ตอนที่แล้วตอนที่ 46 : แมงมุมถักมิติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48 : กลับจากมหามิติ

ตอนที่ 47 : สั่นคลอนยุทธภพ


ตอนที่หลินมู่เปิดรอยแยกมิติที่พาเขามาสู่มหามิติ ทั้งโลกบ่มเพาะพลังแห่งจักรวรรดิโจวได้เกิดความสั่นคลอนครั้งใหญ่ ตั้งแต่นิกายใหญ่ไปจนถึงอาณาจักรเล็ก ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหมดตั้งแต่ขอบเขตก่อวิญญาณขึ้นไปสามารถสัมผัสได้

ณ นิกายกฎนภา ที่ยอดจับดารา

บ่อโลหิตขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น ศิษย์หลายร้อยคนนอนอยู่บนพื้นมิทราบเป็นตาย ทวารทั้งเจ็ดของศิษย์ทุกคนมีเลือดไหลทะลักออกมา เลือดของทุกร่างได้ไหลรินสะสมจนกลายเป็นแอ่งโลหิตขนาดใหญ่ ที่นี่คือค่ายกลแห่งยอดจับดารา

ในสองวันที่ผ่านมา ศิษย์ยอดจับดาราพยายามที่จะแกะรอยตำแหน่งของมิติปั่นป่วนหลายแห่งที่เพิ่มขึ้น มิติปั่นป่วนนั้นเพิ่มขึ้นบ่อยครั้งจนทำให้ผู้เฒ่าของยอดจับดาราเรียกศิษย์นิกายมามากขึ้นเพื่อใช้งานค่ายกล

แต่ผู้เฒ่าไม่รู้เลยว่าการเรียกศิษย์มาเพิ่มขึ้นของพวกเขาจะกลายเป็นความตายของศิษย์เหล่านั้นในไม่นาน ผู้เฒ่าชุดดำสองคนยืนอยู่ที่หัวของค่ายกล พวกเขาเองก็มีเลือดไหลจากเจ็ดทวารแต่ยังรั้งสติอยู่ได้และกัดฟันด้วยความโกรธแค้น

“ยอดจับดาราต้องสูญเสียมากขนาดนี้เชียวเรอะ”

ผู้เฒ่าชุดดำนามเฟิงพูดกับผู้เฒ่าชุดดำอีกคน

“เราไม่รู้เลยว่เรื่องนี้จะเกิดขึ้น ผู้เฒ่เฟิง เราแค่เพิ่มจำนวนคนเพราาะเราถูกสั่งมา เจ้านิกายจะต้องเข้าใจแน่”

ผู้เฒ่าชุดดำอีกคนตอบ

“เจ้ายังไม่เคยเห็นเจ้านิกายตอนเข้าตาจน ผู้เฒ่าเก็ง เขาจะโทษยอดจับดาราที่ไร้ความสามารถจนไม่พบผู้บ่มเพาะพลังที่ซ่อนเร้นและกำลังจะก้าวขึ้นไป”

ผู้เฒ่าเฟิงพูดด้วยเสียงเศร้าหมอง

“แต่เราไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นเพราะมีผู้บ่มเพาะพลังจะก้าวขึ้นไป มันอาจจะเป็นแค่ความผิดปกติอื่นก็ได้”

ผู้เฒ่าเก็งตอบ

“มันไม่มีทางอื่นที่ผลสะท้อนกลับเลวร้ายเช่นนี้ บันทึกเก่าของยอดจับดาราเตือนไว้เฉพาะเจาะจงว่าค่ายกลจับดาราต้องปิดในเมื่อใดก็ตามที่มีผู้บ่มเพาะพลังกำลังจะก้าวขึ้นไป แล้วก็ยังเตือนด้วยว่าถ้าหากไม่ทำเช่นนั้น จะต้องเกิดความสูญเสียเพราะผลสะท้อนกลับ และแม้แต่ค่ายกลก็อาจจะถูกทำลายได้”

ผู้เฒ่าเฟิงอธิบายด้วยสายตาเย็นชา

ผู้เฒ่าชุดดำอีกคนไม่พูดต่อและนิ่งเงียบอย่างเข้าใจ ผู้เฒ่าเฟิงมองผู้เฒ่าเก็งที่จ้องมองไปยังที่ห่างไกลและถอนหายใจ

“และนี่ก็ไม่ใช่แค่เราที่สัมผัสได้ ทั้งยุทธภพจะต้องรู้ว่ามีผู้บ่มเพาะพลังจากโลกของเราที่ก้าวขึ้นไปเป็นเซียนหลังจากหลายพันปี”

ผู้เฒ่าเฟิงกล่าว

หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า

ที่ตำหนักใหญ่แห่งนิกายกฎนภาได้มีการจัดประชุมขึ้น ผู้เฒ่าชุดดำหลายสิบคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ตามห้องโถง เจ้านิกายนั่งอยู่หน้าสุดบนบัลลังก์หรูหรายิ่งใหญ่ เจ้านิกายดูจะกำลังใช้ความคิดและได้ยินเสียงผู้เฒ่าพูดคุยกันเรื่องภายในนิกาย

“การจัดลานทดสอบเสร็จสิ้นและมีศิษย์ถูกย้ายไปประจำการแล้ว”

ผู้เฒ่าคนหนึ่งพูดหลังจากอ่านม้วนกระดาษ

“ส่งความช่วยเหลือเร่งด่วนไปที่ยอดจับดาราตามคำขอแล้ว”

หัวหน้าผู้เฒ่าฮั่นกล่าว

เจ้านิกายเงยหน้าเมื่อได้ยินคำรายงานของหัวหน้าผู้เฒ่าฮั่น เขาได้ยินเสียงรายงานมากมายจากยอดจับดาราทุกวันและยิ่งสนใจเรื่องสถานการณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับมิติปั่นป่วน

“ยอดจับดาราลดพื้นที่ของตำแหน่งรอยแยกมิติได้แล้วหรือยัง?”

ผู้เฒ่าชุดสีม่วงที่นั่งด้านขวาของเจ้านิกายถาม

“ได้แล้วใต้เท้า ท่านผู้เฒ่าสูงสุดหนึ่ง พวกเขาจำกัดพื้นที่ได้เป็นสามอาณาจักรทางเหนือ เป็นอาณาจักรอรุณทมิฬ ราชอาณาจักรหมิงตะวันออก และอาณาจักรชวงเฉียน”

หัวหน้าผู้เฒ่าเฟิงตอบด้วยความนับถือ

ผู้เฒ่าชุดสีม่วงคือผู้เฒ่าสูงสุดหนึ่งแห่งกฎนภา เขาคือหนึ่งในสามยอดฝีมือขอบเขตย่างวิถีแห่งนิกาย และอำนาจของเขานั้นเป็นรองเพียงเจ้านิกายเท่านั้น

“มีข่าวเพิ่มเติมขององค์ชายหรือไม่?”

เจ้านิกายถาม

ผู้เฒ่าฮั่นกำลังจะตอบเจ้านิกาย แต่ตอนนั้นเองก็ได้มีคลื่นพลังมิติแผ่ขยายไปทั่วทั้งอาณาจักรโจว ทุกคนที่นั่งในห้องโถงแตกตื่นสุดขั้วและสีหน้าตึงเครียดก็ปรากฏบนใบหน้าเจ้านิกายและผู้เฒ่าสูงสุดหนึ่ง

“ท่านเจ้านิกาย!”

ผู้เฒ่าฮั่นอุทาน

เจ้านิกายลุกขึ้นและพลังอันยิ่งใหญ่ก็แผ่ออกมาจากร่างกายเขา เขาโบกมือสร้างค่ายกลก่อตัวจากกลางอากาศ เจ้านิกายมองค่ายกลที่มีอักษรโบราณกระโดดไปมาและเปลี่ยนแปลงทุกวินาที

“ผนึกนิกายแล้วบอกศิษย์นิกายทุกคน มียอดฝีมือลับกำลังจะทะลวงพลัง และจะเกิดการสั่นคลอนในวิถีสวรรค์ สั่งผู้เฒ่าทุกคนให้หยุดการปิดประตูฝึกตน เราต้องจัดประชุมด่วน”

เจ้านิกายสั่ง

“ส่งคนไปช่วยที่ยอดจับดาราด้วย พวกเขาต้องได้รับผลสะท้อนกลับจากค่ายกลแน่”

เจ้านิกายพูดต่อหลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง

ความหวาดผวาเกิดขึ้นในดวงตาหัวหน้าผู้เฒ่าฮั่นเมื่อเขารู้ถึงความหมายของเจ้านิกาย เขารีบออกจากห้องโถงและบินไปทางยอดจับดารา ไม่มีแม้แต่เสียงใดออกมาจากโถงเพราะผู้เฒ่าที่เหลือทุกคนกำลังเงียบกริบ แม้แต่ผู้เฒ่าสูงสุดหนึ่งก็กำลังจมอยู่ในความคิด

ณ นิกายโอสถสายรุ้ง

ในสวนใหญ่ที่มีดอกไม้หลายล้านดอกบานสะพรั่งและพริ้วไหวตามแรงลม บนท้องนภามีเมฆาปราณจิตล่องลอยแผ่วเบา ที่กลางสวนมีเรือนไม้เล็กตั้งอยู่ ภายในมีชายชรานั่งอยู่ ชายชราถือโอสถเม็ดหนึ่งด้วยมือซ้ายและควบคุมเตาหลอมโอสถด้วยมือขวา

ทันใดนั้นเองคลื่นพลังมิติก็ได้ปกคลุมทั้งนิกายโอสถสายรุ้งและทำให้ค่ายกลทำงาน ค่ายกลขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อเผยออกมาและปกคลุมทั้งนิกายโอสถสายรุ้ง ทันทีที่ค่ายกลปรากฏ เสียงระเบิดก็ดังมาจากหลายส่วนของนิกาย

ชายแก่ที่นั่งอยู่ในสวนยักษ์หยุดสิ่งที่ทำอยู่ในทันทีที่รู้ตัวและลุกขึ้นก่อนจะตบพื้นด้วยฝ่ามือ

“ต้านไว้!!!”

ชายชราตะโกน หลังจากค่ายกลสงบลงแล้วเสียงระเบิดก็หยุดไปด้วย

แสงหลายสิบสายบินมาทางสวนใหญ่ก่อนที่จะร่อนลงที่หน้าชายแก่ แสงเหล่านั้นจางหายไปและเผยเป็นผู้เฒ่ามากมายของนิกายที่เพิ่งจะมาถึง ชายคนหนึ่งเดินนำหน้ากลุ่มและกำลังจะพูดกับชายชราแต่ก็ถูกขัดเสียก่อน

“ข้ารู้แล้ว อย่าเสียเวลาแล้วเริ่มซ่อมค่ายกลซะ”

ชายชราสั่ง

“ย่อมได้ ท่านบรรพบุรุษ”

ผู้เฒ่าทุกคนพูดพร้อมกันก่อนจะบินออกไป

สถานการณ์แบบเดียวกันกับนิกายกฎนภาและนิกายโอสถสายรุ้งมีให้เห็นในทุกนิกายระดับสูงและนิกายธรรมดาในอาณาจักรโจว

ณ นิกายสามหม้อโบตั๋น

ศิษย์หลายพันคนยืนอยู่ที่ลานใหญ่ พวกเขาถูกเรียกมาเพื่อแจ้งปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น มีชายไม่กี่คนยืนอยู่บนเวทีใหญ่หน้าลาน ศิษย์ทุกคนหันหน้าเข้าหาเวทีและรอการประกาศ

หนึ่งในคนที่ยืนบนเวทีก้าวออกมาข้างหน้า

“อย่างที่พวกเจ้าทุกคนได้เห็น ระวังความปลอดภัยของนิกายได้เพิ่มขึ้นเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน เหตุผลเพราะเกิดปรากฏการณ์พิเศษที่ผู้เฒ่าของนิกายสัมผัสได้ ปรากฏการณ์นี้อาจเป็นอันตรายต่อพวกเจ้าทุกคน ดังนั้นทุกคนต้องกักตัวอยู่ในนิกายไม่ออกไปไหนจนกว่าจะมีคำสั่งใหม่”

ชายบนเวทีสั่ง

เสียงต่อต้านดังมาจากศิษย์ในนิกาย แต่พวกเขาก็เงียบลงในไม่นานหลังจากที่ผู้เฒ่าบนเวทีปล่อยแรงกดดันออกมาให้ทุกคนเงียบ

ณ เมืองอู๋หลิม ตำหนักเจ้าเมือง

ถ้ำลับตั้งอยู่ลึกใต้ตำหนัก มีเพียงผู้เดียวในเมืองที่รู้ว่ามีถ้ำเช่นนี้อยู่ใต้ตำหนักก็คือเจ้าเมือง อุโมงค์แผ่ขยายในถ้ำนำทางไปสู่ที่ใดมิอาจทราบ

ในถ้ำนั้นมีแอ่งโลหิตขนาดใหญ่อยู่ด้วย มีหลายเส้นทางที่เชื่อมต่อกับแอ่งโลหิตส่งผ่านโลหิตมาในแอ่งให้มากขึ้น ถ้าหากมองเพดานถ้ำข้างบนจะเห็นจารึกสลักหินเอาไว้ รอยสลักทอดยาวจากเพดานมาจนถึงผนังและจนจมแอ่งโลหิต

ในแอ่งโลหิตนั้นมีชายผอมแห้งนั่งสมาธิอยู่และมีเพียงศีรษะที่โผล่พ้นโลหิต พลังอันน่ากลัวลอยรอบบุรุษผอมแห้งผู้นี้ เสียงไอดังก้องในถ้ำและแผ่ไปจนถึงทุกอุโมงค์

ชายสวมชุดหรูหราปรากฏตัวจากอุโมงค์ทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขามีใบหน้ากระวนกระวายเมื่อได้ยินเสียงไอ เขารีบไปที่แอ่งโลหิตและมองใบหน้าของชายผอมแห้ง

“พี่ใหญ่!”

ชายสวมชุดหรูหราพูดออกมา

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด