ตอนที่ 10-43 คลื่นหนูล้างโลก
ภายในหมอกไม่มีที่สิ้นสุดนั้นฝูงหนูเข้ามาถึง นักรบทุกคนรวมทั้งกองกำลังศักดิ์สิทธิ์กองกำลังเงาและคนอื่นๆ รู้สึกหวาดผวาในใจ แต่แม้ว่าจะหวาดกลัว พวกเขาก็ยังกวัดแกว่งอาวุธและโจมตีใส่อสูรเวทเหล่านั้น
ถ้าพวกอสูรเวทไม่ตาย พวกเขาก็จะตาย!
“ฆ่า!”ธนูระดมยิงลงมาที่ฝูงหนูเหมือนกับสายฝน แต่พลังป้องกันของหนูกินศิลาแข็งแกร่งมาก ขณะที่หนูเงารวดเร็วเกินไป มีเพียงหนูเงาไม่กี่ตัวที่ถูกฆ่า
และจากนั้น....
คลื่นหนูก็บดขยี้เข้ากองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาทันที
“กร้วม กร้วม” เสียงกัดกินดังต่อเนื่องน่ากลัว
ดูเหมือนหนูนับจำนวนไม่ถ้วนบุกตะลุยข้างหน้ากัดทหารที่ขัดขวางพวกมันจนตาย ไม่เพียงแต่เลือดเนื้อจะถูกกินเท่านั้นแม้แต่กระดูกของพวกเขาก็ถูกกินไปด้วย กองกำลังศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังเงารวมกันทั้งหมดมีนักรบระดับเจ็ดมากถึงหมื่นคน
แต่นักรบระดับเจ็ดหมื่นคนเมื่ออยู่ต่อหน้าคลื่นหนูกลับทำอะไรไม่ได้
ทั้งนี้เป็นเพราะคลื่นอพยพของหนูมีจำนวนที่น่ากลัวมีหนูระดับเจ็ด ขณะที่หนูกินศิลาและหนูเงาธรรมดาก็เป็นอสูรระดับห้า เมื่อบุกประจัญบานด้วยจำนวนมหาศาลก็สามารถกัดนักรบระดับเจ็ดจนตายได้ นักรบระดับเจ็ดทั้งหมื่นที่อยู่ปะทะคลื่นหนูเป็นแสนเป็นล้านหายไปไม่เหลือ
“หนี!” ทหารบางคนร้องอย่างหวาดผวาขณะที่พวกเขาเริ่มวิ่งหนี
เมื่อมีคนหนึ่งเริ่มหนี ทหารหลายคนหวาดกลัวก็เริ่มหนีกันบ้าง พวกเขาไม่สามารถต่อต้านคลื่นหนูอพยพได้แม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม....
พวกเขาไม่สามารถหนีพ้น!
หนูเงาและหนูกินศิลามีความเร็วมากไวกว่ามนุษย์มากมายนัก นักรบที่หนีถูกล้อมไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถูกกลืนกิน แม้แต่กิลเยโมและเวส พอร์ตเตอร์ก็หวาดกลัวจนหน้าซีดขาวและพวกเขาเริ่มหนีไปอย่างรวดเร็ว
“เร็วๆ” เวส พอร์ตเตอร์และกิลเยโมไม่พยายามจะต่อต้านแม้แต่น้อย
การโจมตีของคลื่นหนูทำให้กองกำลังฝ่ายศัตรูครึ่งหนึ่งหายไปเกือบล้านแม้แต่กระดูกก็ยังไม่เหลือ
“ลินลี่ย์! พอเถอะ ให้พวกเขายอมแพ้ซะ อย่าประหัตประหารต่อไปเลย” เดเลียทนดูไม่ได้อีกต่อไป
ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูจ้าวมุสิกทองม่วงทั้งสามและหนึ่งในนั้นยิ้มให้เดเลีย “ได้เลย นี่, ลินลี่ย์, เจ้าก็แค่ประกาศออกไป ตราบใดที่มนุษย์คุกเข่าชูมือส่งสัญญาณพวกหนูจะไม่โจมตีพวกเขา”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
“ทุกคนฟังให้ดี คุกเข่าและยกมือยอมแพ้ อสูรเวทจะไม่โจมตีพวกเจ้าถ้าพวกเจ้าทำตาม” เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้นเหมือนอัสนีบาต
เมื่อได้ยินเสียงนี้ทหารที่สิ้นหวังกันแล้วเริ่มคุกเข่าและชูมือ
ขณะเดียวกันราชาหนูทองม่วงอ้าปากเปล่งเสียง “ชรีคคคคค!”
เสียงสูงร้องกรีดผ่านหมอกและหนูทั้งหมดได้ยินคำสั่งต่างวิ่งผ่านทหารที่คุกเข่าทั้งหมดและโจมตีทหารอื่น
“จะทำยังไงดี?” กิลเยโมตกอยู่ในสภาพตื่นกลัว ทั้งเวส พอร์ตเตอร์และกิลเยโมใช้เวทป้องกันตนเอง
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง?” เวส พอร์ตเตอร์หวาดผวาเช่นกัน
ตอนนี้มีหนูเกินกว่าสิบตัว ตัวยาวเกือบเมตรกำลังจ้องมาทางพวกเขา หนูทั้งสิบบางตัวก็สีม่วง หรือไม่ก็สีทอง และหนูขนม่วงก็มีประกายสีทองอยู่ในขนของพวกมัน ขณะที่หนูขนทองก็มีรอยสีม่วงอยู่ด้วย
ภายใต้สถานการณ์ปกติ...
หนูเงาระดับสูงจะมีสีม่วงที่ระดับเจ็ด และเป็นที่รู้จักกันว่าคือหนูเงาม่วง
หนูกินศิลาระดับสูงจะมีสีทองที่ระดับเจ็ดและเรียกชื่อว่าหนูกินศิลาทอง
แต่จากระดับเจ็ดไปถึงระดับเซียนขนของหนูเงาม่วงจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีทองม่วง ขณะที่หนูกินศิลาทองจะมีขนเป็นสีทองแซมม่วง
หนูทั้งสิบนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นอสูรระดับแปดหรือเก้า
“วีดด วีดดดด” หนึ่งในหนูกินศิลาระดับเก้ากระโจนหาพวกเขาทันทีและกัดผ่านเวทเกราะแสงของกิลเยโมรวดเดียว ขณะเดียวกัน เวทป้องกันของเวส พอร์ตเตอร์ก็ตกอยู่ภายใต้การโจมตีและแตกสลายเช่นกัน แต่หนูทั้งสิบไม่ได้โจมตีต่อ
พวกมันฉลาดมากไม่มีตัวใดมีสติปัญญาต่ำกว่ามนุษย์เลย
กิลเยโมและเวสพอร์ตเตอร์มองหน้ากันเอง หน้าผากของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและหลังของพวกเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ พวกเขาเข้าใจ... ถ้าหนูทั้งสิบเหล่านี้บุกจูโจมใส่พวกเขา พวกเขาจะถูกกัดตายอย่างแน่นอน จะไม่เหลือแม้แต่กระดูก
แต่ขณะนั้นเสียงของลินลี่ย์ดังขึ้น
หลังจากมองหน้ากันทั้งสองคนไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ตุ้บ!” ทั้งสองคุกเข่ากับพื้นและยกมือขึ้น
ทันใดนั้นหนูแปดตัวจากสิบตัวแยกออกมา ขณะที่อีกสองตัวยืนอยู่ที่เดิมจ้องมองพวกเขา หนูฉลาดมากหนูสิบตัวนี้พบว่าทั้งสองคนเป็นยอดฝีมือระดับเก้า กิลเยโมและเวสพอร์ตเตอร์เป็นผู้นำของศัตรู
ผู้นำของฝ่ายศัตรูต้องจับเป็นแน่นอน
หลังจากหมอกยามเช้าจางหายไป ฝ่ายลินลี่ย์ก็สามารถมองเห็นทหารฝ่ายศัตรูจำนวนมากนั่งคุกเข่า ทั้งหมดถูกโค่นล้มโดยหนูที่มีจำนวนมากกว่าสิบเท่า ไม่... เป็นร้อยเท่า ผลกระทบจากภาพเหล่านี้ก็หวาดหวั่นน่ากลัวแล้ว
“วืด” มีแสงกระพริบวาบขณะที่หนูสีทองขนแซมสีม่วงรีบเข้ามาส่งเสียงร้องสองครั้ง
“อะไรนะ?เหลือทหารฝ่ายศัตรูที่รอดชีวิตเพียงสามแสน” บีบีประหลาดใจบีบีเข้าใจภาษาอสูรเวทหนูได้โดยธรรมชาติ
ราชาหนูทองม่วงทั้งสามหรี่ตาเล็กน้อย หนึ่งในนั้นมองบีบี “บีบี! เจ้าคิดว่ายังไง?” บีบีมองดูหนูที่ไม่มีที่สิ้นสุดและถอนหายใจ “พวกเขาทรงพลังจริงๆ นี่จะเท่ห์ขนาดไหนกันถ้าหนูพวกนี้เชื่อฟังคำสั่งข้าบ้าง”
ใครจะต้านทานกองทัพอสูรเวทหนูนับร้อยล้านตัวอย่างนี้ได้?
“โอว, นั่นง่ายมาก” ผู้นำหนูทองม่วงกรีดร้องเสียงทุ้มลึกสองครา บีบีถึงกับตื่นเต้นทันที
ลินลี่ย์มองดูบีบีอย่างสงสัย
“พี่ใหญ่, ตั้งแต่วันนี้ไปหนูทั้งหลายร้อยล้านนี้จะเชื่อฟังคำสั่งข้าแล้ว อะฮ้า!” บีบีตื่นเต้นจัด ขณะเดียวกัน ในเวลาเดียวกันนั้นเขาเปล่งเสียงแหลมสูงไปทั่วสนามรบ อสูรเวทหนูนับไม่ถ้วนก้มหัวคำนับบีบี
ลินลี่ย์ลอบตกใจ
ฝูงหนูกินศิลาและฝูงหนูเงาแข็งแกร่งน่ากลัว ลินลี่ย์รู้เรื่องนี้ตั้งแต่เขายังอายุน้อย แต่ลินลี่ย์มีความรู้สึกว่าคลื่นหนูหลายล้านมีความน่ากลัวมาก แต่หนูหลายร้อยล้าน.. นี่น่ากลัวอย่างแน่นอน
“จะมีกองทัพใดสามารถต่อต้านหนูเป็นร้อยล้านตัวได้?” ลินลี่ย์ลอบส่ายศีรษะ
นี่เป็นเหมือนเมื่อตอนอสูรเวทแห่งเทือกเขาอสูรวิเศษบุกจู่โจมออกมาแม้แต่เมืองเฟนไลเองยังถูกทำลายได้ในเวลาไม่นาน และทั้งสหภาพศักดิ์สิทธิ์และพันธมิตรเงาสูญเสียอาณาเขตไปถึงหนึ่งในสาม ทุกคนสามารถคาดคิดได้ว่าจำนวนอสูรเวทนั้นน่ากลัวขนาดไหน และไพรทมิฬ..คือถิ่นของอสูรเวทหนู
บางส่วนเล็กน้อยของอสูรเวทหนูนี้เพียงพอต่อการล้มล้างจักรวรรดิได้
แต่แน่นอนว่าไม่มีนักสู้ระดับเซียนเข้ามาเกี่ยวข้อง
หนูทองม่วงผู้นำหัวเราะมาทางลินลี่ย์ “ข้าขอแนะนำตัวเองก่อน ข้าชื่อแฮรี่!”
“ข้าชื่อฮาร์ท ข้าเป็นหัวหน้าอันดับสอง” ราชาหนูทองม่วงตัวที่สองพูดทันที
หนูทองม่วงตัวสุดท้ายพยักหน้าและเตรียมจะพูดแต่ลินลี่ย์พูดเสียก่อน “เจ้าก็คือฮาร์วี่ย์ใช่ไหม? บีบีเล่าเรื่องเจ้าให้ข้าฟังบ่อยๆ” จ้าวมุสิกม่วงทองที่บีบีเป็นมิตรด้วยในไพรทมิฬก็คือฮาร์วี่ย์ ส่วนจ้าวมุสิกอื่นๆ บีบีไม่ค่อยสนิทนัก
“พวกท่านทั้งสามมอบการควบคุมอสูรเวทหนูเหล่านี้ให้บีบีหรือ?” ลินลี่ย์ถาม
ฝูงอสูรเวทหนูเหล่านี้มีมากเกินไป จ้าวมุสิกเหล่านี้จะยกให้บีบีควบคุมได้ยังไง?
จ้าวมุสิกม่วงทองแฮรี่กล่าวอย่างถือดี “เจ้ายังไม่เข้าใจ ในไพรทมิฬมีอยู่บ่อยมากที่ฝูงอสูรเวทหนูจะฆ่ากันเองภายในมากมาย มีมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ตายไป และผู้อ่อนแอจะถูกทำลาย”
“มากกว่าครึ่ง?” ลินลี่ย์รู้สึกตกใจ
จ้าวมุสิกอันดับสามฮาร์วี่ย์อธิบาย “มันง่ายมาก อสูรเวทหนูระดับต่ำกว่าจะแพร่พันธุ์ได้เร็วกว่าในครอกเดียวกันจะมีจำนวนเป็นสิบ หรือหลายสิบแล้วจะปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้นได้ยังไง? ถ้าขืนปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น ไพรทมิฬจะใหญ่ไม่พอให้พวกเขารอดอยู่ได้ นั่นคือสาเหตุที่ต้องมีการสู้กันเองภายในกำจัดพวกอ่อนแอและลดจำนวนลง”
ลินลี่ย์เข้าใจทันที
ถ้าอสูรเวทหนูถูกปล่อยให้พัฒนาได้ตามใจชอบ พื้นที่ไพรทมิฬส่วนใหญ่จะถูกพวกมันทำลายปริมาณของพวกมันต้องถูกควบคุมเอาไว้
“นี่ บีบี” จ้าวมุสิกฮาร์วี่ย์ตบไหล่บีบีด้วยอุ้งเท้าน้อยๆของเขาและกล่าวอย่างเป็นมิตร “อสูรหนูกลุ่มนี้อยู่ในความควบคุมของเจ้า ไม่สำคัญว่าเจ้าจะทำการฆ่าเท่าใดก็ตาม แต่ทางไพรทมิฬจำเป็นต้องควบคุมจำนวนอสูรหนูเอาไว้อยู่ดี ในไม่ช้ากลุ่มอ่อนแอก็จะต้องตาย”
ลินลี่ย์อดถอนหายใจไม่ได้
มิน่าเล่าถึงได้มีหนูระดับห้าถึงระดับเจ็ดมากนัก และแม้แต่ระดับสูงๆ ก็มีหลายตัว ดังนั้นผู้อ่อนแอถูกกำจัดออกไปนานแล้ว หนูกินศิลาสีเทาและหนูเงาดำอาจยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะทำภารกิจพวกเจ้าให้สำเร็จและปล่อยให้พวกเขาตายมากกว่าครึ่งแน่” บีบีหัวเราะเบาๆ จากนั้นมองดูลินลี่ย์ “พี่ใหญ่ เอาอย่างนี้เป็นไง เราใช้อสูรหนูเหล่านี้บุกดินแดนอนารยชนทั้งหมด?”
“รวมดินแดนอนารยชนทั้งหมด?”
ลินลี่ย์ร่างสั่นสะท้านเล็กน้อย แต่จากนั้นเขาหัวเราะ
“พี่ใหญ่! หัวหน้าของศัตรูทั้งสองถูกนำมาแล้ว” เวส พอร์ตเตอร์และกิลเยโมถูกนำตัวเข้ามา
“กิลเยโม?” ลินลี่ย์มองดูกิลเยโม นี่คือใบหน้าที่คุ้นเคย
เมื่อเห็นหน้าลินลี่ย์กิลเยโมได้แต่ฝืนยิ้ม ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “ครั้งนี้ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาทดสอบขีดจำกัดของข้าได้ดีจริงๆ เพราะสนธิสัญญาของเรา ข้าจึงได้แต่ดูการสู้รบที่เกิดขึ้นโดยเข้าไม่แทรกแซงไม่ได้”
กิลเยโมและเวสพอร์ตเตอร์ใจสั่นสะท้าน
“ก็ดีแล้ว ข้าจะให้ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาของพวกเจ้าได้รับรู้ความรู้สึกแบบเดียวกันนี้บ้าง”
ลินลี่ย์มองดูบีบีและหัวเราะ “บีบี จากวันนี้ไป จงร่วมกำลังกับบาร์เกอร์ร่วมกำลังกับอสูรเวทหนูและกองกำลังมนุษย์แบ่งออกเป็นสิบหน่วยและเริ่มโจมตีดินแดนของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาในแดนอนารยชน”
“ได้เลย, ข้าบีบี จะต้องทำให้สำเร็จแน่นอน” บีบีตบอกรับรอง จากนั้นทำท่าวันทยาหัตถ์
ตาของบาร์เกอร์เป็นประกายเช่นกัน “ท่านลอร์ดลินลี่ย์ไม่ต้องเป็นห่วง ด้วยกองกำลังอสูรเวทหนู สามารถรวบรวมดินแดนอนารยชนได้ง่ายมาก” ตอนนี้แม้แต่กองกำลังระดับสูงของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาถูกทำลายไปแล้ว ยังจะมีใครป้องกันหนูเหล่านี้ได้อีก?
กิลเยโมและเวสพอร์ตเตอร์หน้าซีดขาวทันที
พวกเขามองหน้ากันเองอย่างหวาดผวา พวกเขาสามารถนึกภาพที่เกิดขึ้นออก
เดือนกันยายนศักราชยูลานที่ 10022
สิ่งที่อธิบายตามมาในภายหลังสงครามคลื่นหนูทำลายล้างก็เริ่มขึ้น กองทัพหนูเป็นร้อยล้านแบ่งกำลังออกเป็นสิบหน่วย แต่ละหน่วยยังคงมีหนูจำนวนที่น่ากลัวมากมายถึงสิบล้านเริ่มเคลื่อนพลพร้อมกับกองกำลังทหารของอาณาจักรบาลุคสองแสนนาย
หนูหลายร้อยล้านและนักรบอีกสองแสนแบ่งกำลังเป็นสิบกลุ่ม
สิบกลุ่มนี้เริ่มโจมตีดินแดนอนารยชนเขตของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงา
อสูรเวทหนูระดับแปดและระดับเก้าสามารถเข้าใจภาษามนุษย์ได้ และนอกจากนี้นักรบระดับแปดและเก้าของอาณาจักรบาลุคได้ทำสัญญาผูกวิญญาณกับอสูรเวทหนูที่ทรงพลังบางส่วน นี่ทำให้ง่ายต่อการควบคุมฝูงหนู
คลื่นหนูไม่สามารถหยุดสกัดไว้ได้!
คลื่นหนูโจมตีเมื่อเผชิญหน้ากับก้อนหินยักษ์ที่ป้องกันเมืองก็สามารถกัดแทะทะลุผ่านกำแพงไปได้ ที่สำคัญคือหนูเงาและหนูกินศิลากินหินเป็นอาหารอยู่แล้วพวกมันขุดผ่านกำแพงเมืองจากนั้นกวาดอาหารภายในเมืองเรียบ ทหารเมืองไม่สามารถหยุดห้ามพวกมันได้แม้แต่น้อย
ที่ใดก็ตามที่คลื่นหนูกวาดผ่านไปเมืองจะพังทลายและยอมแพ้
แม้แต่กองกำลังศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังเงายังถูกกำจัด ใครเล่าจะต่อต้านฝูงหนูที่น่ากลัวนี้ได้?
คลื่นหนูล้างโลกนี้เทียบได้กับวันหายนะโลกในปีศักราชยูลาน10000นอกจากนี้ความแตกต่างระหว่างวันนี้กับวันหายนะโลกก็คือครั้งนี้หนูจำนวนมหาศาลฟังคำสั่งของฝ่ายลินลี่ย์
ข่าวนี้แพร่กระจายไปยังจักรวรรดิโอเบรียน,จักรวรรดิยูลานและกองกำลังใหญ่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันข้อมูลนี้แพร่กระจายไปถึงศูนย์บัญชาการใหญ่ของลัทธิเงาและศาสนจักรเจิดจรัส แต่พวกเขาจะสามารถทำอะไรได้? ที่สำคัญ...ลินลี่ย์ไม่ได้ส่งเซียนฝ่ายเขาเข้าร่วมศึก เขาส่งแต่เพียงกองทัพอสูรเวท
อย่างไรก็ตามจำนวนอสูรเวทในกองทัพของพวกเขานั้นมากมายอย่างน่าตกใจ