ตอนที่แล้วตอนที่ 324 ทัศนคติของกลุ่มดาวคนยิงธนู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 326 ม่อเว่ยเทียนตกตะลึง

ตอนที่ 325 จิ่งหาวตัดสินใจ


จิ่วหาวเก็บสัมภาระของตน

“ศิษย์พี่” ซินเมิ่งฉีเรียกอย่างอ่อนโยนนางแนะนำ “อย่าตำหนิอาจารย์เลย เรื่องระหว่างเย่จิ่วกับอาจารย์ในอดีตทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าอาจารย์   เพราะเขากดดันเรา อาจารย์จึงทำอะไรไม่ได้  ตอนนี้อาจารย์ยังเสียใจกับเหตุการณ์ในอดีต”

“ข้ารู้” จิ่งหาวตอบโดยไม่เงยหน้า

“ศิษย์พี่ตั้งใจจะไปกลุ่มดาวหมาป่าใช่ไหม?”  ซินเมิ่งฉีถาม

“อืม” จิ่งหาวตอบขณะเก็บเของ “ข้าจะไปแนะนำให้ถังเทียนมอบกระบี่ปลอดสำเนียงออกมา”

ซินเมิ่งฉีหัวเราะเบาๆ  “ศิษย์พี่ เมื่อท่านโกหกเสียงของท่านจะไม่ปกติ”  นางตอบอย่างอ่อนโยน  “ไม่ว่าศิษย์พี่จะทำอะไร,เมิ่งฉีจะเห็นด้วยกับท่าน เพราะในใจของเมิ่งฉี ศิษย์พี่คือคนที่ใจใหญ่ที่สุดในโลก”

จิ่งหาวตื่นเต้น เขาเงยหน้าและยืนอยู่ที่เดิมมองดูศิษย์น้องผู้สุภาพอ่อนโยนของเขาและความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ผุดขึ้นมาในใจเขา แต่เขาได้แต่พูดออกมาไม่กี่คำ “ศิษย์น้อง ข้าขอโทษด้วย”

“ทำไมศิษย์พี่ต้องของโทษด้วยเล่า?”  ซินเมิ่งฉีหัวเราะด้วยท่าทางเรียบร้อย “มักจะมีอยู่หลายเรื่องที่ไม่เหลือทางเลือกไว้เลย  และศิษย์พี่กำลังคิดว่าทำสิ่งที่สำคัญที่สุด  ข้าเชื่อใจศิษย์พี่!  คนที่ศิษย์พี่มองดูยกย่องต้องมีบุคลิกแข็งแกร่งมากเป็นแน่ ศิษย์พี่เตรียมพร้อมหรือยัง?”

จิ่งหาวส่ายหัว  “ข้าเข้าใจน้องถังดี  เขาจะไม่ยอมสละกระบี่ปลอดสำเนียงแน่นอน  ทั้งสี่คนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา และพวกเขาอาจจะก่อการคิดต่อต้านสมาพันธ์ชาวยุทธ คงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะต้องสู้กับเย่เฉาเกอ  สำหรับเรื่องนี้ อาจารย์ทำไม่ถูก  เขาเป็นอาจารย์ของข้า  และตามปกติข้าจะไม่ตำหนิเขา  แต่เนื่องจากนี่คือความผิดของเขา  ในฐานะที่เป็นศิษย์ข้ามีหน้าที่ช่วยเขา”

ซินเมิ่งฉีกังวลห่วงใยเขา  “ศิษย์พี่ ท่านต้องระมัดระวังตัว”

“ฮ่าฮ่า!”  จิ่งหาวหัวเราะ  เขาขจัดความคับข้องใจจากเมื่อไม่กี่วันออกไปและกล่าวอย่างยินดี  “ศิษย์น้องไม่ต้องห่วง ศิษย์พี่ผู้นี้ไม่ใช่จิ่งหาวคนเก่าอีกต่อไปแล้ว”

“อย่าบอกข้านะว่า...”  ซินเมิ่งฉีนัยน์ตาเป็นประกาย ปลาบปลื้มใจ

“ใช่แล้ว ในที่สุดข้าก็ฝึกสำเร็จ”  จิ่งหาวตอบอย่างเก้อเขิน “ข้าไม่สามารถรอให้ให้เย่เฉาเกอเป็นคู่ต่อสู้คนแรกของข้า”

“ศิษย์พี่ ยอดเยี่ยมที่สุด!”  ซินเมิ่งฉีชูหมัดน้อยๆ ของนาง  ในหน้าของนางเต็มไปด้วยความปลื้มใจ  “ถ้าศิษย์พี่เคยพบกับความยากลำบาก  อย่าลืมว่าท่านยังมีศิษย์น้องข้าคือศิษย์น้องตัวร้ายของท่าน!”

จิ่งหาวมองดูไหล่บอบบางของศิษย์น้อง  ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยแววจริงใจและใส่ใจและอารมณ์อ่อนไหว

ทันใดนั้นเขาก้าวเดินเข้าหานางอ้าแขนกอดศิษย์น้องของเขา

ซินเมิ่งฉีตะลึง  ตัวของนางแข็งทื่อ  นางไม่กล้าส่งเสียง  นางฝันมาหลายครั้ง และพอกลายเป็นเรื่องจริงใจของนางกลับว่างเปล่าทันที

หญิงสาวอยู่ในอ้อมกอดเขาไม่ขยับ แต่กลิ่นและความอุ่นของนางทำให้จิ่งหาวรู้สึกเจ็บปวดใจ ศิษย์น้องเขาก็รู้เช่นกันว่านี่อาจต้องใช้เวลาสองสามปี  เมื่อต่อสู้กับเย่เฉาเกอเขาจะกลายเป็นกบฎต่อต้านสมาพันธ์ชาวยุทธ

“ดูแลตัวเองด้วย ศิษย์น้อง!”

หลังจากกอดแล้วเขาปล่อยนาง และด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาแยกจากนางขณะที่หัวเราะ “ข้าไปละนะ”

เขาเดินออกไปโดยไม่ลังเล

เมื่อเงาหลังของเขาลับตาไป  หญิงสาวที่ร่างแข็งทื่อพลันหลั่งน้ำตา

*************

ปิงกลับมาที่ค่ายทหารใหม่

ไม่มีถังเทียนในค่ายทหารใหม่มันรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้น  เจ้านั่นสงสัยจริงๆ ว่าจะเป็นยังไงบ้าง...

ปิงหยุดคิดชั่วขณะ เขาไม่รู้ว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้องหรือไม่ เมื่อเขาจินตนาการว่าถังเทียนตายในห้องฆ่าตัวตาย  เขาเองก็คงจะหายไป  เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น นั่นเป็นเหมือนกับการเดิมพันของเขาเอง  ปิงหัวเราะเยาะเย้ยตนเอง  เขาโยนความคิดเช่นนั้นไว้เบื้องหลัง  เขาตัดสินใจว่าเขาจะไม่มีทางผิดแน่นอน  ศักยภาพของถังเทียนยิ่งใหญ่กว่าที่เขารู้หรือคิดออก

เขานำแผนผังค่ายทหารที่เจ็ดออกมาด้วย เขาต้องการให้เซรีนดูและรู้ว่านางสามารถซ่อมได้หรือไม่  เขาไม่ต้องการรออย่างว่างเปล่ากับค่ายทหารที่เจ็ด เขาสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง  เขาเป็นหนึ่งในนายทหารที่รอดชีวิตจากไฟสงคราม ดังนั้นความยากลำบากแบบไหนกันที่จะสั่นคลอนเขาได้

เขาสงบใจและไตร่ตรองความคิดของเขา

บทฝึกมรณะพิเศษครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายมากมายน่าทึ่ง สมบัติดวงดาวทั้งหมดแพงมาก

ตาของเขาจ้องมองฟงโฉ่วที่ลอยวนเวียนไปมาและหลังจากคิด เขาหยุด “ฟงโฉ่ว เจ้ายังต้องการจะสู้อีกไหม?”

ฟงโฉ่วตอบทันที “ใช่ข้ายังอยากจะสู้”

จากนั้นเขาตระหนักได้บางอย่างและรู้ตัวทันที  ตาของเขาเบิกโพลง  เขาถามอย่างเหลือเชื่อ  “ท่านจะช่วยให้ข้าสามารถสู้ต่อได้หรือ?”

“เป็นการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่ง” ปิงกล่าวเฉื่อยชา “เจ้าสามารถกลืนการ์ดวิทยายุทธและกลายเป็นขุนพลวิญญาณทหารเหมือนถังอี้  แต่เจ้ายังเหลือความสามารถพิเศษอยู่  พูดถึงวิชาดาบของเจ้า  ถ้าเจ้ามีความอดทนพอนะ  แน่นอนว่าก็มีโอกาสล้มเหลวด้วย และเจ้าอาจจะออกมาอย่างไม่เหลืออะไรเจ้าไตร่ตรองดูให้ดี”

“ไม่มีความจำเป็นต้องไตร่ตรอง”ฟงโฉ่วส่ายหน้าและพูดต่อ  “ข้ายอมรับ!  ตราบใดที่ข้าสามารถสู้ต่อได้  ข้าไม่ต้องการอย่างอื่น”

“เจ้าคิดให้มากๆ จะดีกว่า”  ปิงเตือน

“ไม่จำเป็น” ฟงโฉ่วสั่นหัว “ข้าเพียงแต่ค้นหาความหมายของการต่อสู้”

ปิงไม่เตือนเขาอีกต่อไปและพยักหน้า  “ก็ได้รอจนข้ากลับมาและเตรียมสิ่งของให้เจ้าก่อน”

“ขอรับ!”  ฟงโฉ่วรับคำ

*******************

ภายในห้องฆ่าตัวตายไม่มีที่สิ้นสุดและเปิดกว้าง

ถังเทียนสูดลมหายใจ  ต่อหน้าเขา มีคนๆหนึ่งที่ดูเหมือนเขาซึ่งกำลังสูดลมหายใจเหมือนกัน

ยากมากจริงๆ

เหงื่อไหลลงตามใบหน้าของถังเทียน  ลมหายใจก็หนักหน่วงเหมือนโค ในที่สุดเขาก็ประสบกับสิ่งที่เป็นเหมือนกันต่อสู้กับเขา  และเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก สิ่งที่เขามีและรู้  ฝ่ายตรงข้ามมีและรู้ทั้งหมด  แม้แต่เมื่อผ่านไปไม่กี่วัน  เมื่อเขาก้าวหน้า  ฝนตรงข้ามก็ก้าวหน้าเช่นกัน

การต่อสู้ผ่านไปสามวัน  แต่ถังเทียนยังหาทางทำให้ตนเองได้เปรียบไม่ได้

ข้าจะเอาชนะได้ยังไง?

ก่อนที่เขาจะทันคิดจบ  ฝ่ายตรงข้ามก็วิ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง

บุคลิกนิสัยฝ่ายตรงข้ามเหมือนกันกับถังเทียน  เหนียวแน่นและไม่รู้จักกลัว ชอบใช้สัญชาตญาณบุกเข้าโจมตีและโจมตีอย่างหนักหน่วง

ถังเทียนสามารถหยุดคิดได้เพียงแค่ชั่วขณะ  แต่ที่จะกัดฟันและสู้ตอบโต้เขาต้องตั้งสมาธิให้ดี  พลังทั้งหมดของเขาสามารถป้องกันพลังโจมตีที่ดุร้ายรุนแรงของถังเทียนได้

กรงเล็บเพลิงภูตพรายก็เหมือนกัน  รังสีก็เป็นอย่างเดียวกัน  เหมือนกับมังกรสองตัวกางเล็บพุ่งเข้าโรมรันพันตูกันอย่างดุร้าย

เกิดแรงระเบิดรุนแรงหนักหน่วงออกมาต่อเนื่อง  ขณะที่ร่างทั้งสองแยกออกจากกันแล้ววิ่งเข้าปะทะกันใหม่

กรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียนมีข้อบกพร่องที่เล็กมากกว่าแต่ก่อน  แต่ถังเทียนฝ่ายตรงข้ามยังคงมีเนตรราชันย์มยุราและสามารถค้นหาจุดอ่อนเล็กน้อยได้ในทันที

ทั้งสองฝ่ายยังคงค้นหาข้อตำหนิของกันอย่างต่อเนื่อง  ทั้งพยายามลดข้อบกพร่องของตนเองไปด้วย

ทั้งสองต่างก็รู้เป้าหมาย  ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้จักกันดีจนถึงว่าพวกเขาไม่สามารถจะทำความคุ้นเคยชินกันได้อีกต่อไป

ถังเทียนรู้สึกกดดันผิดหวัง  เขาพยายามกระตุ้นการทำงานตาแดง  แต่ตาแดงก็ใช้งานไม่ได้  ไม่ว่าเขาจะพยายามหนักเพียงไหนก็ตาม  ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งก่อน

สิ่งที่ทำให้ถังเทียนกลัวมากขึ้นทุกทีก็คือถังเทียนอีกฝ่ายหนึ่งก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อกระตุ้นการทำงานของตาแดงด้วย

ถ้าฝ่ายตรงข้ามกระตุ้นการทำงานของตาแดงได้สำเร็จ  เขาคงอยู่ในอันตรายเป็นแน่

โธ่เว้ย!

เขาคิดว่าเขาตกอยู่ในสถานการณ์ต่อสู้ที่ยากลำบาก แต่เขาไม่เคยคิดว่าการต่อสู้ความจริงก็ยากลำบากอยู่แล้ว

พอถึงวันที่ห้าทั้งสองฝ่ายก็หยุดในที่สุด

ทั้งสองฝ่ายต่างหมดพลังกันทั้งคู่  เป็นเวลาห้าวันห้าคืน  ทั้งสองฝ่ายแทบไม่หยุดหายใจ  และทั้งสองฝ่ายทุ่มเทต่อสู้กัน  เมื่อพวกเขาสู้จนหมดพลังปราณแท้  พวกเขาก็ใช้แรงเถื่อนล้วนๆสู้กันไม่มีใครยอมใคร  และในที่สุดเหมือนกับว่าทั้งสองฝ่ายต่างถูกทุบจนสะบักสะบอม

จะทำยังไงดี?

ถังเทียนอ้าปากหอบหายใจ  และคิดหาวิธีต่อเนื่อง

ข้าจะไม่ยอมแพ้แน่นอน

อาโมรี่รู้สึกอึดอัดเป็นที่สุด  หน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด  แต่เขาทนได้ แต่ในที่สุด เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจะครางออกมาและหมดสติ  อุปกรณ์ไม้,ตะปูเหล็กและเตียงฟันเฟืองยังคงทุบใส่ร่างของเขาต่อไป

หลังจากทุกอย่างสงบลง  อาโมรี่ยังคงหมดสติเนื้อที่แตกยับบนร่างกายของเขาจะปลดปล่อยรัศมีธาตุดินออกมาและเนื้อก็เริ่มงอกขึ้นมาทำให้แผลสมานได้อย่างน่าประหลาด

สามชั่วโมงต่อมาอาโมรี่ตื่นขึ้นในที่สุด และร่างของเขาสมบูรณ์แบบเหมือนเดิม

เสียงไม้หวดแหวกอากาศดังผ่านมาอีกครั้ง  และมันเริ่มต้นอีกครั้ง  สีหน้าเขาเปลี่ยน วงจรครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว

ปัง  ปัง ปัง!

เลือดกระเซ็นไปทุกที่  ความเจ็บปวดลึกจนถึงกระดูกของเขา  อาโมรี่ครางหน้าขาวซีดทันทีขณะที่เขาพยายามอดทนอย่างดีที่สุด

ครั้งต่อไปข้าต้องให้ถังพื้นฐานมาลองที่นี่ให้ได้สักครั้ง....

นั่นคือความคิดสุดท้ายของอาโมรี่  เมื่อเขาหมดสติไปอีกครั้ง

*************

ห้องน้ำแข็งเย็นหนาวจัดเยือกเย็นมาก  หานปิงหนิงอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิตัวตรง ตลอดทั้งร่างของนางแข็งเหมือนกับตุ๊กตาน้ำแข็ง  ขณะที่หัวใจของนางยังคงเต้นช้ามากเหมือนกับว่าไม่มีสัญญาณชีพจร

ภายในกระแสน้ำเชี่ยวกราก  เหลียงชิวปัดตีบอลเหล็กซึ่งหล่นมาใส่เขาอย่างคล่องแคล่วเป็นเหตุให้ลูกเหล็กเหล่านั้นบินพุ่งไปเหมือนกระสุน  ด้วยน้ำหนักลูกตุ้มที่คอยถ่วงมือทั้งสอง  หน้าของเขายิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นทุกที  ขณะที่ความเร็วของสายน้ำมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและกดดันเขาต่อเนื่อง และรุนแรงมากขึ้นทุกที

ปัง!

หนึ่งในลูกเหล็กที่เหมือนกับปลาที่เล็ดลอดข่าวเข้ามาได้กระแทกเข้าที่ไหล่ซ้ายทำให้เขารู้สึกชา เขาส่งเสียงคราง และพลังป้องกันของเขาพังทลายทันที

หลังจากนั้นชั่วขณะ  เขาก็ต้องดิ้นรนออกจากภายในกระแสน้ำในที่สุด

เขาเหมือนกองดินเหลวนอนอยู่ข้างสายน้ำ  มีรอยเลือดสายหนึ่งที่มุมปากของเขา  ทั่วร่างมีรอยฟกช้ำและเขาไม่เหลือเรี่ยวแรงอยู่ในตัวแม้แต่นิดเดียว เขาได้แต่ฝืนยิ้ม

ข้าอยากจะนอนอยู่อย่างนี้...

และข้ายังจะต้องสู้กับสมาพันธ์ชาวยุทธ...ชีวิตคือโศกนาฏกรรม...

โศกนาฏกรรมที่ทำให้การมีชีวิตอยู่เหมือนกับตาย....

หลังจากโหยไห้ในใจเขาตะเกียกตะกายลุกกลับมานั่งเดินพลังปราณ

ซือหม่าเซียงซานมีบาดแผลถูกฟันและฟกช้ำตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  ในความมืดชุดของเขาถูกเลือดย้อมเป็นสีแดง  แต่เขาดูเหมือนไม่ใส่ใจขณะที่ตาของเขาพยายามรู้สึกถึงสภาพรอบตัวอย่างระมัดระวังแม้แต่ความเคลื่อนไหวเล็กน้อย

ทันใดนั้นความเคลื่อนไหวคุกคามที่แทบไม่สามารถจับได้โผล่มาจากด้านหลังของเขา

ซือหม่าเซียงซานบิดร่างโดยไม่ต้องคิดร่างท่อนบนของเขาเหมือนติดสปริง และยืดตัวหลบไปได้

วืดดด

รอยบาดแผลปรากฏบนหน้าของเขาและเลือดซึมออกมาจากบาดแผลนั้นหยดหนึ่ง

ซือหม่าเซียงซานยกมือแตะบาดแผลขณะที่เลือดหยดลงบนนิ้วของเขา เขาเลียเบาๆ ฉากภาพเช่นนั้นทำให้เขาดูชั่วร้ายน่ากลัวอย่างยิ่งยวด

เจ้าต้องการชีวิตข้า  นั่นไม่ง่ายนักหรอก

ม่านตาของซือหม่าเซียงซานเย็นชาเหมือนงู

หลิงซิ่วพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง อัศวินน้ำแข็งเงินที่อยู่ต่อหน้าเขาโจมตีอย่างหนักหน่วง หอกของเขารวดเร็วทั้งหมดนี้เคยปรากฏในความฝันของเขามาก่อน เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักวิชาเหล่านั้น แต่เขาไม่เข้าใจเหตุผลที่พลังที่ปลดปล่อยมา ทำไมจึงทรงพลังมากมายนัก

หอกทะเลจุดของหลิงซิ่วเผชิญกับรังสีหอกของฝ่ายตรงข้ามกลับถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

พอประสบเจอด้วยตัวเองจริงๆช่างแตกต่างจากความฝันของเขา

มีความแตกต่างของทั้งสองเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด  แต่การได้เห็นประจักษ์คราวแรกเขาไม่รู้คืออะไร  ไม่รู้ทั้งนั้นไม่ว่าจะมองจากมุมมองไหน

นี่คือหอกทะเลจุดที่แท้จริงหรือ?  อาจารย์สอนหอกทะเลจุดข้าผิดจริงๆ หรือ?

หลิงซิ่วจิตใจหวั่นไหว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด