ตอนที่ 11-4 อสูรเวทระดับเทพ
“หนูกินเทพ?” ลินลี่ย์และเดเลียมองหน้ากันเอง
เบรุตคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของทวีปยูลานความจริงเป็น‘หนูกินเทพ’แค่ฟังจากชื่อลินลี่ย์รู้ว่านี่ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวมากจึงจะ ‘กินเทพ’ ได้อสูรเวทโดยทั่วไปจะกล้าตั้งชื่อตนเองอย่างนั้นได้ยังไง? ลินลี่ย์มองบีบีด้วยความสงสัย
เดเลียถามอย่างสงสัยเช่นกัน “บีบี,บิดาเจ้าและมารดาเจ้าเป็นอสูรเวทระดับเก้า ใช่ไหม?... นี่เกิดอะไรขึ้น?”
“พี่ใหญ่,นี่ก็คล้ายกับตระกูลนักรบเลือดมังกรของท่าน แต่แน่นอนว่ามีความแตกต่างอยู่บ้าง” บีบีอธิบายรายละเอียด “หลังจากปู่เบรุตถือกำเนิด เพราะเขาเป็นหนูกินเทพตัวเดียวที่ดำรงคงอยู่เขากับย่าแคโรไลนามีลูกสามคนคือ แฮร์รี่ ฮาร์ทและฮาร์วี่ย์จ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสาม”
ลินลี่ย์จำชื่อ‘แคโรไลนา’ ไว้
“เพราะย่าแคโรไลนาเองไม่ใช่หนูกินเทพลูกที่เกิดจากนางกับปู่เบรุตจึงไม่ใช่หนูกินเทพเลือดบริสุทธิ์ ดังนั้นระดับของพวกเขาจึงลดลง ปกติจ้าวมุสิกม่วงทองเมื่ออายุถึงเกณฑ์ผู้ใหญ่จะกลายเป็นอสูรระดับเซียน” บีบีอธิบาย
“ระดับของพวกเขาต่ำลงหรือ?” ลินลี่ย์ถาม “บีบี อย่างนั้นเจ้าก็หมายความว่า..”
เดเลียฉลาดมากเช่นกัน นางยังคงรู้ว่าบีบีหมายความว่ายังไง
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งภูมิใจ เขาบอก “ใช่แล้ว, หนูกินเทพคืออสูรเวทชั้นเทพ! แม้จะไม่ต้องฝึกฝนอะไรเลยก็ตามเพียงแค่เติบโตตามธรรมชาติ... เมื่อถึงวัยผู้ใหญ่หนูกินเทพจะเข้าถึงระดับเทพได้เป็นปกติ!”
“อสูรเวทระดับทพ?” ลินลี่ย์ตะลึง
นี่มันตัวประหลาดเกินไปแล้ว!
ยังประหลาดผิดปกติยิ่งกว่าสี่สุดยอดนักรบเสียอีก สี่สุดยอดนักรบสามารถเข้าถึงระดับเซียนขั้นสุดยอดได้ตราบเท่าที่พวกเขาฝึกอย่างแท้จริง และอสูรเวทระดับเซียนเมื่อโตเต็มวัยก็จะถึงระดับเซียนเช่นกัน
แต่อสูรเวทระดับเทพจะกลายเป็นระดับเทพเมื่อถึงโตเต็มวัย
“นี่มันไม่ยุติธรรมต่อเผ่าพันธุ์อื่นเกินไป เป็นไปได้ยังไงที่เผ่าพันธุ์อื่นจะต่อต้านได้?” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาใช้ชีวิตโดยใช้ชื่อว่า ‘หนูกินเทพ’ จริงๆ พวกเขาถึงระดับเทพเมื่อโตเต็มวัยน่ะหรือ พวกเขานับว่าได้พรจากฟ้าจริงๆ
บีบีส่ายศีรษะ “ปู่เบรุตบอกว่าไม่มีทางที่อสูรเวทระดับเทพจะสามารถสร้างเผ่าพันธุ์ได้ทั้งหมด กล่าวโดยทั่วไปอสูรเวทระดับเทพจะมีเพียงแค่ชนิดละตัวเท่านั้น! เพราะปู่เบรุตเป็นเพียงหนึ่งเดียว เขาไม่สามารถหาหนูกินเทพตัวเมียมาเป็นภรรยาได้”
“สายเลือดของลูกๆ เขาไม่บริสุทธิ์ พวกเขาสามารถเป็นได้แค่เพียงจ้าวมุสิกม่วงทอง”
“และจ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสามก็เป็นบุรุษ ดังนั้นลูกๆที่เป็นสายเลือดพวกเขาก็จะบริสุทธิ์น้อยลงไปอีก สามารถถึงระดับเพียงอสูรเวทระดับเก้า อย่างไรก็ตามในไพรทมิฬ มีหนูตัวเมียระดับเก้าน้อยมาก เนื่องจากพวกเขาครองคู่กัน มีลูกๆหลายตัวที่สามารถถึงระดับเก้าได้อย่างเป็นธรรมชาติเช่นกัน แม่ของข้าก็ยังเป็นสมาชิกของตระกูลเบรุต เพียงแต่นางห่างจากแฮร์รี่ฮาร์ทและฮาร์วี่ย์สิบรุ่น” บีบีดูเหมือนไม่พูดว่าแฮร์รี่และน้องอีกสองเป็นบรรพบุรุษของเขา
แน่นอนว่าในความเป็นจริงแฮร์รี่และน้องอยู่เหนือบีบีหลายรุ่น แต่บีบีเองเป็นหนูกินเทพ นอกจากปู่เบรุตที่เป็นหนูกินเทพเพียงตัวเดียวที่คงอยู่
ลินลี่ย์พยักหน้า
“เพราะข้าเป็นหนูกินเทพตัวหนึ่ง” บีบีกล่าวอย่างไรเดียงสา “ตามที่ปู่เบรุตบอกแม่ข้ามีสายเลือดของตระกูลเบรุตในแรกเริ่มและจากนั้นก็แต่งงานไปกับหนูกินศิลาระดับเก้า บางทีอาจมีการผสานหรือกลายพันธุ์ก็ได้”
“ที่สำคัญ หนูระดับเก้าก็จับคู่กันและกัน แต่ดูเหมือนนอกจากตัวข้าแล้ว ไม่มีใครในพวกเขากลายเป็นหนูกินเทพเลย” บีบีพูดอย่างไรเดียงสา “ไม่ใช่แค่เพียงในทวีปยูลานเท่านั้นนะ ในทุกพื้นพิภพนับไม่ถ้วนที่ปู่เบรุตไปมา”
“พื้นพิภพนับไม่ถ้วน?” ลินลี่ย์และเดเลียมองหน้ากัน
ลอร์ดเบรุตน่ากลัวมากจริงๆ
เกี่ยวกับเรื่องที่เขาสนทนากับฮ็อดเดิล ลินลี่ย์รู้ว่าเป็นการยากมากที่นักสู้จะกลับไปที่ดินแดนพิภพชั้นสูง แต่จากที่บีบีเล่าให้เขาฟังเหมือนกับว่าเบรุตไม่เพียงแต่ออกจากทวีปยูลานได้เท่านั้นเขายังไปมาหลายพิภพดินแดนอีกด้วย
“มิน่าเล่าเขาถึงได้รับการขนานนามว่าราชันย์แห่งทวีปยูลาน และสาเหตุที่แม้แต่เทพสงครามและมหานักพรตยังต้องเชื่อฟังคำสั่งเขา” ลินลี่ย์ลอบคิดเอง “เขาเป็นนักสู้ระดับใดกัน? เป็นชั้นเทพเต็มตัว หรือเทพชั้นสูง”
การก้าวหน้าจากระดับเทพชั้นต้นเป็นระดับเทพเป็นเรื่องที่มหานักพรตก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จแม้จะฝึกฝนมาถึงหมื่นปีก็ตาม ทุกคนคงจะจินตนาการได้ว่ายากเย็นเพียงไหน
สำหรับการก้าวหน้าจากเทพชั้นกลางไปเป็นระดับเทพชั้นสูงยากยิ่งกว่า
“โอกาสเกิดเป็นอสูรเวทระดับเทพมีน้อยยิ่งกว่ากลายเป็นสุดยอดนักรบในตำนาน”ลินลี่ย์ถอนหายใจ “แม้ว่าสุดยอดนักรบจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยในสายวงศ์ตระกูลของเราพวกเขาก็ยังมีเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่หนูกินเทพ.. ในดินแดนที่ปู่เบรุตของเจ้าไปเยี่ยมเยือน เขาไม่เคยพบเห็นหนูกินเทพนอกจากเจ้าและปู่เบรุตเอง”
ลินลี่ย์กับเดเลียถอนหายใจทั้งคู่
อสูรเวทระดับเทพหายากยิ่งกว่าอสูรเวทระดับเซียน
แต่นับว่าสมควรแก่เหตุ ถ้าอสูรเวทระดับเทพสร้างกันได้ง่าย อย่างนั้นจะไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นรอดอยู่ได้
“อสูรเวทระดับเทพแต่ละตัวกล่าวโดยทั่วไปมีเพียงชนิดละหนึ่ง อย่างเช่นราชันย์แห่งเทือกเขาอสูรวิเศษไดลิน เขายังคงเป็นอสูรเวทระดับเทพด้วย” บีบีกล่าว
“ไดลิน?” ลินลี่ย์และเดเลียอดสงสัยไม่ได้
จนถึงทุกวันนี้ลินลี่ย์ก็ยังไม่รู้ตัวว่าเขาเป็นคนที่ปล่อยไดลินออกมา
บีบีพยักหน้า “ไดลินเป็นอสูรเวทระดับเทพ เขาคือพญาราชสีห์ และรู้จักกันในชื่อว่าอสรูกลืนสวรรค์”
หนึ่งนั้นคือ‘หนูกินเทพ’ อีกหนึ่งเป็น ‘อสูรกลืนสวรรค์’ชื่อเหล่านี้น่ากลัวกันทั้งนั้น
“ปู่เบรุตบอกว่าไดลินทรงพลังมากและสามารถกลืนภูเขาทั้งลูกหรือเมืองทั้งเมืองได้ในคำเดียว” บีบีถอนหายใจ “ก็เหมือนกับหนูกินเทพเรา เขาไม่สามารถหาอสูรกลืนสวรรค์ในที่อื่นได้ เขามีลูกของเขาเอง เดิมทีมีอยู่ห้าตัว ทั้งหมดเหมือนจ้าวมุสิกทองม่วงเป็นอสูรเวทระดับเซียนชั้นสูง”
ลินลี่ย์และเดเลียเข้าใจทั้งคู่
ลูกๆของอสูรเวทระดับเทพมีเลือดไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาจะลดลง แต่แม้ว่าพลังของพวกเขาจะลอดลง แต่พวกเขาก็ยังโดดเด่นสุดยอดในบรรดาอสูรเวทระดับเซียน
“ลูกทั้งห้าเหล่านั้นมีชื่อว่า ‘ราชสีห์ทองหกตา’ร่างของพวกเขาคล้ายกับราชสีห์มาก แต่ร่างของพวกเขามีขนาดเท่ากับมังกรยักษ์ และพวกเขามีหกตา มีปีกขนาดใหญ่” บีบีถอนหายใจ“แม้ราชสีห์ทองหกตาเหล่านี้จะไม่ได้น่ากลัวเท่าอสูรกลืนสวรรค์ระดับเทพแต่ท้องของพวกมันจุอะไรได้ตั้งมากมาย แม้จะเป็นมังกรก็ตาม พวกมันก็สามารถกลืนกินมังกรยักษ์เป็นร้อยตัวได้อย่างสบาย”
ลินลี่ย์กับเดเลียมองกันอย่างตกใจ
แม้ว่าลูกหลานของอสูรเวทระดับเทพจะไม่สามารถเทียบได้กับบรรพบุรุษของพวกเขา พวกเขาก็ยังดูถูกไม่ได้
เมื่อลินลี่ย์ชักเทพกระบี่เลือดม่วงและปลดปล่อยไดลินและลูกทั้งสามของเขา เขาไม่รู้...ว่าลูกทั้งสามเหล่านั้นก็คือราชสีห์ทองหกตา ที่สำคัญราชสีห์ทองหกตาทั้งสามตัวนั้นกลืนกินมังกรยักษ์ลงท้องได้เป็นร้อยตัวในพริบตาได้จริงๆ นั่นเกิดขึ้นในหุบเขาสายหมอก
เห็นได้ชัดว่านี่คือบางสิ่งที่พวกเขาได้รับตกทอดมาจากบิดาของพวกเขา
“อสูรเวทราชสีห์ทองหกตา แต่ลูกๆของพวกมันก็เป็นเพียงอสูรเวทระดับเก้า พี่ใหญ่ ท่านก็รู้เรื่องนั้นดี ราชสีห์อารักษ์ระดับเก้า”
ลินลี่ย์พยักหน้าทันที
ราชสีห์อารักษ์ระดับเก้าเป็นอสูรเวทที่มีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดและดูคล้ายกลับสิงโตธรรมดาร่างของมันมีขนาดเท่ากับมังกรตัวหนึ่ง
“ราชสีห์อารักษ์ระดับเก้าหาได้ยากมาก ดังนั้นลูกหลานของพวกมันเองจะดูคล้ายกับมัสทีฟขนทองหรือพยัคฆ์มัสทีฟตาน้ำเงิน อสูรเวททั้งสองเผ่าพันธุ์เป็นระดับแปด” เห็นได้ชัดว่าบีบีมีความคุ้นเคยกับการกลายพันธุ์และเปลี่ยนแปลงของเผ่าพันธุ์อสูรเวท
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว
ที่เทือกเขาอสูรวิเศษครั้งแรกที่ลินลี่ย์กระตุ้นพลังที่น่าพรั่นพรึงของกระบี่เลือดม่วงเขาฆ่ามัสทีฟขนทองไปทั้งหมด
“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเผ่าพันธุ์ของอสูรเวทจะมีประวัติที่น่าสนใจอย่างนั้น” เดเลียค่อนข้างทึ่งขณะที่นางฟัง “ถ้าไล่ตามเผ่าพันธุ์ของพวกมัน ดูเหมือนไล่ไปตั้งแต่มัสทีฟขนทองและมัสทีฟพยัคฆ์ตาฟ้าก็ต้องย้อนไปถึงพญาราชสีห์อสูรเวทชั้นเทพนี้สินะ”
“เจ้ากำลังบอกว่าไดลินได้มาถึงทวีปยูลานเมื่อนานมาแล้วใช่ไหม?” ทันใดนั้นลินลี่ย์ตระหนักได้ทันทีว่าผลเป็นเช่นไร
ในอดีตเทือกเขาอสูรวิเศษไม่มีอสูรเวทระดับเทพ
พูดอีกนัยน์หนึ่งอย่างน้อยในช่วงผ่านมาพันปีนี้ ไดลินไม่ได้ปรากฏตัว แต่ถ้าไดลินไม่เคยอยู่ในทวีปยูลาน จะพูดได้ยังไงว่าราชสีห์อารักษ์,มันทีฟขนทองและมัสทีฟพยัคฆ์ตาน้ำเงินเป็นลูกหลานของเขา?
“ถูกแล้ว ตามที่ปู่เบรุตบอก หมื่นปีที่แล้ว ไดลินมายังทวีปยูลานของเขา” บีบีอธิบาย “มัสทีฟขนทอง มัสทีฟพยัคฆ์ตาน้ำเงินและราชสีห์อารักษ์เหล่านี้สามารถบอกได้ว่าเป็นลูกหลานของเขาได้” บีบีหัวเราะเช่นกัน
ความจริงก็เหมือนกันกับเขาหนูกินเทพไม่ได้มีลูกหลานมากมายในที่สุดก็ตกมาเป็นหนูกินศิลาและหนูเงา?
“แต่ตามสิ่งที่ปู่เบรุตบอกในอดีต ไดลินมีลูกห้าตัว ดูเหมือนว่าจะตายไปสองในคุกเกบาโดส มีเพียงสามที่รอดเหลืออยู่ตอนนี้” บีบีกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ลินลี่ย์ไม่รู้เรื่องราวประวัติในทวีปยูลานมากนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเมื่อ 5000 ที่แล้ว และนี่เกือบหมื่นปีที่แล้ว เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น? ไม่มีใครรู้จริงๆ
ที่สำคัญหนังสือส่วนใหญ่เริ่มบันทึกจากการก่อตั้งศักราชและจักรวรรดิยูลาน ทั้งหมดจะเริ่มจากศักราชยูลานที่หนึ่ง
“บีบี, นี่ก็หมายความว่าในอนาคตเจ้าสามารถถึงระดับเทพได้ง่ายๆ ใช่ไหม?” ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองดูบีบี และตาบีบีฉายประกายหยิ่งผยอง แต่จากนั้นตาของเขาก็หมองอย่างรวดเร็ว “ไม่ว่าข้าจะทรงพลังขนาดไหน แต่พ่อแม่ข้าก็ตายไปแล้ว”
บีบีมองดูลินลี่ย์ จากนั้นพูดอย่างจริงจัง “พี่ใหญ่, ท่านฝึกต่อไปก่อน ข้าจะออกเดินทาง” ขณะที่พูด เขาบินออกไปทันที
“บีบี, เจ้าจะไปไหน?” ลินลี่ย์ถามทันที
“ข้าจะไปฆ่าเจ้าบัดซบสองคนนั่น” เสียงของบีบีก้องไปทั้งห้องโถง แต่ตัวบีบีหายไปแล้ว
ลินลี่ย์ถอนหายใจ
ลินลี่ย์ไม่พูดไม่พูดเรื่องบีบีจะไปฆ่ารูดี้และดิลลอน ที่สำคัญเขากำลังตามหาคนที่ฆ่าพ่อแม่เขาเพื่อแก้แค้น
“ตอนนี้เรื่องทั้งหมดกระจ่างแล้ว” ลินลี่ย์ถอนหายใจ ในอดีต เทพสงครามปฏิบัติกับเขาอย่างเมตตา และยังช่วยเรื่องการแต่งงานของน้องชายของเขา เมื่ออาณาจักรบาลุคก่อตั้งแม้แต่โรซารี่แห่งตำหนักเจ้าแม่หิมะน้ำแข็งก็มาด้วยทั้งมหานักพรตก็ส่งศิษย์ของเขามาร่วม
ลินลี่ย์ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับยอดคนเร้นกายเหล่านั้น แต่พวกเขาส่งคนมาทั้งหมด
“พวกเขาไม่ได้เห็นแก่หน้าเรา พวกเขาเห็นแก่หน้าของบีบี พวกเขาเห็นแก่หน้าของราชันย์แห่งทวีปยูลาน” ลินลี่ย์รู้ดีว่าไม่ว่าเขาแข็งแกร่งเพียงไหนและบรรพบุรุษของเขาแข็งแกร่งเพียงไหนและต่อให้บรรพบุรุษนักรบเลือดมังกรของเขากลายเป็นนักสู้ระดับเทพในดินแดนอมตะ..แล้วไงเล่า? เรื่องเหล่านั้นจะมีผลกระทบต่อเทพสงครามและมหานักพรตอะไรได้ ที่นี่คือทวีปยูลานไม่ใช่หรือ?
อย่างที่กล่าวกันว่าสวรรค์อยู่เบื้องบน จักรพรรดิอยู่ห่าง เรื่องที่เกิดเฉพาะสำคัญกว่า
ในดินแดนทวีปยูลาน แม้แต่เทพสงคราม มหานักพรต ไดลินและคนอื่นๆ ก็ยังต้องฟังเบรุต บีบีกล่าวว่าแม้แต่ผู้ดูแลจากดินแดนอื่น‘ฮ็อดเดิลก็ยังเชื่อฟังว่าง่ายเมื่ออยู่ต่อหน้าลอร์ดเบรุต
ใครๆก็คงสามารถคาดได้ว่าลอร์ดเบรุตมีอำนาจมากเพียงไหน
“สิ่งที่เป็นของเขาก็คือของเขา สำหรับตัวข้าเอง ข้าต้องฝึกให้หนัก” ลินลี่ย์ไม่ต้องการอาศัยคนอื่นอีกต่อไป
“มาเถอะ เดเลีย กลับไปห้องฝึกฝนกันเถอะ” ลินลี่ย์จูงมือเดเลียยิ้มขณะกล่าว เดเลียยิ้มให้เช่นกันทั้งสองออกจากห้องโถงใหญ่กลับไปที่ประตูมิติทันที พวกเขากลับไปใช้ชีวิตฝึกซึ่งเป็นของพวกเขา
แต่แม้ว่าเขาจะเริ่มฝึกอีกครั้ง ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกสงสัยในใจ
ฮ็อดเดิลคือผู้ดูแลดินแดนซึ่งมาจากพิภพนรกและเขาต้องมีแหล่งพลังสนับสนุนจากดินแดนชั้นสูงจากพิภพนรกเป็นแน่ ทำไมฮ็อดเดิลถึงต้องเชื่อฟังเมื่ออยู่ต่อหน้าลอร์ดเบรุต? ลอร์ดเบรุตเป็นยอดฝีมือระดับใดกันแน่?
เทพชั้นกลาง?หรืออาจเป็นเทพชั้นสูง?
ลินลี่ย์ไม่กล้าพิจารณาถึงความเป็นไปได้ว่าเขาจะเป็นมหาเทพ ตัวอย่างเช่นมีมหาเทพแห่งความมืดอยู่เพียงเจ็ด ในพิภพนับไม่ถ้วนของจักรวาลทั้งหมด มีอยู่เพียงเจ็ดเท่านั้น! เมื่อคนหนึ่งตายอีกคนหนึ่งจะเกิด ในหลายพันล้านปีอาจไม่มีมหาเทพเกิดใหม่ในจักรวาล และยิ่งกว่านั้นก็คือในพิภพระดับสูงมีความรู้ทั่วไปอย่างหนึ่ง..
มหาเทพไม่สามารถเข้าไปในโลกหยาบได้ ลำพังพลังของพวกเขาอาจทำให้โลกหยาบแตกเป็นเสี่ยงและสลายไปก็เป็นได้