ตอนที่ 328 หอวิญญาณ
ฟงโฉ่วเข้าไปโดยไม่ลังเล
ปิงจ้องมองประตูบรอนซ์ต่อหน้าเขาและยินดีเล็กน้อย
จะเรียกว่าประตูก็ไม่ถูกความจริงมันเป็นห้องคุมขังเรียกว่าหอวิญญาณ ตลอดทั้งอาคารสร้างด้วยบรอนซ์ของดาวกางเขนใต้ และสูตรที่สร้างในรุ่นนั้นมักจะเป็นความลับ
รอบๆผนังหอวิญญาณปกคลุมด้วยลายข่ายรูปแบบที่เป็นวิชาจักรกล มีมากมายและชิดติดกันมองดูเหมือนกับลายเส้นบนใบไม้ หอวิญญาณแต่เดิมมาจากผนังวิทยายุทธและเป็นสถานที่ผลิตเทคนิคจักรกลของกลุ่มดาวกางเขนใต้ เนื่องจากการฝืนต่อสู้ทำให้นายทหารหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและความคิดอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของผู้บัญชาการโดยใช้ผนังวิทยายุทธสร้างขุนพลวิญญาณผู้นำทหารเพื่อคลี่คลายวิกฤติ
หลังจากนั้น ต่อจากผนังวิชาวิทยายุทธก็มีความก้าวหน้าปรากฏเป็นหอวิญญาณขึ้น มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ดีขึ้นด้วยระยะเวลาที่สั้นกว่า ผนังวิชาวิทยายุทธคือการชำระขุนพลวิญญาณและต้องใช้เวลาในการกินการ์ดวิญญาณนาน แต่หอวิญญาณเป็นกระบวนการที่รีบเร่ง ในช่วงเวลาสงคราม ศัตรูจะไม่ยอมให้เวลาท่านมากนัก
ในค่ายทหารทุกแห่งจะมีหอวิญญาณถูกสร้างไว้ เพียงแค่ในกรณีฉุกเฉินกำลังพลไม่เพียงพอ แม้ว่าขุนพลวิญญาณจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับผู้นำทหาร แต่ว่าในยามที่ต้องการ ถือว่าทดแทนกันได้ดี
ในประตูบรอนซ์ลายเส้นที่ทั้งไม่ชัดและชัดขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทุกแถวจะมีรูปสี่เหลี่ยมสามรูป รวมแล้วสิบแปดระดับ สิบแปดระดับแสดงว่าระดับทหารสิบแปดระดับของกองทัพดาวกางเขนใต้และในทุกระดับจำเป็นต้องใช้การ์ดวิญญาณสามใบ
ทหารมีสามระดับจ่ามีสี่ระดับ, นายกองร้อยมีสี่ระดับ, ผู้การมีสามระดับ และนายพลมีสามระดับระดับสูงที่สุดคือเป็นนายพล
ถังอี้เป็นจ่าตรีชั้นทองและอยู่ในขั้นที่หก
ยศทหารของปิงซึ่งถังเทียนยังไม่รู้ก็คือพลตรีระดับสิบห้า
สีหน้าของปิงเคร่งเครียด เขาเอากระเป๋าเอกสารออกมาและเปิดออก ข้างในเต็มไปด้วยการ์ดวิญญาณ เขาเอาการ์ดออกมาทั้งหมด ในอดีตเขาเคยใช้หอวิญญาณมากมายหลายครั้ง สมควรจะบอกว่าเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำในอดีต และจะไม่มีความแปรปรวนทางอารมณ์ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกกังวลบ้างเล็กน้อย?
ปิงหัวเราะให้กับตนเองจากนั้นอารมณ์ที่ปรากฏในสีหน้าเขาก็หายไป
หลังจากใช้หอวิญญาณหลายครั้งคราเขาย่อมมีประสบการณ์เป็นธรรมดา ฟงโฉ่วคือขุนพลวิญญาณระดับแปด ดังนั้นเขาจึงเริ่มจากระดับแปด เขาเลือกการ์ดวิทยายุทธระดับแปดออกมาสามใบและวางไว้ในแถวล่างสุดที่ประตูหอวิญญาณ กรอบสี่เหลี่ยมทุกรูปจะมีการ์ดวิญญาณวางไว้หนึ่งใบ และการ์ดวิญญาณจะถูกสูบพลังไว้ และแสงสีเงินสว่างนวลตา แสงสีเงินนี้จะผสานเข้ากับลายเส้นบนผนังอย่างรวดเร็ว
ตาของปิงแวววาว แสงสีเงินแทรกซึมเข้าไปอย่างรวดเร็ว
นั่นคือสัญญาณที่ดี ปิงสังเกตว่าความมุ่งมั่นของฟงโฉ่วกล้าแข็งมากกว่าเขา นิ้วของเขาขยับอย่างรวดเร็ว และการ์ดเงินอีกสามใบถูกวางไว้ในรูปสี่เหลี่ยมแถวที่สอง
แสงสีเงินของการ์ดสามใบเปล่งออกมาพร้อมกัน และซึมเข้าไปในผนังโดยรอบ
สีหน้าของปิงเคร่งเครียด นิ้วของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และการ์ดทั้งหมดถูกวางเข้าในช่องเหลี่ยมประตู การ์ดทั้งหมดนี้ปิงเลือกมาไว้เตรียมการเป็นพิเศษ หลังจากนั้นการ์ดก็ส่องแสง
ในช่วงเวลาสั้นๆสิบนาที ปิงใส่การ์ดไปแล้วถึงสิบห้าใบ นั่นหมายความว่าฟงโฉ่วในตอนนี้เป็นจ่าเอกซึ่งมีระดับต่ำกว่าถังอี้หนึ่งระดับ
ครั้งนี้ความเร็วของแสงเงินที่กำลังซึมซาบเริ่มช้าลงและหลังจากผ่านไปอีกสิบนาทีการ์ดอีกสามใบก็เริ่มเปล่งแสง ฟงโฉ่วแสดงออกถึงพลังที่กล้าแข็งกว่า หอวิญญาณมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งกว่าผนังวิทยายุทธและการ์ดวิญญาณที่อยู่ในมือปิงก็มากกว่าในอดีต แต่ที่สำคัญที่สุดฟงโฉ่วเป็นขุนพลวิญญาณนักสู้ขณะที่กรงเล็บภูตพรายเหลือเพียงแค่ปราณระดับเงิน
วิญญาณนักสู้ของฟงโฉ่วยังไม่สมบูรณ์นัก แต่เมื่อเทียบกับกรงเล็บภูตพรายที่เหลือแต่ปราณเงิน เขายังนับว่าแกร่งกว่ามาก
ที่ระดับเจ็ด รอบๆหอวิญญาณดูเหมือนจะถูกคลุมไปด้วยข่ายเงินดูงดงามมาก แต่ก็หมายความว่าแสงสีเงินนั้นเต็ม ปิงไม่พบว่าเป็นเรื่องแปลก เนื่องจากเขารู้ว่าที่ระดับเจ็ดถึงแปดเป็นเรื่องยากมาก
ที่ระดับเจ็ดก็คือระดับจ่าสิบเอก ขณะที่ระดับแปดก็คือระดับจ่าสิบเอกพิเศษ
เกี่ยวกับพลังสั่งการจ่าสิบเอกสามารถสั่งการได้ร้อยคน ขณะที่จ่าสิบเอกพิเศษสั่งได้สองร้อยคน แต่ความแตกต่างไม่เพียงแค่จำนวนหนึ่งร้อยเท่านั้น แต่ในเรื่องเกี่ยวกับความรู้ในเรื่องกลยุทธ์ของทั้งสองยังแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวงเมื่อถึงระดับร้อยโท ผู้นำทหารจะเริ่มเปลี่ยนแปลง บางรายจะแข็งแกร่งขึ้นหรือบางรายอาจกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญควบคุมพลังรังสือและบางรายอาจเป็นผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมกลยุทธ์
เมื่อแสงสีเงินเปล่งความสว่างเต็มที่ ปิงมีการ์ดทองอยู่หนึ่งใบเป็นการ์ดวิชาระดับแปด
ปิงวางการ์ดทองลงในช่องสี่เหลี่ยมแรกของระดับที่แปด เมื่อเสียบเข้าไปแล้วแสงสว่างก็ถูกปลดปล่อยออกมา และแสงสีทองเข้มก็เริ่มซึมซาบไปตามข่ายเส้นเงิน ข่ายเส้นเงินนี้ดูเหมือนใยแมงมุมที่มีด้ายสีทองเส้นหนึ่งอยู่ในนั้น
สองชั่วโมงต่อมา แสงสีทองของการ์ดค่อยๆ หมองลง
จากนั้นนั้นปิงหยิบการ์ดใบที่สองซึ่งยังคงเป็นการ์ดทองระดับแปด เมื่อวางการ์ดลงไป แสงสีทองเหมือนกันก็ถูกปล่อยออกมาแต่การดูดซึมแสงสีทองในข่ายเส้นเงินช้าลงอย่างมาก
หลังจากผ่านไปเจ็ดชั่วโมงเต็มแสงจากการ์ดวิญญาณใบที่สองก็ถูกดูดซึมซับได้สำเร็จ
ปิงรู้ว่าฟงโฉ่วกลืนกินจนเต็มพิกัดแล้ว แต่ยังวางการ์ดทองใบที่สามลงไป
ใช้เวลาอีกยี่สิบสี่ชั่วโมงสำหรับดูดซับการ์ดทองอย่างเต็มที่และมันคงที่โดยไม่มีการขยับอะไรทั้งนั้น ปิงโล่งใจ เป็นความรู้สึกที่เร้าใจมาก
ทันใดนั้นการ์ดทั้งยี่สิบสี่ใบบนผนังสลายหายไปกลายเป็นควัน
ประตูบรอนซ์ค่อยๆเปิดออก
ร่างผอมบางร่างหนึ่งปรากฏ ขุนพลวิญญาณที่ดูสุภาพคนหนึ่งเดินออกมาช้าๆจากกลางประตู และคำนับปิง “ข้าพเจ้าจ่าสิบเอกพิเศษถังโฉ่วขอรายงานตัวรับภารกิจขอรับ!”
ลักษณะของถังโฉ่วดูไม่เหมือนตอนที่เขาเป็นฟงโฉ่วมิเพียงแต่ไม่อัปลักษณ์อีกต่อไป แต่เขายังดูหล่อขึ้นเหมือนคนอายุสี่สิบปี เขามีร่างผอม นัยน์ตาเต็มไปด้วยพลังกระตือรือร้น ให้ความรู้สึกว่างามสง่าเพียงแต่มือของเขาว่างเปล่าปราศจากอาวุธ
ปิงไตร่ตรองชั่วขณะและถาม “จ่าสิบเอกพิเศษ, เชิญแนะนำตัวเอง!”
ถังโฉ่วคำนับ “ขอรับท่าน, ข้าพเจ้าถังโฉ่ว, ระดับแปด,ความสามารถในการสู้ไม่ดีนัก, ความสามารถทางวิทยายุทธธรรมดา,ความฉลาดใช้กลยุทธอยู่ในระดับดี”
ปิงประหลาดใจความจริงกลับกลายเป็นว่าเขาขาดความสมดุลอย่างมากนี่เป็นกรณีทั่วไปของผู้ช่วยนายกอง ประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคืออยู่ในห้องวางแผนรบมากกว่าอยู่ในสนามรบ
ฟงโฉ่วผู้กระหายการต่อสู้กลับกลายเป็นนายทหารผู้ช่วยช่างคาดไม่ถึงเลยจริงๆ
“ดีแล้ว จ่าสิบเอกพิเศษ,เชิญรอรับคำสั่งอยู่ข้างๆ ก่อน” ปิงผงกศีรษะ
“ขอรับ!” ถังโฉ่วยืนอยู่ข้างๆ อย่างว่าง่าย
ปิงต้องการจะเตือนถังอี้บางอย่าง แต่ถังอี้เดินเข้าประตูบรอนซ์ไปแล้ว ปิงจึงค่อยเข้าใจชัด รากฐานของถังอี้นั้นด้อยมาก ถ้าเขาทำก่อนที่กรงเล็บภูตพรายจะหายไป ปิงคาดว่าความมุ่งมั่นของกรงเล็บภูตพรายมีแนวโน้มว่าอาจจะไปได้ถึงขั้นนายร้อยเอก แต่กรงเล็บภูตพรายเหลือแต่เพียงวิญญาณที่อ่อนแอเกินไป แต่เพราะวิญญาณที่อ่อนนี่เองสามารถผลิตจ่าตรีชั้นทองออกมาได้ ปิงก็ประหลาดใจมากแล้ว
นั่นหมายความว่ามาตรฐานของถังอี้แทบจะเค้นออกมาหมด
แม้ว่าอัตราความสำเร็จของหอวิญญาณจะสูงมากกว่าผนังวิทยายุทธ แต่ก็ยังมีอันตรายจากความล้มเหลว ตราบใดที่ล้มเหลวอย่างนั้นทุกอย่างจะสลายกลายเป็นควันไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ให้ มีประสบการณ์ในอดีตซึ่งพวกเขาเคยผ่านการแปลงเหมือนถังอี้มาก่อน แต่อันตรายและความเสี่ยงก็สูง
แต่ปิงรู้สึกถึงความมุ่งมั่นของถังอี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธ
ประตูบรอนซ์ปิดแน่นอีกครั้งและที่ระดับหนึ่งถึงระดับเจ็ด ช่องสี่เหลี่ยมทั้งหมดเป็นสีเทาหม่น
ปิงวางการ์ดเงินลงในช่องสี่เหลี่ยมแรกในระดับเจ็ด การ์ดเงินปล่อยแสงทันทีและมีเสถียรภาพทำให้ปิงโล่งใจ
เมื่อแสงเงินจากการ์ดใบแรกหมองปิงวางการ์ดเงินใบที่สอง
แสงเงินฉายออกมาจากการ์ดเงินทันทีทำให้ปิงชักเครียด ไม่ดีเลย!
เป็นไปตามคาดแสงเงินเริ่มหมองและใกล้จะดับ ครู่หนึ่งที่มันมีประกายแพรวพราวจากนั้นก็หมองจนแทบไม่เหลือแสงเหมือนกับว่าไม่มีพลังงานอีกต่อไป
ปิงมองดูการ์ดเงินอย่างกังวลและแสงที่กระพริบหมายความว่าถังอี้กำลังผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดกับจิตวิญญาณยุทธภายในการ์ด แสงกระพริบนั้นหมายความว่าการต่อสู้ดุเดือดมาก
การกลืนกินเป็นกระบวนการที่โหดร้ายมาก
ความรู้สึกของปิงจุกอยู่ที่คอหอย หรือนี่จะเป็นเหตุผล เพราะตอนนี้เขาคือขุนพลวิญญาณเช่นกัน? และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้เศร้าและอารมณ์เสีย? เมื่อเขาใช้หอวิญญาณในอดีต เขาไม่มีความรู้สึกเช่นนั้น... เขากลับรู้สึกว่าบริวารของเขาอยู่ในห้วงความเป็นความตายมากกว่า...
อย่างนั้นข้าว่าข้าไม่ใช่คนหัวใจเย็นชา ข้าเป็นเหมือนในอดีต
ปิงหัวเราะเยาะตนเอง
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าแสงเงินที่กำลังกระพริบก็ค่อยๆ เสถียรขึ้น ผ่านไปอีกสามชั่วโมง แสงเงินของการ์ดวิทยายุทธก็เริ่มหมอง ผลกระทบของถังอี้เมื่อเทียบกับถังโฉ่วอ่อนกว่ามาก
แต่ปิงยังคงวางการ์ดเงินใบที่สามลงไป
แสงสีเงินกระจายออกการ์ดวิญญาณมั่นคงมากทำให้ปิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่เหมือนกับครั้งสุดท้ายที่กลายเป็นสภาพรุนแรง แต่การดูดกลืนครั้งนี้ใช้เวลาสิบชั่วโมงเต็ม
เขากลายเป็นจ่าสิบเอกแล้ว
แต่....
การ์ดวิญญาณบนประตูยังไม่ดับ นั่นหมายความว่าการต่อสู้ยังไม่จบ
ถังอี้ปรารถนาจะไปต่อ
ปิงนิ้วสั่น เจ้าบ้านี่ อารมณ์ของเขาช่างเหมือนกับกรงเล็บภูตพรายเสียจริง
แต่ชั่วขณะนั้นเขาไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าถังอี้ไม่ต้องการจบ อย่างนั้นก็จบไม่ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะถือว่าล้มเหลว ปิงหายใจลึก นัยน์ตาเป็นประกายเจิดจ้า เนื่องจากเจ้าต้องการทำต่อไป อย่างนั้นก็เอาให้ดีที่สุดไปเลย
การ์ดทองระดับแปดถูกวางในช่องระดับแปดช่องแรก
แสงทองจากการ์ดเปล่งออกมาและเสถียรหลังจากผ่านไปชั่วโมงแรก แสงสีทองที่วาบออกมามีเสถียรภาพอย่างเห็นได้ชัด ความเร็วจากการดูดซึมทำให้ปิงตกตะลึง
อะไร อะไร อะไรกัน...
ปิงสาบานได้ว่าเขาใช้หอวิญญาณมามากมายหลายครั้ง แต่นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นภาพเช่นนี้ การ์ดวิญญาณระดับเจ็ดอันตรายและอาจล้มเหลวได้ แต่การ์ดทองระดับแปดกลับมั่นคงมีเสถียรภาพ?
นี่มันเหตุผลบ้าอะไรกัน?
ลำแสงสีทองยังคงซึมผ่านไปตามเส้นข่ายเงินต่อไป
หนึ่งชั่วโมง
เขาใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงการ์ดทองระดับแปดก็ถูกดูดซับเข้าไปหมด
เมื่อปิงวางการ์ดทองใบที่สองลงไป สมองของเขาก็ทำงานได้ไม่ดีอีกต่อไป
สองชั่วโมง!
นั่นคือเวลาที่ใช้ในการดูดซับพลังจากการ์ดทองใบที่สองและแสงจึงหมองลงในที่สุด
ปิงประหลาดใจอยู่ถึงสองชั่วโมงเต็มและเตรียมวางการ์ดใบที่สาม
เขาตื่นเต้นอย่างมาก ถังอี้เลื่อนยศไปถึงระดับจ่าสิบเอกพิเศษแล้ว
ในชั่วขณะนั้นการ์ดทองใบแรกถูกทำลายทันทีและกลายเป็นควันหายไปฉากภาพที่ปรากฏต่อหน้าปิงกลายเป็นเรื่องแปลก การ์ดทองใบที่สองก็เริ่มอับแสงลง แต่พื้นที่ซ้ายและขวาของมันว่างเปล่า
ปิงตาแทบถลนสีหน้าของเขาราวกับกำลังเจอผีหลอก
เขาเหมือนกับรูปปั้นดินน้ำมันยืนอึ้งอยู่กับที่จ้องมองประตูบรอนซ์
นั่น...นั่นมัน....