ตอนที่แล้วตอนที่ 10-47 ความพินาศของเหล่าเซียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11-1 ก่อตั้งจักรวรรดิ

ตอนที่ 10-48 เบรุต


เวทพ่อมด,เวทแห่งชีวิต, เวทศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมดนี้มีพลังลึกลับในตัวเอง

อย่างไรก็ตามยอดฝีมือในสี่พิภพระดับสูงรู้ดีว่าในบรรดาเวททั้งสามนี้เวทศักดิ์สิทธิ์น่ากลัวที่สุดและคาดการณ์ไม่ได้มากที่สุดในเวททั้งสามนี้  เหตุเป็นเพราะพลังโจมตีของมันน่าทึ่งที่สำคัญเวทศักดิ์สิทธิ์มาจากจอมเทพแห่งโชคชะตา หนึ่งในสี่จอมเทพ

กฎแห่งโชคชะตามากจากจอมเทพและเวทศักดิ์สิทธิ์ซึ่งตกทอดให้ก็มีความลึกซึ้งและลึกลับอย่างคาดไม่ถึง

“แย่แล้ว!”  กลุ่มของเดลี่ ฮาร์เวิร์ดและฮิกกินสันมาถึงในที่สุด  แต่พวกเขาได้ยินคำที่ไฮเดนส์เพิ่งพูดออกมา  “พิฆาต...ชีวิต!”

ทันใดนั้นพลังงานที่มองไม่เห็นล้อมคลุมลินลี่ย์ไว้ทันที  และลินลี่ย์ชะงักค้างไม่สามารถขยับได้ พลังที่มองไม่เห็นและประหลาดนี้ไม่สนใจม่านพลังทั้งหมดตรงเข้าโจมตีสำนึกและวิญญาณของลินลี่ย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวิญญาณของคน

ถ้าคนผู้หนึ่งตาย วิญญาณของเขาสามารถไปที่ยมโลกและถือกำเนิดใหม่ได้

แต่ถ้าวิญญาณถูกทำลายอย่างนั้นแม้แต่มหาเทพก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้

ทะเลจิตสำนึกอันกว้างใหญ่ซึ่งมีอัญมณีสีรุ้งกึ่งโปร่งใสล้อมรอบไปด้วยแสงสีฟ้าเลือนลางซึ่งครอบครองโดยนักรบเลือดมังกร  พลังไร้ลักษณ์นี้โจมตีที่นี่ และแสงสีฟ้ากระเด็นเข้ามาทันที

พลังไร้ลักษณ์กำลังอ่อนแรง  แต่แสงสีฟ้าก็อ่อนแรงลงเช่นกัน

พลังของเวทศักดิ์สิทธิ์ยังคงขึ้นอยู่กับผู้ฝึก  ถ้าผู้ฝึกเป็นระดับเทพและร่ายเวทลินลี่ย์คงไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย

“ปัง” แสงสีฟ้าไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และแตกสลายลง

พลังไร้ลักษ์แม้จะลดพลังโจมตีไปได้มากกว่าครึ่งแต่ก็ยังปะทะกับวิญญาณของลินลี่ย์ ทะเลพลังจิตรายล้อมดวงแก้วสีรุ้งกึ่งโปร่งใสไม่สามารถต้านทานพลังเวทศักดิ์สิทธิ์ที่ลึกซึ้งลึกลับได้ ในที่สุดพลังโจมตีก็กรุยทางเข้าโจมตีอัญมณีกึ่งโปร่งใสนั้น

ครืนนน!

แรงสั่นสะเทือนจากวิญญาณเขารุนแรงแม้แต่ร่างของลินลี่ย์ก็สั่นไปด้วย

“พี่ใหญ่” บีบีแทบบ้าคลั่ง

อัญมณีสีรุ้งกึ่งโปร่งใสยังคงมีชั้นแสงสีฟ้าจางครอบคลุม  เมื่อพลังไร้ลักษณ์โจมตีอัญมณีรุ้ง  ไม่มีใครสังเกต..แหวนมังกรขนดในนิ้วมือของลินลี่ย์!

กระแสแสงสลัวที่สังเกตแทบมองไม่ออกไหลออกมาจากแหวนมังกรขนดจากนั้นก็หายไป

ขณะนั้นเอง...

ดูเหมือนว่าแสงสีฟ้าที่คลุมรอบอัญมณีกึ่งโปร่งใสก็รับพลังงานอย่างเพียงพอทันที

“ครืดดด...”

แสงสีฟ้ารอบอัญมณีพลันสว่างวาบทันทีเหมือนกับว่ามันเปลี่ยนเป็นดวงอาทิตย์น้ำเงินในท่ามกลางทะเลพลังจิต  และแสงสีน้ำเงินสว่างไปทั่วทะเล  ภายใต้แสงฉายของดวงอาทิตย์น้ำเงิน  พลังของเวทศักดิ์สิทธิ์แม้ว่ายังคงต่อต้านได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็เริ่มละลายไปช้าๆ เหมือนน้ำแข็งระเหย

แสงสีน้ำเงินยังคงอยู่เป็นเวลานาน  แต่จากนั้นก็ค่อยๆ จางหายไป

“นั่นเป็นไปได้อย่างไร?”  หน้าไฮเดนส์ซีดขาวทันที  เขาจ้องมองลินลี่ย์ด้วยอาการตะลึง  เขาใช้พลังขั้นสูงสุดของเขาโจมตี  แต่เขาก็ยังไม่สามารถฆ่าลินลี่ย์ได้  ลินลี่ย์ยังไม่ถึงระดับเซียนจอมเวทเลย! และยังยากจะกล่าวว่าเซียนจอมเวทธรรมดาจะรับมือกับการโจมตีนี้ได้

และจากนั้นไฮเดนส์ลอบเห็นว่ากลุ่มของเดลี่กำลังมาจากแต่ไกล  เขารู้ว่าหลายอย่างกำลังจะเลวร้าย  “พวกเขาก็มาเหมือนกัน!”

“ใบไม้ร่วง, ไปกันเถอะ, เร็วเข้า” ไฮเดนส์ไม่ลังเลแม้แต่น้อยกลายร่างเป็นเส้นแสงสีขาวบินไปทิศตะวันตกด้วยความเร็วสูง  โยคีใบไม้ร่วงที่อยู่ใกล้ๆก็แปลงร่างเป็นแสงสีขาวบินไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วสูง

ทั้งเดลี่และบีบีพุ่งความสนใจไปที่ลินลี่ย์

พวกเขาไม่มีเวลาให้ความสนใจไฮเดนส์หรือโยคีใบไม้ร่วง

“เฮ้อ” ลินลี่ย์ระบายลมหายใจ จากนั้นลืมตา

แม้ว่าต้องใช้เวลาอธิบายยืดยาว  แต่ในความเป็นจริงพลังของเวทศักดิ์สิทธิ์นั้นและการโจมตีพลังวิญญาณของลินลี่ย์ใช้เวลาเพียงสองวินาที  แต่ในหนึ่งหรือสองวินาทีนั้นไฮเดนส์และโยคีใบไม้ร่วงก็หายลับไปทางขอบฟ้าตะวันตก  ขณะที่อัฟเฟล็คและโอคาซีย์ทั้งสองคนหนีไปพร้อมกับอสูรเวทก่อนที่ไฮเดนส์จะหนีไปเสียอีก

“พี่ใหญ่!  เป็นอะไรหรือเปล่า?”  บีบีบินเข้ามาดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและกลัว

บีบีเชื่อมโยงวิญญาณกับลินลี่ย์ดังนั้นจึงรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของวิญญาณลินลี่ย์ได้  นับว่าอันตรายจริงๆ

“ไม่เลว, ไม่เลว”  ลินลี่ย์ยังมีอาการกลัวอยู่

ในใจของเขาลินลี่ย์ยังคงงงอยู่เช่นกัน  “ตอนนั้นข้ารู้สึกว่าพลังป้องกันที่เป็นของนักรบเลือดมังกรของเราถูกพลังโจมตีที่น่าทึ่งของเวทศักดิ์สิทธิ์ทำลาย  แต่ทำไมจู่ๆ พลังป้องกันก็เพิ่มขึ้นมามากอย่างฉับพลันเช่นนั้นและทำลายเวทศักดิ์สิทธิ์ได้?”

ลินลี่ย์ไม่เข้าใจเหตุผล

แต่ลินลี่ย์รู้เป็นอย่างดีว่าวิญญาณของเขาสั่นสะเทือนในตอนนั้น

เขารู้...เพียงแค่นั้นถ้าเขาไม่สามารถป้องกันพลังโจมตีไว้ได้บางทีวิญญาณของเขาอาจแตกสลาย

“พวกเขาไปไหนแล้ว?”  ลินลี่ย์กวาดสายตามองดูทั้งสี่ทิศ  แต่อัฟเฟล็ค, โอคาซี่ย์,ไฮเดนส์และโยคีใบไม้ร่วงหนีไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางตามได้ทัน

เดลี่เหาะมาถึงและกล่าวขอโทษ  “ลินลี่ย์ ข้ามาสายไปหน่อย ถ้าเจ้าถูกเวทศักดิ์สิทธิ์ของไฮเดนส์ฆ่า  ข้าคงจะ...” เดลี่รู้สึกผิดจริงๆ เขารู้ดีว่าเวทศักดิ์สิทธิ์น่ากลัวมากเพียงไหน

“เป็นข้าย่ามใจเกินไป”  ลินลี่ย์ยิ้มเยาะเย้ยตนเอง

ลินลี่ย์เชื่อว่าพลังป้องกันของวิญญาณเขาแข็งแกร่งมาก ด้วยการป้องกันของเกล็ดมังกรและชีพจรป้องกันของเขา  เขาเชื่อว่าศัตรูจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้

แต่เพียงแค่นั้นทำเอาเขาเกือบเสียชีวิต

โชคดีที่ในช่วงสุดท้ายภายในวิญญาณของเขา พลังป้องกันที่ได้รับตกทอดจากนักรบเลือดมังกรเพิ่มพรวดพราดอย่างรวดเร็วเป็นร้อยเท่าสลายพลังที่รุนแรงของเวทศักดิ์สิทธิ์ออกไป

“นับว่าเจ้าบัดซบทั้งสี่คนหนีได้เร็วพอ”  บีบีพูดอย่างโมโห

บาร์เกอร์พยักหน้าจากนั้นพูดเสียงดัง “ท่านลอร์ดลินลี่ย์, ข้าว่าศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย  โอเซนโนเพิ่งตายในเงื้อมมือข้าเช่นกัน  และเจ้าเครเมอร์สันก็ตายด้วยเช่นกันเทวทูตอีกหลายตนก็ตายไปด้วย พลังของพวกเขาตกลงมาก ข้าเห็นว่าเนื่องจากพลังปัจจุบันของเรา น่าจะไม่ใช่เรื่องยากหากเราจะไล่ล่าสังหารไปจนถึงศาสนจักรเจิดจรัสในตอนนี้”

“ใช่แล้ว” ซาสเลอร์หัวเราะอย่างน่ากลัว “ท่านลอร์ดลินลี่ย์ พวกเขาทำลายข้อตกลงครั้งก่อน ไม่มีความจำเป็นที่ท่านต้องยึดถือข้อตกลงอีกต่อไป”

ลินลี่ย์ตื่นเต้น

ในอดีตเขาผูกพันข้อตกลงว่าเขาสามารถไปตามแก้แค้นได้เพียงลำพัง  แต่ตอนนี้เนื่องจากอีกฝ่ายทำลายข้อตกลงแล้ว อย่างนั้นเขาสามารถนำกลุ่มของเขาไล่ล่าฆ่าฟันจนถึงเกาะศักดิ์สิทธิ์ได้  การทำลายศาสนจักรเจิดจรัสคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

“ลินลี่ย์” เดลี่ย์รีบกล่าว  “พูดกันตามตรงแล้วอีกสองฝ่ายก็กระทำการเกินไป และเจ้าไม่จำเป็นต้องทำตามข้อตกลงอีกต่อไปแล้ว  แต่ข้าต้องขอเตือนเจ้าอย่าไปโจมตีเกาะศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรเจิดจรัส”

ลินลี่ย์ไม่พอใจ  “ท่านเดลี่ ท่านเชื่อว่าในอนาคตถ้าข้านำน้องชายข้า บาร์เกอร์และน้องๆ บีบี ซาสเลอร์ และคนอื่นๆ ไป...เราจะไม่สามารถทำลายเกาะศักดิ์สิทธิ์ได้หรือ? ตอนนี้บนเกาะศักดิ์สิทธิ์มีเพียงไฮเดนส์ โยคีใบไม้ร่วงและเลห์แมนเท่านั้นที่คุกคามได้”

“ไม่ใช่แค่นั้น”

เดลี่ย์ส่ายศีรษะ  “เจ้าต้องเข้าใจว่า ในอดีต ข้าก็เคยเป็นคนของศาสนจักรเจิดจรัสมาก่อน”

ลินลี่ย์ฟัง

เดลี่ถอนหายใจ “ศาสนจักรเจิดจรัสทนอยู่มาได้นานนับปีไม่ถ้วน  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือมีคลื่นลมรุนแรงเพียงใดก็ตาม ศาสนจักรเจิดจรัสไม่เคยถูกทำลาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไม” ลินลี่ย์มองเดลี่อย่างมึนงง

แน่นอนว่าต้องมีเหตุผลที่พวกเขาคงอยู่มาได้เป็นเวลานาน

“ประการแรกทั้งหมด เกาะศักดิ์สิทธิ์มีวงเวท ‘ศิริของมหาเทพเจิดจรัส’ ปกป้องไว้ มีแต่คนที่มีพลังระดับเทพจึงจะสร้างความเสียหายและทำลายวงเวทนี้ได้”  เดลี่กล่าว

ลินลี่ย์จำได้ทันทีว่าในอดีตเมื่อเขาอยู่ในเมืองเฟนไล เขาถูกจองจำอยู่ในวิหารเจิดจรัสเนื่องจากพยายามลอบสังหารกษัตริย์แห่งเฟนไล  วิหารเจิดจรัสนั่นถูกปกป้องด้วยวงเวทที่ชื่อว่า  ‘ศิริแห่งมหาเทพเจิดจรัส” ด้วยการสนับสนุนอย่างนั้นแม้แต่เซียนก็ไม่สามารถทำลายผนังของวิหารเจิดจรัสขณะโจมตีได้

นี่เป็นผลมาจากวงเวทนี้

แม้แต่นักสู้ชั้นเทพอย่างไดลินก็ยังต้องโจมตีถึงสองครั้งสองครา

ทุกคนคงจะนึกภาพออกว่ามีพลังป้องกันแข็งแกร่งเพียงไหน

“ศิริแห่งมหาเทพเจิดจรัสไม่ใช่แค่วงเวทธรรมดาเท่านั้น ถ้าคนภายในบังคับควบคุมได้อย่างเข้มแข็งก็สามารถใช้โจมตีศัตรูได้”  เดลี่ถอนหายใจ ลินลี่ย์ ถ้าเจ้าเข่นฆ่าไปจนถึงเกาะศักดิ์สิทธิ์บางทีเจ้าจะสามารถฆ่าคนได้มากมายบนเกาะศักดิ์สิทธิ์  แต่เจ้าจะไม่สามารถฆ่าคนที่ซ่อนตัวอยู่ในวิหารเจิดจรัสได้เลย”

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

นี่เป็นเรื่องจริง  เมื่อวิหารเจิดจรัสในเฟนไลถูกทำลาย  เขาเองก็อยู่ภายในวิหาร

“ก็ได้ อย่างนั้นก็ให้พวกเขาสามารถซ่อนตัวอยู่ในเกาะน้อยต่อไป”  ลินลี่ย์ได้แต่ตัดสินใจเช่นนี้  ในใจเขา ลินลี่ย์แอบคิดด้วยตนเอง  “ในอนาคตเมื่อสัจธรรมแห่งธาตุลมและสัจธรรมแห่งธาตุดินของข้ารุ่งเรืองจนถึงขีดจำกัด  บางทีข้าค่อยไปเยี่ยมเกาะศักดิ์สิทธิ์และทดสอบพลังวงเวทศิริแห่งมหาเทพเจิดจรัสก็ได้”

ตอนนี้ลินลี่ย์ไม่กลัวศาสนจักรเจิดจรัสอีกต่อไปแล้ว

“บาร์เกอร์ ไปจัดการซากของฟีนิกซ์ไฟนรก  แก่นเวทระดับเซียนจะปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“ได้เลย, ท่านลอร์ด”  บาร์เกอร์หัวเราะ

ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ชนะศึกนี้ไปแล้ว  ฝ่ายลินลี่ย์สู้กับอีกสองฝ่ายคือศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงา แต่ในที่สุด แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้ชัยชนะเด็ดขาด แม้ว่าฝ่ายเดลี่จะไม่ต้องช่วยพวกเขาก็ตาม

การสู้รบครั้งนี้เป็นการกำหนดสถานะสุดท้ายของดินแดนอนารยชน

นักรบของอาณาจักรบาลุคและฝูงหนูได้ร่วมกันเป็นกองทัพ ปรากฏอยู่ในทุกที่และที่ใดก็ตามที่พวกเขาไป  เมืองนั้นๆ จะยอมแพ้  แม้ว่าบางส่วนจะเป็นพวกตายยากที่สุดของศาสนจักร แต่ภายใต้แรงกดดันของฝูงหนูก็ล่มสลายและหายไป  และแผ่นดินอนารยชนก็รวบรวมกันได้รวดเร็วน่าอัศจรรย์

ขณะเดียวกันข่าวการสู้รบของลินลี่ย์กับศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาแพร่กระจายไปทั่วโลก

ข่าวนี้เป็นการจงใจแพร่กระจายของอาณาจักรบาลุค  ฝ่ายลินลี่ย์เอาชนะอีกสองฝ่ายรวดเดียวนี่ทำให้สถานะของลินลี่ย์ในทวีปยูลานเพิ่มขึ้นมากอีกครั้งบดบังรัศมีของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และเจ้านิกายเงาได้  สถานะของเขาในตอนนี้สูงมากเป็นรองแค่เทพสงครามและมหาพรตเท่านั้น

ตำนานของลินลี่ย์ถูกขับขานไปทั่วทวีปยูลาน

สำหรับดินแดนอนารยชนคนนับไม่ถ้วนต่างก็ทึ่งกับลินลี่ย์ ผู้เยาว์หลายคนใช้ลินลี่ย์เป็นแบบอย่างและเริ่มฝึกฝนอย่างหนัก

….

ดินแดนอนารยชนอาณาจักรบาลุค ในวังหลวง

ปุยหิมะลอยลงมาจากท้องฟ้า  ตอนนี้เป็นเดือนธันวาคมห่างจากเทศกาลฉลองศักราชยูลานอีกไม่กี่วัน  ลินลี่ย์ เดเลีย ซาสเลอร์ ชาชา และเด็กที่เหลือพี่น้องบาร์เกอร์ รีเบ็คกา ลีนา เจนน์และวอร์ตันรวมกันอยู่ที่นี่ทุกคน

รีเบ็คกาและลีน่าโดยเฉพาะรีเบ็คกาเป็นคนที่สนุกสนาน และเมื่อสิบปีที่แล้วนางแต่งงานกับเกทส์ผู้เสียงดังโผงผาง ขณะที่ลีน่าผู้สงบเรียบร้อย นางแต่งงานกับบาร์เกอร์และแน่นอนว่าพี่น้องบาร์เกอร์อีกสามคนล้วนแต่งงานกันหมดแล้ว  มีเพียงเจนน์เท่านั้นที่ยังคงเป็นสหายสนิทกับราชตระกูลแต่นางยังครองตัวเป็นโสด

“นั่นรวดเร็วมากเหลือเกิน  นี่จะเป็นอยู่อย่างนี้ได้อีกนานเท่าใด?  ทั่วทั้งดินแดนอนารยชนถูกรวบรวมไว้แล้ว”  วอร์ตันหัวเราะ

“เป็นธรรมดา” เทย์เลอร์ภูมิใจมาก “ท่านพ่อข้าน่ากลัวจริงๆ”

เมื่อเห็นเทย์เลอร์ทำท่าอย่างนั้นลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ ลินลี่ย์ลูบศีรษะเทย์เลอร์และมองดูวอร์ตัน  “วอร์ตัน, จำไว้นะ การนับถือลัทธิศาสนาทั้งหมดเป็นเรื่องต้องห้าม  ถ้าเจ้าปล่อยให้พวกเขาเผยแพร่คำสอน  ต่อไปในอนาคตลูกหลานของเจ้าจะไม่สามารถปกครองอาณาจักรได้อย่างได้ผล”

“ข้ารู้ในช่วงไม่กี่วันมานี้มีผู้เชื่อในลัทธิต่างๆ สร้างความยุ่งยากอยู่”  วอร์ตันถอนหายใจ

ศาสนจักรคือภัยคุกคามอาณาจักรทั้งหมด ตอนนี้ฝ่ายลินลี่ย์รวบรวมดินแดนอนารยชนไว้ทั้งหมด อาณาจักบาลุคตอนนี้น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นจักรวรรดิบาลุคได้แล้ว

แม้ว่าตัวลินลี่ย์เองจะไม่สนใจอำนาจของจักรวรรดิ  แต่เขาต้องคิดถึงลูกหลานในตระกูลของเขา

“ลินลี่ย์, บีบี”  จ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสามปรากฏตัวในท้องพระโรงทันใด  ตอนนี้ทุกคนมองดูจ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสาม และแฮร์รี่ที่อาวุโสที่สุดในพวกเขาเอ่ยปากพูดด้วยภาษามนุษย์  “ลินลี่ย์!  เรามาเพื่อเชิญบีบีให้เดินทางไปไพรทมิฬกับเรา”

“เชิญข้า?” บีบียืนอยู่บนโต๊ะอาหาร

“เป็นผู้ใดเชิญ?”  ลินลี่ย์ถามด้วยความสงสัย

“ท่านพ่อของเรา”  จ้าวมุสิกม่วงทองตัวที่สามฮาร์วี่ย์พูดอย่างภูมิใจ “ราชันย์แห่งไพรทมิฬ จะนับว่าเป็นราชาแห่งทวีปยูลานทั้งหมดก็ได้  เป็นผู้ทรงพลังไร้เทียมทานที่สุดแล้ว”  จ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสามภูมิใจอย่างมากมาย

ราชันย์แห่งไพรทมิฬ?  ราชาแห่งทวีปยูลานทั้งปวง?

ลินลี่ย์ลอบตกใจและประหลาดใจ “ราชันย์แห่งไพรทมิฬคือราชาแห่งทวีปยูลานทั้งหมดหรือ?หรือว่าเขายังทรงพลังมากกว่าเทพสงครามและมหานักพรต?”

ทันใดนั้นลินลี่ย์ตื่นเต้นและถามทันที“ขอถามได้ไหม บิดาของพวกท่านชื่ออะไร?”

จ้าวมุสิกทองม่วงตัวที่สองพูดทันที  “ลินลี่ย์,เจ้าสามารถระบุชื่อของบิดาพวกเราได้ในนามว่า... ลอร์ดเบรุต!”

“เบรุต!”  ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนมีฟ้าผ่าอยู่ในหัว

และบีบีเช่นกันจ้องพวกเขาด้วยนัยน์ตากลมโต

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด