ตอนที่แล้วตอนที่ 10-42 ภัยพิบัติครั้งใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-44 คำเชิญร่วมประชุม

ตอนที่ 10-43 คลื่นหนูล้างโลก


ภายในหมอกไม่มีที่สิ้นสุดนั้นฝูงหนูเข้ามาถึง  นักรบทุกคนรวมทั้งกองกำลังศักดิ์สิทธิ์กองกำลังเงาและคนอื่นๆ รู้สึกหวาดผวาในใจ แต่แม้ว่าจะหวาดกลัว พวกเขาก็ยังกวัดแกว่งอาวุธและโจมตีใส่อสูรเวทเหล่านั้น

ถ้าพวกอสูรเวทไม่ตาย  พวกเขาก็จะตาย!

“ฆ่า!”ธนูระดมยิงลงมาที่ฝูงหนูเหมือนกับสายฝน แต่พลังป้องกันของหนูกินศิลาแข็งแกร่งมาก ขณะที่หนูเงารวดเร็วเกินไป มีเพียงหนูเงาไม่กี่ตัวที่ถูกฆ่า

และจากนั้น....

คลื่นหนูก็บดขยี้เข้ากองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาทันที

“กร้วม กร้วม” เสียงกัดกินดังต่อเนื่องน่ากลัว

ดูเหมือนหนูนับจำนวนไม่ถ้วนบุกตะลุยข้างหน้ากัดทหารที่ขัดขวางพวกมันจนตาย  ไม่เพียงแต่เลือดเนื้อจะถูกกินเท่านั้นแม้แต่กระดูกของพวกเขาก็ถูกกินไปด้วย กองกำลังศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังเงารวมกันทั้งหมดมีนักรบระดับเจ็ดมากถึงหมื่นคน

แต่นักรบระดับเจ็ดหมื่นคนเมื่ออยู่ต่อหน้าคลื่นหนูกลับทำอะไรไม่ได้

ทั้งนี้เป็นเพราะคลื่นอพยพของหนูมีจำนวนที่น่ากลัวมีหนูระดับเจ็ด  ขณะที่หนูกินศิลาและหนูเงาธรรมดาก็เป็นอสูรระดับห้า  เมื่อบุกประจัญบานด้วยจำนวนมหาศาลก็สามารถกัดนักรบระดับเจ็ดจนตายได้ นักรบระดับเจ็ดทั้งหมื่นที่อยู่ปะทะคลื่นหนูเป็นแสนเป็นล้านหายไปไม่เหลือ

“หนี!”  ทหารบางคนร้องอย่างหวาดผวาขณะที่พวกเขาเริ่มวิ่งหนี

เมื่อมีคนหนึ่งเริ่มหนี  ทหารหลายคนหวาดกลัวก็เริ่มหนีกันบ้าง พวกเขาไม่สามารถต่อต้านคลื่นหนูอพยพได้แม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม....

พวกเขาไม่สามารถหนีพ้น!

หนูเงาและหนูกินศิลามีความเร็วมากไวกว่ามนุษย์มากมายนัก นักรบที่หนีถูกล้อมไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถูกกลืนกิน แม้แต่กิลเยโมและเวส พอร์ตเตอร์ก็หวาดกลัวจนหน้าซีดขาวและพวกเขาเริ่มหนีไปอย่างรวดเร็ว

“เร็วๆ” เวส พอร์ตเตอร์และกิลเยโมไม่พยายามจะต่อต้านแม้แต่น้อย

การโจมตีของคลื่นหนูทำให้กองกำลังฝ่ายศัตรูครึ่งหนึ่งหายไปเกือบล้านแม้แต่กระดูกก็ยังไม่เหลือ

“ลินลี่ย์!  พอเถอะ ให้พวกเขายอมแพ้ซะ  อย่าประหัตประหารต่อไปเลย”  เดเลียทนดูไม่ได้อีกต่อไป

ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูจ้าวมุสิกทองม่วงทั้งสามและหนึ่งในนั้นยิ้มให้เดเลีย  “ได้เลย  นี่, ลินลี่ย์, เจ้าก็แค่ประกาศออกไป  ตราบใดที่มนุษย์คุกเข่าชูมือส่งสัญญาณพวกหนูจะไม่โจมตีพวกเขา”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

“ทุกคนฟังให้ดี คุกเข่าและยกมือยอมแพ้ อสูรเวทจะไม่โจมตีพวกเจ้าถ้าพวกเจ้าทำตาม” เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้นเหมือนอัสนีบาต

เมื่อได้ยินเสียงนี้ทหารที่สิ้นหวังกันแล้วเริ่มคุกเข่าและชูมือ

ขณะเดียวกันราชาหนูทองม่วงอ้าปากเปล่งเสียง  “ชรีคคคคค!”

เสียงสูงร้องกรีดผ่านหมอกและหนูทั้งหมดได้ยินคำสั่งต่างวิ่งผ่านทหารที่คุกเข่าทั้งหมดและโจมตีทหารอื่น

“จะทำยังไงดี?” กิลเยโมตกอยู่ในสภาพตื่นกลัว ทั้งเวส พอร์ตเตอร์และกิลเยโมใช้เวทป้องกันตนเอง

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง?”  เวส พอร์ตเตอร์หวาดผวาเช่นกัน

ตอนนี้มีหนูเกินกว่าสิบตัว ตัวยาวเกือบเมตรกำลังจ้องมาทางพวกเขา  หนูทั้งสิบบางตัวก็สีม่วง หรือไม่ก็สีทอง และหนูขนม่วงก็มีประกายสีทองอยู่ในขนของพวกมัน  ขณะที่หนูขนทองก็มีรอยสีม่วงอยู่ด้วย

ภายใต้สถานการณ์ปกติ...

หนูเงาระดับสูงจะมีสีม่วงที่ระดับเจ็ด  และเป็นที่รู้จักกันว่าคือหนูเงาม่วง

หนูกินศิลาระดับสูงจะมีสีทองที่ระดับเจ็ดและเรียกชื่อว่าหนูกินศิลาทอง

แต่จากระดับเจ็ดไปถึงระดับเซียนขนของหนูเงาม่วงจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีทองม่วง ขณะที่หนูกินศิลาทองจะมีขนเป็นสีทองแซมม่วง

หนูทั้งสิบนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นอสูรระดับแปดหรือเก้า

“วีดด วีดดดด”  หนึ่งในหนูกินศิลาระดับเก้ากระโจนหาพวกเขาทันทีและกัดผ่านเวทเกราะแสงของกิลเยโมรวดเดียว ขณะเดียวกัน เวทป้องกันของเวส พอร์ตเตอร์ก็ตกอยู่ภายใต้การโจมตีและแตกสลายเช่นกัน  แต่หนูทั้งสิบไม่ได้โจมตีต่อ

พวกมันฉลาดมากไม่มีตัวใดมีสติปัญญาต่ำกว่ามนุษย์เลย

กิลเยโมและเวสพอร์ตเตอร์มองหน้ากันเอง หน้าผากของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและหลังของพวกเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ พวกเขาเข้าใจ... ถ้าหนูทั้งสิบเหล่านี้บุกจูโจมใส่พวกเขา  พวกเขาจะถูกกัดตายอย่างแน่นอน จะไม่เหลือแม้แต่กระดูก

แต่ขณะนั้นเสียงของลินลี่ย์ดังขึ้น

หลังจากมองหน้ากันทั้งสองคนไม่ลังเลแม้แต่น้อย

“ตุ้บ!”  ทั้งสองคุกเข่ากับพื้นและยกมือขึ้น

ทันใดนั้นหนูแปดตัวจากสิบตัวแยกออกมา ขณะที่อีกสองตัวยืนอยู่ที่เดิมจ้องมองพวกเขา  หนูฉลาดมากหนูสิบตัวนี้พบว่าทั้งสองคนเป็นยอดฝีมือระดับเก้า กิลเยโมและเวสพอร์ตเตอร์เป็นผู้นำของศัตรู

ผู้นำของฝ่ายศัตรูต้องจับเป็นแน่นอน

หลังจากหมอกยามเช้าจางหายไป ฝ่ายลินลี่ย์ก็สามารถมองเห็นทหารฝ่ายศัตรูจำนวนมากนั่งคุกเข่า  ทั้งหมดถูกโค่นล้มโดยหนูที่มีจำนวนมากกว่าสิบเท่า ไม่... เป็นร้อยเท่า ผลกระทบจากภาพเหล่านี้ก็หวาดหวั่นน่ากลัวแล้ว

“วืด” มีแสงกระพริบวาบขณะที่หนูสีทองขนแซมสีม่วงรีบเข้ามาส่งเสียงร้องสองครั้ง

“อะไรนะ?เหลือทหารฝ่ายศัตรูที่รอดชีวิตเพียงสามแสน” บีบีประหลาดใจบีบีเข้าใจภาษาอสูรเวทหนูได้โดยธรรมชาติ

ราชาหนูทองม่วงทั้งสามหรี่ตาเล็กน้อย  หนึ่งในนั้นมองบีบี  “บีบี!  เจ้าคิดว่ายังไง?”  บีบีมองดูหนูที่ไม่มีที่สิ้นสุดและถอนหายใจ  “พวกเขาทรงพลังจริงๆ นี่จะเท่ห์ขนาดไหนกันถ้าหนูพวกนี้เชื่อฟังคำสั่งข้าบ้าง”

ใครจะต้านทานกองทัพอสูรเวทหนูนับร้อยล้านตัวอย่างนี้ได้?

“โอว, นั่นง่ายมาก”  ผู้นำหนูทองม่วงกรีดร้องเสียงทุ้มลึกสองครา  บีบีถึงกับตื่นเต้นทันที

ลินลี่ย์มองดูบีบีอย่างสงสัย

“พี่ใหญ่, ตั้งแต่วันนี้ไปหนูทั้งหลายร้อยล้านนี้จะเชื่อฟังคำสั่งข้าแล้ว อะฮ้า!”  บีบีตื่นเต้นจัด  ขณะเดียวกัน ในเวลาเดียวกันนั้นเขาเปล่งเสียงแหลมสูงไปทั่วสนามรบ  อสูรเวทหนูนับไม่ถ้วนก้มหัวคำนับบีบี

ลินลี่ย์ลอบตกใจ

ฝูงหนูกินศิลาและฝูงหนูเงาแข็งแกร่งน่ากลัว ลินลี่ย์รู้เรื่องนี้ตั้งแต่เขายังอายุน้อย แต่ลินลี่ย์มีความรู้สึกว่าคลื่นหนูหลายล้านมีความน่ากลัวมาก  แต่หนูหลายร้อยล้าน.. นี่น่ากลัวอย่างแน่นอน

“จะมีกองทัพใดสามารถต่อต้านหนูเป็นร้อยล้านตัวได้?”  ลินลี่ย์ลอบส่ายศีรษะ

นี่เป็นเหมือนเมื่อตอนอสูรเวทแห่งเทือกเขาอสูรวิเศษบุกจู่โจมออกมาแม้แต่เมืองเฟนไลเองยังถูกทำลายได้ในเวลาไม่นาน  และทั้งสหภาพศักดิ์สิทธิ์และพันธมิตรเงาสูญเสียอาณาเขตไปถึงหนึ่งในสาม ทุกคนสามารถคาดคิดได้ว่าจำนวนอสูรเวทนั้นน่ากลัวขนาดไหน  และไพรทมิฬ..คือถิ่นของอสูรเวทหนู

บางส่วนเล็กน้อยของอสูรเวทหนูนี้เพียงพอต่อการล้มล้างจักรวรรดิได้

แต่แน่นอนว่าไม่มีนักสู้ระดับเซียนเข้ามาเกี่ยวข้อง

หนูทองม่วงผู้นำหัวเราะมาทางลินลี่ย์  “ข้าขอแนะนำตัวเองก่อน  ข้าชื่อแฮรี่!”

“ข้าชื่อฮาร์ท ข้าเป็นหัวหน้าอันดับสอง” ราชาหนูทองม่วงตัวที่สองพูดทันที

หนูทองม่วงตัวสุดท้ายพยักหน้าและเตรียมจะพูดแต่ลินลี่ย์พูดเสียก่อน “เจ้าก็คือฮาร์วี่ย์ใช่ไหม? บีบีเล่าเรื่องเจ้าให้ข้าฟังบ่อยๆ” จ้าวมุสิกม่วงทองที่บีบีเป็นมิตรด้วยในไพรทมิฬก็คือฮาร์วี่ย์  ส่วนจ้าวมุสิกอื่นๆ บีบีไม่ค่อยสนิทนัก

“พวกท่านทั้งสามมอบการควบคุมอสูรเวทหนูเหล่านี้ให้บีบีหรือ?”  ลินลี่ย์ถาม

ฝูงอสูรเวทหนูเหล่านี้มีมากเกินไป   จ้าวมุสิกเหล่านี้จะยกให้บีบีควบคุมได้ยังไง?

จ้าวมุสิกม่วงทองแฮรี่กล่าวอย่างถือดี  “เจ้ายังไม่เข้าใจ ในไพรทมิฬมีอยู่บ่อยมากที่ฝูงอสูรเวทหนูจะฆ่ากันเองภายในมากมาย  มีมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ตายไป  และผู้อ่อนแอจะถูกทำลาย”

“มากกว่าครึ่ง?”  ลินลี่ย์รู้สึกตกใจ

จ้าวมุสิกอันดับสามฮาร์วี่ย์อธิบาย  “มันง่ายมาก อสูรเวทหนูระดับต่ำกว่าจะแพร่พันธุ์ได้เร็วกว่าในครอกเดียวกันจะมีจำนวนเป็นสิบ หรือหลายสิบแล้วจะปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้นได้ยังไง? ถ้าขืนปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น ไพรทมิฬจะใหญ่ไม่พอให้พวกเขารอดอยู่ได้  นั่นคือสาเหตุที่ต้องมีการสู้กันเองภายในกำจัดพวกอ่อนแอและลดจำนวนลง”

ลินลี่ย์เข้าใจทันที

ถ้าอสูรเวทหนูถูกปล่อยให้พัฒนาได้ตามใจชอบ  พื้นที่ไพรทมิฬส่วนใหญ่จะถูกพวกมันทำลายปริมาณของพวกมันต้องถูกควบคุมเอาไว้

“นี่ บีบี” จ้าวมุสิกฮาร์วี่ย์ตบไหล่บีบีด้วยอุ้งเท้าน้อยๆของเขาและกล่าวอย่างเป็นมิตร “อสูรหนูกลุ่มนี้อยู่ในความควบคุมของเจ้า ไม่สำคัญว่าเจ้าจะทำการฆ่าเท่าใดก็ตาม แต่ทางไพรทมิฬจำเป็นต้องควบคุมจำนวนอสูรหนูเอาไว้อยู่ดี  ในไม่ช้ากลุ่มอ่อนแอก็จะต้องตาย”

ลินลี่ย์อดถอนหายใจไม่ได้

มิน่าเล่าถึงได้มีหนูระดับห้าถึงระดับเจ็ดมากนัก  และแม้แต่ระดับสูงๆ ก็มีหลายตัว  ดังนั้นผู้อ่อนแอถูกกำจัดออกไปนานแล้ว หนูกินศิลาสีเทาและหนูเงาดำอาจยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะทำภารกิจพวกเจ้าให้สำเร็จและปล่อยให้พวกเขาตายมากกว่าครึ่งแน่”  บีบีหัวเราะเบาๆ จากนั้นมองดูลินลี่ย์  “พี่ใหญ่ เอาอย่างนี้เป็นไง  เราใช้อสูรหนูเหล่านี้บุกดินแดนอนารยชนทั้งหมด?”

“รวมดินแดนอนารยชนทั้งหมด?”

ลินลี่ย์ร่างสั่นสะท้านเล็กน้อย  แต่จากนั้นเขาหัวเราะ

“พี่ใหญ่!  หัวหน้าของศัตรูทั้งสองถูกนำมาแล้ว”  เวส พอร์ตเตอร์และกิลเยโมถูกนำตัวเข้ามา

“กิลเยโม?” ลินลี่ย์มองดูกิลเยโม นี่คือใบหน้าที่คุ้นเคย

เมื่อเห็นหน้าลินลี่ย์กิลเยโมได้แต่ฝืนยิ้ม ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “ครั้งนี้ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาทดสอบขีดจำกัดของข้าได้ดีจริงๆ  เพราะสนธิสัญญาของเรา ข้าจึงได้แต่ดูการสู้รบที่เกิดขึ้นโดยเข้าไม่แทรกแซงไม่ได้”

กิลเยโมและเวสพอร์ตเตอร์ใจสั่นสะท้าน

“ก็ดีแล้ว ข้าจะให้ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาของพวกเจ้าได้รับรู้ความรู้สึกแบบเดียวกันนี้บ้าง”

ลินลี่ย์มองดูบีบีและหัวเราะ “บีบี จากวันนี้ไป จงร่วมกำลังกับบาร์เกอร์ร่วมกำลังกับอสูรเวทหนูและกองกำลังมนุษย์แบ่งออกเป็นสิบหน่วยและเริ่มโจมตีดินแดนของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาในแดนอนารยชน”

“ได้เลย, ข้าบีบี จะต้องทำให้สำเร็จแน่นอน”  บีบีตบอกรับรอง  จากนั้นทำท่าวันทยาหัตถ์

ตาของบาร์เกอร์เป็นประกายเช่นกัน  “ท่านลอร์ดลินลี่ย์ไม่ต้องเป็นห่วง  ด้วยกองกำลังอสูรเวทหนู สามารถรวบรวมดินแดนอนารยชนได้ง่ายมาก”  ตอนนี้แม้แต่กองกำลังระดับสูงของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาถูกทำลายไปแล้ว  ยังจะมีใครป้องกันหนูเหล่านี้ได้อีก?

กิลเยโมและเวสพอร์ตเตอร์หน้าซีดขาวทันที

พวกเขามองหน้ากันเองอย่างหวาดผวา  พวกเขาสามารถนึกภาพที่เกิดขึ้นออก

เดือนกันยายนศักราชยูลานที่ 10022

สิ่งที่อธิบายตามมาในภายหลังสงครามคลื่นหนูทำลายล้างก็เริ่มขึ้น กองทัพหนูเป็นร้อยล้านแบ่งกำลังออกเป็นสิบหน่วย แต่ละหน่วยยังคงมีหนูจำนวนที่น่ากลัวมากมายถึงสิบล้านเริ่มเคลื่อนพลพร้อมกับกองกำลังทหารของอาณาจักรบาลุคสองแสนนาย

หนูหลายร้อยล้านและนักรบอีกสองแสนแบ่งกำลังเป็นสิบกลุ่ม

สิบกลุ่มนี้เริ่มโจมตีดินแดนอนารยชนเขตของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงา

อสูรเวทหนูระดับแปดและระดับเก้าสามารถเข้าใจภาษามนุษย์ได้  และนอกจากนี้นักรบระดับแปดและเก้าของอาณาจักรบาลุคได้ทำสัญญาผูกวิญญาณกับอสูรเวทหนูที่ทรงพลังบางส่วน  นี่ทำให้ง่ายต่อการควบคุมฝูงหนู

คลื่นหนูไม่สามารถหยุดสกัดไว้ได้!

คลื่นหนูโจมตีเมื่อเผชิญหน้ากับก้อนหินยักษ์ที่ป้องกันเมืองก็สามารถกัดแทะทะลุผ่านกำแพงไปได้  ที่สำคัญคือหนูเงาและหนูกินศิลากินหินเป็นอาหารอยู่แล้วพวกมันขุดผ่านกำแพงเมืองจากนั้นกวาดอาหารภายในเมืองเรียบ  ทหารเมืองไม่สามารถหยุดห้ามพวกมันได้แม้แต่น้อย

ที่ใดก็ตามที่คลื่นหนูกวาดผ่านไปเมืองจะพังทลายและยอมแพ้

แม้แต่กองกำลังศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังเงายังถูกกำจัด  ใครเล่าจะต่อต้านฝูงหนูที่น่ากลัวนี้ได้?

คลื่นหนูล้างโลกนี้เทียบได้กับวันหายนะโลกในปีศักราชยูลาน10000นอกจากนี้ความแตกต่างระหว่างวันนี้กับวันหายนะโลกก็คือครั้งนี้หนูจำนวนมหาศาลฟังคำสั่งของฝ่ายลินลี่ย์

ข่าวนี้แพร่กระจายไปยังจักรวรรดิโอเบรียน,จักรวรรดิยูลานและกองกำลังใหญ่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกันข้อมูลนี้แพร่กระจายไปถึงศูนย์บัญชาการใหญ่ของลัทธิเงาและศาสนจักรเจิดจรัส  แต่พวกเขาจะสามารถทำอะไรได้?  ที่สำคัญ...ลินลี่ย์ไม่ได้ส่งเซียนฝ่ายเขาเข้าร่วมศึก เขาส่งแต่เพียงกองทัพอสูรเวท

อย่างไรก็ตามจำนวนอสูรเวทในกองทัพของพวกเขานั้นมากมายอย่างน่าตกใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด