมตี!”
เสียงของปิงดังออกมาจากพยัคฆ์ฟ้า ขณะที่พยัคฆ์ฟ้าเป็นเหมือนสายฟ้าและวิ่งเข้าหาตำแหน่งศัตรู
เมื่อตระหนักได้ถึงแผนของเขา อีกสองสามคนก็แยกกันโจมตี
ปิงเข้าไปใกล้พวกทหารเกราะได้อย่างง่ายดายจิตใจเขานึกถึงยุคเก่าก่อนทันที
ทันใดนั้นเขาเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เมื่อหมื่นปีที่แล้ว ในสมรภูมิที่มีควันสงครามลอยกรุ่นอยู่ในอากาศ ปีกของพยัคฆ์ฟ้ากางออกและบินตรงเข้าหาทันที เป็นคนร่างใหญ่ที่ตะโกน ปิงสามารถควบคุมพยัคฆ์ฟ้าได้โดยสัญชาตญาณ
“ฮึ.. กองทัพกางเขนใต้...บุก!”
คำพูดเหล่านี้พึมพำออกมาเบาๆ ขณะที่สายตาเยือกเย็นของเขาเป็นประกาย