ตอนที่ 11-14 โลกหิมะ
หน้าของโอลิเวอร์ในตอนนี้ขาวซีดมาก เวลานั้นเขาทุ่มเทใช้พลังทั้งหมดในตัวของเขา แต่ราคาที่ทุ่มใช้ความเร็วสามเท่าของเขาก็ไม่น้อยเช่นกัน และด้วยการเสียขาทั้งสองไป..โอลิเวอร์ในตอนนี้อยู่ในสภาพที่แย่มาก
“ทำไมเจ้าไม่ไปเสียที?”โอลิเวอร์เงยหน้าจ้องมองลินลี่ย์
ลินลี่ย์เพียงแต่ยืนเฉยไม่รีบจากไป เขาสามารถบอกได้ในเวลานั้นว่าพลังของโอลิเวอร์ลดลงอย่างมาก เมื่อขาทั้งสองหายไปแล้วความสามารถในการเคลื่อนไหวในการต่อสู้กับศัตรูลดลงเป็นอย่างมากเช่นกัน แม้ว่าเขาจะสามารถบินได้.. แต่การบินขณะที่ไม่มีขาทั้งสองจะทำให้ความคล่องแคล่วลดลงไปครึ่งหนึ่ง
“ขอบคุณ” หลังจากเงียบไปนาน โอลิเวอร์พูดแค่สองคำและจากนั้นเขาตั้งใจรักษาบาดแผลของเขา
หัวใจของลินลี่ย์รู้สึกเจ็บปวดมากในตอนนี้ เขาหันหน้าไปมองที่พื้นชั้นสาม “บาร์เกอร์....ถ้าบาร์ตายจริงๆ อย่างถ้าในอนาคคต..ลีน่าภรรยาของเขา ลูกทั้งสองคน เกทส์และน้องคนอื่นถามข้า....” ลินลี่ย์รู้สึกจนใจ
อยู่ต่อหน้านาคราชเทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ เขามีโชคที่รอดชีวิตอยู่ได้
ไม่มีทางเลยที่ลินลี่ย์จะช่วยบาร์เกอร์ได้แม้แต่น้อย
“ข้าหวังว่าบาร์เกอร์จะโชคดีเหมือนข้า บางทีเขาอาจจะเข้ามาที่ชั้นสี่หรือหนีกลับไปที่ชั้นสองก็ได้” ลินลี่ย์ยืนกับที่โดยไม่ขยับช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายตัวใดโจมตีโอลิเวอร์และเพราะเขาต้องการรอ...
รอดูว่าบาร์เกอร์จะออกมาที่ชั้นสี่ด้วยเช่นกัน
หลังจากเวลาผ่านไปนาน...
“ข้าเสร็จแล้ว” โอลิเวอร์ยืนขึ้นและมองดูลินลี่ย์โดยไม่พูดอะไรอื่นอีก เขาเปลี่ยนเป็นร่างพร่าเลือนขณะบินขึ้นไปในท้องฟ้าทันที
ลินลี่ย์ยืนอยู่กับที่อยู่อีกครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาถอนหายใจยาวก่อนจะบินขึ้นไปในอากาศเช่นกัน
พื้นที่เยือกเย็นคลุมไปด้วยผืนหิมะขาวและมีจุดใหญ่ๆหลายจุดซึ่งก็คือไม้ยืนต้นตระหง่าน หิมะปกคลุมต้นไม้กลายเป็นชั้นเครื่องประดับสีเงิน หลังจากบินไปได้ชั่วขณะ ลินลี่ย์มองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เขาคือเคลย์ที่ได้ซ้อมมือกับเขาที่ภูเขาเทพสงคราม
“ลินลี่ย์” เคลย์หัวเราะขณะบินเข้ามาหา “คิดว่าเจ้า..อยู่.. ข้างล่างแล้ว...”
“ข้าเพิ่งเข้ามาที่ชั้นสี่ คนที่ตามท่านออกมากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้นาคราชตื่น” ลินลี่ย์ส่ายหน้า “ข้าแค่โชคดี แต่บาร์เกอร์สหายข้า...”
เคลย์พูดปลอบใจ “อย่าเศร้าเสียใจไปเลย ในไม่นานหลังจากข้าเข้ามาในชั้นที่สี่ ข้าพบว่าโอลิเวอร์ถูกตัดขา ดูจากเขา ข้าก็รู้แล้วว่านาคราชตื่นแล้ว ข้าคิดว่าพวกเจ้าทุกคนถูกนาคราชฆ่าไปแล้ว ถือว่าโชคดีมากแล้วที่เจ้ารอดมาได้ สหายของเจ้าคงจะรู้สึกมีความสุขต่อเจ้าด้วยเช่นกัน
ลินลี่ย์พยักหน้า
ทั้งสองคนบินเคียงข้างกันและเคลย์เตือน “อย่าคิดเรื่องสหายของเจ้าอีกเลย ที่ชั้นสี่นี้อันตรายมากเช่นกัน ถ้าเจ้าฟุ้งซ่านและเป็นเหตุให้ตายไปนั่นจะเป็นความสูญเสียที่แสนสาหัส”
ลินลี่ย์ตั้งสติไว้กับตัวทันที เขาสูดหายใจลึกและสะบัดศีรษะสองสามครั้ง“เข้าใจแล้ว”
“เฟนเคยบอกข้าว่าในอดีตพวกเขาถอยไปอยู่ที่ชั้นห้า สุสานเทพเจ้ามีทั้งหมดสิบแปดชั้น ในทุกห้าชั้น สี่ชั้นแรกจะไม่อันตรายมากนัก ขณะที่ชั้นห้าจะเป็นชั้นที่อันตรายน้อยที่สุด”เคลย์อธิบาย
เคลย์มีชีวิตอยู่มานานมากกว่าลินลี่ย์ เขารู้หลายอย่างเช่นกัน
“โอว? ชั้นห้าปลอดภัยที่สุดในห้าชั้นแรกหรือ?” ลินลี่ย์ประหลาดใจ
“ถูกแล้วจากที่เฟนบอกข้ารวมทั้งเทพสงครามด้วย ทุกๆห้าชั้นก็คือชั้นเดียว อันตรายจากจากชั้นแรกจนถึงชั้นที่ห้ายังเป็นระดับทั่วไป ขณะที่ชั้นที่หกถึงชั้นที่สิบเป็นอันตรายอย่างยิ่ง แม้แต่เฟนก็ตายได้ทุกเมื่อ” เคลย์เตือน
ลินลี่ย์พยักหน้า ในอนาคตเขาจะต้องระมัดระวังให้มาก
“ชั้นหก เจ็ด แปดเก้าล้วนแต่อันตรายมากทั้งนั้น เทียบกับสี่ชั้นเหล่านี้ ชั้นที่สิบอันตรายน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน” เคลย์หัวเราะ
ลินลี่ย์จดจำคำเหล่านี้ไว้ นี่คือข้อมูลทั้งหมดซึ่งเฟนได้รับมาจากเทพสงครามอย่างไม่ต้องสงสัย
เทพสงครามผ่านสิบชั้นแรกมาได้แล้ว เขาย่อมรู้สถานการณ์ในชั้นเหล่านี้เป็นธรรมดา
“ห้าชั้นเป็นชั้นเดียว เพราะชั้นที่ห้าเป็นชั้นที่ปลอดภัยที่สุดในกลุ่มห้าชั้นแรก ขณะที่ชั้นที่สิบเป็นชั้นที่ปลอดภัยที่สุดในกลุ่มห้าชั้นที่สอง” ลินลี่ย์มีความรู้สึกแปลกทันที “ดูเหมือนว่าระดับชั้นที่ปลอดภัยจะยอมให้ทุกคนได้มีเวลาเตรียมตัว”
เห็นได้ชัดว่าชั้นที่หกจะต้องเพิ่มระดับความยากและอันตรายขึ้นมาก
ชั้นที่สิบเอ็ดจะต้องเป็นที่มีศพของเทพและประกายศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่ใครไม่โง่ ก็จะมีผู้เข้าใจ ชั้นที่สิบเอ็ดมีแนวโน้มว่าจะอันตรายมากกว่าชั้นอื่นๆ
ขณะที่บินผ่านแผ่นพื้นหิมะเคลย์หัวเราะ “มีเพียงห้าชั้นแรกที่เราต้องอาศัยพลังส่วนตัวของเราเพื่อสู้กับสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่างๆ เมื่อเราไปถึงชั้นที่หก....เราจะต้องอาศัยสติปัญญาของเรา, พลังเรี่ยวแรงและโชคของเรารวมกัน”
ลินลี่ย์พยักหน้า
ในอดีตเดลี่และเฟนก็คงจะตกใจจนพวกเขาไม่กล้าเข้าไปในชั้นที่หก พวกเขาจึงต้องซ่อนอยู่ในชั้นที่ชั้นห้าจนถึงสิบปี
“ควั่บ”
มีหิมะกองหนึ่งที่ด้านล่างทันใดนั้นสัตว์ประหลาดตนหนึ่งพุ่งออกมาจากใต้หิมะเข้าหาเคลย์เหมือนสายฟ้าสีขาวทันที ร่างของเคลย์กลายเป็นผิวโลหะทันที จากนั้นเขาคำรามอย่างดุร้าย และต่อยหมัดขวาใส่สัตว์ประหลาดที่กำลังโจมตีเข้ามา
“ปัง!”
หมัดกระแทกใส่กับฝ่ามือที่รุนแรง
เคลย์กระเด็นกลับหลังด้วยความเร็วสูง ขณะที่สัตว์ประหลาดที่มีขนยาวลงไปยืนอยู่บนพื้น
“พลังมหาศาลมาก” เคลย์ถอนหายใจด้วยความทึ่ง
ลินลี่ย์มองลงมาด้วยความทึ่งกับสัตว์ประหลาดขนยาวตัวนั้น ลินลี่ย์เคยซ้อมมือกับเคลย์มาก่อนและรู้ว่าเคลย์แข็งแกร่งเพียงไหน “เคลย์แข็งแกร่งกว่าเฮนด์เซนถึงสิบเท่า และพลังป้องกันของเขาเทียบได้กับบาร์เกอร์ แต่เขาเพียงแต่สู้เสมอกับเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้”
ตัวประหลาดข้างล่างยืนขึ้นสองขาเหมือนกับมนุษย์ทันที
“หมี?” ลินลี่ย์จ้องมองตัวประหลาดข้างล่างและพูดอย่างตกใจ
ดูเหมือนอสูรเวทที่ดูคล้ายหมีนั้นปกคลุมไปด้วยขนสีขาว แต่มันมีขนขดเป็นรูปวงแหวนสะดุดตาเหมือนกับว่ามีบางคนต่อยใส่ตาพวกเขาจนตาปูด ความจริงก็คืออสูรเวทที่มีขนนั้นดูน่ารักมาก
“ข้าไม่ใช่หมีโง่ ข้าคือแพนด้าแมวหิมะ” อสูรเวทขนยาวตัวนั้นบ่น
“ควั่บ!” ขณะนั้นเอง แมวแพนด้าหิมะกระโจนขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันบุกใส่ลินลี่ย์...ไวเหมือนประกายแสงสีขาว แมวแพนด้าหิมะมาถึงหน้าลินลี่ย์ ลินลี่ย์อดตกใจกับความเร็วของมันไม่ได้
“ผัวะ!”
หางมังกรลินลี่ย์แวววาวเหมือนแสงโลหะสะท้อนฟาดใส่แมวแพนด้าหิมะ การจู่โจมด้วยหางมังกรนั้นรวดเร็วมากจนแมวแพนด้าหิมะตั้งตัวไม่ทันแม้แต่น้อย
“ปัง” แมวแพนด้าหิมะร่วงลงไปที่พื้นหิมะอีกครั้งขณะเดียวกันมีรอยแนวเลือดปรากฏอยู่บนหน้าอกขนสีขาวของมัน เจ้าหมีหิมะจ้องมองลินลี่ย์และเคลย์ก่อนที่มันจะหมอบลงยืนสี่เท้าแล้วเผ่นหนี
มันหนีไปแล้ว!
ลินลี่ย์และเคลย์อดหัวเราะไม่ได้
“แมวแพนด้าหิมะตัวนี้น่าทึ่งจริงๆ หลังจากปะทะฝีมือกันแล้ว มันหนีไปทันที” แต่ลินลี่ย์ยังตกใจกับพลังของแมวแพนด้าหิมะ พลังของมันไม่ด้อยไปกว่าหมีปฐพีเลยแต่ว่าเร็วกว่ามากนัก
มิน่าเล่าเหตุผลที่เรียกแมวแพนด้าหิมะถึงมีคำว่าแมวแฝงอยู่ด้วย
“ฮ่าฮ่า...ถ้าข้าต้องสู้กับแมวแพนด้าหมิมะด้วยตัวเอง คงต้องลำบากจริงๆ ความเร็วของแมวแพนด้าหิมะดูเหมือนว่าจะเร็วมากกว่าข้า” เคลย์ฝืนหัวเราะ “ลินลี่ย์,ข้ามีความรู้สึกว่าเต็มที่ข้าอาจจะอยู่ได้แค่ชั้นที่ห้า ชั้นที่หก บางทีข้าคงไม่สามารถผ่านไปได้”
“พอเถอะ, เราไปค้นหาอุโมงค์กันก่อน” ลินลี่ย์บินไปพร้อมกับเคลย์เพื่อค้นหาอุโมงค์
แมวแพนด้าหิมะบนชั้นสี่แปลกมากนอกจากแมวแพนด้าหิมะสองสามตัวที่จู่โจมกะทันหัน แมวแพนด้าหิมะส่วนใหญ่จะไม่โจมตีพวกเขาแม้แต่น้อย ส่วนใหญ่พวกมันจะกลิ้งไปมาเหมือนกับลูกบอลอยู่บนพื้นหิมะ ตอนแรกลินลี่ย์และเคลย์ก็รู้สึกกังวล แต่หลังจากนั้น พวกเขาค่อยรู้สึกผ่อนคลาย
“พวกเจ้าทั้งสองจงฟังให้ดี เสียงแก่ชราเสียงหนึ่งดังขึ้น
ลินลี่ย์และเคลย์ตกใจเตรียมพร้อมต่อสู้ จากนั้นหันไปมองตำแหน่งที่เสียงดังออกมาทันที
ภายใต้พวกเขามีแมวแพนด้าหิมะตัวหนึ่งสูงแค่เมตรเดียวกำลังจ้องมาที่ลินลี่ย์และเคลย์อย่างใจเย็น แม้ว่าแมวแพนด้าหิมะจะตัวเล็กมากกว่าหมีปฐพี แต่พวกมันมักจะมีขนาดสูงสองหรือสามเมตร แต่แมวแพนด้าหิมะมีขนาดเมตรเดียว
“แมวแพนด้าหิมะตนนี้อันตรายมาก” ลินลี่ย์ระวังตัวทันที แมวแพนด้าหิมะนี้แม้ว่าจะมีร่างเล็ก แต่ก็ให้ความรู้สึกที่อันตรายกับลินลี่ย์ ไม่ต่างจากความรู้สึกที่เทพสงครามและคนอื่นมีต่อเขาเลย
เสียงที่แก่ของแมวแพนด้าหิมะดังขึ้นอีกครั้ง “ข้าคือหัวหน้าเผ่าพันธุ์แมวแพนด้าหิมะนี้”
ลินลี่ย์และเคลย์มองหน้ากันเอง แมวแพนด้าหิมะมีประมุขเผ่าพันธุ์ด้วยหรือ?
“จำเอาไว้! ในชั้นที่สี่นี้ ตราบใดที่เด็กๆ ของข้าไม่โจมตีพวกเจ้า เจ้าจะโจมตีพวกเขาไม่ได้ ถ้าพวกเขาฆ่าพวกเขาตัวใดก็ตาม อย่างนั้นอย่าตำหนิข้าที่ลงมือกับพวกเจ้าอย่างโหดร้าย” แค่เพียงแมวแพนด้าหิมะพลิกมือก็มีขลุ่ยไม้ไผ่ปรากฏขึ้นทันที
ใช่แล้วขลุ่ยไม้ไผ่
“เขากำลังจะเป่าขลุ่ยหรือ?” ลินลี่ย์ไม่เคยเห็นคนที่ใช้ขลุ่ยทำร้ายคนอื่นเลย
แต่ลินลี่ย์และเคลย์ทั้งสองคนรู้สึกว่าสหายชราข้างพวกเขามีท่าทีคุกคามมาก พวกเขาไม่กล้าพูดอะไร ดังนั้นเคลย์รีบกล่าว “ไม่ต้องกังวล ขอเพียงแค่เมื่อเจอแมวแพนด้าหิมะ เราจะไม่ใช้พลังเต็มที่ ขอเพียงพลเมืองของท่านไม่ทำร้ายเรา เราก็จะไม่โจมตีทำร้ายเด็กๆ ของท่าน”
“ทางผ่านไปชั้นที่ห้าอยู่ตรงนั้นถัดจากต้นไม้ยักษ์สามต้น ทางผ่านเข้าไปอยู่ภายในต้นไม้ยักษ์” ประมุขเผ่าแมวแพนด้าหิมะชี้ไปที่ต้นไม้ไกลๆ
ลินลี่ย์และเคลย์เริ่มบินออกไปตรงตำแหน่งนั้นทันที
เมื่อเห็นลินลี่ย์และเคลย์จากไปแล้ว ประมุขเผ่าแมวแพนด้าหิมะถอนหายใจยาว เผ่าแมวแพนด้าหิมะของเขาเฝ้าอยู่ที่ชั้นสี่ของสุสานเทพเจ้าซึ่งเหมือนกับเป็นสถานที่คุมขัง ในฐานประมุขเผ่าพันธุ์ของแมวแพนด้าหิมะ เขาไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนั้นได้
เพราะระดับความแข็งแกร่งปัจจุบันของเขา คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะฆ่าคนต่างถิ่นข้างนอกและจากนั้นเอาศพพวกเขาไปรับประกายศักดิ์สิทธิ์ของเทพชั้นต้น แต่เขาไม่ต้องการทำเช่นนี้ เหตุผลก็คือเขามีพลังคุกคามและข่มขู่ยอดฝีมือระดับลินลี่ย์ได้เท่านั้น
“ถ้าข้ากลายเป็นเทพและจากไป อย่างนั้นเด็กๆเหล่านี้จะตายในไม่ช้าหลังจากนั้นเช่นกัน” แมวแพนด้าหิมะถอนหายใจยาว
เขาเองก็เป็นเซียนระดับสุดยอดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะกลายเป็นเทพได้ แต่พลังของประมุขเผ่าแมวแพนด้ายังยิ่งใหญ่กว่าสุดยอดห้าเซียน นี่เป็นเพราะพลังสัจธรรมที่ลึกซึ้งที่เขารู้แจ้งนั้นแตกต่างจากคนอื่น มากเหมือนกับแนวทางที่ลินลี่ย์ฝึกชีพจรโลก เกี่ยวกับพลังโจมตียังอยู่เหนือการรู้แจ้งที่เซียนคนอื่นได้รู้
พลังสัจธรรมที่ประมุขเผ่าพันธุ์แมวแพนด้าหิมะได้รู้แจ้งนี้คือชนิดที่หาได้ยากที่สุดในสัจธรรมความรู้กฎแห่งธาตุลม
ที่ชั้นห้าเป็นโลกของไฟ
ลินลี่ย์และเคลย์เมื่อขึ้นไปถึงที่ชั้นห้านี้รู้สึกเหมือนกับตัวเองถูกคลื่นความร้อนโจมตี ใจกลางชั้นห้านี้คือภูเขาไฟ ขณะที่พื้นที่รอบๆ เต็มไปด้วยลาวาหลอมเหลวที่ร้อนแรง เป็นพื้นที่ว่างเปล่า..ที่ใครๆ ก็มองเห็นได้ง่าย
แต่อุณหภูมิของกระแสลาวาหลอมเหลวที่นี่สูงมาก
“พี่ใหญ่!” เงาสีดำบินเข้ามาหาด้วยความเร็วสูงทันที
“บีบี”ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ชัดว่าบีบีกำลังบินเข้ามาหา บีบีกระโจนเข้ามาในอ้อมแขนลินลี่ย์ ตาของเขาพร่าเลือน “พี่ใหญ่! ข้ามาถึงที่ชั้นห้านานแล้ว ข้ารอท่านอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา เดลี่และคนอื่นๆ บอกว่าเจอกับนาคราชที่ชั้นสามข้าห่วงท่านตลอดเวลาเลยนะพี่ใหญ่”
ลินลี่ย์อดนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ชั้นสามไม่ได้ ใจของเขารู้สึกกลัวทันที
“โชคดีจริง ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เยี่ยมจริงๆ” หน้าของบีบียิ้มตลอดเวลา
ประสบการณ์ของบีบีง่ายกว่าทางด้านลินลี่ย์มาก เขาไม่เผชิญหน้ากับนาคราชและการโจมตีของผีดิบอมนุษย์และสัตว์ประหลาดอื่นๆ ก็ง่ายไม่คุกคามบีบีเลยแม้แต่น้อย
“เฮ้..พี่ใหญ่ บาร์เกอร์อยู่ไหน? บาร์เกอร์ไม่ได้อยู่กับท่านหรือ?” บีบีประหลาดใจทันที
ลินลี่ย์มีสีหน้าชะงักค้างเขาอดทำหน้าตาบิดเบี้ยวเหยเกไม่ได้ และในดวงตาเขามีแววเจ็บปวด
บีบีมีปัญญาเฉลียวฉลาด เมื่อเห็นอาการสนองตอบของลินลี่ย์ บีบีก็สามารถเดาได้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น “พี่ใหญ่ บาร์เกอร์ เขา..อยู่ที่ชั้นสามใช่ไหม?” ลินลี่ย์ได้แต่ระบายลมหายใจ “ใช่แล้ว ที่ชั้นสามนาคราชตื่นขึ้น เราไม่มีพลังพอตอบโต้เลยแม้แต่น้อยข้าโชคดีที่อาศัยกระบี่เลือดม่วงหนีขึ้นชั้นสี่ได้ ขณะที่บาร์เกอร์...”
ลินลี่ย์ลดเสียงลง และในที่สุดเขาไม่สามารถพูดต่อได้