ตอนที่แล้วEp.516 - กระบี่จอมเผด็จการแห่งความโกลาหล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.518 - เตรียมการก่อนสงคราม

Ep.517 - ร้านค้าลึกลับขั้นสูง


4/4

Ep.517 - ร้านค้าลึกลับขั้นสูง

สามวันต่อมา

ฮังอวี่อัพเลเวล 17 ได้สำเร็จ

ตอนนี้เขาสามารถสวมใส่  ‘กระบี่จอมเผด็จการแห่งความโกลาหล’ ได้แล้ว!

โบนัสคุณสมบัติของอาวุธสองมือชิ้นนี้น่าทึ่งมาก!

อีกทั้งมันยังมีถึงสองรูปแบบ แบบแรกคือกระบี่หนัก อีกแบบคือแส้ยาว

โบนัสค่าคุณสมบัติจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามรูปแบบที่ใช้ และวิธีการใช้งานก็แตกต่างกัน

กระบี่หนักเหมาะในการต่อสู้แบบพุ่งเข้าชาร์จ ขณะที่แส้ยาวเหมาะสำหรับการต่อสู้ในจังหวะดุเดือด

ส่วนสกิลของมัน สกิลแรกมีผลลดโบนัสคุณสมบัติศัตรู เป็นความสามารถที่หาได้ยากมาก และสกิลสองคือการแลกเปลี่ยนค่าพลังชีวิตกับพลังจิตในอัตรา 2:1 เช่นจ่ายพลังชีวิต 100 หน่วยเพื่อแลกกับพลังจิต 50 หน่วยเป็นต้น

แม้จะหายไปกว่าครึ่ง แต่ในระหว่างการต่อสู้ สกิลนี้สามารถใช้งานได้ทันที และมันต้องมีประโยช์อย่างแน่นอน!

อัพเลเวล 17

สวมใส่อาวุธสองมือชิ้นนี้

พลังรบส่วนบุคคลของฮังอวี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก!

เผ่าพันธุ์มนุษย์มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นที่จะเอาชนะเฮสการ์!

จ้าวหมิงรายงานข่าวแก่ฮังอวี่ “นาเซอร์ฟื้นแล้ว!”

นี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วนับแต่สงครามเมืองพายุระห่ำ เดิมทีการฟื้นคืนชีพของนาเซอร์ไม่ได้ไวขนาดนี้ แต่เนื่องจากใช้น้ำพุคืนชีพของเมืองธารทะเลทรายเข้าช่วย นาเซอร์จึงฟื้นก่อนกำหนด

ซึ่งการคืนชีพของเขาเป็นเรื่องดีมาก เนื่องจากในแคว้นเดียวดายนี้ นาเซอร์เป็นรองแค่ฮังอวี่เท่านั้น พลังรบส่วนบุคคลของเขาแข็งแกร่งมาก และในศึกที่กำลังมาถึง เขาจะกลายเป็นแม่ทัพคนสำคัญ!

นอกจากนี้

นาเซอร์คือผู้ครองแคว้น มีศักดิ์ศรีในใจของเหล่าขุนางน้อยใหญ่ ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนสถานการณ์ของแคว้นไปได้ดีกว่าเขา

นั่นเลยเป็นเรื่องที่ดีมากๆที่นาเซอร์กลับมา

ฮังอวี่เข้าพบนาเซอร์ มอบขวานสลายอากาศแก่อีกฝ่าย

“ยินดีต้อนรับกลับ!”

ขวานอันทรงพลังนี้ ฮังอวี่ได้หยิบยืมพลังของมันสยบผู้ครองแคว้นทุ่งขจี สังหารยีนส์และกลุ่มนักล่าเงินรางวัล ทำประโยชน์แก่เขามาก

ฉะนั้นต้องยอมรับตรงๆว่าฮังอวี่ลังเลเล็กน้อยที่จะคืนมัน

แต่ท้ายที่สุดแล้วมันคืออาวุธของนาเซอร์ ในฐานะพันธมิตรกัน ฮังอวี่คงไม่สามารถฮุบอาวุธคนอื่นเป็นของตัวเองได้จริงไหม?

แล้วอีกอย่าง เขาได้อาวุธสีม่วงจากยีนส์มาพอดี ดาบหยั่งรู้เงาก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้งานเช่นกัน

ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของขวานสลายอากาศคือการทำดาเมจจากระยะไกลและทะลุการป้องกัน

แต่ถ้าแค่นั้นกระบี่จอมเผด็จการแห่งความโกลาหลก็ทำได้เหมือนกัน

ขณะที่ในด้านความเร็ว หากฮังอวี่ใช้ดาบผู้หยั่งรู้เงากับกระบี่เซียนวายุ ก็จะสามารถคอมโบกันได้ดี ทั้งคู่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตี เมื่อซ้อนทับกับสกิลควงอาวุธคู่ ก็ยิ่งโจมตีได้เร็วและรุนแรง

ทั้งสองเป็นส่วนผสมที่ลงตัว

บังเกิดความรู้สึกอันหลากหลายในใจนาเซอร์ ในช่วงเวลาที่เขาพ่ายแพ้ต่อราชามังกร นาเซอร์รู้สึกว่านั่นคือความสิ้นหวัง ความไร้อำนาจ และความกลัว

เขาไม่นึกเลยว่าพลังรบระหว่างตนกับเฮสการ์จะห่างชั้นกันขนาดนี้

นาเซอร์ก่อนตายคิดว่าคงจบสิ้นแล้ว และแคว้นเดียวดายคงจบสิ้นเช่นกัน

แต่ใครจะคาด ไม่นึกเลยว่าตนจะมีโอกาสฟื้นคืนชีพ แถมยังได้ข่าวว่าเฮสการ์ผู้คงกะรพัน ถูกขับไล่ออกไปจากแคว้นเดียวดาย

และผู้ที่สร้างปาฏิหารย์

คือมนุษย์เบื้องหน้าเขา

นาเซอร์สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าไม่เจอกันแค่ไม่ถึงเดือน พลังรบของฮังอวี่ก้าวกระโดดกะทันหัน ตอนนี้แซงตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อัตราการพัฒนาของเผ่ามนุษย์ช่างน่ากลัว!

และฮังอวี่คือคนที่น่ากลัวที่สุดในหมู่มนุษย์!

โชคดีที่เขาเป็นมิตร

เป็นสหายรบ

ไม่ใช่ศัตรู!

ฮังอวี่เอ่ยถาม “รู้สึกยังไงบ้าง? ได้รับผลกระทบมากไหม?”

นาเซอร์ตอบว่า “เสียแต้มวิญญาณกว่า 100,000 แต้ม และแก่นแท้วิญญาณที่สะสมมากว่า 3 - 4 ปี แต่โชคดีที่เลเวลไม่ลด พลังรบโดยรวมไม่ได้รับผลกระทบมากนัก”

โชคดีจริงๆด้วย

นั่นคือความโชคดีในความโชคร้าย

ในบรรดาผู้ครองแคว้นทั้งเก้า นาเซอร์จัดว่าอยู่ในอันดับต้นๆ หากไม่ใช่เพราะความพ่ายแพ้ครั้งนี้ เกรงว่าในอีก 1 - 2 ปีเขาคงสามาถรอัพเลเวล 17 ได้

โชคดีที่สงครามครั้งก่อนแม้ขาดทุนหนัก แต่ไม่ถึงขั้นเลเวลลด และอาวุธที่ดรอปก็ได้รับกลับคืน

ฮังอวี่เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันมานี้ให้นาเซอร์ฟัง

“พวกเราเข้าควบคุมแคว้นทุ่งขจีกับแคว้นทะเลตะวันตกได้แล้ว แต่แคว้นที่ไกลออกไปนั้นเกินเอื้อม”

“เฮสการ์ไม่เพียงเสนอราคาสูงเพื่อยุยงยอดฝีมือให้ตามล่าเผ่ามนุษย์ แต่ตอนนี้ยังพยายามเจรจากับ ผู้ครองแคว้นทั้งหมด ด้วยภูมิหลังทางการเงินและทรัพยากรของเมืองมังกร มากพอแล้วที่จะซื้อใจ ผู้ครองแคว้นทุกตน”

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีสำหรับเรา ฉันวางแผนว่าจะเตรียมบุกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เข้าพิชิตเมืองมังกร!”

นาเซอร์พยักหน้า “เข้าใจแล้ว ทุกอย่างต้องลงมือฉับไว โอกาสเดียวที่เราจะชนะคือบุกตีก่อนราชามังกรจัดตั้งพันธมิตร ตราบใดที่เมืองมังกรถูกโจมตี ก็ไม่มีทางที่เฮสการ์จะไม่กลับไปตั้งรับ”

เวลามีไม่มาก

ในสถานการณ์เช่นนี้ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการโจมตี

ตราบใดที่ราชามังกรพ่ายแพ้ในการต่อสู้อีกเพียงครั้งเดียว

ภัยคุกคามอื่นๆทั้งหมดจะสลายหายไปเอง

กระนั้น สงครามครั้งนี้ไม่ง่าย จำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า

ฮังอวี่กับนาเซอร์เดินทางมายังเมืองธารทะเลทราย เข้าพบคูเวตัน

คูเวตันในที่สุดก็ได้เจอกับรุ่นน้องพันธมิตรนาเซอร์อย่างเป็นทางการ

“นกหวีดทองแดงหลอมสำเร็จแล้ว!”

คูเวตันมอบนกหวีดทองแดงอันใหม่ให้แก่ฮังอวี่ มันได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น [นกหวีดทองแดงลึกลับของฮังอวี่] ไอเท็มเฉพาะสีม่วงเลเวล 15

ด้วยเจ้าสิ่งนี้ ฮังอวี่จะสามารถเปิดร้านค้าลึกลับขั้นสูงได้!

มันสามารถเปิดได้เดือนละครั้ง และครั้งหนึ่งต้องจ่าย 100,000 แต้มวิญญาณ!

อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่พอใจมาก

ฮังอวี่กักตุนหินคริสตัลไว้เป็นจำนวนมากสำหรับเตรียมซื้อของ

อย่างไรก็ตาม ในโลกมนุษย์ไม่ค่อยมีของดีขาย และมีบางสิ่งไม่อาจรวบรวมได้

ฉะนั้น หินคริสตัลที่กักตุนไว้ เวลานี้เหมาะสุดๆที่จะนำมาถลุงกับพ่อค้าลึกลับ

ทุกคนลงขันแต้มวิญญาณคนละเล็กละน้อย ไม่ช้าก็สะสมได้มากพอ

นกหวีดทองแดงลึกลับคุณภาพสีม่วงถูกเปิดใช้งาน

ทันใดนั้นเสียงหึ่ง หึ่ง ดังขึ้น ราวกับมีคนเป่านกหวีดแต่ไม่มีลม ไม่นานอากาศที่ว่างเปล่าค่อยๆแยกออก สร้างทางเชื่อมกับสถานที่บางแห่งอันมืดมิด

ชายสวมหน้ากากตัวเล็กปรากฏขึ้น

เป็นพ่อค้าลึกลับขั้นสูง!

พ่อค้าลึกลับมีร่างโคลนนับไม่ถ้วน แม้ตนนี้จะดูเหมือนกับตนก่อนที่เคยอัญเชิญมา แต่เขาคือการดำรงอยู่ที่ทรงพลังและมีความสามารถมากกว่าอย่างแน่นอน!

“ยินดีต้อนรับสู้ร้านค้าลึกลับ ข้าคือพ่อค้าหมายเลข 3803” พ่อค้าลึกลับกล่าวเปิดงานตามธรรมเนียม “ลูกค้าผู้ทรงเกียรติ ไม่ทราบมีอะไรให้ข้ารับใช้?”

ฮังอวี่เอ่ยถาม “คุณมีบริการอะไรบ้าง?”

พ่อค้าลึกลับตอบว่า “ลูกค้าผู้ทรงเกียรติสามารถเลือกบริการได้สองอย่าง : ซื้อสินค้า และ แลกเปลี่ยนสินค้า”

ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้

ร้านค้าลึกลับแบบเดิม มีเพียงฟังก์ชั่นซื้อสินค้าเท่านั้น

แต่พ่อค้าลึกลับขั้นสูงตนนี้ สามารถรับแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีค่าจากลูกค้าได้

ฮังอวี่มีของในใจที่จะซื้อกับพ่อค้าในครั้งนี้!

ราชามังกรมีลูกเล่นมากมายในการหลบหนี และฮังอวี่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ เมื่อถึงคราวคับขัน อีกฝ่ายจะหนีทันที ดังนั้นต่อให้ทุ่มเทไปมากเพียงใด มันก็ปราศจากความหมาย

ดังนั้นเขาต้องเตรียมของที่สามารถใช้หยุดยั้งเหตุการณ์นั้น!

เข้าใจหรือยัง ว่าทำไมการเตรียมพร้อมก่อนทำสงครามจึงสำคัญนัก!