ตอนที่แล้วตอนที่ 47 แม่แม็กนัส (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 49 แผนร้ายคืบคลาน (อ่านฟรี)

ตอนที่ 48 สงครามอาหาร (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 48 สงครามอาหาร

คืนนั้นแม็กนัสต้องให้ดั๊กอยู่ใกล้ๆ เพราะเขากลัวว่าแชดจะกินเขา เขาได้แต่หวังให้ดั๊กโตขึ้นและสอนบทเรียนอันร้อนแรงให้กับแชด นอกจากนี้ เขายังรู้สึกถึงสายสัมพันธ์บางอย่างที่ก่อตัวขึ้นกับมังกร เขารู้สึกได้ถึงสายใยชีวิตในตัวเขา ตัวเล็กและตื่นเต้นที่จะเติบโต

"เหมียว"

“นายนอนบนพื้นเพื่อพยายามกินเขา เงียบไปเลย ศาสตราจารย์มักกอนนากัลยังบอกฉันด้วยว่านายทำอะไรไว้ เธอสามารถถลกขนของนายแล้วขายเป็นก้อนได้รู้ตัวไหม? มีสามัญสำนึกบ้าง” เขาดุแชดแล้วเข้านอน

...

เช้าวันจันทร์เขาไม่ชอบเพราะมันเป็นวันที่ยุ่งที่สุดในสัปดาห์ นอกจากนี้ เพราะเขาได้เรียนรู้ทุกอย่างจนถึงปีที่ 5 แล้วเขาจึงมักจะรู้สึกเบื่อ แม้ว่าตอนนี้เขากำลังเรียนหนังสือของชั้นปีที่ 6 และ 7 เขาสนใจอักษรรูนอย่างแท้จริง ความรู้ด้านอักษรรูนที่เขาได้รับจากการประสิทธิ์ประสาทวิชากับจิตสำนึกที่เหลืออยู่ของเมอร์ลินนั้น ทำให้เขาต้องมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับอักษรรูนปกติ เขาเคยพยายามแปลหนังสือของเมอร์ลินที่เขาได้มาจากดัมเบิลดอร์ แต่ตอนนี้ก็ยังไร้ผล

"แคว๊ก"

วันนี้ดั๊กกำลังแสดงท่าทางกระตือรือร้นเพราะเพิ่งตื่นได้ไม่นาน แม็กนัสวางมันไว้ที่เตียงของแรกนาร์ ดั๊กย่ำบนหน้าของแรกนาร์เป็นเวลา 15 นาทีก่อนที่เขาจะตื่นขึ้น เขาหลับเหมือนม้าตายจริงๆ

เตียงอีกด้านก็มีสเนปอยู่ แม็กนัสรับรู้ว่าเขาเป็นคนที่ขยันขันแข็งและทำงานหนักที่สุดในบรรดาพวกเขา ทำไมน่ะหรอ เนื่องจากแม็กนัสมีจิตใจที่เฉียบแหลม เสริมด้วยสายเลือดของเขา ส่วนรักนาร์ได้รับพรที่ทำให้เขามีระดับที่ดีในการปรุงยา แต่สเนปไม่มีอะไรเลย ไม่มีความสามารถโดยกำเนิด ไม่มีครอบครัวที่มีความสุขหรือเงิน เขาต้องตื่นตี 4 ทุกวันในตอนเช้าเพื่ออ่านหนังสือ เขาไม่ได้พักผ่อนในวันอาทิตย์ด้วยซ้ำ แต่โชคดีที่เขาดูดีขึ้นตั้งแต่เริ่มพูดคุยกับพวกเขา

"อ๊ากกกก... แม็กนัส!... เอาดั๊กออกไป... ฉันจะจัดการมันถ้านายไม่ทำ" รักนาร์ตะโกนลั่นที่เตียงของเขา

แม็กนัสหัวเราะเบาๆ และอุ้มดั๊กออกมา เขาจะร่ายคาถาเงียบและคาถาไม่สังเกตุเห็นและเก็บมันไว้ในกระเป๋าของเขาตลอดเวลา

แชด! ไปเอาน้ำนมจากพวกเอลฟ์มาสิ ฉันรู้ว่านายแอบไปที่นั่น ไม่มีเหตุผลอื่นแล้วที่ทำให้น้ำหนักนายเพิ่มขึ้นตั้ง 2 กิโล” แม็กนัสออกคำสั่ง

แชดเหมือนแมวที่ดีเปิดตูดแนบออกไป พวกเขาอยู่ในคุกใต้ดินและนี่ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับแชด

พวกเขามีประวัติเป็น 2 คลาสแรก มันเป็นวิชาที่ง่ายที่สุดสำหรับทั้งสามคน สเนปรู้เพราะเขาเป็นนักเรียนที่ดี แม็กนัสรู้เพราะเขาสนใจ และรักนาร์รู้เพราะเขากำลังมองหาผู้เสพความตายก่อนที่พวกนั้นจะมีชื่อเสียง

แต่ก่อนอื่นเป็นเวลาอาหารเช้า วันนี้แม็กนัสกำลังรออาหารโปรดของเขาอยู่

"รักนาร์ ตื่นได้แล้วเจ้าม้าตาย ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ" แม็กนัสไปกวนประสาทเขาต่อ

...

"เยส!... เขาเพิ่มแพนเค้กในเมนู ตอนนี้ฉันแค่ต้องขอให้แม่ส่งขวดน้ำเชื่อมพิเศษมาให้ฉัน” แม็กนัสส่งเสียงเชียร์เมื่อเห็นอาหารเช้า

“ทำไมนายถึงหมกมุ่นกับแพนเค้กจัง ที่นี่มีของดีมากมาย ดูไก่นี่ เบคอนนี่ เนื้อนี่สิ ถ้านายอยากได้อาหารมังสวิรัติ ก็นี่ ผลไม้ เต้าหู้ และก็อะไรพวกนี้อีก” รักนาร์วางอาหารทุกชนิดไว้ตรงหน้าเขา

แม็กนัสหัวเราะเบาๆ ขณะที่เขาโอบไหล่ของรักนาร์ "สหายข้า แพนเค้กอร่อยที่สุดแล้ว แต่ถ้าพวกมันถูกทำโดยเชฟระดับปรมาจารย์ พวกมันจะอร่อยขั้นเทพ แป้งนุ่ม เนื้อเนียน น้ำเชื่อมสูตรพิเศษ อา มันเหนือกว่าที่พวกเรามนุษย์ควรจะได้ลิ้มลอง”

“นายใช้ไหล่ฉันเช็ดมืองั้นหรอ?” รักนาร์ถามหน้าตาเฉย

*แค็กๆ*

“นั่นสิ กินข้าวกันเถอะ” แม็กนัสพยายามเปลี่ยนเรื่อง

*ผั่ว*

“อ่า ขอโทษทีนะแม็กนัส มือฉันลื่น” รักนาร์ก็ตบหัวเขาทันที

“เชี้-...หรอ? มือนายอยู่อย่างไกลเลยนะ ถึงเวลาฉันเอาคืนแน่ อาจเป็นตอนที่นายหลับ ฉันจะให้ดั๊คควักไส้-...”

ในขณะที่เขากำลังพูด เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยเอ็มม่า ศัตรูของเขา เธอหายไปทั้งคืนเมื่อวานนี้ แม็กนัสรู้สึกโล่งใจที่เขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับการแกล้งจากเธอ

เธอมีซองจดหมายอยู่ในมือและดูกระอักกระอ่วน แก้มแดง

เธอยื่นซองจดหมายให้เขาอย่างรวดเร็ว "ขอบคุณ... แล้วมาตัดสินกัน"

พูดจบเธอก็ผละออกไป แม็กนัสยังคงพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน แรกนาร์และสลิธีรินอีกสองสามคนก็ส่งเสียงเอะอะโวยวาย

"โอ้วววววว... แม็กนัสได้จดหมายรักเหรอ อู้ววววว...." รักนาร์พูดอย่างขบขัน

"อะไรเล่า? นี่คือเสียงของคนเราเวลามีไม้กายสิทธิ์ติดอยู่ก้นหรือเปล่า?” แม็กนัสพูดกลับ ทำให้พวกเขาไอและหุบปาก

*วี๊ดดด*

แม็กนัสหันไปมองว่าเสียงผิวปากนี้มาจากไหน ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซิเรียสและเจมส์ แม็กนัสมองไปที่พวกเขาพลางยิ้ม พวกนั้นยกนิ้วให้เขา ก็พอเข้าใจเหตุผลล่ะนะ

“ดูข้างในสิ...” รักนาร์สะกิดเขาอย่างตื่นเต้น

"อืม มาดูกัน" เขาเปิดซองจดหมายและเห็นกระดาษเล็กๆ อยู่ในนั้น จริงๆแล้วมันคือการ์ด

รักนาร์รับมันอย่างรวดเร็ว “นี่มันอะไรกัน เอ๊ะ บัตรยืมถาวรสำหรับร้านหนังสือทุกร้านในตรอกไดแอกอน? เธอไม่รู้จะพูดยยังไงหรอ?”

แม็กนัสรับคำจากเขาทันที "บางทีเธออาจไม่ต้องการพูด เธออาจจะกล่าวขอบคุณด้วยเหตุผลอื่น ไว้ฉันจะถามเธอทีหลัง เอาล่ะ ได้เวลาส่งจดหมายแล้ว"

จานอาหารหายไปจากโต๊ะ ในไม่ช้า นกฮูกสีส้มแสนสวยก็บินตรงเข้ามาจอดตรงหน้าแม็กนัส

“ฮ่าๆ ไงเด็กดี เป็นไงบ้าง” แม็กนัสลูบไล้นกฮูก แถมนกฮูกยังสนุกกับการลูบ

จากนั้นมันก็ส่งซองจดหมายเล็กๆ ให้กับแม็กนัสและยกกรงเล็บเข้าหาเขาราวกับถามว่า "รางวัลของฉันอยู่ที่ไหน?"

แม็กนัสหัวเราะเบา ๆ “อืม ขอโทษนะ ซัมเมอร์ ฉันลืม”

เขาตั้งชื่อนกฮูกว่าซัมเมอร์ เพราะสีส้มของมันทำให้ แม็กนัสนึกถึงฤดูร้อนอันอบอุ่น

ซัมเมอร์เศร้าและวางกรงเล็บลง ทันใดนั้นแม็กนัสดีดนิ้วต่อหน้านกฮูก เนื้อสุกชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว

"ฮ่าๆ ฉันล้อเล่น จากการทำงานหนักของจะไม่จ่ายค่าตัวได้ยังไง เอ้านี่... ค่อยๆกินนะ" แม็กนัสกล่าวกลั้วหัวเราะ

ซัมเมอร์กระโดดขึ้นด้วยความสุขไม่กี่วินาทีและไถหัวของเธอที่คางของเขา จากนั้นก็กินเนื้ออย่างมีความสุข ไม่สนใจอันตรายรอบตัว เพราะเธอรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้แมกนัส

เมื่อกินเสร็จแล้ว เธอมองไปที่แม็กนัส ยกกรงเล็บขึ้นแล้วชนหมัดกับเขา จากนั้นเธอก็บินไปทำงานอื่นต่อ

"นายเข้ากับสัตว์ได้ดีขนาดนี้ได้ไง?" สเนปถาม เขาอิจฉาหมอนี่จริงๆ เพราะหากเขาสามารถใกล้ชิดกับสัตว์ได้ขนาดนี้ เขาก็จะเก็บเกี่ยววัตถุดิบสำหรับปรุงยาได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักแกลเลี่ยน

"ฮิฮิ ฉันเป็นมีเสน่ห์โดยธรรมชาตินะ เอาล่ะ มาดูกันว่าพ่อกับแม่ส่งอะไรมาให้ฉันบ้าง" เขาเปิดจดหมายอย่างมีความสุขและอ่านเนื้อความ

[จดหมาย]

นี่คือแม่ของลูกนะจ๊ะที่รัก เราดีใจที่รู้ว่าลูกสบายดี สิ่งที่ลูกส่งมาให้เราก็น่าสนใจเช่นกัน เมื่อเย็นที่ผ่านมา พ่อของลูกได้ลูกอมรสอ้วกแมว เป็นเรื่องตลกแต่ก็น่าสยดสยองเมื่อคิดว่าหากใครชิมแล้วจะรู้ถึงรสชาติของมัน

เรามีแข็งแรงดีมีความสุขมากนะจ๊ะ แต่เราคิดถึงลูกอย่างสุดใจและแทบรอวันคริสต์มาสที่จะมาถึงไม่ไหวแล้ว ตั้งใจเรียนและอย่าลืมสนุกกับตัวเองนะจ๊ะ กินอาหารดี ๆ หยุดกินแพนเค้กได้แล้ว

ที่นั่นคงจะหนาวแล้ว เพราะงั้นสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่นนะจ๊ะ สุขภาพลูกเป็นอย่างไรบ้าง? หากไข้ของลูกกลับมาอีก ให้รีบบอกหมอที่นั่นและบอกให้เราทราบด้วย พูดแค่ไหนก็ไม่พอ เราคิดถึงลูกนะจ๊ะ รักลูก จากแม่จ๋าของลูก

เฮ้ ลูกชาย นี่คือพ่อเองนะ เธอพูดมามากพอแล้ว พ่อจะไม่พร่ำเพ้ออีก แต่ช่วงนี้เบื่อๆ ไม่มีคนถามอะไรโง่ๆ เราเจอบ๊อบบี้เมื่อวันก่อน ดูเหมือนเขาจะสบายดีทุกอย่าง เขาเริ่มไปโรงเรียนแล้ว แต่พ่อเดาว่าเขาคงไม่เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นให้ใครฟังนอกจากลูกหรอก เห็นเขาบอกว่าเขาจะส่งในภายหลังในไม่กี่วัน

อีกอย่างนะ โปรดอย่าส่งลูกอมพวกนั้นมาอีกเด็ดขาด พ่อยังรู้สึกถึงรสชาติแย่ๆ นั่นอยู่เลย... อา ตอนนี้พ่อรู้สึกอยากจะอ้วก...

ฉันอ้วกไปแล้ว เราจะรอนะเจ้าลูกชาย บอกพ่อว่าลูกอยากทำอะไรในวันคริสต์มาส เราจะทำให้

ด้วยความรักพ่อของลูก

[สิ้นสุดจดหมาย]

แม็กนัสยิ้มและพับจดหมายกลับใส่กระเป๋า เขาอยากจะไปหาพวกเขาและกอดพวกเขาแน่นๆ แต่ตอนนี้เขามีงานต้องทำ

~ ผมขอโทษนะฮะ แต่ผมไม่สามารถเล่าให้ทั้งสองคนฟังเกี่ยวกับความลับที่ทำให้โลกแตกนี้เกี่ยวกับตัวผม พวกเขาอาจทำให้พ่อแม่ตกอยู่ในอันตราย ผมต้องการเวลาอีกสักหน่อย เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น แล้วเราจะอยู่อย่างราชาอ้วนที่แท้จริง~ เขาคิดกับตัวเอง

แม็กนัสรวบรวมความคิดของเขา มองไปรอบๆ ตัวเขา ได้เวลาเล่นพิเรนทร์เพราะเวลาอาหารเช้ากำลังจะหมดลง เขามองไปที่ซิเรียสซึ่งแอบมองเขาเช่นกัน

แม็กนัสเรียกเด็กชายปีหนึ่งอีกคน เขาช่วยเขาด้วยคาถาเล็กๆ น้อยๆ

"แฟรงคลิน เพื่อนฉัน รบกวนนายทำอะไรให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากให้นายเอาสิ่งนี้ไปให้ซิเรียส แบล็กตรงโน่นน่ะ ขอบใจนะเพื่อน" แม็กนัสร้องขอ

แฟรงคลินเป็นสายเลือดพ่อมดอยู่ครึ่งนึง หรืออีกคำหนึ่งหมายถึงเลือดผสมแต่มีนิสัยดี เนื่องจากพวกเขาเพิ่งอยู่ปี 1 พวกเขาไม่มีประเด็นในการไปโต๊ะบ้านอื่น

“ได้เลย แม็กนัส” เขารีบหยิบกระดาษและเดินไป

เมื่อซิเรียสได้รับข้อความ เสียงประทัดก็ดังขึ้นในอากาศ และในชั่วขณะนั้น เด็กผู้ชายทุกคนในโต๊ะสลิธีรินก็เด้งจากโต๊ะ กางเกงของพวกเขากลายเป็นกระโปรงสั้น

ซิเรียสและเจมส์หัวเราะเสียงดัง แต่แล้วซิเรียสก็เปิดโน้ตที่แม็กนัสส่งมา

"ฮ่าฮ่า นี่มันหมายความว่ายังไง?" ซิเรียสหัวเราะเบาๆ

ข้อความดังนั้นกล่าวว่า "กฎแห่งการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม"

*บู้ม*

ประทัดอีกลูกหนึ่งระเบิดขึ้นในอากาศ ตอนนี้ เด็กชายทุกคนในกริฟฟินดอร์เด้งจากโต๊ะทันที กางเกงของพวกเขากลายเป็นกระโปรงสั้นด้วย และแม็กนัสก็ก้าวไปไกลกว่านั้น เขาเสกให้ผมยาวขึ้นและริมฝีปากกลายเป็นสีแดงแจ๋ ซิเรียสและเจมส์ก็โดนเหมือนกัน

ในขณะเดียวกัน แม็กนัส สเนป และ รักนาร์ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

"ฮ่าฮ่าฮ่า... ดูพวกเขาสิ" แม็กนัสหัวเราะเสียงดัง นักเรียนสลิธีรินทุกคนหัวเราะ รู้สึกดีขึ้นมากเพราะกริฟฟินดอร์แย่กว่าพวกเขา

"แก..." Sirius ขว้างไก่ใส่ แม็กนัสด้วยความโกรธ แต่เขารับมันได้และกินไก่ต่อ

อย่างไรก็ตาม การกระทำของซิเรียสทำให้เกิดความวุ่นวายหนักเข้าไปอีก และในไม่ช้ามันก็กลายเป็นสงครามอาหารระหว่างทั้งสองบ้าน แม็กนัสไม่ได้รับผลกระทบจากมัน บางครั้งเขาจะหยิบอาหารและกินมัน บางทีก็แอบแบ่งปันกับเจ้าดั๊กตัวน้อยน่ารักในกระเป๋าของเขา

รักนาร์และสเนปซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ

ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกำลังจะลุกขึ้นตะโกนแต่ถูกดัมเบิลดอร์ห้ามไว้ เขายิ้มพลางมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น

“ดูหน้าพวกเขาสิมิเนอร์วา พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กัน พวกเขาแค่กำลังเล่นกัน ปกติจะแกล้งกันแค่ฝ่ายเดียว ซึ่งจะเพิ่มความเกลียดชัง แต่วันนี้ เพราะทั้งคู่เป็นเหยื่อ จึงไม่โกรธ” เขาประเมิน

“แต่นี่มันเป็นเศษอาหารนะ” เธอแย้ง

"ไม่เป็นไร มิเนอร์ว่า ผมจะแก้ไขมันทั้งหมดในภายหลังด้วยเวทมนตร์" เขายืนยันกับเธอแล้วมองไปที่แม็กนัสซึ่งกำลังหัวเราะอย่างเต็มที่

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” แม็กนัสหัวเราะ

*แปะ*

“นี่สำหรับค่าตอบแทน...”

เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีกรรมตามสนองขึ้น เอ็มมาเอาพายแอปเปิ้ลกระแทกหน้าเขาอย่างจัง

“โอ้ เธอเพิ่งทำให้มังกรหลับโกรธ เอ็มม่า เผชิญกับความพิโรจของข้าซะ” แม็กนัสใช้ไม้กายสิทธิ์แบบใช้แล้วทิ้งอันใหม่ของเขา ฟาดนักเก็ตไก่ใส่เธอราวกับกระสุน เธอมุดเข้าไปใต้โต๊ะทันทีเพื่อซ่อน แต่มีเมล่อนสมูตี้ชามใหญ่รอเธออยู่

*แผล่ะ…*

"ฮ่าฮ่าฮ่า... ข้าคือราชาเมล่อน..." แม็กนัสหัวเราะ จากนั้นเขาก็หันไปหาซีเรียส

*บูม*

เมล่อนลูกเต็มๆ ฟาดเข้าที่ใบหน้าที่เปื้อนอาหารของเขา ซิเรียสตกใจมากเพราะเจ็บนิดหน่อย

"โอ้ว ไอ้หนูนั่น... มันเล็งฉัน!..." ซิเรียสก็ตั้งสมาธิกับเวทของเขาเช่นกัน

แม็กนัสลากเพื่อนสองคนของเขาออกมาจากใต้โต๊ะ “เจ้าพวกขี้ขลาด ลุกขึ้นสู้ นี่คือบททดสอบจากสวรรค์”

"แม็กนัส อย่าลากพวกเราเข้าไปยุ่งวุ่นวายนี้ และเห็นแก่พระเจ้า หยุดพูดไรเว่อร์ๆ ได้แล้ว" รักนาร์ขอร้อง

*แผล่ะ*

พายเนื้อฟาดเข้าที่ใบหน้าของรักนาร์ "โอเค ใครกล้าโจมตีข้า?"

มันเป็นวันที่ดี แตกต่างจากวันจันทร์ทั่วไปมาก และเป็นโอกาสที่หายากเพราะนักเรียนสลิธีรินและนักเรียนกริฟฟินดอร์หลายคนหัวเราะในชั้นเรียนปรุงยาด้วยกัน

...

ลอนดอน บ้านของแมกนัส

“ฉันไม่รู้ว่าเราจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้นานแค่ไหน อดัม เขาฉลาดมาก” เกรซเดินไปมาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับกัดเล็บ

"ผมรู้ แต่เราไม่สามารถทำให้เขาเป็นห่วงได้ในตอนนี้ สิ่งที่เราต้องรู้คือใครเล็งเป้ามาที่เรา ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณถูกบังคับให้ลงจากตำแหน่งหัวหน้าแผนกและได้รับมอบหมายให้ทำงานกลางคืน ในขณะที่ผมถูกย้ายสถานที่ ที่ต้องเดินทางไป 4 ชั่วโมง ผมรู้สึกว่านี่เป็นการจงใจ” อดัมกล่าวค้าน ตอนนี้เขากำลังโกรธแต่ไม่รู้ว่าจะโฟกัสไปที่จุดไหน เพราะเขาไม่รู้ว่าใครเป็นเป้าของพวกนั้น

“ฉันเป็นศัลยแพทย์หัวใจที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประเทศ ส่วนคุณก็เป็นที่รู้จักในแวดวงวิศวกรรม ทำไมใครๆ ถึงพุ่งเป้ามาที่เรา? เราไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากรับใช้ประเทศนี้ ทั้งๆ ที่เราสามารถทำงานส่วนตัวได้ง่ายๆ และมีรายได้หลายล้านปอนด์” เกรซร่ำไห้อย่างผิดหวัง

*เห้อ*

อดัมกอดเธอเพื่อไม่ให้เธออารมณ์เสียเกินไป

“ผมเดาว่า พรสวรรค์ไม่ได้มีความหมายอะไรมากในโลกนี้ สุดท้ายแล้ว พวกเราก็เป็นแค่คนธรรมดาที่ไร้พลัง เป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ของระบบอันยิ่งใหญ่นี่ กระจ่อยร่อยเสียจนไม่คิดก่อนจะสั่งย้ายเราด้วยซ้ำ”

“ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ฉันขอให้พวกเขาจะตกนรกหมกไหม้” เกรซสาปแช่ง

“ว้าว ดูเหมือนว่าภรรยาของฉันจะกลายเป็นมังกรโกรธ อย่าเผาฉันด้วยไฟ 'เกรซ' ของคุณนะ” เขาพูดติดตลก

เธอหัวเราะเบา ๆ "ใช่ค่ะ ฉันต้องใจเย็นๆ หวังว่าเราจะจัดการเรื่องนี้ได้ก่อนวันคริสต์มาสนะคะ"

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

ซัมเมอร์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด