ตอนที่แล้ว68
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป70

69


บทที่ 69

“ฉันขอท้าประลอง”

ทันใดนั้น ชายในชุดสูทสีดำหรือก็คือ โรแมนติคแอสซาซิส ก็ก้าวขึ้นมาบนเวที

-ดูเหมือนคนคนนี้จะพยายามดิ้นรนอยู่สินะ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า เคาท์เตส คือ เรน่า ก็ยังกล้าขึ้นมาอีก

-บางทีเขาอาจจะไม่รู้ก็ได้ !?เธอจะใช้ เรน่า จริง ๆ หรือเปล่าเถอะ

-จะไม่ใช่ เรน่า ได้ยังไง ก็เห็นอยู่ว่าเธอเพิ่งใช้สกิลทุ่งน้ำแข็งไป

-ฉันขอโทษ

ผู้ชมต่างพยายามคาดเดาตัวตนของ โรแมนติคแอสซาซิน อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดเดาตัวคนของเขาได้หากยังไม่เริ่มต่อสู้ ตอนนี้ทุกคนทำได้เพียงพยายามคิดถึงความเป็นไปได้เท่านั้น

“เอาล่ะ ถ้างั้นเรามาเริ่มการต่อสู้ในครั้งที่สองกันเลย หน้ากากโรแมนติคแอสซาซิน ปะทะ เคาท์เตสโฮสเตส !!”

[เคาท์เตสโฮสเตส VS โรแมนติคแอสซาซิน ]

โรแมนติคแอสซาซิน ชักดาบที่เหน็บอยู่ข้างเอวออกมา แต่เมื่อทุกคนได้เห็นดาบเล่มนี้ต่างก็ต้องประหลาดใจอย่างมาก แม้แต่ อัลเลย์บอส ที่รับหน้าที่พิธีกรบนเวทีก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน

“ทำไมดาบของเขาถึงเป็นแบบนั้น !?”

“เขาหยิบดาบมาผิดเล่มหรือเปล่า !?”

-นี่เป็นความผิดพลาดระหว่างการถ่ายทอดสดใช่ไหม !?

-นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม เขาจะใช้ดาบแบบนั้นจริงเหรอ !?

-ช่างเป็นคนที่แปลกประหลาดจริง ๆ เขากล้าปรากฏตัวออกมาพร้อมกับอาวุธแบบนั้นเพื่อปิดบังตัวตนของเขา

อาวุธของ โรแมนติคแอสซาซิน คือดาบมือเดียวที่มีใบดาบหักครึ่ง เมื่อมันยังอยู่ในฝักมันเป็นอาวุธที่น่าหลงใหลอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อมันถูกชักออกมาก็ทำให้ทุกคนพบว่ามันไม่สมควรถูกเรียกว่าดาบด้วยซ้ำ

“สักครู่นะครับ” ทันใดนั้น อัลเลย์บอส ก็ก้าวออกมาด้านหน้าพร้อมกับแก้ไขความสงสัยของทุกคน “ไม่ทราบว่า ... คุณหยิบอาวุธมาผิดหรือเปล่าครับ !?”

“ไม่หรอก นี่คืออาวุธของฉัน”

“คุณไม่ต้องการเปลี่ยนอาวุธใช่ไหม !?”

“แน่นอน ฉันจะสู้ด้วยสิ่งนี้”

ด้วยทัศนคติที่แน่วแน่ของ โรแมนติคแอสซาซิน เช่นนี้ มันหมายความว่า อัลเลย์บอส ไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำในการเปลี่ยนอาวุธกับเขาอีกต่อไป

“งั้นเรามาเริ่มการต่อสู้กันเถอะ” อัลเลย์บอส ประกาศออกมาอีกครั้ง ตอนนี้มันค่อนข้างน่าอึดอัดที่จะขยายเวลาออกไปอีก เพราะแต่เดิมแล้วศึกราชันหน้ากากในวันนี้ก็เริ่มถ่ายช้าไปถึงสามสิบนาทีแล้ว หากยังปล่อยให้เลยกำหนดเวลามากไปกว่านี้มีแต่จะส่งผลเสียต่อ NIKE มากขึ้น ดังนั้น ทั้ง อัลเลย์บอส และทีมงานทั้งหมดจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากดำเนินรายการต่อไปโดยเร็วที่สุด

…..

‘ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นหัวฉันเลยสินะ’

ความจริงแล้ว โรแมนติคแอสซาซิน ไม่ได้เพิกเฉยต่อ เรน่า แต่เขาเพิ่งมาถึงรายการศึกราชันหน้ากากในเสี้ยววินาทีสุดท้าย และเขาตั้งใจท้าดวลกับเธอด้วยดาบหักของเขาอย่างแท้จริง

สำหรับ เรน่า แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกโกรธอีกฝ่ายมากนัก แต่เธอก็ตั้งใจที่จะทำให้ชายคนนี้ต้องชดใช้ที่กล้าเมินเธอ

เรน่า ใช้คุณสมบัติน้ำแข็งตั้งแต่เริ่มต้น เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการบดขยี้คู่ต่อสู้อย่างสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด ... ระยะห่างระหว่าง เรน่า และ โรแมนติคแอสซาซิน อยู่ที่ประมาณ 20 เมตร แต่ในเวลานี้ทั้งสองต่างพุ่งเข้าหากันจนระยะห่างเหลือเพียง 10 เมตร เท่านั้น

ณ จุดนี้ดาบในมือของ โรแมนติคแอสซาซิน ก็เริ่มเคลื่อนไหว

‘ทำไมเขาถึงเริ่มเหวี่ยงดาบตั้งแต่ตรงนั้น !?’

นี่คือความคิดที่เกิดขึ้นในใจของ เรน่า แต่ในเวลาเดียวกันออร่าดาบก็พุ่งออกจากปลายดาบที่หักของ โรแมนติคแอสซาซิน มันแทงทะลุผ่านคอของเธออย่างรุนแรง และส่งผลให้เธอถูกสังหารในทันที

[โรแมนติคแอสซาซิน เป็นฝ่ายชนะ ]

มันเป็นผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน การต่อสู้ครั้งนี้ใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที เท่านั้น และมันกลายเป็นความพ่ายแพ้ของ เรน่า ที่ถูกจัดการด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอย่างไม่น่าเชื่อ

-เกิดอะไรขึ้น !?

-ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม !?

-ขอดูรีเพลย์ด่วน !!ทำไมอยู่ ๆ เรน่า ถึงตายได้ !?

-สงสัยเราคงต้องรอการถ่ายทอดทางโทรทัศน์วันอาทิตย์ถึงจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เหล่าผู้ชมต่างประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครเข้าใจได้ว่าเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้นต่อหน้าต่อตาของพวกเขา เห็นได้ชัดว่า โรแมนติคแอสซาซิน เพียงแค่เหวี่ยงดาบหักในมือของเขาออกมาเล็กน้อย จากนั้นแสงสว่างสลัว ๆ ก็พุ่งออกมาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงในพริบตา ไม่ใช่เพียงเหล่าผู้ชมเท่านั้น แม้แต่เหล่าหน้ากากนักสู้ที่อยู่ข้างเวทีต่างก็ตื่นตระหนกเช่นกัน

“เมื่อกี้มันคือออร่าดาบใช่ไหม !?”

“เขามีสกิลที่ทำให้สามารถควบคุมออร่าดาบได้เหรอ !?”

“นั่นเป็นสกิลเฉพาะตัวหรือเปล่า !?แบบนั้นมัน ...”

สำหรับบางสิ่งแล้วมันก็ยากที่จะเชื่อได้แม้ว่าจะเห็นด้วยตาของตัวเองก็ตาม และสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นก็เป็นหนึ่งในนั้น ออร่าดาบควรเป็นสิ่งที่สามารถใช้ออกมาได้ในพริบตาแบบนั้น มันควรเป็นเหมือนสกิลเวทมนตร์ของจอมเวท ที่จำเป็นต้องตั้งสมาธิอย่างมากเพื่อเรียกใช้มัน

อย่างไรก็ตาม ความตื่นตระหนกแบบนี้คงอยู่เพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เพราะทุกคนต่างมีเรื่องอื่นให้ต้องคิดมากกว่านั้น

‘ใครจะเป็นคนต่อไป !?’

‘ฉันควรขึ้นไปดีไหม !?’

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่สกิลของ โรแมนติคแอสซาซิน แต่ปัญหาที่แท้จริงก็คือ ใครจะเป็นคนขึ้นไปเวทีเพื่อท้าประลองกับ โรแมนติคแอสซาซิน มากกว่า

“เราจะพักเบรก 10 นาที ก่อนเริ่มการต่อสู้ครั้งต่อไปนะครับ” อัลเลย์บอส ตะโกนขึ้นพร้อมกับลากตัว โรแมนติคแอสซาซิน ออกไปก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เบาลง “เจ้าบ้าเอ๊ย !!นายให้ฉันมาแทนนายเพราะแบบนี้ใช่ไหม !?”

“เกิดอะไรขึ้น !?นายรู้จักฉันเหรอ !?”

“ไอ้เจ้าบ้า ฮยอนอู !!” อัลเลย์บอส ตะโกนใส่ โรแมนติคแอสซาซิน ด้วยความโกรธ

ทันใดนั้น โรแมนติคแอสซาซิน ก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปาก อัลเลย์บอส ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เบาลงยิ่งกว่าเดิม “นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ !?ทำไมนายถึงทำแบบนี้ !?”

“ไม่ใช่ว่านายเป็นคนให้ฉันมาที่นี่เหรอ !?นายหลอกฉันนี่หว่า !!”

“ยองชาน ขอร้องล่ะ แค่วันนี้วันเดียว ช่วยฉันหน่อยเถอะ !!แล้วหลังจากนี้ฉันจะไม่หลอกนายอีก”

จากบทสนทนาระหว่างพวกเขาทำให้เราพบสิ่งที่น่าตกใจ ตัวตนของ โรแมนติคแอสซาซิน ก็คือ คัง ฮยอนอู และตัวตนของ อัลเลย์บอส ในตอนนี้ก็คือ ยองชาน ความจริงแล้ว ฮยอนอู ควรรับหน้าที่เป็นพิธีกรของศึกราชันหน้ากาก แต่ไม่มีทางเลยที่เขาจะรับหน้าที่พิธีกรไปพร้อมกับที่ตัวเองเป็นหน้ากากนักสู้ไปด้วยได้

“ทำไมวันนี้นายถึงต้องให้ฉันมาทำหน้าที่แทนนาย บอกความจริงฉันมาซะ!!” ยองชาน ถามอย่างจริงจัง

“วันนี้ จอง ฮันแบค เข้าร่วมรายการด้วย และเขาก็คือหน้ากากซูเปอร์แมน ฉันจะขยี้มันให้แหลกในวันนี้”

“แล้วเหตุผลที่นายมาสายล่ะ !?”

“ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่มาสายเท่านั้น … โอ้ !!นายช่วยลาก จอง ฮันแบค ขึ้นมาบนเวทีให้ฉันหน่อยสิ ไม่งั้นฉันคงได้ชนะบายง่าย ๆ แน่”

“ได้เลยเพื่อน” ยอมชาน พยักหน้าให้กับคำพูดของ ฮยอนอู

‘ไอ้ชาติชั่วนั่นมันมาที่นี่ด้วยเหรอ’

ศัตรูของ ฮยอนอู ก็คือศัตรูของ ยองชาน เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ยองชาน เองก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับ จอง ฮันแบค ในอดีตเช่นกัน

.....

“เอาล่ะ เรามาเริ่มการต่อสู้รอบที่สามกันต่อเลย มีใครต้องการท้าประลองกับ โรแมนติคแอสซาซิน ขอเชิญขึ้นมาบนเวทีได้เลยครับ หน้ากากซูเปอร์แมน อยากจะลองดูไหมครับ !?”

‘ขึ้นมาเลย จอง ฮันแบค !!’ ฮยอนอู พึมพำกับตัวเอง

เขาภาวนาให้ จอง ฮันแบค กินเหยื่อที่ ยองชาน โปรยทิ้งไว้

‘เข้ามาบนเวทีซะ จอง ฮันแบค’

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการภาวนาของ ฮยอนอู หรืออะไร ... หน้ากากซูเปอร์แมน ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากที่นั่ง “ฉันขอท้าประลอง”

หน้ากากซูเปอร์แมน หรือก็คือ จอง ฮันแบค ก้าวขึ้นมาบนเวทีด้วยความมั่นใจ เมื่อเห็นแบบนี้ทั้ง ฮยอนอู และ ยองชาน ต่างก็กรีดร้องในใจด้วยความสุขทันที

‘นั่นแหละ !!นั่นแหละ !!’ ยองชาน หันศีรษะไปทาง ฮยอนอู ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ

‘ขอบใจมาก ยองชาน’ ฮยอนอู พยักหน้าตอบ การแก้แค้นเล็ก ๆ น้อยของเขาได้ถูกจัดเตรียมบนเวทีนี้แล้ว ‘วันนี้ฉันจะกระทืบแกอย่างน้อยสองครั้ง’

หัวใจของ ฮยอนอู ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟที่ร้อนแรง

[โรแมนติคแอสซาซิน VS ซูเปอร์แมน ]

ฮยอนอู และ จอง ฮันแบค เผชิญหน้ากันบนเวที

‘วันนี้ฉันจะทำให้แกได้พบกับจุดจบที่น่าสมเพช’

ฮยอนอู ชักดาบของเขาออกมาด้วยความแน่วแน่ และความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

‘เอาล่ะ มาสั่งสอนผู้เล่นมืออาชีพกันสักหน่อย’

ฮยอนอู จับดาบหักในมือแน่น นี่คือไอเทมที่เขาได้รับมาหลังจากเคลียร์ภารกิจหลักครั้งที่สี่ และไปพบกับ อัลเดรด ในห้องพักภายในปราสาทลิป้า ด้วยรูปลักษณ์ของมันทำให้ ฮยอนอู ทิ้งมันไว้ในคลังเก็บของส่วนตัว และไม่เคยหยิบมันออกมาอีกเลย แต่ความจริงแล้วมันเป็นไอเทมที่ดีมาก

[ดาบหัก ]

[ดาบหักไร้ชื่อ ไม่มีข้อมูล มันอยู่ในสภาพปิดผนึก และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้ ]

[ระดับ : ยูนีค ]

[ข้อจำกัดการใช้ : ความแข็งแรงมากกว่า 600 , ความอึดมากกว่า 400 ]

[ความทนทาน : 2,500/2,500 ]

[พลังโจมตี : 1,200 ]

[ความสามารถ : ลดการใช้พลังเวทมนตร์ลง 20% , เพิ่มการเจาะเกราะ 20%]

นี่คืออาวุธที่เหมาะสำหรับ ฮยอนอู อย่างมาก ไม่เพียงแต่มันจะมีความสามารถในการลดอัตราการใช้พลังเวทมนต์ลงเท่านั้น แต่ยังมีค่าการเจาะเกราะอีกด้วย

ฮยอนอู เหวี่ยงดาบไปที่ จอง ฮันแบค ที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตร นี่คือการโจมตีที่ทำให้ เรน่า พ่ายแพ้ แต่ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ มันดูเชื่องช้ากว่าครั้งที่เขาใช้มันกับ เรน่า ขณะเดียวกันด้วยความสามารถของ จอง ฮันแบค ที่เป็นถึงผู้เล่นมืออาชีพแล้วนั้น เขาก็สามารถป้องกันการโจมตีครั้งนี้เอาไว้ได้เช่นกัน

จอง ฮันแบค ก็ใช้ออร่าดาบของตัวเองออกมาเช่นกัน

‘แค่นี้เหรอ !?’ นี่คือความคิดของ จอง ฮันแบค หลังจากป้องกันการโจมตีเอาไว้ได้ มันไม่ได้รุนแรงอย่างที่เขาคาดไว้ ในเวลาเดียวกันมันก็ทำให้เขาเกิดคำถามขึ้นในใจ ‘ทำไม เรน่า ถึงหยุดของแบบนี้ไว้ไม่ได้ !?’

มันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด ในอารีน่ามีผู้เล่นที่แข็งแกร่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักดาบอย่าง เรน่า ที่สามารถใช้คุณสมบัติน้ำแข็งได้ หรือแม้แต่จอมเวทที่สามารถใช้คาถาทรงพลังโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คู่ต่อสู้ของเขากลับต่างออกไป มันดูเหมือนเขาจะไม่สามารถใช้การโจมตีได้อย่างชำนาญนัก

‘โชคดีงั้นเหรอ !?’ นี่คือข้อสรุปเท่าที่ จอง ฮันแบค คิดได้ และมันคือความผิดที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับเขา เขารีบเข้าประชิด ฮยอนอู อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอ่อนแอกว่าที่คิดไว้ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของ ฮยอนอู นั้นเหนือกว่าที่เขาคาดไว้มากนัก

ทุกคนรู้ดีว่าการโจมตีมีประโยชน์มากกว่าการป้องกัน ดังนั้น เมื่อ ฮยอนอู กำลังป้องกันตัวอยู่นั้น ไม่มีทางเลยที่เขาจะตอบโต้กลับไปได้ แต่ทว่าเมื่อ จอง ฮันแบค เข้ามาในระยะประชิด จู่ ๆ ความแข็งแกร่งของ ฮยอนอู ก็เพิ่มขึ้น

‘เกิดอะไรขึ้น !?ทำไมอยู่ ๆ ไอ้หมอนี่ถึงได้แข็งแกร่งขึ้น !?’

ขณะเดียวกันมุมปากภายใต้หน้ากากของ ฮยอนอู ก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ ‘แกคงจะสับสนใช่ไหม !?ทำไมแกไม่ลองรับนี่ดูหน่อยล่ะ’

[จิตวิญญาณแห่งยักษ์ทำงาน ]

[ความแข็งแรงของคุณเพิ่มขึ้น ]

นี่คือสาเหตุที่ทำให้ความแข็งแกร่งของ ฮยอนอู เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เขาใช้สกิลจิตวิญญาณแห่งยักษ์ แม้ว่าเขาจะใช้เพียงสกิลเดียวแต่มันก็ทำให้ค่าความแข็งแรงของเขาสูงกว่า 600 แต้ม ซึ่งมันเกือบมากกว่าค่าสถานะพื้นฐานของเขาเกือบสองเท่า

‘ฉันจะยังไม่เหยียบแกในครั้งนี้ แต่จะให้โอกาสแกอีกครั้ง’

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จอง ฮันแบค ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ทว่า ฮยอนอู ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะจบการต่อสู้ครั้งนี้ลงอย่างสมบูรณ์ และจงใจทำให้ดูเหมือนกับเขาบังเอิญเอาชนะไปได้มากกว่า

‘ครั้งหน้าฉันค่อยขยี้แกอย่างสมบูรณ์แล้วกัน’

ขณะเดียวกัน จอง ฮันแบค ที่เห็นว่า ฮยอนอู เข้ามาใกล้พร้อมกับออร่าดาบก็สัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรง หากเข้าปะทะในตอนนี้เขาจะต้องกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

‘ฉันไม่สามารถรักษาระยะห่างได้ ฉันจะต้องเข้าระยะประชิด’

จอง ฮันแบค ใช้สกิลของตัวเองเพื่อเข้าใกล้ ฮยอนอู

‘แกจะทำยังไงถ้าฉันทำแบบนี้ !?’

“อ๊ะ !!”

ก่อนหน้านี้ดาบในมือของ โรแมนติคแอสซาซิน มีความยาวเพียงไม่กี่สิบเซนเท่านั้น แต่พริบตานั้นออร่าดาบก็ถูกวาดออกมาเป็นรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งเข้าหา จอง ฮันแบค อย่างกะทันหัน

จอง ฮันแบค ถูกฟันด้วยออร่าดาบรูปจันทร์เสี้ยวอย่างไม่ทันตั้งตัว

[โรแมนติคแอสซาซิน เป็นฝ่ายชนะ ]

.....

หลังจากได้รับความพ่ายแพ้ จอง ฮันแบค ก็กลับลงมาจากเวที

‘ฉันแพ้’

มันเป็นความว่างเปล่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับใครก็ตาม เขาจะสามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้ด้วยความสามารถของเขา แต่ทว่าในครั้งนี้เขากลับพ่ายแพ้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริงของตัวเองออกมาด้วยซ้ำ มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาแม้แต่นิดเดียว และมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นในใจ

‘อีกครั้ง !!ถ้าฉันได้สู้กับหมอนั่นอีกครั้ง ...’ เขาเชื่อว่าตัวเองจะต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน

ขณะที่ จอง ฮันแบค กำลังพูดกับตัวเองอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงของ โรแมนติคแอสซาซิน ที่อยู่บนเวทีดังขึ้นอย่างกะทันหัน

“ฉันขอสละสิทธิ์ในรอบนี้ ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากแล้ว และอยากจะพักสัก 30 นาที” โรแมนติคแอสซาซิน ยอมแพ้ในการต่อสู้ครั้งต่อไปอย่างกะทันหัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด