ตอนที่แล้วตอนที่ 10-43 คลื่นหนูล้างโลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-45 ไร้ยางอาย

ตอนที่ 10-44 คำเชิญร่วมประชุม


ชั้นที่เก้าวิหารเจิดจรัส เกาะศักดิ์สิทธิ์

ในขณะนี้บรรยากาศทำให้คนหดหู่ใจเหลือประมาณอากาศแน่นและน่าอึดอัดดูเหมือนแทบจะกลายเป็นของแข็งไปได้

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์ตุลาการโอเซนโน ผู้บัญชาการซีล็อทเลห์แมนและท่านใบไม้ร่วงผู้นำจิตวิญญาณของกลุ่มโยคี ผู้บริหารระดับสูงทั้งสี่คนนี้มารวมตัวกันในปัจจุบันนี้ทั้งหมด  พวกเขาจ้องดูข่าวที่พวกเขาได้รับ  หน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวน่าเกลียดทุกคน

เงียบ!

หลังจากได้รับข่าวนี้  ไม่มีใครพูด ทุกคนเข้าใจความสำคัญอย่างร้ายแรงจากข่าวนี้ บางทีลินลี่ย์... อำนาจในโลกแผ่นดินและอาณาจักรจะกลายเป็นไม่มีความหมาย ต่อให้อาณาจักรบาลุคสูญสลายไป ก็ไม่มีความหมายอะไรต่อเขามากนัก

แต่สำหรับศาสนจักรเจิดจรัสนั้นแตกต่างออกไป

“คลื่นหนู มันคือคลื่นหนูล้างโลก!” ท่านใบไม้ร่วงแสดงอาการหงุดหงิดรุนแรง หน้าผอมแห้งของเขามีลักษณะขมขื่น “คลื่นหนูที่น่ากลัวแห่งไพรทมิฬ ทำไมพวกมันถึงเชื่อฟังลินลี่ย์ได้?  นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

ไฮเดนส์พูดเสียงต่ำ  “เป็นไปได้ว่าเป็นเพราะอสูรเวทของลินลี่ย์  หนูเงาดำระดับเซียนตัวนั้นควบคุมพวกมันไว้”

“อสูรเวทหนูระดับเซียนควรจะเป็นจ้าวมุสิกม่วงทอง!”  โอเซนโนส่ายศีรษะ “แม้ว่าอสูรเวทหนูของลินลี่ย์จะเป็นระดับเซียน,  แต่..จ้าวมุสิกแห่งไพรทมิฬก็คือจ้าวมุสิกม่วงทอง หนูเงาและหนูกินศิลาทั้งหมดที่อยู่ที่นั่นล้วนฟังคำสั่งสายพันธุ์จ้าวมุสิกม่วงทอง”

นี่คือความจริง  ยอดฝีมือทุกคนของทวีปรู้ความจริงเรื่องนี้

ระดับนักสู้ที่สูงสุดของทวีปยูลานก็คือห้าเทพมีราชันย์แห่งไพรทมิฬเป็นหนึ่งในนั้น ในบันทึกทั้งหมดของศาสนจักร แม้แต่ผู้ที่อยู่มาก่อนมหานักพรตจะปรากฏตัวก็มีบันทึกเกี่ยวกับราชาแห่งไพรทมิฬผู้นี้แล้ว

แก่ที่สุดในบรรดาห้าเทพ

ลึกลับที่สุด

ไม่เคยปรากฏตัว  ไม่เคยดิ้นรนไขว่คว้าอำนาจ

ไม่มีใครกล้าตอแยเขา  ไม่ว่าจะทรงพลังขนาดไหนก็ไม่มีใครกล้ารุกรานเขา

มหาอำนาจทั้งหมดรู้ว่าราชาลึกลับแห่งไพรทมิฬนี้มีงานอดิเรกอยู่อย่างหนึ่ง  เขารักอสูรเวทประเภทหนูมาก  ด้วยความช่วยเหลือของเขา  อสูรเวทหนูกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีมากและแข็งแกร่งมากในไพรทมิฬ  และจ้าวมุสิกม่วงทองเป็นอสูรเวทระดับเซียนชั้นสูงสุดอีกด้วย

แม้แต่อสูรเวทระดับเซียนอย่างจักรพรรดิอสรพิษเก้าหัว,หมีปฐพีและราชสีห์ตาโลหิตก็ยังไม่แข็งแกร่งไปกว่าจ้าวมุสิกม่วงทองเหล่านี้

“พอได้แล้ว” ไฮเดนส์หงุดหงิด “คุยกันพอแล้วเรื่องสาเหตุที่ฝูงหนูฟังคำสั่งของลินลี่ย์ ที่ควรพูดในตอนนี้ก็คือจะคลี่คลายสถานการณ์นี้ยังไง  สถานการณ์คับขันมาก  ข้านึกว่าพวกเจ้าทุกคนจะเข้าใจเรื่องนี้ดีเสียอีก”

โอเซนโนเลห์แมนและท่านใบไม้ร่วงพากันเงียบกันหมด

ไฮเดนส์มองดูพวกเขาแต่ละคน  ‘วันหายนะโลก’ ก็ทำให้เราสูญเสียสาวกไปถึงร้อยล้าน มหาเทพเจิดจรัสไม่สบายใจที่ต้องสูญเสียพลังศรัทธไปมากมายขนาดนั้น  เมื่อลินลี่ย์ชิงแผ่นดินอนารยชนไปอีก  อย่างนั้นศาสนจักรจะต้องถูกเขาทำลายอย่างแน่นอนไม่เกินร้อยปี บางทีอาจเหลือผู้ศรัทธาศาสนจักรเจิดจรัสเหลือในแดนอนารยชนไม่กี่คนก็ได้

ศรัทธา!

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่สุดที่ศาสนจักรเจิดจรัสคงอยู่ได้ พวกเขาสูญเสียพลังศรัทธาไปมากมายจากเมื่อครั้งล่าสุด  พวกเขายังนับว่าโชคดีมาก  เพราะมหาเทพเจิดจรัสไม่ได้ลงโทษพวกเขาเพราะเรื่องนี้

แต่ถ้าพวกเขายังสูญเสียต่อไปอีก...

ผลที่ตามมามิอาจคาดคิดได้

“ไม่ว่ายังไงก็ตามเราจะปล่อยให้รากฐานของศาสนจักรเจิดจรัสในแดนอนารยชนถูกทำลายไม่ได้ พลังศรัทธามหาศาลเหล่านี้ไม่สามารถปล่อยให้สูญหายไปได้”ท่านใบไม้ร่วงพูดเสียงทุ้ม

“ถูกแล้ว จะปล่อยให้หายไปไม่ได้”ผู้บัญชาการหน่วยซีล็อทเลห์แมนกล่าวเช่นกัน

โอเซนโนยิ้ม  “พลังศรัทธาคือสิ่งที่สำคัญสำหรับเรา  แต่ไม่จำเป็นสำหรับลินลี่ย์ ลินลี่ย์มีแนวโน้มว่าจะไม่สนใจดินแดนอื่นเท่าใดนัก  เราสามารถเจรจากับเขาได้”

“ใช่แล้ว” ทั้งสามคนตาเป็นประกาย

เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าคลี่คลายไม่ได้

ไฮเดนส์ชะงักเล็กน้อยจากนั้นสั่งทันที  “ในเมื่อเป็นแบบนั้นเอาอย่างนี้เป็นไง เลห์แมนตอนนี้เจ้าอยู่เฝ้าเกาะศักดิ์สิทธิ์ก่อน เรื่องสำคัญในเกาะศักดิ์สิทธิ์ขอให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้า อย่าปล่อยให้ลินลี่ย์ลอบทำร้ายเราและทำลายฐานทัพใหญ่ของเรา  สำหรับท่านใบไม้ร่วงและโอเซนโนพวกเจ้าทั้งสองมาพร้อมกับข้ารวมทั้งเทวทูตระดับเซียนทั้งหกด้วย”

ท่านใบไม้ร่วงผู้ลี้ลับพยักหน้าเล็กน้อย

โอเซนโนก็รับคำเช่นกัน

ศาสนจักรเจิดจรัสมีเซียนมนุษย์อยู่ด้วยเช่นกัน แต่ศักยภาพของเซียนมนุษย์มีมากกว่าเทวทูตพวกนั้น ทางศาสนจักรยังต้องใช้เทวทูตเป็นเหมือนกระสุนปืนใหญ่มนุษย์ ดีกว่าปล่อยให้เซียนมนุษย์ต้องตาย

โดยการมีจักรพรรดิศักดิสิทธิ์เป็นผู้นำพวกเขา  เสาหลักของศาสนจักรเจิดจรัสทั้งสาม ไฮเดนส์โอเซนโนและท่านใบไม้ร่วงร่วมกับหกเทวทูตรีบบินออกจากเกาะศักดิ์สิทธิ์โดยเร็วข้ามน้ำข้ามทะเลมุ่งหน้าสู่แดนอนารยชน

ขณะที่ลัทธิเงาพวกเขาก็ให้ความสำคัญกับพลังศรัทธาไม่ด้อยไปกว่าศาสนจักรเจิดจรัสเลย

เซียนต่างๆที่เป็นเสาหลักของลัทธิเงาอย่างเช่นเจ้านิกายเงาก็มุ่งหน้าสู่แดนอนารยชนด้วยเช่นกัน

ในดินแดนด้านใต้ของแผ่นดินอนารยชนบนถนนที่ว่างเปล่าคลื่นขบวนหนูจำนวนมหาศาลพร้อมกับนักรบมนุษย์ที่ค่อนข้างดูประหลาดยังคงเดินหน้าบุกโจมตี หนูนับร้อยล้านและนักรบมนุษย์อีกสองแสนแบ่งออกเป็นสิบกองทัพ

แต่ละกองทัพมีหนูสิบล้านตัวและนักรบมนุษย์อีกสองหมื่น

โดยหลักจะใช้นักรบมนุษย์ปลอบขวัญประชาชนชาวเมือง  ภายในทหารมนุษย์สองหมื่นคน  จะมีรถโดยสารคันหนึ่งนี่เป็นเพียงรถคันเดียวในกองทัพทั้งหมด

และภายในรถโดยสารมีแต่เพียงบีบีเท่านั้น!

ภายในรถโดยสารพิเศษบีบีเหยียดเล็บบิดแขนอย่างเกียจคร้านขณะสนทนาทางจิตกับลินลี่ย์  “พี่ใหญ่ห้ากองทัพภายใต้การควบคุมของข้าตีได้หกหัวเมืองและเมืองน้อยอีกหลายสิบ  แล้วท่านเล่า? หา..กำลังฝึกอยู่ในห้องมิติเหรอ? ก็ได้.. ข้าไม่กวนใจท่านอีกแล้ว”

“น่าเบื่อเป็นบ้า”

บีบีถอนหายใจ

แม้ว่าบีบีจะอยู่ห่างจากเหมืองอัญมณีเวทถึงสองพันกิโลเมตร  แต่ลินลี่ย์กับบีบีมีพลังจิตมากพอซึ่งเมื่อรวมกับสัญญาผูกวิญญาณเสมอภาคทำให้พวกเขายังสนทนากันได้แม้อยู่ไกลขนาดนั้น ระยะของพวกเขาเป็นสองเท่าของระยะติดต่อระหว่างลินลี่ย์กับแฮรุ

สิบสองปีที่แล้วลินลี่ย์และแฮรุสามารถพูดคุยทางใจได้ในระยะพันกิโลเมตร

ตอนนี้ลินลี่ย์และแฮรุพูดคุยกันได้ในระยะสองพันกิโลเมตร  ลินลี่ย์และบีบีพูดคุยทางจิตได้ไกลมากกว่านั้น

“เฮ้, เราอยู่ที่ไหนกันนี่?  ยังไกลจากหัวเมืองต่อไปอีกเท่าใด?”  บีบีพูดกับทหารข้างนอก

ทหารเปิดหน้าต่างรถและพูดด้วยความเคารพทันที  “ใต้เท้า!ถ้าตามแผนที่ เราอยู่ห่างจากหัวเมืองต่อไปอีกห้าสิบกิโลเมตรขอรับ”

“ไกลขนาดนั้นเชียวหรือ?”  บีบีพึมพำ จากนั้นหลับตา “อย่างนั้นข้าหลับสักงีบดีกว่า”

“ฝูงหนูกำลังใกล้เข้ามาแล้ว!” เสียงร้องหวาดกลัวดังมาจากกำแพงเมือง

บนกำแพงเมืองนี้หน้าของทหารนับพันซีดขาว เมื่อเห็นคลื่นฝูงหนูไม่มีที่สิ้นสุดในพื้นที่รกร้างกว้างขวางพวกเขาดูหวาดกลัวกันหมด แม้แต่เจ้าเมืองก็มีเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าผาก

“จะทำยังไงดี?” เจ้าเมืองรู้สึกตื่นตะลึงทำอะไรไม่ถูก

ที่ปรึกษาเจ้าเมืองที่อยู่ใกล้ๆพูดอย่างหวาดผวา  “ท่านเจ้าเมืองคลื่นหนูครั้งนี้น่ากลัวเกินไป เราหยุดพวกมันไม่ได้ คง..คงจะดีกว่าถ้าเรายอมแพ้”  ขณะที่พูดเขาลดเสียงเบาลงและกระซิบบอก  ทหารประจำกำแพงเมืองเห็นฝูงหนูจำนวนมากมายมีแถวของมนุษย์ปะปนอยู่ด้วย

“ยอมแพ้ จะไม่ถูกประหาร!”

“ยอมแพ้, จะไม่ถูกประหาร!”

“ยอมแพ้, จะไม่ถูกประหาร!”

ทหารชาวมนุษย์ท่องคำพูดพร้อมกัน เสียงที่สั่นสะเทือนพสุธานี้ผสานกับคลื่นหนูที่น่ากลัวทำให้ทหารหลายคนโยนอาวุธ  ที่สำคัญแม้ก่อนที่ฝูงหนูจะมาถึง มนุษย์เหล่านี้ก็ได้ยินมาแล้วว่าฝูงหนูน่ากลัวเพียงไหน

“ใต้เท้าบีบี”

รถหยุดชะงักทันทีและบีบีลืมตาน้อยๆทันที  สายตาบีบีเริ่มเพ่งมองรอบๆ และเสียงควับดังขึ้นเขาหายไปจากภายในรถ

เมืองยอมจำนนแล้ว  และหนูนับไม่ถ้วนเตรียมตัวจะเข้าไปในเมือง  แต่ทันใดนั้นไม่มีหนูแม้แต่ตัวเดียวเคลื่อนไหว

นี่เป็นเพราะมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนอยู่กับที่ในกลางอากาศ  ผู้นำของพวกเขาเป็นบุรุษศีรษะโล้นร่างผอมรังสีที่น่ากลัวแผ่ออกมาจากไฮเดนส์ หนูที่น่ากลัวข้างล่างรู้สึกแย่พากันคุกเข่ากันหมดไม่กล้าเคลื่อนไหว

“ยอดฝีมือระดับเซียน!” นักรบมนุษย์ข้างล่างรู้สึกถึงความน่ากลัวในหัวใจพวกเขา

เมื่อเห็นเช่นนี้รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏอยู่บนใบหน้าของไฮเดนส์

อากาศสั่นสะท้านและบีบีที่ตอนแรกนอนอยู่ในรถโดยสารมาปรากฏตัวในกลางอากาศ  ตาของบีบีจับจ้องมองดูไฮเดนส์นิ่ง  เสียงของเขาแหลมมาก  “คนหัวล้าน แม้แต่โอเซนโนยังยืนอยู่ข้างหลังเจ้า  อย่างนั้นเจ้าก็คือคนที่เขาเรียกว่าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนจักรเจิดจรัสสินะ”

หัวล้าน?

โอเซนโนท่านใบไม้ร่วงและเทวทูตระดับเซียนสองตนด้านหลังไฮเดนส์รู้สึกขัน

รอยยิ้มเลือนรางปรากฏอยู่บนใบหน้าของไฮเดนส์ เขามองดูบีบีด้วยสายตาอ่อนโยนเหมือนบิดามองดูบุตรพูดอย่างอ่อนโยน  “งั้นเจ้าก็คืออสูรวิเศษของลินลี่ย์  ข้าคือจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ไฮเดนส์จริงๆ  วันนี้ข้ามาเพราะหวังจะเจรจาดีๆ กับลินลี่ย์”

“งั้นหรือ?” ตาน้อยๆ ของบีบีกลอกไปมา

“ก็ได้ งั้นท่านจงรอ”  บีบีพูดเสียงดัง  “พี่ใหญ่ข้าเพิ่งกลับไปยังอาณาจักร  ข้ายังไม่สามารถแจ้งให้เขาทราบได้  ท่านจำเป็นต้องรอสักครึ่งวัน”

ไฮเดนส์ยิ้มและพยักหน้า  “ก็ดี ให้ลินลี่ย์เลือกสถานที่พบปะกัน” ทัศนคติของไฮเดนส์ค่อนข้างอ่อนน้อม

ตาน้อยๆของบีบีกลอกไปมาอีกครั้งและพูดเสียงดัง “ก็ได้รออยู่ที่หัวเมืองปกครองแห่งนี้ ข้าจะกลับมาพวกเจ้าในเวลาไม่นาน” บีบีส่งเสียงแหลม และในทันใดนั้นหนูข้างล่างทั้งหมดถอนกำลังออกจากเมืองโดยไม่รุกโจมตีอีกต่อไป

เมื่อเห็นเช่นนี้ไฮเดนส์ โอเซนโนและท่านใบไม้ร่วงรู้สึกตกใจ

ขณะที่บีบีเปลี่ยนสภาพเป็นสายแสงสีดำบินตรงขึ้นเหนือขณะที่เขาบินอยู่บีบีก็เริ่มติดต่อลินลี่ย์ “พี่ใหญ่,  หยุดฝึกก่อนเกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

ในส่วนลึกของเหมืองอัญมณีเวทมีลมพัดแผ่วเบา  ร่างลินลี่ย์ปรากฏกลางอากาศ  ขณะที่ซาสเลอร์บินออกมาทันทีเช่นกัน

“ท่านลอร์ดลินลี่ย์,คุณค่าของห้องมิตินี้เทียบเท่ากับของประดิษฐ์ชั้นเทพเลยทีเดียว”  ซาสเลอร์ถอนหายใจอย่างอัศจรรย์ใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ซาสเลอร์ได้เดินทางเข้าไปฝึกในห้องมิติ  จากนั้นเขากับซาสเลอร์ก็ฝึกฝนอยู่ภายใน

ซาสเลอร์ได้เรียนรู้เวทลับพ่อมด  รู้เรื่องลึกลับหลายอย่างมากยิ่งกว่าลินลี่ย์

ซาสเลอร์รู้ดีว่าเทพชั้นต้นจะไม่สามารถสร้างห้องมิติอย่างนั้นได้

“ตอนนี้พอแค่นั้นก่อน อสูรวิเศษของบาร์เกอร์แจ้งข้ามาว่ายอดฝีมือของลัทธิเงามาถึงแล้ว  และจากนั้นบีบีก็ติดต่อข้ามาเช่นกัน”  รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของลินลี่ย์  “ทั้งลัทธิเงาและศาสนจักรเจิดจรัสนั่งไม่ติดทั้งคู่แล้วในตอนนี้”

“ธรรมดามาก” ซาสเลอร์หัวเราะ  “ท่านลอร์ดลินลี่ย์ท่านไม่สนใจเรื่องดินแดน แต่องค์กรศาสนาให้ความสำคัญต่อพลังศรัทธา ถ้าพวกเขาสูญเสียดินแดนไปมากมาย พวกเขาอาจจะถูกลงโทษจนล่มสลายจากมหาเทพในพิภพแสง”

“เมื่อทหารของพวกเขาโจมตีดินแดนของข้า  ข้าอดทนมาตลอดเวลา  แต่ตอนนี้คนพวกนี้ค่อยโผล่หน้าออกมา  ข้าอยากดูจริงๆ ว่าพวกเขาต้องการพูดอะไร!”  ตาของลินลี่ย์เป็นประกายเย็นชา

“ซาสเลอร์ ไปกันเถอะ”

ร่างของลินลี่ย์เปลี่ยนเป็นประกายแสงพุ่งไปทางทิศใต้อย่างสง่างาม  ซาสเลอร์หัวเราะจากนั้นตามเขาไป เสียงหัวเราะของซาสเลอร์เมื่อจับคู่กับดวงตาที่มีกลิ่นอายของความตายของเขาทำให้ดูน่าสะพรึงกลัว

ขณะที่พวกเขาบินออกไป

ตาของลินลี่ย์เย็นยะเยือกเขาออกคำสั่งทางใจ  “แฮรุ เจ้ากับเซียนมังกรทั้งสามก็ให้มาด้วย” ทันใดนั้นอสูรเวทระดับเซียนทั้งสาม เสือดำเมฆา  มังกรหฤโหด มังกรทองและกิ้งก่าสายฟ้าพากันบินออกมาจากภูเขาแบล็คคราเวน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด