ตอนที่แล้วตอนที่ 327 ข่าวร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 328 หอวิญญาณ

ตอนที่ 329 ดำเนินการ


มีเหตุการณ์ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นเกิดขึ้นเมื่อหอวิญญาณผลิตขุนพลวิญญาณและนั่นจะถูกเรียกว่าการทดแทน

การทดแทนนั้นเกิดขึ้นเมื่อการ์ดที่อยู่ต่อหน้าต้องแทนที่ด้วยการ์ดใบใหม่ซึ่งเห็นได้ยาก  การ์ดวิทยายุทธบนประตูเมื่อจะถูกทำลายมักจะเกิดขึ้นเมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น  เนื่องจากการ์ดเหล่านั้นจะถูกทำลายพร้อมกันหมด ทั้งนี้เป็นเพราะขุนพลวิญญาณใหม่จะตัดความผูกพันครั้งก่อนหมดและนั่นเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ

แต่มักจะมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ เหมือนกับปัจจุบันซึ่งการ์ดทองใบแรกซึ่งเป็นการ์ดระดับแปดถูกทำลายทันที นั่นหมายความว่าขุนพลวิญญาณเพิ่มความเร็วในการดูดซึมพลัง

นั่นคือเวลาที่ต้องใช้การทดแทน

ปิงวางการ์ดวิทยายุทธระดับแปดอีกใบทันทีลงบนช่องที่หนึ่งและที่สามโดยไม่ลังเลใจ

การ์ดทองสองใบเปล่งแสงพร้อมๆ กันและสว่างแพรวพราวมาก

ปิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง การทดแทนเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก และมักจะผลิตขุนพลวิญญาณที่พิเศษมาก  ปิงเคยพบการทดแทนอื่นมาก่อน  แต่ไม่เคยพบกับขุนพลวิญญาณระดับยศชั้นประทวนมาก่อน และถังอี้เดิมทีเป็นจ่าสิบตรีระดับทองซึ่งหาได้ยากอยู่แล้ว

แสงจากการ์ดวิทยายุทธทั้งสองคงที่และคงอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาสิบห้าชั่วโมงก่อนจะอับแสงลง

ทันใดนั้นการ์ดทั้งหมดพังและถูกทำลายกลายสภาพเป็นควันและหายไป

ประตูบรอนซ์ค่อยๆ เปิดออก และสายตาปิงถึงกับเบิกกว้าง

ร่างสูงใหญ่ล่ำสันร่างหนึ่งดูมีราศีทรงพลังเดินออกมาช้าๆ

“จ่าสิบเอกพิเศษถังอี้ขอรายงานตัวรับภารกิจขอรับ”

เสียงทุ้มต่ำของเขาสร้างความรู้สึกกลัวในจิตใจของคน จากนั้นปิงสังเกตร่างของถังอี้ซึ่งไม่เปลี่ยนไปมากนอกจากสูงกว่าและล่ำกว่าเขาเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงที่สะดุดสายตาก็คือดาบฟันขาม้า

ตัวดาบจากเดิมสีเทากลายเป็นสีดำสนิทและหนักกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ตรากลุ่มดาวกางเขนใต้ประทับอยู่บนตัวดาบสีดำ

บอบบางแต่แข็งแกร่ง!

นั่นคือ...ผู้นำทหารที่โดดเด่น

ร่างของปิงสั่น

เกี่ยวกับความโดดเด่นนี้มาจากการสืบเชื้อสาย ก่อนที่นักรบอมตะจะได้สุดยอดวิทยายุทธโดดเด่น  มีน้อยคนนักที่รู้ว่าในยุคสามกองทัพมหาอำนาจ  พวกเขาก็ใช้คำว่าโดดเด่นเช่นกัน  อย่างไรก็ตามพวกเขาใช้เป็นชื่อของผู้นำทหารบางคน ในตอนนั้นผู้นำทหารมีจำนวนมากมาย และนักสู้ผู้แข็งแกร่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้นำทหาร  แต่ก็มีผู้นำทหารบางคนที่ถือว่าพิเศษ  ในด้านพิเศษของตนเองพวกเขาบรรลุความสำเร็จเกินกว่าคนอื่น และผู้นำทหารเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำทหารที่โดดเด่น

ผู้นำทหารที่โดดเด่นแต่ละคนจะมีแตกต่างกันไป

ขุนพลวิญญาณผู้นำทหารแทบจะไม่เป็นผู้นำทหารที่โดดเด่น  พวกเขาแตกต่างชัดเจน  ขุนพลวิญญาณเป็นร่างที่ละเอียด  เหมือนกับถังอี้ไม่ว่าร่างของเขาหรือดาบฟันขาม้าของเขาที่เคยกวัดแกว่งฟาดฟัน เป็นร่างละเอียดแต่แข็งแกร่งและมันได้กลายเป็นของจริง

ถ้าถังอี้ตาย ดาบฟันขาม้าจะไม่หายไปพร้อมกับเขา  แต่ยังคงมีชีวิตต่อไปในโลก

สำหรับผู้นำทหารระดับเดียวกันผู้นำทหารที่โดดเด่นจะแข็งแกร่งกว่าผู้นำทหารธรรมดาอยู่มากมายนัก

ในอดีตกองทัพดาวกางเขนใต้จะแข็งแกร่งมากเพราะพวกเขามีผู้นำทหารโดดเด่นมากกว่าอีกสองกองทัพ แต่สำหรับหอวิญญาณสำหรับผลิตขุนพลวิญญาณผู้นำทหารที่โดดเด่นเขาเคยได้ยินมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นประจักษ์กับตาตัวเอง

แต่นี่อาจเป็นขุนพลวิญญาณผู้นำทหารโดดเด่นที่ระดับยศต่ำที่สุดของประวัติศาสตร์กองทัพ  จ่าสิบเอกพิเศษ ผู้นำทหารโดดเด่น

ปิงหัวเราะเยาะตนเองรู้สึกว่า  รู้สึกว่าเขาไม่เคยพอใจอย่างแท้จริง สำหรับเขาที่ไม่ค่อยได้เห็นขุนพลวิญญาณผู้นำทหารโดดเด่น  แต่เขาก็ยังคงบ่นว่าระดับนั้นต่ำเกินไป

สำหรับถังอี้ยกระดับยศเป็นจ่าสิบเอกพิเศษแล้ว  ปิงยิ่งดีใจมีความสุขมาก

และเขายังเป็นยังเป็นผู้นำทหารโดดเด่น

“พลังสั่งการของเจ้ามีเท่าไหร่?”ปิงถามถังอี้ เขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าผู้นำทหารโดดเด่นพิเศษระดับจ่าสิบเอกพิเศษจะสั่งการทหารได้เท่าไหร่

“500” ถังอี้ตอบ

“500?”  ปิงตะลึง จากนั้นผงกศีรษะ  นั่นเกินกว่าที่เขาประเมินไว้  จ่าสิบเอกพิเศษโดยทั่วไปสามารถสั่งการได้200  และสำหรับถังอี้สามารถสั่งการได้500  ผู้นำทหารผู้โดดเด่นพิเศษทรงพลังมากจริงๆ  สำหรับอำนาจสั่งการของเขาอยู่ในมาตรฐานเดียวกับร้อยโท  แต่ปิงสบายแล้ว  ผู้นำทหารผู้โดดเด่นนั้นทรงพลัง ไม่ใช่แค่นั้นไม่ว่าเขาจะทรงพลังขนาดไหน เขาก็ยังเป็นแค่จ่าสิบเอกพิเศษ  ดังนั้นเขาไม่ได้คาดหวังนัก

“เจ้ายังต้องการจะนำกองทัพหมาป่าอีกหรือเปล่า?”  ปิงถาม

“ขอรับ!”  ถังอี้ตอบตามตรง

“อืม, ดีมากงั้นจากวันนี้เป็นต้นไป, เจ้าจะต้องเป็นผู้บัญชาการใหญ่กองทัพดาวหมาป่า”  ปิงพูดเสียงเข้มจากนั้นหน้าไปทางถังโฉ่ว  “จ่าสิบเอกพิเศษถังโฉ่ว  ตอนนี้ข้าจะมอบหมายภารกิจให้เจ้า”

ถังโฉ่วสีหน้าเข้มรับคำ “ขอรับ..ท่าน!”

“เจ้าจะต้องอยู่ประจำการค่ายฝึกฝนประจำเมืองสามวิญญาณและมีงานให้ทำสองอย่างคือ หนึ่งช่วยผี่ผาจัดการห้องวางแผน  แต่ตอนนี้ยังไม่มีแผนอะไรมาก  ดังนั้นงานที่สองของเจ้าก็คือ  จัดตารางฝึกฝนอบรมประจำวัน เข้าใจไหม?”  ปิงมองดูถังโฉ่ว

“ขอรับ!”  ถังโฉ่วรับคำเคร่งครัด

“เอาล่ะ,เจ้าสามารกลับไปยังเมืองสามวิญญาณได้แล้วตอนนี้”

“ขอรับ!”ถังโฉ่วกลับหลังหันและบินไปยังตำแหน่งเมืองสามวิญญาณ

ปิงมองดูห้องฆ่าตัวตาย ไม่มีความเคลื่อนไหวจากในนั้นสักนิด

ถังเทียน, จงพยายามให้เต็มที่

ปิงตะโกนในใจ และจากนั้นเขาหันกลับมาทันที  “ไปกันเถอะ,เราจะต้องกลับไปยังเผ่าหมาป่า”

เมื่อปิงกับถังอี้กลับมา พวกเขาได้รับข่าวอีกข่าวหนึ่งคือเย่จิ่วยื่นคำขาด ภายในเวลาห้าวัน ถ้าพวกเขาไม่ส่งมอบกระบี่ปลอดสำเนียงพวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา

เป็นคำขาด แต่ปิงโยนทิ้งลงขยะอย่างไม่ไยดี

ใจของเขายังเต็มไปด้วยความกังวล  จนถึงบัดนี้ ยี่สิบวันผ่านไปแล้ว  แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากใครในกลุ่มเลย

มีเวลาเหลืออีกห้าวัน...

ปิงมองดูเนินทรายห่างไกลออกไป  แสงอาทิตย์ยามอัสดงค์ย้อมผืนเนินทรายแดงฉานเหมือนกับเป็นลางของสงครามครั้งใหญ่

หนุ่มน้อยถัง, เจ้าต้องพยายามอย่างสุดฝีมือนะ

ปิงพึมพำในใจ และเมื่อเขาเรียกความรู้สึกกลับมา เขาอดหัวเราะไม่ได้  เขาเอาความไว้วางใจไปฝากไว้กับคนที่ไม่น่าเชื่อถือโดยไม่รู้ตัว

นั่นหมายความว่า ปิงพบว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ  ที่ใจของเขามักรู้สึกว่าชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับตัวถังเทียน

เจ้าเด็กงี่เง่านั่นเหมือนเด็กโรคจิตยังจะทนแรงกระตุ้นนี่ได้อีกหรือ?

ความจริง ถ้าเทียบเรื่องความฉลาด คงมีเพียงคนเดียวที่ถังเทียนสามารถเอาชนะได้นั่นก็คืออาโมรี่

ว่ากันเรื่องความแข็งแกร่งของเจ้าเด็กนั่นแข็งแรงก็จริง  แต่ในแต่ละครั้งไม่อาจพูดออกมาได้เลย

ความจริงข้าหลับไปนานมากมาตรฐานข้าก็เลยลดลงจึงทำให้ผิดพลาดได้งาย

เฮ้, ปิง เจ้าสูญเสียผู้กองที่ตัวเจ้าเองชื่นชมเสมอ

เฮ้ ปิง เจ้าได้แต่พึ่งพาตัวเจ้าเองเท่านั้น!

หัวใจของปิงค่อยๆ สงบลง เขานั่งลงกับเนินทรายและพยัคฆ์ฟ้าที่อยู่ข้างๆ ตัวเขาต่างนั่งมองดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า

ในวันที่สี่ เป็นวันสุดท้ายของการยื่นคำขาด

ปิงนั่งอยู่ที่เนินทรายเป็นเวลาสี่วันสี่คืนในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปหาหัวหม่าเอ๋อ “ปิดประตูดวงดาวที่เชื่อมกับกลุ่มดาววาฬ”

หัวหม่าเอ๋อใจเต้นแรง แต่นางไม่พูดไร้สาระ และแล่นออกไปอย่างรวดเร็วส่งคำสั่งไปตามที่ตกลงล่วงหน้า

สิบนาทีต่อมา นางจึงกลับมา  “นายท่าน ประตูดวงดาวปิดแล้ว”

“ดีมาก!”ปิงผงกศีรษะ และล้วงสมบัติออกมา เขาเตรียมการมายาวนาน

สมบัติดวงดาวชั้นทองรูปสามเหลี่ยมสีทองสดใสจากกลุ่มดาวสามเหลี่ยม‘วังวนสามเหลี่ยมทอง’ ปิงใช้หนึ่งล้านเหรียญทองซื้อสมบัติดวงดาวชิ้นนี้  มันสามารถใช้ผลิตสร้างพลังงานไร้สภาพและสร้างความปั่นป่วนได้

มันคือดาวข่มของประตูเกียรติยศชาวยุทธของสมาพันธ์ชาวยุทธซึ่งเป็นสมบัติดวงดาวที่ใช้ในการขนส่ง

วิ้งงงง!

คลื่นไร้สภาพแผ่ออกมาจากสมบัติสามเหลี่ยมทอง

ยี่สิบนาทีต่อมาข่าวประตูดวงดาวที่เชื่อมโยงกับกลุ่มดาววาฬถูกปิดก็แพร่กระจายออกไปในวงกว้างและไกล

เบื้องบนของกลุ่มดาววาฬถึงกับโกรธ

ที่น่าเดือดดาลก็คือเย่จิ่วก็เพิ่งจะได้รับข่าวและเขาหน้าเขียวคล้ำ  เขาถูกถังเทียนเล่นแง่จริงๆถังเทียนไม่เคยมีความคิดจะส่งมอบกระบี่เลย

“เนื่องจากพวกเจ้าทุกคนหาที่ตาย,อย่างนั้นข้าจะส่งเสริมความปรารถนาของพวกเจ้า”

เย่จิ่วกัดฟันและถ่มน้ำลาย  ตาของเขาฉายแววโกรธ สีหน้าชั่วร้ายบริวารที่อยู่ข้างตัวเขากำลังสั่นด้วยความกลัว

“บอกพวกเขาให้เคลื่อนไหว!”

บริวารของเขาส่งคำสั่งให้โจมตีทันที

ความโกรธของเย่จิ่วถูกแทนที่ด้วยสายตาที่เย็นชา “ฮึ่ม,ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็นวิธีการของข้า”

******************

ดวงอาทิตย์อุทัยสาดแสงไปทั่วท้องที่ทะเลทราย

เงาร่างหนึ่งปรากฏตัวในอากาศของกลุ่มดาวหมาป่าและไม่มีใครสังเกตการมาถึงของเขา

“จิ่งหาว!  ข้ารู้ว่าเจ้าจะมา  ออกมาเถอะ”

เสียงแหบต่ำของเย่เฉาเกอดังขึ้นเหมือนสายฟ้าดังกึกก้องไปทั่ว

คำพูดของเขาดังขึ้นทันทีโดยไม่มีคำเตือน ชาวเผ่าหมาป่าหยุดการกระทำทั้งหมดและมองไปที่ท้องฟ้า

หัวใจของปิงเครียด!  เขาไม่เคยคิดว่าศัตรูจะมาถึงที่นี่รวดเร็ว  พวกเขาเพิ่งจะปิดประตูดวงดาว  แต่ศัตรูก็มาถึงตรงนั้นแล้วเห็นได้ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามเตรียมการไว้ก่อนแล้ว

เดี๋ยวก่อน จิ่งหาว!

ร่างๆ หนึ่งพุ่งขึ้นไปเหมือนลูกธนู  เป็นจิ่งหาว

“พี่เย่”สีหน้าของจิ่งหาวสงบ  เขาไม่ประหลาดใจ ด้วยความสัมพันธ์ของเขากับถังเทียนทำให้การกระทำของเขาทั้งหมดถูกจับตาอย่างต่อเนื่อง  คาดว่าการที่เขามาถึงกลุ่มดาวหมาป่านั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

“เปลี่ยนสถานที่กันเถอะ”  เสียงของเย่เฉาเกอกล่าวราบเรียบ  “ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว”

จิ่งหาวตะลึงเล็กน้อย คำพูดของเย่เฉาเกอมีความหมายลึกซึ้ง

แต่ข้อเสนอของเย่เฉาเกอสะดุดใจเขาเนื่องจากเป็นพื้นที่ของเผ่าหมาป่า ถ้าพวกเขาเริ่มต่อสู้กันที่นั่น ชาวเผ่ามีแนวโน้มว่าจะถูกทำลาย ดังนั้นเขาพยักหน้า “ก็ได้”

พูดจบเขาแล่นออกไปก่อน

เย่เฉาเกอติดตามไปอย่างไม่ลังเลใจ

เมื่อได้ยินคำว่า “พี่เย่”  เขาตกใจ เย่เฉาเกอ! แต่เมื่อได้ยินว่าจิ่งหาวนำเย่เฉาเกอออกไปไกลๆ  เขาถอนหายใจโล่งอก เย่เฉาเกอคือกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเย่จิ่วอย่างเห็นได้ชัด  และการที่เขาถูกล่อออกไปก็เป็นขจัดภัยคุกคามใหญ่ต่อพวกเขาอย่างมิต้องสงสัย

ทันใดนั้นหน่วยลาดตระเวนวิ่งมาทางเขาและหอบหายใจ

“นายท่านมีกองทัพปรากฏทางทิศตะวันออกจำนวน 200 คน”

“นายท่าน,มีกองกำลังปรากฏทางทิศตะวันตกจำนวน 500 คน”

“นายท่านมีคนสองคนกำลังเข้ามาใกล้เราจากทางทิศเหนือ และดูเหมือนเจตนาของเขาไม่ได้มาดีเลย  พวกเขามากันเร็วมาก”

ปิงสีหน้าเปลี่ยน เขาประเมินเย่จิ่วต่ำไป  กำลังสนับสนุนของเย่จิ่วใหญ่มากจริงๆ

“เฮ้ลุง,  ลุงกลัวแล้วเหรอ?  ฮ่าฮ่าฮ่าหนุ่มนักสู้ผู้เบิกบานมาช่วยลุงแล้ว” เสียงดังมีความสุขของอาโมรี่ ดังขึ้นด้านหลังเขา

กลิ่นอายที่เยือกเย็นเสียดกระดูกกำลังแผ่ออกมา

ปิงหันศีรษะไปดู

หันปิงหนิงที่อยู่ด้านข้างอาโมรี่ลดกระบี่นางลงและเดินเข้ามาสมทบ

“ในที่สุดข้าก็มาร่วมสนุกได้ทันเวลา”จู่ๆ ภาพหนึ่งค่อยๆ ผุดออกมาจากความมืด ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าซือหม่าเซียงซานออกมาตั้งแต่เมื่อใด

“ฮึ,ข้าคงไม่สายหรอกนะ”  เหลียงชิวหอบทั่วทั้งตัวเขาเปียก ขาเปียก ลูกตุ้มถ่วงมือและขาของเขายังคงอยู่

“นี่, ลุง,ฟลามิงโกของข้าอยู่ไหน?”

เสียงของหลิงซิ่วซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายดังขึ้นด้านหลังเขา

ปิงต้องการจะตอบ แต่ทันใดนั้นซือหม่าเซียงซานส่งเสียง“เอ๋..” เขาหันศีรษะไปมองและเห็นเนินทรายห่างออกไป  ขณะที่คนอื่นจับตามองตาม

สองสามวินาทีต่อมามือกระบี่ในชุดยาวฉีกขาดรุ่งริ่งปรากฏตัวที่เนินทราย ดวงตาของเขาเดียวดายแต่เยือกเย็นเหมือนสายน้ำ

อาเฮ่อ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด