Ep.514 - นักล่าค่าหัว
1/4
Ep.514 - นักล่าค่าหัว
เมื่อฮังอวี่จัดการเรื่องแคว้นทุ่งขจีเสร็จแล้ว
ในเวลานั้นเอง
ข่าวร้ายจากแคว้นเดียวดายได้ส่งมาถึงเขา
จ้าวหมิงคุยกับฮังอวี่ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “เมื่อวานนี้ ภายในวันเดียว ในแคว้นเดียวดายมีคนตายไปกว่า 50 คน!”
ฮังอวี่ขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น?”
จ้าวหมิงตอบว่า “สถานการณ์ยังไม่ชัดเจนนัก แต่ที่แน่ใจก็คือ พวกเขาไม่ได้ตายจากการต่อสู้ปกติ แต่ถูกใครบางคนฆ่า”
จ้าวหมิงนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องออกมา
ฮังอวี่มองรายชื่อผู้ที่ถูกสังหาร คนเหล่านี้ล้วนอยู่เหนือเลเวล 12
ซึ่งมนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งเหนือเลเวล 12 ส่วนใหญ่แล้วถือเป็นชนชั้นยอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ อย่างน้อยก็เป็นพวกหัวหน้าทีมจากกองกำลังต่างๆ มีอิทธิพลในระดับหนึ่ง
และในบรรดามนุษย์ที่ถูกลอบสังหาร มีอีกหกคนที่ไปถึงเลเวล 14 มนุษย์ที่ไปไกลได้ขนาดนั้น ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน หากอยู่ในมังกรคราม แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกหลัก แต่ก็เป็นรองเพียงสมาชิกหลักเท่านั้น
ภายในหนึ่งวัน
กว่าห้าสิบชีวิตถูกลอบสังหาร ทุกคนคือสมาชิกคนสำคัญของเผ่ามนุษย์ สถานที่ที่พวกเขาถูกฆ่ากระจายกันไปคนละจุด ซึ่งหมายความว่าการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุระหว่างการล่ามอนสเตอร์ แต่ต้องมีคนกำลังล่าเผ่ามนุษย์!
และระหว่างที่ฮังอวี่กำลังคิดหาวิธีจัดการ ก็มีรายงานที่คล้ายๆกันเข้า
และทั้งสามรายงาน คนที่ตายยังคงเป็นมนุษย์
หนึ่งในนั้นรวมถึงตัวตนที่ค่อนข้างสำคัญ : คริส!
หนึ่งในสามผู้นำของสำนักกระบี่วิญญาณแห่งแคว้นเดียวดาย!
คริสมีส่วนสำคัญในสงครามเมืองพายุระห่ำ เขามีชื่อเสียงค่อนข้างมากในแคว้นเดียวดาย
การที่เขาถูกฆ่า สามารถอธิบายได้ว่า ... ศัตรูในเลเวล 15 ปรากฏตัวขึ้นแล้ว!
เขาไม่ได้ตายในป่า แต่ถูกลอบสังหารในดินแดนของตัวเอง ณ เมืองขุนเขาเหล็ก นอกจากนี้ยังมีข่าวที่เลวร้ายยิ่งกว่า ทุกคนที่ถูกฆ่ารวมไปถึงคริส วิญญาณของเหยื่อทั้งหมดไม่กลับมาแผ่นศิลาฟื้นคืนชีพ
ผู้ลอบสังหารที่ฆ่าพวกเขามีลูกเล่นบางอย่างในการผนึกวิญญาณ
“ตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนแล้ว!”
“มีคนกำลังเล็งพวกเราอยู่!”
หลังจากฮังอวี่ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ เขาแจ้งข่าวแก่ซูหยุนปิงในแคว้นทุ่งขจี และฉูเทียนหัวในแคว้นทะเลตะวันตกให้ทราบทันที และย้ำให้ใส่ใจกับความปลอดภัยของตัวเอง
การประชุมฉุกเฉินจัดขึ้นที่เมืองธารทะเลทราย
จ้าวหมิงกล่าวว่า “ฉันคิดว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้น่าจะเป็นราชามังกร ตั้งแต่ความพ่ายแพ้ในสงครามเมืองพายุระห่ำ เขาไม่เปิดฉากสงครามครั้งที่สองในทันที แต่ใช้กลยุทธ์นี้บั่นทอนแนวหลังของพวกเราเพื่อให้เผ่าพันธุ์มนุษย์อ่อนแอลงก่อน”
ฮังอวี่พยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของจ้าวหมิง
แม้สงครามเมืองพายุระห่ำจะเป็นความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับสำหรับสันเขามังกร
แต่ราชามังกรคลั่งไม่ใช่คนโง่ มันต้องมั่นใจว่าจะชนะเท่านั้นถึงจะเริ่มสงครามครั้งต่อไป ระหว่างนี้มันจะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการพัฒนาของแคว้นเดียวดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งป้องกันการเติบโตของกองกำลังมนุษย์
ระหว่างที่ฮังอวี่กำลังวุ่นอยู่กับการเข้าควบคุมแคว้นทุ่งขจี ราชามังกรก็ไม่อยู่เฉยเช่นกัน
และเพียงวันเดียว
ผลลัพธ์น่าทึ่งมาก
เผ่ามนุษย์สูญเสียเลเวล 15 ไปคนหนึ่ง
สูญเสียเลเวล 14 ไปถึง 6 คน บวกกับยอดฝีมืออีกเกือบ 50 คน นี่เป็นเรื่องร้ายแรงมาก
ทุกคนไม่ว่าจะฮังอวี่ในแคว้นเดียวดาย ซูหยุนปิงในแคว้นทุ่งขจี หรือกระทั่งฉูเทียนหัวในแคว้นทะเลตะวันตก มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นเป้าหมายของนักฆ่า
ระดับอาวุโสของเผ่ามนุษย์ หากถูกฆ่าเพียงครั้งเดียว นั่นเท่ากับการสูญเสียอย่างมหาศาล
ทางหนึ่งเพราะมีระยะเวลารอฟื้นคืนชีพหลายวัน ทางหนึ่งมีโอกาสที่เลเวลจะลด และอาจดดรอปอุปกรณ์หรือหินสกิลที่มี นั่นส่งผลกระทบต่อพลังรบโดยรวมของมนุษย์อย่างมาก
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าอีกฝ่ายมีวิธีผนึกวิญญาณเพื่อป้องกันการฟื้นคืนชีพ
ยุ่งยากจริงๆ!
สถานการณ์นี้ต้องรีบแก้ไขก่อนที่จะเลวร้ายลง!
ฮังอวี่ประกาศ “นับแต่นี้ไป คนสำคัญในทีมต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น จะเป็นการดีที่สุดถ้าพักอยู่ในเมืองหลักอย่างธารทะเลทรายหรือฟ้าเดียวดาย ต่อให้มีเรื่องสำคัญต้องออกไป ก็ให้ไปเป็นทีมใหญ่ และเตรียมสมุนทหารไปให้มากพอ”
พูดถึงเรื่องนี้ เขาเหลือบมองจ้าวหมิง “ฝากเรื่องเมืองธารทะเลทรายด้วย ผมจะไปเมืองขุนเขาเหล็ก คริสเพิ่งถูกฆ่าไม่นาน ผมเชื่อว่าฆาตกรจะต้องทิ้งร่องรอยไว้ ”
นักฆ่าผู้นี้มีความสามารถในการแทรกซึมเข้าสู่ดินแดน และยังสังหารมนุษย์เลเวล 15 ได้อย่างง่ายดาย นี่มากพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่ามันแข็งแกร่ง
เป็นเรื่องอันตรายเกินไปที่จะปล่อยให้คนแบบนี้ลอยนวลอยู่ในแคว้นเดียวดาย!
ต้องบอกเลยว่า เล่ห์เหลี่ยมของราชามังกรนั้นร้ายกาจพอตัว
หากไม่มีมาตรการรับมือ ปล่อยให้นักฆ่าทำงานของตัวเองต่อไป แคว้นเดียวดายคงปราศจากคืนวันอันสงบสุข เผ่าพันธุ์มนุษย์คงไม่กล้าออกไปล่าและอัพเลเวล
การพัฒนาพลังรบถูกจำกัด
ขืนดำเนินไปเช่นนี้ ผู้คนจะหวาดกลัว อาจส่งผลกระทบต่อความสามัคคีและขวัญกำลังใจของทีม
หลังจากมาถึงเมืองขุนเขาเหล็ก ฮังอวี่ปล่อยเจ้าหมาออกมา ให้มันตรวจจับกลิ่นอาย ต้นหาตำแหน่งที่คริสถูกลอบสังหาร
สุนัขก้มหัว สูดดมอย่างแรง จากนั้นเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ฮ่ง เจ้านาย นักฆ่ามีฝีมือมาก แทบไม่เหลือกลิ่นอายทิ้งไว้เลย”
ฮังอวี่กล่าว “รีบเข้าประเด็น แทบไม่เหลือแสดงว่าได้กลิ่น ถูกไหม?”
สุนัขทำจมูกฟุดฟิดอีกครั้งและพูดว่า “ด้วยความสามารถตรวจจับของเปิ่นหวัง ยังพอจับกลิ่นได้จริงๆ แต่กลิ่นอายเพียงเท่านี้ ยังไม่สามารถใช้ตัดสินพลังรบของอีกฝ่ายได้”
ฮังอวี่เอ่ยถาม “แล้วสามารถไล่ตามได้ไหม”
หวังเอ๋อ “ฮ่ง ทำได้ แต่ต้องรีบหน่อย ถ้าเกินกว่า 5 ชั่วโมง ต่อให้เป็นเปิ่นหวัง ก็ตามหาไม่เจอ”
ฮังอวี่หรี่ตาลง “งั้นไปล่ามันกัน!”
ไม่จำเป็นต้องพร่ำเพ้อใดๆอีก ปฏิบัติการนี้ต้องไล่ตามศัตรูให้ทัน
แทนที่จะรอให้อีกฝ่ายออกมาพบ ปัญหาจะจบไวกว่าถ้าไปเจอพวกมันด้วยตัวเอง
เวลากำลังจะหมด ต้องรีบล็อคเป้าหมายก่อนที่กลิ่นอายจะหมดไป
ฮังอวี่รายงานสถานการณ์คร่าวๆแก่เมืองธารทะเลทรายก่อนออกเดินทาง เพื่อให้จ้าวหมิงเตรียมใช้มาตรการตอบโต้
ภายใต้การนำทางของหวังเอ๋อ ใช้เวลาสองสามชั่วโมงก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
“ฮ่ง กลิ่นอายเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆแล้ว” หวังเอ๋อตื่นตัว “เปิ่นหวังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายหลายรูปแบบ แสดงว่าอีกฝ่ายมีมากกว่าหนึ่ง เป็นกลุ่มอาชญากร!”
สิ้นเสียง
เท้าของฮังอวี่เหยียบลงบนกับดัก เนินทรายเบื้องล่างคล้ายจมหายลงไป กลายเป็นโคลนสีดำ และมีหนวดเงาจำนวนมากยืดออก มัดหวังเอ๋อและฮังอวี่อย่างอยู่หมัด ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวไม่ได้ชั่วขณะหนึ่ง
“จุ๊ จุ๊!”
“เจ้าคือผู้นำของเผ่ามนุษย์ ฮังอวี่ใช่ไหม?”
“ข้าไม่มีเวลาแวะไปหาเจ้า แต่ดันเป็นเจ้าเองที่ส่งเนื้อมาถึงประตู”
กลุ่มก๊าซสีเทามารวมตัวกันข้างหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ไม่นานก็จับตัวเป็นก้อน กลายร่างเป็นบุคคลลึกลับสวมหน้ากากและชุดเกราะเต็มตัว
เนื่องจากถูกห่อหุ้มไว้ทั้งร่าง ฮังอวี่จึงระบุเผ่าพันธุ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ แต่น่าจะเป็นเอลฟ์หรืออะไรสักอย่าง
นอกจากเจ้าหมอนี่แล้ว ยังมีอีกสองร่างปรากฏขึ้นจากทางซ้ายและขวา
หนึ่งคือดรูอิดมนุษย์หมาป่า
อีกหนึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทธาตุ พิจารณาจากกลิ่นอายแล้วค่อนข้างทรงพลัง
และทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือในการพรางตัว
ฮังอวี่ไม่หวั่นไหว เอ่ยถามอย่างเยือกเย็น “ทำไมถึงมาสร้างปัญหาในดินแดนของฉัน!”
“ฮี่ ฮี่ อย่าตำหนิเรา พวกเราแค่ทำเพื่อเงิน ก็ใครใช้ให้ราชามังกรเสนอเงินรางวัลที่ดีเกินห้ามใจเล่า?” หัวหน้ามือสังหารกล่าว “โดยเฉพาะเจ้า วิญญาณของเจ้ามีมูลค่าถึง 5,000 หินคริสตัลม่วง!”
“ตอนนี้นักล่าเงินรางวัลจากทั่วทั้งอาณาจักรมังกรโลกา และยอดฝีมือจากทุกแขนงกำลังหลั่งไหลเข้าสู่แคว้นเดียวดาย!”