ตอนที่ 11-7 ปราสาทโลหะ
“เคลย์ผู้นี้ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขายอมรับความพ่ายแพ้” ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆจากนั้นเก็บกระบี่เลือดม่วงในแหวนมิติเก็บสมบัติของเขา จากนั้นลงมาที่พื้นเช่นกัน
แต่ตอนนี้ทุกคนในที่นั้นเข้าใจพลังของลินลี่ย์ชัดเจนมากขึ้น เคลย์เป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังมากในปัจจุบัน และมีเพียงไม่กี่คนที่มีพลังมากกว่าเขา ยอดฝีมือเหล่านี้รู้เรื่องดี...แต่การโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดของเคลย์ก็คือหมัดของเขา
พลังป้องกันร่างของเขาอ่อนกว่าพลังหมัดเพียงเล็กน้อย
กระบี่ของลินลี่ย์แค่สร้างรอยช้ำเลือดไว้ที่หมัดของเคลย์ ถ้าเป็นส่วนอื่นของร่างกายของเคลย์อย่างน้อยคงต้องมีการเสียเลือดกันบ้าง
“ลินลี่ย์, ข้าไม่พบเจ้าสิบสามปี แต่พลังของเจ้าก็มากถึงระดับนี้แล้ว” ตาของเฟนยังมีแววหลงใหลในการต่อสู้ของพวกเขา
ดูจากแค่การต่อสู้เฟนสามารถบอกได้ว่าลินลี่ย์ตอนนี้มีความเข้าใจกฎธรรมชาติในระดับที่สูงมากเมื่อจับคู่กับพรสวรรค์ธรรมชาติของนักรบเลือดมังกร ตอนนี้ลินลี่ย์น่าจะสู้ได้เสมอกับเขา เฟนก็ต้องการซ้อมมือกับลินลี่ย์เช่นกัน
“ทุกคนต้องการสู้กับพี่ใหญ่ข้า ทำไมพวกท่านไม่สู้กับข้าบ้างเล่า?” บีบีรู้สึกได้ถึงความปรารถนาต้องการสู้ของเฟนและบินออกมาอยู่ต่อหน้าเฟน
เฟนมองดูบีบีอย่างตกใจจากนั้นดูเหมือนเขานึกอะไรบางอย่างออก เขารีบกล่าว “โอว, บีบีใช่ไหม?” เฟนไม่พูดเรื่องซ้อมมือต่อไป แต่กลับดึงลินลี่ย์และบีบีมาร่วมวงเสวนาดื่มกินพร้อมกัน
…………
ในยามราตรีลมภูเขาพัดเอื่อย ลมตรีของต้นฤดูใบไม้ผลิยังหนาวมาก แต่แน่นอนยอดฝีมือเหล่านี้ไม่สนใจแม้แต่น้อย พวกเขายังคงสนทนาร่าเริงกันต่อ
“ราศีของโอลิเวอร์เปลี่ยนไปกว่าแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง” ลินลี่ย์ชำเลืองมองโอลิเวอร์ที่อยู่ข้างทางห่างออกไป โอลิเวอร์เป็นหนึ่งในยอดฝีมือยี่สิบคนเช่นกัน “ในอดีต โอลิเวอร์ยังพูดคุยหัวเราะได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขากลายเป็นคนเย็นชามากขึ้นและตาของเขาคมเช่นกัน”
โอลิเวอร์ปัจจุบันเหมือนกับกระบี่กล้าที่ยังไม่ได้ชักออกจากฝักมีความคมกล้าดุร้าย
นี่ทำให้ยอดฝีมือรอบๆเขายินดีที่จะรักษาระยะห่างจากเขา เห็นได้ชัดว่าผู้คนเหล่านี้ไม่ยอมใกล้ชิดโอลิเวอร์
“ลินลี่ย์, เวลานี้เจ้ากับโอลิเวอร์เป็นผู้ร่วมกลุ่มเราที่เพิ่งมาใหม่ แม้ว่าพลังของโอลิเวอร์จะอ่อนกว่าเจ้าแต่เขายังมีพลังสูงล้ำกว่าเคลย์เล็กน้อย” เฟนถอนหายใจเห็นด้วย “พลังโจมตีของเขาประหลาดมาก”
“โอว?” ลินลี่ย์ประหลาดใจ
ลินลี่ย์รู้ดีว่าโอลิเวอร์ทรงพลังเพียงไหน “ในอดีต โอลิเวอร์แม้พ่ายแพ้เฮนด์เซน แม้แต่ข้าก็ได้ยินมาว่าสิบสองปีต่อมา เขาฆ่าเฮนด์เซนภายในกระบี่เดียวเวลาเพียงสิบสองปี เขาก้าวหน้าไวอย่างน่าประหลาดได้ยังไง?”
เหตุผลหลักที่พลังของลินลี่ย์เองเพิ่มขึ้นเพราะบรรลุเข้าสู่ระดับเซียน ดังนั้นสุดยอดนักรบเลือดมังกรทำให้พลังของเขาเพิ่มมากขึ้นเป็นสิบเท่าและแน่นอนเขามีระดับความเข้าใจรู้แจ้งที่ลึกซึ้งด้วยเช่นกัน
แต่ปราณยุทธของโอลิเวอร์ถึงระดับเซียนขั้นสูงมานานแล้ว การพัฒนาก้าวหน้าของเขาอยู่ที่ทำความเข้าใจในกฎธรรมชาติ พลังของเขาเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วได้ยังไง?
“แม้ว่ากระบี่ของโอลิเวอร์จะไม่ได้เร็วมากแต่ก็ผสานกฎธรรมชาติที่ต่างกันสองอย่างได้ ธาตุแสงและธาตุมืด เมื่อเขาจู่โจม... แม้แต่เคลย์ก็ไม่สามารถรับพลังโจมตีได้” เฟนถอนหายใจยอมรับ “เพราะกระบี่เดียวบรรจุกฎธรรมชาติถึงสองอย่างที่ตรงกันข้าม...ข้าไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านี้เลยมาทั้งชีวิตของข้า แม้แต่อาจารย์ก็ยังถอนหายใจชมเชย”
“อะไรนะ?” ลินลี่ย์ไม่อยากเชื่อ
ลินลี่ย์จ้องมองโอลิเวอร์ที่อยู่ห่างออกไปอย่างเหลือเชื่อ หัวใจเต็มไปด้วยอาการตกใจ “กระบี่เดียวบรรจุกฎธรรมชาติสองอย่างในเวลาเดียวกัน? กฎที่แตกต่างกันสองอย่างถูกใช้พร้อมกันได้ยังไง?” ตัวอย่างเช่นสัจธรรมแห่งธาตุดินของลินลี่ย์ก็อย่างหนึ่ง และสัจธรรมแห่งธาตุลมของเขาก็เป็นอย่างหนึ่ง
การผสานสัจธรรมแห่งธาตุดินและสัจธรรมแห่งธาตุลม? เป็นไปไม่ได้!
ที่สำคัญกฎแห่งธาตุทั้งสองนี้มีความแตกต่างกัน
“เป็นเรื่องจริง เมื่อโอลิเวอร์โจมตีด้วยกระบี่ของเขาและมีทั้งธาตุมืดและธาตุแสงสว่าง ดังนั้นเฮนด์เซนจึงถูกฟันขาดด้วยกระบี่นี้” เฟนถอนหายใจชมเชย
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ลินลี่ย์ต้องรู้พลังการโจมตีนี้ของโอลิเวอร์ ในแง่ของกฎเพียงกฎเดียวก็สามารถข่มพลังโจมตีจังหวะแห่งสายลมได้
“ข้าสงสัยว่าพลังกระบี่ของเขาจะรับมือชีพจรโลกได้หรือไม่” ลินลี่ย์ยังคงมั่นใจมาก เขาเปลี่ยนจากคลื่น 256 ชั้นเป็นพลังชีพจรโลก128 ชั้นและพลังโจมตีเพิ่มขึ้นหลายเท่า ที่สำคัญมากกว่า....
การพึ่งพาพรสวรรค์แต่กำเนิดในฐานะนักรบเลือดมังกรว่ากันที่ปราณยุทธ ความแข็งแรงทางกายภาพและพลังป้องกันเป็นสิบเท่าของโอลิเวอร์
ความแตกต่างในเรื่องความสามารถพื้นฐานของพวกเขามากมายเกินไป
นี่คือเหตุผลที่เฟนและเดลี่พิจารณาว่าลินลี่ย์เป็นยอดฝีมือระดับเดียวกับพวกเขา
….
ระหว่างที่สนทนาและสัพยอกตลอดทั้งคืนนี้ลินลี่ย์เพิ่งได้รู้จักยอดฝีมือเหล่านี้ มีเพียงพวกเดียวที่ลินลี่ย์รู้จักก็คือ เคลย์,เบาดิทช์และศิษย์ส่วนตัวของวิทยาลัยสงครามอีกสามคน ที่เหลือเขาเพียงแต่จดจำชื่อและลักษณะพวกเขาไว้
รุ่งสาง
พระอาทิตย์สีแดงเริ่มลอยสูงจากภูเขาด้านตะวันออกแสงตะวันค่อยๆ ฉายลงมาที่ภูเขาเทพสงคราม ยอดฝีมือทั้งยี่สิบสองไม่ได้หลับนอนกันทั้งคืน แต่ไม่มีใครรู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด พวกเขาอยู่ในระดับสูงส่งที่ไม่จำเป็นต้องนอนหลับ
“แอ๊ดดด” ประตูที่ลานซึ่งเงียบสงบถูกเปิดออกในที่สุด
ยอดฝีมือทั้งยี่สิบสองคนลุกขึ้นยืนพร้อมกันมองดูบุคคลผู้เดินเข้ามาในลานด้วยความเคารพ บุรุษผู้มีผมยาวสีแดงฉานและดวงตาของเขาเป็นประกายคมกล้าเหมือนมีด พลังของเขา ราศีของเขาสูงส่งจนแม้แต่ยอดฝีมือยี่สิบสองคนเกรงที่จะหายใจแรงๆ
คนผู้นี้คือเทพสงครามโอเบรียน!
เทพสงครามกวาดสายตามองดูคนกลุ่มนี้และหยุดชะงักที่บีบีที่อยู่บนไหล่ของลินลี่ย์ทันที จากนั้นพูดอย่างใจเย็น “ในเมื่อพวกเจ้าทุกคนมากันแล้วอย่างนั้นตามข้ามา” หลังจากพูดแล้วเทพสงครามเหาะขึ้นไปในอากาศทันที
“เทพสงครามเป็นคนตรงไม่มีอ้อมค้อมเลยจริงๆ” ลินลี่ย์อดขำในใจไม่ได้
แต่มองผิวเผินลินลี่ย์ก็เหมือนกับคนอื่นบินไปในอากาศติดตามเทพสงครามมุ่งสู่ทิศตะวันออกอย่างเชื่อฟัง ยอดฝีมือทั้งยี่สิบสองคนบินกันเป็นรูปแบบเฉพาะและที่บินนำกลุ่มแถวหน้าเป็นเฟนกับลินลี่ย์
ทุกคนรู้ดีว่าแต่ละคนมีพลังมากขนาดไหน
ผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่แนวหน้า ผู้อ่อนแอที่สุดรั้งท้าย
“เฟน! เรากำลังจะไปไพรทมิฬกันใช่ไหม?” ลินลี่ย์มองดูข้างหน้าเขาร่างผู้กล้าที่กำลังบินอยู่ข้างหน้าพวกเขา พวกเขากำลังมุ่งไปที่ไพรทมิฬ เขาอดถามเฟนเบาๆ ไม่ได้
“ถูกแล้ว” เฟนพูดเสียงเบาเช่นกัน “แต่ละครั้งที่เราไปสุสานเทพเจ้ายอดฝีมือของทวีปยูลานจะต้องมารวมกันที่ไพรทมิฬกันก่อน ที่สำคัญคือมีแต่เพียงลอร์ดเบรุตเท่านั้นจึงจะสามารถเปิดทางเข้าสุสานเทพเจ้าได้”
“โอว” ลินลี่ย์พยักหน้าเข้าใจ “ดูเหมือนการเปิดทางเข้าสุสานเทพเจ้าจะเป็นเรื่องที่ยากมาก แม้แต่เทพสงครามก็ไม่สามารถทำได้”
“ใช่หรือเปล่าบีบี?” เสียงที่มีพลังดังขึ้น
ลินลี่ย์และเฟนตกใจทั้งคู่เทพสงครามมาปรากฏตัวข้างลินลี่ย์และพูดคุยด้วยสิ่งที่น่าตกใจก็คือเทพสงครามมีรอยยิ้มที่เป็นกันเองเฟนแทบไม่เคยเห็นรอยยิ้มของอาจารย์ของเขา
“ข้าน่ะหรือ” บีบีมองดูเทพสงคราม
เทพสงครามมองดูบีบีอย่างระมัดระวังจากนั้นพยักหน้า “ลอร์ดเบรุตเต็มใจปล่อยให้เจ้าเข้าสุสานเทพเจ้าจริงๆ”
“มีอะไรต้องกลัว? ถ้าพี่ใหญ่ไปด้วยข้าจะไม่ไปได้ยังไง?” บีบีเชิดหน้าด้วยความภูมิใจ
เทพสงครามหัวเราะอย่างใจเย็นและไม่พูดอะไรต่อ
“ท่านเทพสงคราม” ลินลี่ย์พูดขึ้น
เทพสงครามมองดูลินลี่ย์รอให้ลินลี่ย์พูดต่อ ลินลี่ย์พูดทันที “ท่านเทพสงคราม ข้ามีสหายที่ดีอีกคนหนึ่งชื่อว่าบาร์เกอร์ เขาก็ต้องการจะเข้าสุสานเทพเจ้าด้วย ข้าอยากจะ..”
“ลอร์ดเบรุตให้สิทธิ์ข้านำคนมาด้วยเพียง 22 คน”เทพสงครามพูดอย่างใจเย็น “ถ้าเจ้าต้องการนำคนอื่นเข้าสุสานเทพเจ้าก็แค่ให้บีบีแจ้งกับลอร์ดเบรุต ที่สำคัญคือลอร์ดเบรุตเป็นคนสุดท้ายที่ตัดสินใจอนุญาตให้เข้าสุสานเทพเจ้า”
หลังจากพูดเสร็จแล้วเทพสงครามกลับไปอยู่ในตำแหน่งบินนำต่อ
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ “นักสู้ระดับเทพ แม้ตอนที่พวกเขาสนทนาและยิ้มก็ยังมีแรงกดดันมหาศาล” ขณะนั้นลินลี่ย์มีความรู้สึกว่าทำให้เขาหายใจลำบาก เหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็กและได้เห็นมังกรลมกรดเป็นครั้งแรก เขารู้สึกกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ”
“นี่ต้องเป็นราศีเทพแน่นอน” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
…..
กลุ่มของพวกเขายังคงบินล่วงลึกเข้าไปในไพรทมิฬด้วยความเร็วสูง ในไม่ช้ากลุ่มของลินลี่ย์ภายใต้การนำของเทพสงครามก็มาถึงใจกลางไพรทมิฬ นี่เป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์เข้ามาในไพรทมิฬลึกมาก
“ท่านลอร์ดเบรุตในตำนาน เขาเหมือนอะไร?” ลินลี่ย์สงสัย
ในไม่ช้าปราสาทโลหะดำปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขาในไพรทมิฬ ขนาดของปราสาทนี้ใกล้เคียงกับปราสาทใต้ดินของลินลี่ย์ มีพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหลายกิโลเมตร เพียงแต่ปราสาทนี้มีสีดำสนิทและสร้างจากโลหะดำแปลกประหลาด
“ตอนนี้ขอให้ทุกคนรออยู่พื้นที่ด้านนอกปราสาทก่อนอย่าเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต” เทพสงครามพูดอย่างใจเย็น แต่หลังจากนั้นเขาเหาะเข้าไปในปราสาท
มียอดฝีมือสองสามคนอยู่แถวๆปราสาทโลหะดำอยู่แล้ว
“คนเหล่านี้หลายคนเป็นเซียนจอมเวท พวกเขาถูกมหาพรตนำพามาที่นี่”เฟนบินลงจากฟ้าขณะอธิบายให้ลินลี่ย์ และลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย ยอดฝีมือของทวีปยูลานจะอยู่ฝ่ายเทพ
“ไม่มีใครในพวกเจ้าได้รับอนุญาตให้เข้าไป ปราสาทโลหะนี้จะโจมตีผู้บุกรุกทุกคนโดยอัตโนมัติ” เฟนพูดเสียงดัง
ความจริงนอกจากลินลี่ย์และโอลิเวอร์ที่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกคนอื่นรู้จักที่นี่กันทั้งนั้น
“โจมตีผู้บุกรุกโดยอัตโนมัติ?” ลินลี่ย์ประหลาดใจมาก แต่บีบีแค่นเสียงเงียบๆ “พี่ใหญ่ปราสาทโลหะนี้ความจริงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนโลหะ มันมีสติปัญญา”
ลินลี่ย์ลอบตกใจ
ราชันย์แห่งไพรทมิฬนี้เหลือเชื่อจริงๆ แม้แต่ปราสาทของเขาก็ยังมีพลังชีวิตเป็นของตนเอง นี่เป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์เจอสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดขนาดนั้น
“พี่ใหญ่, ตอนนี้รออยู่ที่นี่ก่อน ท่านต้องการคุยเรื่องบาร์เกอร์ไม่ใช่หรือ? ข้าจะไปขอปู่เบรุตดู” บีบีกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
เพียงบีบีกระพริบร่างก็หายเข้าไปในปราสาทโลหะดำทันที เมื่อเห็นบีบีเข้าไปยอดฝีมือด้านนอกปราสาทหลายคนประหลาดใจมาก พวกเขารู้กันดีทุกคนว่า ผู้บุกรุกทุกคนจะถูกโจมตี แต่ตอนนั้นบีบีไม่ถูกโจมตีแต่อย่างใด!
“ลินลี่ย์! เจ้าก็มาถึงแล้ว” เขาได้ยินเสียงหัวเราะ ลินลี่ย์หันหน้าไปมอง
เขาเห็นเดลี่,ฮาร์เวิร์ดและฮิกกินสันเดินเข้ามาหาเขา และลินลี่ย์เข้าไปทักทายพวกเขาทันที ท่านเดลี่, ภรรยาของท่านอยู่ไหนเล่า? นางไม่มาด้วยหรือ?”
“นางอ่อนด้อยไปนิด” เดลี่หัวเราะ “แต่ข้าต้องบอกกล่าว ข้าต้องยินดีกับเจ้าด้วยจริงๆ เพราะเจ้าครอบครอบอสูรเวทอย่างบีบีนั้น ยี่สิบสามปีที่แล้วลอร์ดเบรุตติดต่อทางจิตมาที่เราหลายครั้งและเราทุกคนสงสัยมาตลอดถึงเด็กหนุ่มผู้โชคดีได้รับบีบีเป็นอสูรเวทคู่หูของเขา”
ลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลแล้ว
ไม่นานหลังจากบีบีถือกำเนิดลอร์ดเบรุตอาจค้นพบความคงอยู่ของบีบีโดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจึงติดต่อทางใจกับเทพสงคราม มหาพรต, เดลี่,โรซารี่และสุดยอดฝีมือเซียนคนอื่นๆ ขอให้พวกเขาช่วยดูแลทั้งสองเล็กน้อย
ลอร์ดเบรุตคงต้องให้ความสำคัญกับบีบีมาตลอดเวลา
“พวกเราหลายคน รวมทั้งข้า โรซารี่ถูลี่และลูเธอร์ฟอร์ด เราทั้งสี่ตอบรับคำขอของลอร์ดเบรุตโดยตรง” เดลี่อธิบาย “ในทวีปยูลานเซียนที่อยู่ในระหว่างฝึกฝนแบ่งเป็นสามกลุ่มใหญ่คือของกลุ่มลอร์ดเบรุต เทพสงคราม และมหาพรต”
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว
แม้ว่าทวีปยูลานจะมีห้าเทพเจ้าแต่ไดลินและซีซาร์เพิ่งจะปรากฏตัวมาไม่กี่ปีนี้ พวกเขาจึงไม่มีเซียนเป็นบริวารมากนัก
“ลอร์ดซีซาร์ก็มาถึงเช่นกัน” เดลี่พูดทันที
ลินลี่ย์เงยหน้ามองซีซาร์เขาอยู่ในชุดหลวมสบายมีรอยยิ้มเกียจคร้านอยู่เต็มใบหน้า บินลงมาที่ปราสาทโลหะ
“พวกเจ้าทุกคนอยู่ที่นี่ ไม่ต้องเข้าไปมิฉะนั้นถ้าพวกเจ้าตาย ก็อย่ามาโทษข้า” เสียงเย็นชาดังขึ้น ลินลี่ย์และคนอื่นอดหันไปมองไม่ได้และพวกเขาเห็นบุรุษผู้มีกลิ่นอายอำมหิตสวมชุดสีทองเข้มกำลังสั่งอสูรเวทที่ติดตามเขามาที่นี่ และจากนั้น เขาเข้าไปในปราสาทโลหะด้วยเช่นกัน
“เป็นไดลินนั่นเอง!” ลินลี่ย์เคยเห็นไดลินมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อตอนเขาอยู่ในเมืองเฟนไล
ด้านหลังไดลินคือแมวน้อยสามตัวและอสูรเวทระดับเซียนที่ย่อขนาดจนเท่ากับมนุษย์ธรรมดาลินลี่ย์ตรวจสอบพวกมันอย่างระมัดระวังความจริงแมวน้อยทั้งสามตัวนี้มีปีกงอกอยู่ที่หลังและที่หน้าของมันมีเพียงสองตาและยังมีตาที่หลับอยู่อีกสองคู่
หกตาสองปีก
“อสูรเวทระดับเซียน ราชสีห์ทองหกตา ลูกของไดลิน”ลินลี่ย์รำพึงในใจ
ขณะนั้นเองหนึ่งในราชสีห์ทองหกตามองมาทางลินลี่ย์ ทันใดนั้น... ตาทั้งหกของมันลืมขึ้นทันที และเขายิ้มให้ลินลี่ย์ “ลินลี่ย์ใช่ไหม? ขอบคุณมาก!”