ตอนที่แล้วตอนที่ 11-6 ทุกคนพร้อมหน้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11-8 ทางเข้าสามทาง

ตอนที่ 11-7 ปราสาทโลหะ


“เคลย์ผู้นี้ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย  แต่เขายอมรับความพ่ายแพ้” ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆจากนั้นเก็บกระบี่เลือดม่วงในแหวนมิติเก็บสมบัติของเขา จากนั้นลงมาที่พื้นเช่นกัน

แต่ตอนนี้ทุกคนในที่นั้นเข้าใจพลังของลินลี่ย์ชัดเจนมากขึ้น  เคลย์เป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังมากในปัจจุบัน  และมีเพียงไม่กี่คนที่มีพลังมากกว่าเขา  ยอดฝีมือเหล่านี้รู้เรื่องดี...แต่การโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดของเคลย์ก็คือหมัดของเขา

พลังป้องกันร่างของเขาอ่อนกว่าพลังหมัดเพียงเล็กน้อย

กระบี่ของลินลี่ย์แค่สร้างรอยช้ำเลือดไว้ที่หมัดของเคลย์  ถ้าเป็นส่วนอื่นของร่างกายของเคลย์อย่างน้อยคงต้องมีการเสียเลือดกันบ้าง

“ลินลี่ย์, ข้าไม่พบเจ้าสิบสามปี แต่พลังของเจ้าก็มากถึงระดับนี้แล้ว” ตาของเฟนยังมีแววหลงใหลในการต่อสู้ของพวกเขา

ดูจากแค่การต่อสู้เฟนสามารถบอกได้ว่าลินลี่ย์ตอนนี้มีความเข้าใจกฎธรรมชาติในระดับที่สูงมากเมื่อจับคู่กับพรสวรรค์ธรรมชาติของนักรบเลือดมังกร ตอนนี้ลินลี่ย์น่าจะสู้ได้เสมอกับเขา  เฟนก็ต้องการซ้อมมือกับลินลี่ย์เช่นกัน

“ทุกคนต้องการสู้กับพี่ใหญ่ข้า  ทำไมพวกท่านไม่สู้กับข้าบ้างเล่า?” บีบีรู้สึกได้ถึงความปรารถนาต้องการสู้ของเฟนและบินออกมาอยู่ต่อหน้าเฟน

เฟนมองดูบีบีอย่างตกใจจากนั้นดูเหมือนเขานึกอะไรบางอย่างออก เขารีบกล่าว “โอว, บีบีใช่ไหม?” เฟนไม่พูดเรื่องซ้อมมือต่อไป แต่กลับดึงลินลี่ย์และบีบีมาร่วมวงเสวนาดื่มกินพร้อมกัน

…………

ในยามราตรีลมภูเขาพัดเอื่อย  ลมตรีของต้นฤดูใบไม้ผลิยังหนาวมาก แต่แน่นอนยอดฝีมือเหล่านี้ไม่สนใจแม้แต่น้อย  พวกเขายังคงสนทนาร่าเริงกันต่อ

“ราศีของโอลิเวอร์เปลี่ยนไปกว่าแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง” ลินลี่ย์ชำเลืองมองโอลิเวอร์ที่อยู่ข้างทางห่างออกไป  โอลิเวอร์เป็นหนึ่งในยอดฝีมือยี่สิบคนเช่นกัน  “ในอดีต โอลิเวอร์ยังพูดคุยหัวเราะได้  แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขากลายเป็นคนเย็นชามากขึ้นและตาของเขาคมเช่นกัน”

โอลิเวอร์ปัจจุบันเหมือนกับกระบี่กล้าที่ยังไม่ได้ชักออกจากฝักมีความคมกล้าดุร้าย

นี่ทำให้ยอดฝีมือรอบๆเขายินดีที่จะรักษาระยะห่างจากเขา เห็นได้ชัดว่าผู้คนเหล่านี้ไม่ยอมใกล้ชิดโอลิเวอร์

“ลินลี่ย์, เวลานี้เจ้ากับโอลิเวอร์เป็นผู้ร่วมกลุ่มเราที่เพิ่งมาใหม่  แม้ว่าพลังของโอลิเวอร์จะอ่อนกว่าเจ้าแต่เขายังมีพลังสูงล้ำกว่าเคลย์เล็กน้อย” เฟนถอนหายใจเห็นด้วย “พลังโจมตีของเขาประหลาดมาก”

“โอว?” ลินลี่ย์ประหลาดใจ

ลินลี่ย์รู้ดีว่าโอลิเวอร์ทรงพลังเพียงไหน  “ในอดีต โอลิเวอร์แม้พ่ายแพ้เฮนด์เซน  แม้แต่ข้าก็ได้ยินมาว่าสิบสองปีต่อมา  เขาฆ่าเฮนด์เซนภายในกระบี่เดียวเวลาเพียงสิบสองปี  เขาก้าวหน้าไวอย่างน่าประหลาดได้ยังไง?”

เหตุผลหลักที่พลังของลินลี่ย์เองเพิ่มขึ้นเพราะบรรลุเข้าสู่ระดับเซียน ดังนั้นสุดยอดนักรบเลือดมังกรทำให้พลังของเขาเพิ่มมากขึ้นเป็นสิบเท่าและแน่นอนเขามีระดับความเข้าใจรู้แจ้งที่ลึกซึ้งด้วยเช่นกัน

แต่ปราณยุทธของโอลิเวอร์ถึงระดับเซียนขั้นสูงมานานแล้ว การพัฒนาก้าวหน้าของเขาอยู่ที่ทำความเข้าใจในกฎธรรมชาติ  พลังของเขาเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วได้ยังไง?

“แม้ว่ากระบี่ของโอลิเวอร์จะไม่ได้เร็วมากแต่ก็ผสานกฎธรรมชาติที่ต่างกันสองอย่างได้ ธาตุแสงและธาตุมืด เมื่อเขาจู่โจม... แม้แต่เคลย์ก็ไม่สามารถรับพลังโจมตีได้”  เฟนถอนหายใจยอมรับ  “เพราะกระบี่เดียวบรรจุกฎธรรมชาติถึงสองอย่างที่ตรงกันข้าม...ข้าไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านี้เลยมาทั้งชีวิตของข้า แม้แต่อาจารย์ก็ยังถอนหายใจชมเชย”

“อะไรนะ?” ลินลี่ย์ไม่อยากเชื่อ

ลินลี่ย์จ้องมองโอลิเวอร์ที่อยู่ห่างออกไปอย่างเหลือเชื่อ  หัวใจเต็มไปด้วยอาการตกใจ “กระบี่เดียวบรรจุกฎธรรมชาติสองอย่างในเวลาเดียวกัน?  กฎที่แตกต่างกันสองอย่างถูกใช้พร้อมกันได้ยังไง?”  ตัวอย่างเช่นสัจธรรมแห่งธาตุดินของลินลี่ย์ก็อย่างหนึ่ง และสัจธรรมแห่งธาตุลมของเขาก็เป็นอย่างหนึ่ง

การผสานสัจธรรมแห่งธาตุดินและสัจธรรมแห่งธาตุลม?  เป็นไปไม่ได้!

ที่สำคัญกฎแห่งธาตุทั้งสองนี้มีความแตกต่างกัน

“เป็นเรื่องจริง  เมื่อโอลิเวอร์โจมตีด้วยกระบี่ของเขาและมีทั้งธาตุมืดและธาตุแสงสว่าง ดังนั้นเฮนด์เซนจึงถูกฟันขาดด้วยกระบี่นี้” เฟนถอนหายใจชมเชย

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

ลินลี่ย์ต้องรู้พลังการโจมตีนี้ของโอลิเวอร์  ในแง่ของกฎเพียงกฎเดียวก็สามารถข่มพลังโจมตีจังหวะแห่งสายลมได้

“ข้าสงสัยว่าพลังกระบี่ของเขาจะรับมือชีพจรโลกได้หรือไม่”  ลินลี่ย์ยังคงมั่นใจมาก  เขาเปลี่ยนจากคลื่น 256 ชั้นเป็นพลังชีพจรโลก128 ชั้นและพลังโจมตีเพิ่มขึ้นหลายเท่า ที่สำคัญมากกว่า....

การพึ่งพาพรสวรรค์แต่กำเนิดในฐานะนักรบเลือดมังกรว่ากันที่ปราณยุทธ ความแข็งแรงทางกายภาพและพลังป้องกันเป็นสิบเท่าของโอลิเวอร์

ความแตกต่างในเรื่องความสามารถพื้นฐานของพวกเขามากมายเกินไป

นี่คือเหตุผลที่เฟนและเดลี่พิจารณาว่าลินลี่ย์เป็นยอดฝีมือระดับเดียวกับพวกเขา

….

ระหว่างที่สนทนาและสัพยอกตลอดทั้งคืนนี้ลินลี่ย์เพิ่งได้รู้จักยอดฝีมือเหล่านี้ มีเพียงพวกเดียวที่ลินลี่ย์รู้จักก็คือ เคลย์,เบาดิทช์และศิษย์ส่วนตัวของวิทยาลัยสงครามอีกสามคน  ที่เหลือเขาเพียงแต่จดจำชื่อและลักษณะพวกเขาไว้

รุ่งสาง

พระอาทิตย์สีแดงเริ่มลอยสูงจากภูเขาด้านตะวันออกแสงตะวันค่อยๆ ฉายลงมาที่ภูเขาเทพสงคราม ยอดฝีมือทั้งยี่สิบสองไม่ได้หลับนอนกันทั้งคืน  แต่ไม่มีใครรู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด พวกเขาอยู่ในระดับสูงส่งที่ไม่จำเป็นต้องนอนหลับ

“แอ๊ดดด” ประตูที่ลานซึ่งเงียบสงบถูกเปิดออกในที่สุด

ยอดฝีมือทั้งยี่สิบสองคนลุกขึ้นยืนพร้อมกันมองดูบุคคลผู้เดินเข้ามาในลานด้วยความเคารพ  บุรุษผู้มีผมยาวสีแดงฉานและดวงตาของเขาเป็นประกายคมกล้าเหมือนมีด พลังของเขา ราศีของเขาสูงส่งจนแม้แต่ยอดฝีมือยี่สิบสองคนเกรงที่จะหายใจแรงๆ

คนผู้นี้คือเทพสงครามโอเบรียน!

เทพสงครามกวาดสายตามองดูคนกลุ่มนี้และหยุดชะงักที่บีบีที่อยู่บนไหล่ของลินลี่ย์ทันที  จากนั้นพูดอย่างใจเย็น  “ในเมื่อพวกเจ้าทุกคนมากันแล้วอย่างนั้นตามข้ามา”  หลังจากพูดแล้วเทพสงครามเหาะขึ้นไปในอากาศทันที

“เทพสงครามเป็นคนตรงไม่มีอ้อมค้อมเลยจริงๆ”  ลินลี่ย์อดขำในใจไม่ได้

แต่มองผิวเผินลินลี่ย์ก็เหมือนกับคนอื่นบินไปในอากาศติดตามเทพสงครามมุ่งสู่ทิศตะวันออกอย่างเชื่อฟัง  ยอดฝีมือทั้งยี่สิบสองคนบินกันเป็นรูปแบบเฉพาะและที่บินนำกลุ่มแถวหน้าเป็นเฟนกับลินลี่ย์

ทุกคนรู้ดีว่าแต่ละคนมีพลังมากขนาดไหน

ผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่แนวหน้า  ผู้อ่อนแอที่สุดรั้งท้าย

“เฟน!  เรากำลังจะไปไพรทมิฬกันใช่ไหม?”  ลินลี่ย์มองดูข้างหน้าเขาร่างผู้กล้าที่กำลังบินอยู่ข้างหน้าพวกเขา พวกเขากำลังมุ่งไปที่ไพรทมิฬ เขาอดถามเฟนเบาๆ ไม่ได้

“ถูกแล้ว” เฟนพูดเสียงเบาเช่นกัน  “แต่ละครั้งที่เราไปสุสานเทพเจ้ายอดฝีมือของทวีปยูลานจะต้องมารวมกันที่ไพรทมิฬกันก่อน ที่สำคัญคือมีแต่เพียงลอร์ดเบรุตเท่านั้นจึงจะสามารถเปิดทางเข้าสุสานเทพเจ้าได้”

“โอว” ลินลี่ย์พยักหน้าเข้าใจ “ดูเหมือนการเปิดทางเข้าสุสานเทพเจ้าจะเป็นเรื่องที่ยากมาก  แม้แต่เทพสงครามก็ไม่สามารถทำได้”

“ใช่หรือเปล่าบีบี?” เสียงที่มีพลังดังขึ้น

ลินลี่ย์และเฟนตกใจทั้งคู่เทพสงครามมาปรากฏตัวข้างลินลี่ย์และพูดคุยด้วยสิ่งที่น่าตกใจก็คือเทพสงครามมีรอยยิ้มที่เป็นกันเองเฟนแทบไม่เคยเห็นรอยยิ้มของอาจารย์ของเขา

“ข้าน่ะหรือ” บีบีมองดูเทพสงคราม

เทพสงครามมองดูบีบีอย่างระมัดระวังจากนั้นพยักหน้า “ลอร์ดเบรุตเต็มใจปล่อยให้เจ้าเข้าสุสานเทพเจ้าจริงๆ”

“มีอะไรต้องกลัว? ถ้าพี่ใหญ่ไปด้วยข้าจะไม่ไปได้ยังไง?” บีบีเชิดหน้าด้วยความภูมิใจ

เทพสงครามหัวเราะอย่างใจเย็นและไม่พูดอะไรต่อ

“ท่านเทพสงคราม”  ลินลี่ย์พูดขึ้น

เทพสงครามมองดูลินลี่ย์รอให้ลินลี่ย์พูดต่อ ลินลี่ย์พูดทันที “ท่านเทพสงคราม ข้ามีสหายที่ดีอีกคนหนึ่งชื่อว่าบาร์เกอร์  เขาก็ต้องการจะเข้าสุสานเทพเจ้าด้วย  ข้าอยากจะ..”

“ลอร์ดเบรุตให้สิทธิ์ข้านำคนมาด้วยเพียง 22 คน”เทพสงครามพูดอย่างใจเย็น “ถ้าเจ้าต้องการนำคนอื่นเข้าสุสานเทพเจ้าก็แค่ให้บีบีแจ้งกับลอร์ดเบรุต ที่สำคัญคือลอร์ดเบรุตเป็นคนสุดท้ายที่ตัดสินใจอนุญาตให้เข้าสุสานเทพเจ้า”

หลังจากพูดเสร็จแล้วเทพสงครามกลับไปอยู่ในตำแหน่งบินนำต่อ

ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ  “นักสู้ระดับเทพ แม้ตอนที่พวกเขาสนทนาและยิ้มก็ยังมีแรงกดดันมหาศาล” ขณะนั้นลินลี่ย์มีความรู้สึกว่าทำให้เขาหายใจลำบาก เหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็กและได้เห็นมังกรลมกรดเป็นครั้งแรก  เขารู้สึกกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ”

“นี่ต้องเป็นราศีเทพแน่นอน”  ลินลี่ย์พูดกับตนเอง

…..

กลุ่มของพวกเขายังคงบินล่วงลึกเข้าไปในไพรทมิฬด้วยความเร็วสูง ในไม่ช้ากลุ่มของลินลี่ย์ภายใต้การนำของเทพสงครามก็มาถึงใจกลางไพรทมิฬ นี่เป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์เข้ามาในไพรทมิฬลึกมาก

“ท่านลอร์ดเบรุตในตำนาน เขาเหมือนอะไร?”  ลินลี่ย์สงสัย

ในไม่ช้าปราสาทโลหะดำปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขาในไพรทมิฬ ขนาดของปราสาทนี้ใกล้เคียงกับปราสาทใต้ดินของลินลี่ย์  มีพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหลายกิโลเมตร  เพียงแต่ปราสาทนี้มีสีดำสนิทและสร้างจากโลหะดำแปลกประหลาด

“ตอนนี้ขอให้ทุกคนรออยู่พื้นที่ด้านนอกปราสาทก่อนอย่าเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต” เทพสงครามพูดอย่างใจเย็น  แต่หลังจากนั้นเขาเหาะเข้าไปในปราสาท

มียอดฝีมือสองสามคนอยู่แถวๆปราสาทโลหะดำอยู่แล้ว

“คนเหล่านี้หลายคนเป็นเซียนจอมเวท  พวกเขาถูกมหาพรตนำพามาที่นี่”เฟนบินลงจากฟ้าขณะอธิบายให้ลินลี่ย์ และลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย ยอดฝีมือของทวีปยูลานจะอยู่ฝ่ายเทพ

“ไม่มีใครในพวกเจ้าได้รับอนุญาตให้เข้าไป ปราสาทโลหะนี้จะโจมตีผู้บุกรุกทุกคนโดยอัตโนมัติ”  เฟนพูดเสียงดัง

ความจริงนอกจากลินลี่ย์และโอลิเวอร์ที่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกคนอื่นรู้จักที่นี่กันทั้งนั้น

“โจมตีผู้บุกรุกโดยอัตโนมัติ?”  ลินลี่ย์ประหลาดใจมาก  แต่บีบีแค่นเสียงเงียบๆ  “พี่ใหญ่ปราสาทโลหะนี้ความจริงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนโลหะ มันมีสติปัญญา”

ลินลี่ย์ลอบตกใจ

ราชันย์แห่งไพรทมิฬนี้เหลือเชื่อจริงๆ แม้แต่ปราสาทของเขาก็ยังมีพลังชีวิตเป็นของตนเอง นี่เป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์เจอสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดขนาดนั้น

“พี่ใหญ่, ตอนนี้รออยู่ที่นี่ก่อน  ท่านต้องการคุยเรื่องบาร์เกอร์ไม่ใช่หรือ?  ข้าจะไปขอปู่เบรุตดู”  บีบีกล่าว

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

เพียงบีบีกระพริบร่างก็หายเข้าไปในปราสาทโลหะดำทันที  เมื่อเห็นบีบีเข้าไปยอดฝีมือด้านนอกปราสาทหลายคนประหลาดใจมาก พวกเขารู้กันดีทุกคนว่า  ผู้บุกรุกทุกคนจะถูกโจมตี  แต่ตอนนั้นบีบีไม่ถูกโจมตีแต่อย่างใด!

“ลินลี่ย์!  เจ้าก็มาถึงแล้ว”  เขาได้ยินเสียงหัวเราะ  ลินลี่ย์หันหน้าไปมอง

เขาเห็นเดลี่,ฮาร์เวิร์ดและฮิกกินสันเดินเข้ามาหาเขา และลินลี่ย์เข้าไปทักทายพวกเขาทันที  ท่านเดลี่, ภรรยาของท่านอยู่ไหนเล่า?  นางไม่มาด้วยหรือ?”

“นางอ่อนด้อยไปนิด”  เดลี่หัวเราะ “แต่ข้าต้องบอกกล่าว ข้าต้องยินดีกับเจ้าด้วยจริงๆ เพราะเจ้าครอบครอบอสูรเวทอย่างบีบีนั้น  ยี่สิบสามปีที่แล้วลอร์ดเบรุตติดต่อทางจิตมาที่เราหลายครั้งและเราทุกคนสงสัยมาตลอดถึงเด็กหนุ่มผู้โชคดีได้รับบีบีเป็นอสูรเวทคู่หูของเขา”

ลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลแล้ว

ไม่นานหลังจากบีบีถือกำเนิดลอร์ดเบรุตอาจค้นพบความคงอยู่ของบีบีโดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจึงติดต่อทางใจกับเทพสงคราม มหาพรต, เดลี่,โรซารี่และสุดยอดฝีมือเซียนคนอื่นๆ ขอให้พวกเขาช่วยดูแลทั้งสองเล็กน้อย

ลอร์ดเบรุตคงต้องให้ความสำคัญกับบีบีมาตลอดเวลา

“พวกเราหลายคน รวมทั้งข้า โรซารี่ถูลี่และลูเธอร์ฟอร์ด เราทั้งสี่ตอบรับคำขอของลอร์ดเบรุตโดยตรง”  เดลี่อธิบาย “ในทวีปยูลานเซียนที่อยู่ในระหว่างฝึกฝนแบ่งเป็นสามกลุ่มใหญ่คือของกลุ่มลอร์ดเบรุต  เทพสงคราม และมหาพรต”

ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว

แม้ว่าทวีปยูลานจะมีห้าเทพเจ้าแต่ไดลินและซีซาร์เพิ่งจะปรากฏตัวมาไม่กี่ปีนี้ พวกเขาจึงไม่มีเซียนเป็นบริวารมากนัก

“ลอร์ดซีซาร์ก็มาถึงเช่นกัน”  เดลี่พูดทันที

ลินลี่ย์เงยหน้ามองซีซาร์เขาอยู่ในชุดหลวมสบายมีรอยยิ้มเกียจคร้านอยู่เต็มใบหน้า บินลงมาที่ปราสาทโลหะ

“พวกเจ้าทุกคนอยู่ที่นี่ ไม่ต้องเข้าไปมิฉะนั้นถ้าพวกเจ้าตาย ก็อย่ามาโทษข้า” เสียงเย็นชาดังขึ้น ลินลี่ย์และคนอื่นอดหันไปมองไม่ได้และพวกเขาเห็นบุรุษผู้มีกลิ่นอายอำมหิตสวมชุดสีทองเข้มกำลังสั่งอสูรเวทที่ติดตามเขามาที่นี่  และจากนั้น เขาเข้าไปในปราสาทโลหะด้วยเช่นกัน

“เป็นไดลินนั่นเอง!”  ลินลี่ย์เคยเห็นไดลินมาครั้งหนึ่งแล้ว  เมื่อตอนเขาอยู่ในเมืองเฟนไล

ด้านหลังไดลินคือแมวน้อยสามตัวและอสูรเวทระดับเซียนที่ย่อขนาดจนเท่ากับมนุษย์ธรรมดาลินลี่ย์ตรวจสอบพวกมันอย่างระมัดระวังความจริงแมวน้อยทั้งสามตัวนี้มีปีกงอกอยู่ที่หลังและที่หน้าของมันมีเพียงสองตาและยังมีตาที่หลับอยู่อีกสองคู่

หกตาสองปีก

“อสูรเวทระดับเซียน ราชสีห์ทองหกตา ลูกของไดลิน”ลินลี่ย์รำพึงในใจ

ขณะนั้นเองหนึ่งในราชสีห์ทองหกตามองมาทางลินลี่ย์ ทันใดนั้น... ตาทั้งหกของมันลืมขึ้นทันที และเขายิ้มให้ลินลี่ย์  “ลินลี่ย์ใช่ไหม?  ขอบคุณมาก!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด