ตอนที่แล้วตอนที่ 11-2 บรรลุระดับใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11-4 อสูรเวทระดับเทพ

ตอนที่ 11-3 มรดกบีบี


ในอากาศเหนือไพรทมิฬกว้างไม่มีสิ้นสุดเงาดำสายหนึ่งพุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงหายลับไปในขอบฟ้า

ตาน้อยๆของบีบีเต็มไปด้วยความเศร้าและแค้น

“ข้าจะฆ่าพวกมันให้ตาย!”  บีบีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน  แต่ก่อนอื่นบีบีบินไปทางที่ลินลี่ย์ถือสันโดษฝึกฝีมือ

“ควั่บ” เป็นเวลากลางวัน  แม้ว่าจะมีทหารเฝ้ายามอยู่เงาดำเลือนรางพุ่งวับผ่านพวกเขาไปและเข้าไปในอุโมงค์ใต้ดิน ทหารเหล่านั้นไม่ทันสังเกตว่ามีอสูรเวทตัวหนึ่งเข้าไปในพื้นที่ซ่อน

ภายในห้องโถงใหญ่ในอุโมงค์ใต้ดิน

บาร์เกอร์จากไปแล้วลินลี่ย์และเดเลียยังไม่รีบกลับไปฝึก เนื่องจากพวกเขารอคอยอยู่เงียบๆ ให้บีบีมาถึงก่อน

“พี่ใหญ่” เสียงของเขาสะอื้น  บีบีโถมเข้าอ้อมแขนของลินลี่ย์

“เกิดอะไรขึ้น, บีบี?”  ลินลี่ย์กับเดเลียรู้สึกตกใจทั้งคู่

บีบีอยู่ในอ้อมแขนลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นมองลินลี่ย์ด้วยดวงตาเต็มไปด้วยอารมณ์  “พี่ใหญ่!  พ่อแม่ของข้าตายหมดแล้ว ฮืออออ”บีบียังสงสัยเรื่องพวกเขามาตลอดเวลา แต่อนิจจา ผลออกมาเป็นเช่นนี้

“เกิดอะไรขึ้น? พูดให้ชัดๆ”  ลินลี่ย์รีบกล่าว  “อย่าเพิ่งร้องไห้”

ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าบีบีดูเหมือนยังมีสภาพจิตใจเหมือนเด็กโต  เขายังห่างจากความเป็นผู้ใหญ่ไม่ว่าเขาจะอยู่เผ่าพันธุ์ใดก็ตาม

บีบีพยักหน้า  “ข้าได้พบปู่เบรุตแล้ว ปู่เบรุตเล่าให้ข้าฟังว่าบิดาของข้าเป็นหนูกินศิลาและมารดาของข้าเป็นหนูเงา  พวกท่านมีพลังมากทั้งคู่  และทั้งคู่อยู่ในระดับเก้า  แต่พวกเขาถูกคนฆ่า  คนผู้นั้นฆ่าพ่อแม่ข้า”

“ใครฆ่าพวกเขา?”  ลินลี่ย์งง

“ดาบดาราดิลลอนและเซียนจอมเวทธาตุดินรูดี้” บีบีขบเขี้ยวกล่าว

ลินลี่ย์ตะลึง

ทันใดนั้นเขาคิดย้อนกลับไปที่การสู้รบระหว่างเซียนที่เกิดขึ้นที่เมืองอู่ซันเมื่อตอนเขาแปดขวบ  ลินลี่ย์จำได้ชัดเจนได้ยินเซียนทั้งสองตะโกนใส่กันอย่างโกรธเกรี้ยว เซียนนักรบคือดิลลอน!  และเซียนจอมเวทคือรูดี้

“พวกเขาฆ่าพ่อแม่เจ้าหรือ?”  ลินลี่ย์ไตร่ตรองครู่หนึ่ง

เพราะการสู้รบครั้งนั้น ลินลี่ย์ได้รับบาดเจ็บศีรษะเนื่องจากเขาปกป้องวอร์ตันน้องชายของเขา  เลือดได้ไหลหยดไปที่แหวนมังกรขนด  จึงทำให้ปู่เดลินออกมาจากแหวนมังกรขนดได้  เขาจึงเริ่มเข้าสู่เส้นทางจอมเวท  หลังจากฝึกฝนเกือบครึ่งปี เขาจึงได้พบกับบีบีในพื้นที่ร้างหลังบ้านประจำตระกูลของเขา

“ครึ่งปี...ใช่แล้ว เนื่องจากบีบีเติบโตเร็วครึ่งปีหลังจากกำเนิดเขาเติบโตจากทารกไปเป็นอีกขนาดหนึ่งเมื่อตอนที่ข้าพบเขาครั้งแรกก็ได้”

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาและสถานที่เข้ากันได้พอดี

ลินลี่ย์ยังรู้สึกเป็นปริศนาในเวลานั้น ทำไมเซียนทั้งสองจึงมาสู้รบกันที่เมืองน้อยอู่ซัน?  ตอนนี้ดูเหมือนความจริงจะมีบางอย่างเกี่ยวกับพ่อแม่ของบีบี

“ทำไมพวกเขาถึงได้ฆ่าพ่อแม่เจ้า?”  ลินลี่ย์ถาม

บีบีไม่ตอบโดยตรง  “พี่ใหญ่, ไพรทมิฬคือที่อยู่ของอสูรเวทหนูทั้งหมด แม้ว่าเทือกเขาอสูรวิเศษจะมีอสูรเวทอยู่หลายตัวแต่ยังไม่อาจเทียบจำนวนกับที่อยู่ในไพรทมิฬได้” ลินลี่ย์พยักหน้าเข้าใจเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้  อสูรเวทหนูมีความสามารถขยายพันธุ์มาก

ที่ใดก็ตามที่มีอสูรเวทชุมนุม  ก็จะมีฝูงหนูอยู่ด้วยเช่นกัน

“แม้ว่าจะไม่มีมากมายขนาดนั้น  แต่ก็ยังมีเกินสิบล้าน”  บีบีกล่าว แม้ว่าแค่ส่วนหนึ่งของจำนวนรวมในไพรทมิฬก็มีจำนวนหลายร้อยล้านแล้ว ขณะที่อสูรเวทของเทือกเขาอสูรวิเศษมีเพียงสิบล้านความแตกต่างที่เห็นเป็นเรื่องธรรมดา

บีบียังคงพูดต่อ  “ในเทือกเขาอสูรวิเศษไม่มีหนูระดับเซียนอยู่เลย  ผู้นำของหนูสิบล้านก็คือพ่อแม่ของข้า  หนูกินศิลาและหนูเงาระดับเก้า”

ลินลี่ย์และเดเลียเข้าใจทั้งคู่

ทำให้รู้สึกว่ามีหนูระดับเก้าคู่หนึ่งอยู่ในบรรดาฝูงหนูนับสิบล้าน

“เซียนดาบดาราดิลลอนและเซียนจอมเวทรูดี้นั้นทั้งคู่ต้องการฝึกอสูรวิเศษให้เชื่องเพื่อไว้ใช้งานเอง  ดาบดาราดิลลอนพบเจอบิดามารดาข้า  ดังนั้นจึงต้องการจะเอาพวกเขาไปฝึกที่สำคัญการฝึกพวกเขาให้เชื่องได้ก็หมายความถึงฝูงหนูนับสิบล้าน”  ตาของบีบีลุกโชนด้วยความเกลียด

ลินลี่ย์กลับตรงกันข้าม  เข้าใจว่าดิลลอนรู้สึกยังไง

ฝูงหนูสิบล้านสามารถรับมือกองทัพทหารนับล้าน แม้แต่มังกรระดับเก้าโดยหลักการแล้วมีพลังเท่ากับหนูกินศิลาหรือหนูเงาระดับเก้า แต่มีแนวโน้มว่ายอดฝีมือเกือบทั้งหมดเลือกหนูกินศิลา หรือหนูเงาเอาไปฝึกเป็นคู่หู

“โชคร้ายแม่ข้าท้องอยู่ในเวลานั้น”  บีบีขบเขี้ยว “จ้าวมุสิกล้วนมีความภาคภูมิใจตัวเองทั้งนั้น บิดาข้าอาศัยพลังป้องกันที่แข็งแกร่งต้านรับดาบดาราของดิลลอนและให้แม่ข้าหนีไป”

พลังป้องกันของหนูกินศิลาน่ากลัวมาก  หนูกินศิลาระดับเก้า ยากที่เซียนธรรมดาจะฆ่าได้

“พ่อของข้าคือจ้าวมุสิก  ปกติดาบดาราดิลลอนต้องการจะเอาเขาไปฝึก  และพ่อข้าเริ่มสู้กับเขา  แต่พ่อข้าปฏิเสธการยอมแพ้  และสู้ต่อกับเขา.. แต่ในที่สุด..พ่อข้าถูกเซียนดาบดาราฆ่าตาย”  บีบีสะอื้น

ทุกคนสามารรถนึกภาพจ้าวมุสิกผู้หยิ่งผยองภาคภูมิใจสามารถสั่งการฝูงหนูได้

เขาถ่วงเวลานานเท่าที่จะทำได้เพื่อให้แม่ของบีบีได้มีเวลาหนี

“หนูเงามีชื่อในเรื่องความเร็ว  แม่ข้าเป็นหนูเงาระดับเก้า  และนางไวมากแม้ว่านางจะท้องนางก็ยังหนีออกจากเทือกเขาอสูรวิเศษได้ขณะที่พ่อข้าสู้กับดิลลอนนางหนีไปทางตะวันตก และมาถึงเมืองอู่ซัน”

ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจ

“แม่ข้าอาจกลัวว่าข้าจะถูกทำร้ายไปด้วย ดังนั้นนางใช้พลังเวทของนางเพื่อคลอดข้าก่อนกำหนด”ตาของบีบีเต็มไปด้วยน้ำตาอีก  “ปู่เบรุตบอกว่าเมื่อเรา‘หนูกินเทพ’ ถือกำเนิดตามปกติเรื่องที่แน่นอนคือข้าควรจะมีพลังเท่าอสูรเวทระดับหกหรือเจ็ดเมื่อตอนกำเนิด”

ลินลี่ย์งง

หนูกินเทพ?

นี่มันเผ่าพันธุ์ไหนกัน?  นี่เป็นเผ่าพันธุ์ของบีบีอย่างนั้นหรือ?

แต่เมื่อเห็นสภาพจิตใจของบีบีแล้วลินลี่ย์ไม่แทรกเขา เก็บความสงสัยไว้ถามภายหลัง

“หลังจากให้กำเนิดข้าก่อนเวลาแล้ว  ร่างของแม่ข้าบาดเจ็บภายในในสถานการณ์เช่นนั้นแม่ข้าสั่งข้าให้อยู่ในลานบ้านร้างไม่ให้วิ่งเพ่นพ่านเนื่องจากเป็นทารก ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับข้า ดังนั้นข้าจึงแค่กินหินอยู่ที่นั่นเติบโตเงียบๆ”

“แม่บอกข้าว่านางอยู่ในตระกูลเบรุต  และว่าข้าเป็นสมาชิกของตระกูลเบรุต”

บีบีขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธและเศร้า  “เพื่อไม่ให้ข้าตกอยู่ในอันตรายนางปล่อยข้าไว้ที่นั่น  จากนั้นหนีไปทางตะวันตก แต่โชคไม่ดี...ขณะนั้นไปทางตำแหน่งที่เซียนจอมเวทรูดี้อยู่ รูดี้ไล่ติดตามแม่ข้าเช่นกันตั้งใจจะรับนางไปเป็นอสูรคู่กาย”

ลินลี่ย์สามารถนึกถึงฉากภาพนั้นได้

“แม่ข้าเป็นหนูเงาระดับเก้า  แต่เพิ่งให้กำเนิดข้าพลังของนางจึงตกลงอย่างมาก นางหนีไปทางตะวันออกอย่างสุดฝีเท้า แต่เวลานั้นดิลลอนมาถึงเช่นกัน ดิลลอนเป็นนักรบอาศัยความเร็วจับตัวแม่ข้าไว้”  บีบียิ่งโกรธมากขึ้น “และจากนั้นดิลลอนกับรูดี้เพื่อจะแย่งชิงเป็นเจ้าของหนูเงาระดับเก้าจึงเริ่มสู้รบกัน”

ลินลี่ย์เข้าใจแล้วในตอนนี้

ดาบดาราดิลลอนจับหนูเงาได้  แต่รูดี้ต้องการชิงจากเขา  เซียนทั้งสองจึงสู้กันเหนือท้องฟ้าด้านตะวันออกเมืองอู่ซันซึ่งสร้างภัยพิบัติให้กับชาวเมืองอู่ซัน แม้แต่วอร์ตันที่อยู่ใกล้เกือบถูกกระแทกตาย  ดีแต่ว่าลินลี่ย์ปกป้องเขาไว้ได้

และลินลี่ย์โชคดีที่มีแหวนมังกรขนดได้รับเลือดจากเขาเป็นผลให้ทำสัญญาเลือดกับแหวน

“ใช่แล้ว” ลินลี่ย์ยังคงจำได้ถึงตอนที่เขายังเยาว์วัย เขาได้ยินเซียนดาบดาราดิลลอนตะโกนด้วยความโกรธ  “รูดี้ ถ้าข้าไม่ได้มันไป  อย่างนั้นเจ้าก็จะไม่ได้ด้วย”

และจากนั้นมือของดิลลอนเรืองแสงทันทีและเสียงระเบิดดังน่ากลัวทำให้ชาวโลกตื่นตระหนก

“ใช่แล้ว ร่างของหนูเงาเล็ก ในการต่อสู้พวกเขาสามารถขยายตัวได้เล็กน้อย  แต่ปกติพวกเขาจะเหมือนกับบีบี มีขนาดราวๆยี่สิบเซนติเมตร ราวๆ ฝ่ามือ” ลินลี่ย์รู้ความจริงในตอนนี้แล้ว

ขณะนั้นแม่ของบีบีอยู่ในเงื้อมมือของดิลลอน แต่เวลานั้นดิลลอนอยู่ห่างจากลินลี่ย์เกินหนึ่งกิโลเมตร  ลินลี่ย์ไม่สามารถนึกออกได้ว่าดิลลอนกำลังถืออะไรอยู่ในมือกันแน่

หนูเงามีชื่อในเรื่องความเร็วและพลังโจมตี  แต่พลังป้องกันไม่ทรงพลังเท่าใดนักยังอ่อนแอกว่าหนูกินศิลามาก

เมื่อเซียนอย่างดิลลอนระเบิดพลังปราณของเขาหนูเงาระดับเก้าที่อ่อนแอจากการคลอดลูกก็ถูกฆ่าอย่างง่ายดาย

“อย่างนั้นความจริงปรากฏออกมาแล้ว!”

ลินลี่ย์เข้าใจทุกอย่างตอนนี้แล้ว เขารู้เหตุผลที่สองเซียนมาสู้รบกันเหนือท้องฟ้าเมืองอู่ซันด้านตะวันออก  ขณะนั้นเมื่อดิลลอนตะโกนอย่างโกรธเคือง  “รูดี้ ถ้าข้าไม่ได้มันไป เจ้าก็จะไม่ได้ด้วย” เขากำลังหมายถึงแม่ของบีบีนั่นเอง

ครึ่งปีหลังจากการต่อสู้นั้น...

ลินลี่ย์จึงได้พบกับบีบี

และจากนั้นตำนานการเดินทางของลินลี่ย์และบีบีจึงเริ่มขึ้น

“มิน่าเล่า มิน่าเล่า” ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลที่บีบีพูดว่าศัตรูของเขาคือรูดี้และดิลลอน  ถ้าไม่ใช่เพราะดิลลอน พ่อของบีบีก็จะไม่ต้องตาย  และถ้าไม่ใช่เพราะรูดี้...บางทีแม่ของบีบีอาจไม่ถูกบีบบังคับจนนางต้องตายเช่นกัน

ลินลี่ย์มองดูบีบี

ตาของบีบีเต็มไปด้วยน้ำตา  เขาพูดอย่างโมโห  “เจ้าบัดซบทั้งสองนั่น ข้าจะต้องฆ่าพวกมันให้ได้!”

“หืม?” ลินลี่ย์เต็มไปด้วยคำถามทันที

พ่อของบีบีเป็นหนูกินศิลาระดับเก้า  ขณะที่แม่ของเขาเป็นหนูเงาระดับเก้า  ทำไมบีบีถึงทรงพลังนักเล่า?  บีบีดูไม่เหมือนหนูกินศิลาหรือหนูเงาเลย เขาสามารถถึงระดับพลังชั้นสูงได้อย่างง่ายดาย  และเขายังเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้

มีเพียงดิลลอนและรูดี้ควรจะรู้สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้น  เนื่องจากพ่อแม่ของบีบีตายไปแล้ว

แต่เรื่องนั้นออกมาจากไพรทมิฬได้ยังไง  บีบีรู้เรื่องทั้งหมดนี้หรือเปล่า?  เทพแห่งไพรทมิฬรู้เรื่องทั้งหมดนี้หรือเปล่า?เป็นไปได้ไหมว่าพลังจิตของเทพแห่งไพรทมิฬจะยิ่งใหญ่แผ่ไปถึงเป็นหมื่นกิโลเมตรตั้งแต่ไพรทมิฬจนถึงเมืองอู่ซัน?

และถ้าเป็นไปได้..

เป็นไปได้ไหมว่าเทพแห่งไพรทมิฬจะรักษาพลังจิตไว้ได้นานขนาดนั้น?  ถ้าเขาค้นพบเรื่องนี้ในเวลานั้น  ทำไมเขาไม่ช่วยพ่อแม่ของบีบี?

“บีบี เจ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”  ลินลี่ย์ถามทันที  เดเลียมองดูบีบีด้วยความพิศวงเช่นกัน

“ปู่เบรุตบอกข้า”  บีบีตอบ

ลินลี่ย์ถามด้วยความสงสัย  “ลอร์ดเบรุตผู้นี้... แม้ว่าเขาจะเป็นเทพแต่เขาไม่น่าจะมีความสามารถมองย้อนอดีตได้ และเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? และดูเหมือนจะรู้รายละเอียดทั้งหมดด้วย”

บีบีอธิบาย  “พี่ใหญ่!  เรื่องเป็นอย่างนี้ หลังจากปู่เบรุตพบข้า,เขาส่งจ้าวมุสิกม่วงทองไปที่เทือกเขาอสูรวิเศษ ตอนแรกพวกเขาถามสมาชิกของฝูงหนูและจากนั้นปู่เบรุตจึงตรวจสอบจากความทรงจำของดิลลอนและรูดี้”

“อะไรนะ?” ลินลี่ย์เดเลียร้องตกใจพร้อมกัน

ความทรงจำ?!

เซียนจอมเวทอย่างซาสเลอร์ก็สามารถอ่านความทรงจำได้ก็จริง แต่หลังจากทำเช่นนั้น จะมีผลต่อวิญญาณบุคคลวิญญาณเขาจะถูกทำลายและตายไป อย่างไรก็ตาม... เซียนดาบดาราดิลลอนยังมีชีวิตเป็นปกติสมบูรณ์  เขายังพ่ายแพ้โอลิเวอร์ในปีต่อมา

นอกจากนี้  ถ้าดิลลอนและรูดี้ตาย นั่นจะกลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่  ลินลี่ย์จะต้องได้ทราบข่าวนี้แน่นอน

“ปู่เบรุตทรงพลังมาก”  บีบีอธิบาย “เขาบอกว่าคนที่ไม่ใช่ระดับเทพจะไม่สามารถซ่อนความทรงจำต่อหน้าเขาได้  แม้จะเป็นเซียนก็จะมีความทรงจำของพวกเขาให้อ่านโดยไม่ทำให้พวกเขารู้ตัวแม้แต่น้อย

ลินลี่ย์ไม่อยากจะเชื่อ

นี่...นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!

แม้แต่พวกเซียนก็ไม่สามารถสังเกตเห็นหรือ?  ลินลี่ย์ปฏิเสธจะเชื่อว่าเทพชั้นต้นจะมีพลังขนาดนั้นได้

“ปู่เบรุตเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของดินแดนยูลานทั้งหมด”  บีบีอธิบาย “เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งอย่างมิต้องสงสัย แม้แต่เทพสงครามและมหานักพรตก็ต้องฟังปู่ แม้แต่ผู้ดูแลประจำพิภพอย่างฮ็อดเดิลก็ยังไม่กล้าตอแยปู่เบรุต”

“ปู่เบรุตเป็นราชันย์แห่งพิภพทวีปยูลาน”  บีบีพูดต่อ

ลินลี่ย์และเดเลียต่างมองหน้ากัน ทันใดนั้นลินลี่ย์จำได้ถึงคำพูดของจ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสามที่บอกบีบีเมื่อพวกเขามาเชิญบีบีให้ไปกับพวกเขา  พวกเขาก็พูดอย่างเดียวกัน  ลอร์ดเบรุตคือราชันย์แห่งทวีปยูลาน!

“ปู่เบรุตเป็นหนูกินเทพตัวแรกสุดในพิภพจักรวาล!  แม้แต่ชื่อว่า ‘หนูกินเทพ’ ก็เป็นปู่เบรุตเลือกมาเอง”  บีบีพูดด้วยความภูมิใจ  “และข้า.. ในพิภพจักรวาลนับไม่ถ้วนข้าเป็นหนูกินเทพตัวที่สอง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด