Ep.519 - แผนทำลายจากภายใน
2/3
Ep.519 - แผนทำลายจากภายใน
ฮังอวี่เข้าใจได้ทันที
เมืองมังกรตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แม้เฮสการ์จะหวั่นกลัวเผ่าพันธุ์มนุษย์มากเพียงใด แต่มันก็มองเห็นถึงศักยภาพของเผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นกัน ดังนั้นจึงคัดเลือกและเพาะเลี้ยงมนุษย์กลุ่มเล็กๆไว้
ในบรรดาที่กล่าวมา ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของกลุ่มราชวงศ์สวรรค์จากเกาหลี
คนเหล่านี้ทำสัญญากับราชามังกรโดยสมัครใจ เพื่อให้ได้เข้าสู่เมืองมังกร แลกเปลี่ยนเสบียงจากโลกจริงกับเฮสการ์ ในเวลาเดียวกันก็ได้รับผลประโยชน์จากเฮสการ์เช่นกัน
แม้ฮังอวี่จะกำจัดสมาชิกกลุ่มราชวงศ์สวรรค์ไปเยอะแล้วในก่อนหน้านี้ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทั้งหมดที่ถูกฆ่า ขณะนี้ในเมืองมังกรยังมีสมาชิกเผ่ามนุษย์อาศัยอยู่อย่างน้อย 200 - 300 คน และทั้งหมดถูกยอมรับเป็นพลเมืองเต็มตัว ดังนั้นต่อให้เคลื่อนไหวในเมือง ก็จะไม่เกิดสัญญาณเตือนภัย
ถ้าใช้ประโยชน์จากคนเหล่านี้ อาจสร้างผลกระทบที่คาดไม่ถึง
แน่นอน
การเจรจาให้พวกเขายอมจำนนเป็นพวกคงเป็นไปไม่ได้ เจ้าพวกไร้ศักดิ์ศรีกลุ่มนี้สมัครใจเป็นลูกน้องของเฮสการ์ ดังนั้นไม่มีทางแปรพักตร์หรืออย่างน้อยก็คงไม่ยอมทรยศเฮสการ์ในช่วงนี้
แล้วอีกอย่าง เชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีพวกระดับสูงของประเทศอยู่เบื้องหลัง
ฮังอวี่ไม่เชื่อว่าพวกระดับสูงหรือกลุ่มใหญ่ของเกาหลีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะการแลกเปลี่ยนนี้ให้ผลประโยชน์มหาศาล ....
หากคิดใช้งานคนกลุ่มนี้ มีทางเดียวคือต้องใช้สกิลเสน่ห์ของซูหยุนปิง
ฮังอวี่เอ่ยถาม “อาจารย์ซู ตอนนี้อาจารย์ยังเหลือจำนวนที่ควบคุมได้อีกกี่คน?”
ซูหยุนปิงกล่าว “ด้วยพลังรบของฉันในตอนนี้ มากสุดได้อีกแค่คนเดียว และเลเวลของเป้าหมายต้องไม่เกิน 15”
เหลือแค่คนเดียว?
ฮังอวี่พูดกับฉูเทียนหัวว่า “เหล่าฉู ผมต้องการให้สำนักข่าวกรองโลกวิญญาณช่วยสืบหาสมาชิกที่เหลือของกลุ่มราชวงศ์สวรรค์ สืบว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ข้อมูลยิ่งละเอียดเท่าไหร่ยิ่งดี”
นับแต่กลุ่มราชวงศ์สวรรค์ถูกเปิดโปง พวกเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างบ้าคลั่ง แต่ระดับสูงของเกาหลีไม่เคยออกมายอมรับว่ามีองค์กรเช่นนี้ในประเทศ
และสมาชิกของกลุ่มราชวงศ์สวรรค์ก็ซ่อนตัวอย่างดีมาโดยตลอด หากคิดค้นหาพวกเขา ด้วยความสามารถของฮังอวี่ไม่มากพอที่จะทำได้
แต่ถ้าด้วยฝีมือของสำนักข่าวกรองโลกวิญญาณก็คงไม่มีปัญหา
ตั้งแต่สำนักข่าวกรองก่อตั้งมา ถึงตอนนี้ผ่านไปครึ่งปีแล้ว นับวันพวกเขายิ่งทรงพลังขึ้น สำนักข่าวกรองอาศัยช่องทางของรัฐ ทำให้การรวบรวมข้อมูลเหนือกว่าบุคคลหรือกองกำลังทั่วไปมาก
ฉูเทียนหัวไปจัดการทันที
ส่วนฮังอวี่กลับมายังเจียงเฉิง มุ่งหน้าไปยังสถานบันวิจัยเหนี่ยวนำมนตรา เข้าพบทีเกอร์ เอ่ยถามว่า “ในบรรดาระเบิดเหนี่ยวนำมนตราที่นายสร้าง มีแบบทรงพลังถึงขั้นระเบิดเมืองใหญ่ในโลกวิญญาณให้ราบในครั้งเดียวได้ไหม?”
ระเบิดเมืองใหญ่ในโลกวิญญาณให้ราบในครั้งเดียว?
ทีเกอร์พูดไม่ออก มันจะมีของที่ทรงพลังเช่นนั้นได้อย่างไร?
เกรงว่าระดับนั้นคงเป็นระเบิดปรมาณูไปแล้ว
เขาตอบว่า “ระเบิดเหนี่ยวนำมนตราที่สามารถระเบิดเมืองเล็กได้ในคราเดียวข้าสร้างได้ แต่ถ้าระดับระเบิดเมืองใหญ่ในครั้งเดียว ด้วยความสามารถของข้าตอนนี้ ไม่มีทางทำได้”
อานุภาพของระเบิดเหนี่ยวนำมนตราที่สามารถถล่มเมืองได้ในพริบตานั้นไม่เล็กน้อย
เมื่อสงครามเริ่มขึ้น ก็สั่งให้ทำการระเบิดในคราเดียว และนั่นมากพอแล้วที่จะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่เมืองมังกร
ฮังอวี่เอ่ยถาม “ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างระเบิดพวกนี้?”
ทีเกอร์กล่าวว่า “อันที่จริงแล้วกระบวนการสร้างกินเวลาไม่นาน แต่ระเบิดระดับนี้คุณภาพย่อมเป็นสีม่วง นั่นหมายความว่าวัสดุที่ใช้สร้างต้องเป็นสีม่วงเช่นกัน”
สุดท้ายจะสร้างได้เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับว่ามีเงินแค่ไหนสินะ?
หินคริสตัลที่เหลืออยู่ในมือฮังอวี่มีไว้สำหรับทำสงคราม ไม่สามารถควักมันออกมาเพื่อซื้อวัสดุจำนวนมากได้
ฮังอวี่โทรหาเล่ยหยิง ผู้บัญชาการสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง ขอให้เล่ยหยิงช่วยหาวัสดุเหล่านั้น
แม้ฮังอวี่ไม่สามารถจ่ายเป็นหินคริสตัล แต่เขาสามารถนำหลักทรัพย์ของตัวเองมาค้ำประกันได้
ไม่ว่าจะเป็นสถาบันเหนี่ยวนำมนตราของทีเกอร์ หรือแม้แต่อุตสาหกรรมต่างๆของมังกรฟ้า มีอันไหนบ้างที่ไม่ใช่ทรัพย์สินราคาแพง?
ด้วยของพวกนี้ มันสามารถใช้ค้ำอะไรก็ได้!
ฮังอวี่ตัดสินใจนำทรัพย์สินของตัวเองออกค้ำ ไล่ซื้อทรัพยากรที่ต้องการจากทั่วประเทศ พยายามหาวัสดุที่ใช้สร้างระเบิดเหนี่ยวนำมนตราให้มากที่สุด
ถ้าสงครามครั้งนี้ได้รับชัยชนะ ด้วยสมบัติและทรัพยากรในเมืองมังกร ยังไงก็นำมาจ่ายได้
ขณะเดียวกัน ต่อให้ครั้งนี้พ่ายแพ้ ฮังอวี่ก็สามารถนำพวกมันไปจ่ายหนี้
ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทางสกายเน็ตและสมาคมโลกวิญญาณ ต่างยินดีให้ความร่วมมือ
โดยเฉพาะทางสกายเน็ต พวกเขาใจดีมาก นอกจากของที่พวกตนมีแล้ว ยังช่วยประกาศไปทั้งประเทศ หาวัสดุสำหรับทำระเบิดเหนี่ยวนำมนตราแก่ฮังอวี่
เวลาผ่านไปเพียงสองวัน
วัสดุต่างๆก็ดำเนินการซื้อขายเสร็จสิ้น บางส่วนส่งมาแล้วครึ่งทาง หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกไม่กี่วันจะสามารถนำไปสร้างระเบิดได้
ในขณะเดียวกัน
ฉูเทียนหัวมีข่าวดีส่งมาถึง มันคือข้อมูลที่อยู่ของสมาชิกหลายคนของกลุ่มราชวงศ์สวรรค์ในประเทศเกาหลี
ฉูเทียนหัวเอ่ยถามว่า “อีกฝ่ายอยู่ที่เกาหลี ห่างจากพวกเรามาก แน่ใจหรือว่าต้องการแทรกซึมเข้าไปในดินแดนของพวกเขา?”
ฮังอวี่ตอบ “ไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าใช้สัตว์ขี่ที่บินได้เร็วที่สุด น่าจะใช้เวลาเดินทางไม่นาน ตราบใดที่แผนดำเนินไปด้วยดี ภารกิจนี้จะเสร็จสิ้นในสามวัน”
“งั้นต้องการให้พวกเราส่งทีมหัวกะทิไปช่วยไหม?”
“ไม่จำเป็น แค่อาจารย์ซูกับผมก็พอแล้ว!”
ยิ่งคนน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดำเนินการได้เร็วเท่านั้น
ฮังอวี่กับซูหยุนปิงออกเดินทางมาถึงกรุงโซลในวันรุ่งขึ้น
โซลเป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลี เป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรหนาแน่นที่สุด
ทว่านับแต่การมาเยือนของโลกวิญญาณ มอนสเตอร์ปรากฏขึ้นรุกรานทุกหนแห่ง กรุงโซลโดนกองทัพมอนสเตอร์โจมตีหลายระลอก ปัจจุบันพื้นที่ที่เลยวงแหวนรอบสามของเมืองไปจึงถูกทิ้งร้างอย่างสมบูรณ์ แต่ก็ยังมีประชากรเหลืออยู่มากกว่า 30 ล้านคน
ฮังอวี่กับซูหยุนปิงปลอมตัวเข้าสู่กรุงโซลได้อย่างราบรื่น และเนื่องจากทั้งคู่ปลอมตัวมา ดังนั้นไม่น่าถูกจับได้
หลังจากศึกษาข้อมูลโดยละเอียดที่ได้จากฉูเทียนหัว
ได้ข้อมูลสมาชิกกลุ่มราชวงศ์สวรรค์ทั้งแปดคน ทั้งหมดล้วนอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอันดับต้นๆของประเทศ
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าหากเป็นมหาเศรษฐี จะมีอำนาจมากในประเทศเกาหลี
ช่วงแรกที่เกิดโลกวิญญาณ เป็นคนกลุ่มนี้ที่สามารถคว้าโชคและผลประโยชน์จำนวนมาก ส่งผลให้อัพเลเวลได้อย่างรวดเร็ว
และพวกเขาได้ใช้โอกาสนี้ หลุดพ้นจากพันธนาการของรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง
ว่ากันตามจริง สถานการณ์บ้านเมืองในเกาหลีวุ่นวายมาก เครื่องมือทั้งหมดของรัฐเป็นอัมพาต หลายฝ่ายได้ตกต่ำลง กลายเป็นหุ่นเชิดของกองกำลังที่มีอำนาจ
และหลังจากการต่อสู้แย่งชิงกัน ในที่สุดหลายฝ่ายก็มาถึงจุดสมดุล สถานการณ์ปัจจุบันคงที่
“คนนี้แหละ!”
“เขาชื่อชื่อคิมแทจุน”
ฮังอวี่กับซูหยุนปิงเลือกเป้าหมายที่ดีที่สุดในการโจมตีจากข้อมูล ขั้นต่อไปคือจับกุมอีกฝ่าย
สำหรับทั้งคู่แล้วมันเป็นเรื่องง่ายมาก
เสน่ห์ของซูหยุนปิงสามารถควบคุมใครก็ได้ชั่วคราว และรับข้อมูลที่ต้องการจากบุคคลอื่น
และด้วยความสามารถเชิงมิติและความสามารถในการล่องหนของฮังอวี่ มันสามารถช่วยให้เขาเข้าสู่พื้นที่ที่มีการป้องกันหนาแน่นได้อย่างไม่ยากเย็น
ที่นี่คือโลกจริง แม้จะมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดเพียงใด แต่ยังไงก็เทียบไม่ได้กับเมืองมังกร!