61
บทที่ 61
เซว่จุน กลายเป็นเหยื่อของ ฮยอนอู ในพริบตา ว่ากันตามจริงแล้วนอกจากชุดเกราะที่เปลี่ยนไปของเขา ส่วนที่เหลือทั้งหมดต่างก็เหมือนกับ อัลเลย์บอส อย่างไม่ผิดเพี้ยน
‘อัลเลย์บอส ...’
นี่เป็นชื่อที่เขาไม่เคยนึกถึงมาก่อนจนกระทั่งไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ เซว่จุน คิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงคนที่พยายามแต่งตัวเลียนแบบ อัลเลย์บอส เท่านั้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าแท้จริงแล้วคนที่เขากำลังหาเรื่องอยู่นี้ก็คือ อัลเลย์บอส ตัวจริง
“นายจะไม่เข้ามาเหรอ !?ถ้างั้นฉันจะเป็นคนเข้าไปเองนะ” ทันใดนั้น ฮยอนอู ก็พูดขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซว่จุน และอีกสามคนที่เหลือก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพุ่งเข้า ฮยอนอู อีกครั้ง
‘ถ้าต้องตายอยู่แล้วก็ลองดูสักตั้งจะเป็นไร’
เมื่อไม่มีทางเลือกเนื่องจากกฎของการดวลแบบนี้ พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องต่อสู้จนถึงที่สุดเท่านั้น เซว่จุน เหวี่ยงดาบของเขาเข้าหา ฮยอนอู แต่ทว่าพริบตานั้นออร่าดาบรูปจันทร์เสี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของ ฮยอนอู ก็พุ่งสวนกลับมา
‘ฉันต้องหลบ!!’ เซว่จุน แทบไม่สามารถหลบออร่าดาบขนาดใหญ่นี้ได้ เกราะของเขาถูกตัดไปส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ฮยอนอู ไม่ได้เล็งไปที่เขาตั้งแต่แรก
“อ๊ากกก !!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากด้านหลัง เมื่อ เซว่จุน หันกลับไปมองเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเสียงกรีดร้องมาจากไหน
‘บ้าเอ๊ย !!เข้าตั้งใจไว้แบบนี้ตั้งแต่แรก’
ออร่าดาบรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งใส่นักบวช และจอมเวทที่กำลังร่ายสกิลอยู่ด้านหลังของเขา นักบวชพยายามป้องกันด้วยสกิลของตัวเอง แต่ทว่าการโจมตีของ ฮยอนอู รุนแรงเกินไป มันกลืนกินทั้งสองคนนั้นในพริบตา
“เหลืออีกสองคน ....” ฮยอนอู พึมพำออกมาเบา ๆ
สำหรับ เซว่จุน และนักรบอีกคนที่เหลืออยู่นั้น สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ต่างไปจากฝันร้ายสำหรับพวกเขา
‘นี่มันสัตว์ประหลาดชัด ๆ’
“สัตว์ประหลาด !!เซว่จุน ตะโกนลั่น”พวกเราทำอะไรผิด !?”
“ไม่ใช่ว่าพวกนายเป็นฝ่ายเริ่มก่อนหรอกเหรอ ไม่พวกนายเหรอที่เป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่องฉันก่อน จริงไหม !?” ฮยอนอู ถามกลับด้วยเสียงเรียบพร้อมกับก้าวออกไปด้านหน้าก่อนจะเหวี่ยงดาบออกไป เซว่จุน หลับตาลงเพื่อรอรับความตาย อย่างไรก็ตาม คมดาบของ ฮยอนอู กลับมุ่งไปที่นักรบอีกคนแทนที่จะเป็นเขา หลังจากนั้น ฮยอนอู ก็ก้าวเข้าไปใกล้ เซว่จุน พร้อมกับกระซิบเบา ๆ “คนที่ฆ่าทีมแนวหน้าของพวกนายไม่ใช่แรงค์เกอร์หรอก แต่เป็นฉันเอง หึหึ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของ เซว่จุน ก็เบิกกว้างขึ้นทันที ‘คนที่จัดการทีมแนวหน้าคือ อัลเลย์บอส !!’
“รอดูแล้วกันว่ากิลด์ของพวกนายจะมีจุดจบแบบไหน ฉันจะบดขยี้มันให้ละเอียด !!อ้อ ฝากทักทาย เทียนหู่ ด้วยล่ะ”
หลังจากพูดจบ ฮยอนอู ก็เหวี่ยงดาบของเขาอีกครั้ง ศีรษะของ เซว่จุน ขาดออกจากลำคอ การดวลจบลงด้วยผลลัพธ์ตามที่ ฮยฮนอู คาดไว้
[คุณชนะ ]
.....
หลังจากการต่อสู้จบลง ฮยอนอู ก็จ้องมองไปยังอากาศที่ว่างเปล่า เขากำลังตรวจสอบวีดีโอที่เพิ่งอัดไว้ระหว่างต่อสู้
“วีดีโอกระชับและค่อนข้างดีทีเดียว ฉันควรส่งมันให้กับ เอลลิส”
ฮยอนอู เริ่มบันทึกวีดีโอตั้งแต่ หวังเฟิง เดินเข้ามาหาเขา
‘ดูเหมือนจะติดเป็นนิสัยแล้วสิ’
อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะบันทึกวีดีโอแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนมันจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเขาไปซะแล้ว
“ฉันจะอัดทุกคนจากกิลด์นั้นที่เจอเลยคอยดู”
จากข้อมูลที่ได้รับมาในการต่อสู้ครั้งนี้ มันทำให้ ฮยอนอู เปลี่ยนแผนการของเขาอีกครั้ง และดูเหมือนว่ามันจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเดิมไม่น้อย
[รางวัลตามกฎ ผู้ชนะได้ทุกอย่าง ถูกส่งมาแล้ว ]
“ไอเทมบ็อกซ์หกกล่อง”
การตรวจสอบไอเทมที่ได้รับหลังจากการดวลกลายเป็นงานอดิเรกสำหรับ ฮยอนอู
‘คงไม่มีใครต้องมาคอยตรวจสอบไอเทมแบบฉันแล้วละมั้ง !?’
รวม ๆ แล้วเขาต้องตรวจสอบไอเทมบ็อกซ์แบบนี้มาแล้วมากกว่ายี่สิบครั้ง นั่นหมายความว่ามีผู้เล่นมากกว่ายี่สิบคนถูกบังคับให้ลบตัวละครหลังจากการดวลกับเขา
“ไม่อยากจะเชื่อเลย !!”
ฮยอนอู โพล่งออกมาด้วยความตื่นเต้น ทันใดนั้น ทังอี ก็เดินเข้ามาหา ฮยอนอู “นายท่าน !!ท่านทำแบบนั้นอีกแล้วเหรอ !?แบ่งให้ข้าครึ่งนึงสิ”
จากกฎผู้ชนะได้ทุกอย่างนั้น ฝ่ายที่ชนะจากกฎนี้จะได้รับไอเทมของคู่ต่อสู้ทั้งหมดในรูปแบบกระเป๋าใบเล็ก ก่อนหน้านี้ ฮยอนอู ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับการตรวจสอบไอเทมที่ได้รับมาจากการดวลกับสมาชิกกิลด์กะโหลกดำ ดังนั้น เขาจึงส่งไอเทมบ็อกซ์เหล่านั้นให้กับ ทังอี เพื่อที่จะให้เขาค่อย ๆ หยิบออกมาทีละชิ้น สิ่งนี้ทำให้ ทังอี รู้สึกสนุกไปกับมันอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา ฮยอนอู ไม่ค่อยได้รับไอเทมบ็อกซ์แบบนี้มากนัก เขาจึงไม่สามารถมอบไอเทมบ็อกซ์ให้กับ ทังอี ได้สนุกกับมันได้
“เอ้านี่ ฉันจะแบ่งให้นายสี่กล่อง”
“ว้าว !!ขอบคุณนายท่าน”
“เอามันออกมาทั้งหมด แล้วก็อย่าแอบเก็บไว้เองด้วยล่ะ” ฮยอนอู พูดพร้อมกับส่งไอเทมบ็อกซ์สี่ในหกกล่องให้กับ ทังอี
“ได้เลยนายท่าน” ทังอี รับไอเทมบ็อกซ์ทั้งสี่กล่องมาพร้อมกับเดินกลับไปยังก้อนหินที่เขาเคยนั่งในก่อนหน้านี้
“ชิ้นนี้ก็ไม่มีประโยชน์” ฮยอนอู เองก็เริ่มตรวจสอบไอเทมเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีไอเทมหรือหนังสือสกิลที่ ฮยอนอู สามารถใช้ได้ เขาไม่ต้องการชุดเกราะ เพราะในปัจจุบันชุดเกราะวายุแห่งช่องเขาใหญ่ของเขาดีกว่าชุดเกราะระดับเดียวกันหลาย ๆ ชุดด้วยซ้ำ ดังนั้น สิ่งที่ ฮยอนอู ต้องการจึงเป็นอาวุธ หรือหนังสือสกิลมากกว่า ทว่าถึงเขาจะตรวจสอบไอเทมบ็อกซ์ที่ได้รับมาจากนักรบมันก็ยังไม่มีไอเทมชิ้นไหนที่เขาใช้ได้
“พวกนั้นมันเอาไอเทมไปขายจนหมดเลยเหรอ !?”
แม้ว่าไอเทมเหล่านี้ ฮยอนอู จะไม่ต้องการ แต่มันยังเป็นไอเทมที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ต้องการ
“ถ้าฉันขายทั้งหมดนี่ ฉันน่าจะได้สัก 10 ล้านวอน ต่อกล่องใช่ไหม !?” ฮยอนอู ครุ่นคิดเงียบ ๆ ระหว่างตรวจสอบไอเทมบ็อกซ์ “ฉันควรเอาเงินไปซื้อหนังสือสกิลดีไหมนะ !?”
‘ไม่ !!เงินพวกนี้สมควรเอาไปใช้หนี้ให้กับครอบครัว หากฉันต้องการสกิลฉันก็ควรไปขอมันจาก เลอบรอน’ แต่แล้ว ฮยอนอู ก็ต้องส่ายศีรษะเพื่อปฏิเสธความคิดแรกทันที
รายได้ของเขาน่าจะถูกโอนเข้าบัญชีในวันนี้ นอกจากนั้นยังมีโบนัสตามสัญญากับ NIKE ที่จะจ่ายเพิ่มให้กับเขาตามจำนวนผู้ติดตามของเขาด้วย ณ เวลานี้ช่องของ ฮยอนอู มีผู้ติดตามมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งหมายความว่าเขาจะได้รับเงิน 10 ล้านวอนในวันนี้เช่นกัน
“ค่าสปอนเซอร์จากปอร์เช่ก็น่าจะมาพร้อมกันใช่ไหม!?”
นี่คือแหล่งรายได้ของเขา มันจะช่วยให้เขาสามารถจ่ายหนี้ให้กับครอบครัวได้ส่วนหนึ่ง ฮยอนอู ครุ่นคิดเงียบ ๆ ระหว่างที่ตรวจสอบไอเทมบ็อกซ์อย่างคล่องแคล่ว
“เอ๊ะ !?นี่มันหนังสือสกิลไม่ใช่เหรอ !?” ฮยอนอู อุทานขึ้นเมื่อพบหนังสือสกิลจากไอเทมบ็อกกล่องหนึ่ง
[ระเบิดพลังเวทมนตร์ ]
[ระเบิดพลังเวทมนตร์สร้างความเสียหายให้กับศัตรูโดยรอบอย่างรุนแรง ]
[ประเภท : เรียกใช้ ]
[ระดับ : แรร์ ]
[ความชำนาญ : F]
[ระยะสกิล : 3 เมตร ]
[คูลดาวน์ : 20 วินาที ]
ฮยอนอู เรียนรู้สกิลนี้อย่างไม่ลังเล ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับสกิลระดับแรร์แบบนี้ หลังจากเรียนรู้สกิลแล้วเขาก็เริ่มต้นการทดสอบพลังของมัน ในเวลานั้น ทรงกลมโปร่งแสงที่สามารถจับต้องได้ค่อย ๆ พุ่งออกจากปลายดาบของเขาตรงไปที่พื้น ไม่ช้าการระเบิดก็เกิดขึ้น
“ไม่เลว น่าจะพอใช้ได้ล่ะนะ”
ฮยอนอู ยิ้มอย่างพอใจ
.....
ฮยอนอู ออกจากเกมมาพักผ่อนเล็กน้อย ก่อนจะเดินทางไปยังเมียงดง นี่เป็นครั้งที่สองของเขาที่มาที่นี่นับตั้งแต่ครอบครัวของเขาล้มละลาย
“ตึกมิวอล ...”
เหตุผลที่ ฮยอนอู มายังเมียงดงค่อนข้างเรียบง่าย นั่นเป็นเพราะเจ้าหนี้ของครอบครัวเขาอยู่ที่นี่ในตึกมิวอล
“มูนแคปิตอล ... เจอแล้ว” ฮยอนอู เดินไปรอบ ๆ ไม่นานก็พบกับสถานที่ที่กำลังมองหา เขาขึ้นไปยังชั้นหกของตึกมิวอลซึ่งเป็นที่ตั้งของมูนแคปิตอล
“ไอ้หนุ่ม นายมาทำอะไรที่นี่ !?” ชายร่างท้วมเดินเข้ามาทักทาย ฮยฮนอู
“ผมมาที่นี่เพื่อมาจ่ายหนี้ให้กับครอบครัว” ฮยอนอู ตอบอย่างใจเย็น
‘หนี้ !?เขายังดูอายุน้อยอยู่เลย สงสัยจะเป็นหนี้อยู่ไม่มาก’ ชายร่างท้วมคิดเล็กน้อยก่อนจะพา ฮยอนอู เข้าไปด้านใน “พี่ใหญ่อยู่ข้างใน เคาะประตูก่อนเข้าไปด้วยล่ะ”
“ครับ” ฮยอนอู พยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปอีกห้อง
มันเป็นเพียงสำนักงานธรรมดาที่มีโต๊ะกับเก้าอี้ถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ที่ปลายสุดอีกด้านของห้องยังสามารถมองเห็นประตูได้อีกบานหนึ่ง
ก๊อก ๆ!!
“ผมมาเพื่อจ่ายหนี้” ฮยอนอู เคาะประตูพร้อมกับพูด
“เข้ามา” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังบานประตู
เมื่อได้ยินเสียงตอบรับ ฮยอนอู ก็เปิดประตูและเดินเข้าไป ‘น่ากลัวชะมัด’
แม้ว่าคนที่อยู่ในห้องนี้จะไม่ได้มีร่างกายสูงใหญ่เหมือนกับคนด้านนอก แต่ใบหน้าของเขากลับมีรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดติดอยู่ตรงหางตาของเขา
“นายมาเพื่อจ่ายหนี้เหรอ !?”
“ครับ”
“ชื่อ !?”
“คัง ซอกจุน”
ชายที่มีรอยแผลเป็นค้นหาเอกสารครู่หนึ่ง ไม่ช้าเขาก็พบเอกสารที่มีชื่อพ่อของ ฮยอนอู อยู่บนนั้น เขามองไปยังเอกสารก่อนจะเหลือบมองมายัง ฮยอนอู
‘ทำไมเขาถึงมองฉันแบบนั้น !/’ ฮยอนอู รู้สึกประหม่ากับท่าทีของชายที่มีรอยแผลเป็น
“นี่คือชื่อนายเหรอ !?” ชายที่มีแผลเป็นถาม
“นั่นเป็นพ่อผม”
คำถามนี้ทำให้ ฮยอนอู พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมชายที่มีแผลเป็นคนนี้ถึงได้มองเขาแปลก ๆ
‘เขาคงคิดว่าฉันเป็นพ่อของฉันแน่ ๆ’
“แล้วจะจ่ายเท่าไหร่ !?” ชายที่แผลเป็นถามด้วยรอยยิ้ม
‘เขาไม่ใช่ คัง ซอกจุน แต่เป็นเด็กหนุ่มอายุราวยี่สิบ เขาจะจ่ายได้สักเท่าไหร่กันเชียว’
“ผมมาจ่ายหมื่นล้านวอน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชายที่มีแผลเป็นสลายไปอย่างกะทันหันราวกับเขาไม่ได้ยิ้มตั้งแต่แรก “หมื่นล้าน !?ไอ้หนู นายไม่ควรมาล้อเล่นกับฉันนะรู้ไหม”
“ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมมาจ่ายหนี้หมื่นล้าน” ฮยอนอู ยื่นสมาร์ทโฟนออกมาเพื่อแสดงยอดเงินคงเหลือในบัญชีของเขา
“จริงเหรอเนี่ย !?เยี่ยมเลย เป็นหนี้ก็ต้องจ่ายคืนถูกต้องแล้ว” ชายที่มีรอยแผลเป็นหัวเราะ
‘ไอ้บ้าแดชอล แกปล่อยไอ้หนูนี่เข้ามาได้ยังไง!!!!!’
หากไม่ใช่เพราะการตรวจสอบเอกสาร คงไม่มีใครรู้เลยว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่อปีสูงถึงหนึ่งพันล้านวอน แต่การ์ดหน้าประตูกลับยอมปล่อยให้เขาเข้ามาด้านในได้โดยง่าย สิ่งนี้ทำให้ชายที่มีแผลเป็นรู้สึกโกรธอยู่ไม่น้อย
.....
หลังจากออกจากตึกมิวอล ฮยอนอู ก็นั่งแท็กซี่ไปยังโรงพยาบาลที่พ่อของเขาพักรักษาตัวอยู่ทันที
“รู้สึกดีชะมัด”
แม้ว่าจะเสียเงินหมื่นล้านวอนในบัญชีไปในพริบตา แต่ ฮยฮนอู กลับไม่ได้รู้สึกแย่แม้แต่นิดเดียว ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยต่อปีที่เขาต้องจ่ายเพิ่มลดลงไปแล้ว และเงินต้นก็เหลืออยู่เพียงสองหมื่นล้านวอนเท่านั้น
‘เงินที่เหลือฉันจะเอาไปให้แม่ กับย้ายห้องให้พ่อ’
“ขอบคุณครับ” ฮยอนอู ขอบคุณคนขับแท็กซี่พร้อมกับส่งเงินค่าโดยสารให้เขา เมื่อเขายืนอยู่หน้าโรงพยาบาลมันก็ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมากกว่าในอดีตอย่างมาก ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าตัวเองสามารถช่วยเหลือครอบครัวให้ฟื้นกลับคืนมาได้อีกครั้ง