ตอนที่ 319 ปันผลสงคราม
ถังอี้และหัวหม่าเอ้อเลือกเชลยและออกเดินทาง พวกเขาเป็นบริวารฝีมือดีของอูเถี่ยหวี่ คนที่ได้รับเลือกเหล่านี้เป็นพวกมีพลังโดดเด่นและเป็นชาวบ้าน ดังนั้นพวกเขาจะเข้าใจอีกฝ่าย และสำหรับพวกเขาแล้วกลุ่มอิทธิพลของกลุ่มดาวหมาป่าในปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดความทะเยอทะยานชิงบัลลังก์ในกลุ่มดาวหมาป่าไม่สามารถหยุดยั้งได้แล้ว
นอกจากนี้พวกเขายังเห็นกับตาตนเองถึงพลังที่น่ากลัวของถังเทียน พวกเขาทุกคนได้รับความเชื่อถือจากเขามานานแล้ว
การได้พวกเขานำทางทำให้ถังอี้และหัวหม่าเอ๋อเดินทางได้สะดวก ไม่ว่าคนจะโง่เขลาเพียงใด พวกเขาก็สามารถบอกได้ว่ากลุ่มคนที่แข็งแกร่งทรงพลังกำลังขี่ม้าตรงมาที่พวกเขา และถ้าพวกเขายังคงดื้อรั้นต่อต้าน พวกเขาจะตายแน่นอน
เพียงแต่ว่ามีหลายคนต้องอิจฉาเผ่าทะเลทรายที่มีโชคดีและหลายคนอ่อนน้อมต่อถังเทียนโดยไม่ลังเล ช่วงเวลาที่พวกเขาจะต้องร่วมกับผู้ทรงพลานุภาพขนาดนั้น ใครก็ตามที่ช้าจะมีผลต่อตำแหน่งในอนาคต
ถังอี้และหัวหม่าเอ้อเพิ่งออกเดินทางเมื่อพวกเขาทราบข่าวกลุ่มพลังต่างๆ ของกลุ่มดาวหมาป่าต้องการยอมรับทั้งหมด วันแรกสามในสี่ของกลุ่มอิทธิพลทั้งดวงดาวยอมจำนนทันที และวันที่สองกลุ่มอิทธิพลสุดท้ายที่รักษาการณ์ที่มั่นสุดในกลุ่มดาวก็ยอมแพ้
เรื่องถ่วงเวลาสมาพันธ์ชาวยุทธปล่อยให้ซือหม่าเซียงซานจัดการ เขาเป็นคนที่ตีสองหน้าได้เก่งถือว่าเป็นงานที่เหมาะสมกับเขา
หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้วถังเทียนรู้ว่าผลเก็บเกี่ยวหลังจากต่อสู้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
สมบัติจากกลุ่มอิทธิพลใหญ่ทั้งสามของกลุ่มดาวหมาป่า นอกจากของคานท์ตกอยู่ในเงื้อมมือถังเทียนหมด และสมบัติของอันไป๋ผู้ถูกถังอี้ฆ่าก็ตกอยู่ในมือของถังเทียน บวกกับสมบัติของหกองครักษ์ตระกูลถูยิ่งไม่อาจจินตนาการได้
ทั้งสิบคนนี้เป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี และทั้งสิบคนนี้ตายในการต่อสู้นี่เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว
สำหรับหลายคนมันกลายเป็นสงครามไปแล้ว
แม้ว่าจะเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีแต่ชีวิตของพวกเขาก็เหมือนต้นหญ้าในสงคราม นักสู้ธรรมดาไม่ถือว่าคุ้มค่าเงิน
ในเวลาเดียวกันการแบ่งปันสินสงครามก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ
ในการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ สมบัติที่โดดเด่นที่สุดไม่มีอะไรต้องสงสัย ก็คือกระบี่ปลอดสำเนียงของเหมิงเว่ยซึ่งเป็นสมบัติมืดระดับตำหนักระนาบกลาง อาวุธสมบัติที่หายากนี้ไม่สามารถพบเห็นในตลาดใดๆได้ ถ้ามันถูกนำมาขายก็จะถูกขายออกไปได้ง่ายด้วยราคาที่สูงกว่าสองสามร้อยล้านและถ้าประชาสัมพันธ์ดีๆคนอาจยอมซื้อในราคาเกินกว่าหมื่นล้าน
ชั้นต่อมาเป็นอาวุธสมบัติระดับแดนขั้วขอบฟ้าสองชิ้นคือคลื่นหมีปฐพีแห่งกลุ่มดาวหมีเล็กและมังกรฟ้าคำราม สมบัติของกลุ่มดาวมังกร สมบัติชิ้นแรกได้มาจากมือของอูเถี่ยหวี่และชิ้นที่สองได้มาจากมือของหวยไป่หัวรวมมูลค่าสมบัติทั้งสองชิ้นราวๆ ห้าร้อยล้านเหรียญ
ยังคงมีสมบัติดวงดาวชั้นเงินคุณภาพกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือรวมแล้วหกสิบสี่ชิ้น
นอกจากนั้นยังมีอาวุธสมบัติอีกสิบชิ้น อาวุธสมบัติเงินคุณภาพขอบฟ้าเหนือมีราคาทั้งหมดเกินกว่าสามสิบล้านเหรียญดาว สมบัติชั้นเงินคุณภาพขอบฟ้าเหนือธรรมดาจะถูกกว่ามาก แต่ก็ยังคงมีราคาสองล้านเหรียญ
สมบัติดวงดาวทั้งหมดหกสิบสี่ชิ้นทำให้ถังเทียนมีมูลค่ารวมหกร้อยล้านเหรียญดาว
แม้แต่ถังเทียนก็ยังตะลึง ทั้งหมดนี้แค่เฉพาะสมบัติดวงดาว
ยังมีอีกกองหนึ่งเป็นการ์ดวิทยายุทธ
นักสู้สวรรค์วิถีทุกคนพกการ์ดวิญญาณไว้กับตัว และการ์ดพวกนี้ไม่ใช่สินค้าธรรมดาการ์ดยี่สิบแปดใบเป็นการ์ดทองวิทยายุทธระดับแปดทั้งหมดและสิ่งที่ทำให้ถังเทียนทึ่งก็คือมีการ์ดชั้นม่วงทองอยู่สามใบ
การ์ดม่วงทองมีคุณสมบัติพอที่จะกลายเป็นการ์ดสุดยอดวิชาวิทยายุทธโดดเด่นได้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีถึงสามใบ
ถังเทียนใช้เงินมหาศาลซื้อการ์ดวิชาลมพรางและโล่อากาศโจมตีไม่มีใครเข้าใจมูลค่าของการ์ดวิญญาณเหล่านี้ดี
หินดวงดาวระดับต่างๆถูกแยกไว้ ถังเทียนสังเกตว่ามีหินดวงดาวระดับสิบ แสงของมันสว่างเจิดจ้าจนตาถังเทียนพร่า
การ์ดเหรียญดาวรวมแล้วเกินกว่าพันล้านเหรียญส่วนใหญ่ได้มาจากอูเถี่ยหวี่และหัวไป่หัวทั้งสองเป็นผู้ปกครองเทียบกับคนที่เหลือนับว่าร่ำรวยมากกว่า
ถังทียนและพวกเป็นเหมือนกับพวกบ้านนอกเข้ากรุง พวกเขาไม่เคยเห็นเงินมากมายอย่างนี้มาก่อนจากที่แห่งไหนเลย?
พวกเขางุนงงทันที
“โอวพระเจ้า!” อาโมรี่ยืนตะลึงกับที่ พยายามใช้นิ้วทั้งสิบนับ แต่ไม่สำเร็จ “เรารวยแล้ว! เงินตั้งมากมาย ถ้าเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธ เราจะต้องทำกี่ภารกิจถึงจะได้เงินมากขนาดนั้น”
“แรงงานไร้ฝีมือ ถือเป็นกรรมของเจ้าเอง” ซือหม่าเซียงซานพูดขณะลับดาบอยู่ด้านข้าง
เหลียงชิวก็ตะลึงเช่นกัน “เงินนี้น่าจะพอซื้อดาวอู่อันได้ทั้งดวง”
ซือหม่าเซียงซานกล่าว “เจ้าตีราคาดาวอู่อันสูงเกินไป”
“เรารวยกันแล้ว” เหมือนกับว่าถังเทียนกำลังก้าวเดินอยู่บนกองฝ้ายย่างเท้าของเขานุ่มนวลไม่ได้ใช้กำลังใดๆ เขารู้สึกว่าเสียงตัวเขาเองก้องกังวาน เมื่อเขาได้ยินม่อเว่ยเทียนพูดเรื่องสิบหกพันล้าน ถังเทียนไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะสำหรับเขา นั่นเป็นแค่จำนวนตัวเลข
แต่เมื่อสินสงครามมีราคาถึงสิบพันล้านวางอยู่ต่อหน้าเขา เหมือนกับว่าเขาถูกต่อยที่ศีรษะจนมึนงงทำอะไรไม่ถูก
กองเหรียญดวงดาวเหมือนภูเขาเลากาเป็นประกายระยิบระยับ รวยมากจนเขาแทบมึนเมา
ประกายแสงของสมบัติเงินสว่างแพรวพราวกว่าดวงอาทิตย์
การ์ดวิทยายุทธวางเป็นแถวเรียงรายกระพริบอย่างต่อเนื่อง
นั่นมันสุดยอดจริงๆ!
“มาแบ่งกันเถอะ” ถังเทียนพูด
หลิงซิ่วกับอาเฮ่อไม่สนใจสมบัติดวงดาว
ฟลามิงโกของหลิงซิ่วไม่ช้าจะต้องมีการปรับปรุงรุ่นให้ดีขึ้น ดังนั้นหินดวงดาวเป็นวัสดุที่มีค่าสำหรับเขา
อาเฮ่อไม่มองหาอะไรมากเขากวาดมือทีเดียวก็เลือกการ์ดวิชากระบี่ออกมาสองสามใบ
คลื่นหมีปฐพีมอบให้อาโมรี่ เขาเป็นพวกบ้าพลังและในเวลาฝึกฝนเพื่อช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น คลื่นหมีปฐพีจะช่วยเขาได้ทำให้เขามีพลังน่ากลัวมากขึ้น
มังกรฟ้าคำรามคือกระบี่เล่มหนึ่งมอบให้หานปิงหนิงตลอดทั้งตัวกระบี่เป็นเงินกระพริบส่องแสง ด้ามกระบี่เป็นเหมือนหัวมังกรเพิ่มราศีเยือกเย็นให้หานปิงหนิง มันคมมาก ความจริงถังเทียนต้องการจะมอบกระบี่ปลอดสำเนียงให้หานปิงหนิง แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง กระบี่ปลอดสำเนียงต่อต้าน มันต้องการให้ถังเทียนใช้มันเท่านั้น
เหลียงชิวฝึกวิทยายุทธใช้มือเปล่า และการ์ดวิชาระดับม่วงทองก็มีอยู่วิชาหนึ่งชื่อว่าผสานหยินหยาง
ซือหม่าเซียงซานเลือกวิชาตัวเบาการ์ดระดับม่วงทองวิชาก้าวย่างภูตพราย
การ์ดม่วงทองที่เหลือเป็นวิชาหมัดนามว่าหมัดสำลี มีแต่ถังเทียนที่ฝึกวิชาหมัด และเมื่อเห็นชื่อแล้ว ถังเทียนขมวดคิ้ว สำหรับเขาแล้ววิชาหมัดมวยควรจะแกร่งกร้าวดุดัน หมัดสำลี มันคือวิชาหมัดอะไรกัน?
แต่เมื่อเห็นว่าเป็นวิชาการ์ดม่วงทอง ถังเทียนเก็บไว้อย่างไม่เต็มใจ ถังเทียนไม่ต้องการสมบัติดวงดาวมากนัก ไม่มีเกราะเลย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาอาจจะสนใจอยู่บ้าง
เขาตื่นเต้นที่สุดสำหรับการฝึกฝนพิเศษของปิง
สองวันต่อมาจู่ๆ เขาก็เรียกหลิงซิ่ว, อาเฮ่อและพวกที่เหลือมาประชุมกัน
เมื่อถังเทียนดึงแผ่นไม้ออกอย่างมีความสุขและอวดหลุมทางเข้าสีดำ ทำให้ทุกคนตกใจ
“หวา, ถังพื้นฐาน! เจ้าไปเรียนวิธีขุดรูมาตั้งแต่เมื่อไหร่? เอ่, ทำได้ดีจริงๆนะ กลมเป๊ะ” อาโมรี่เบิกตา เขารู้สึกประทับใจ
สีหน้าถังเทียนชะงักค้าง เจ้าบ้าเอ๊ย ทุกครั้งที่ข้าต้องการแสดงความเท่เป็นต้องพังทุกทีเพราะเจ้าวัวโง่นี่
“ทุกคนตามลงมา” ถังเทียนพูดอย่างเฉยเมยและกระโดดลงไปก่อน
ที่เหลือตามลงมาเป็นพรวน และเมื่อพวกเขาลงไปยืนข้างล่างแล้ว พวกเขาต้องประหลาดใจกันทุกคน
พื้นที่ข้างล่างกว้างใหญ่น่าประหลาดใจ เครื่องจักรกลประหลาดสองสามเครื่องทำให้พวกเขาตื่นตระหนก มันคือฐานใต้ดินจริงๆ
“บรอนซ์?” อาเฮ่อก้มศีรษะและตรวจสอบพื้นและสะดุ้งตกใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนสัมผัสที่พื้นทันที และพากันตกใจทั้งหมด
“ถังพื้นฐาน, ฐานนี้ไม่ได้สร้างจากบรอนซ์ล้วนๆใช่ไหม?” เหลียงชิวอดถามไม่ได้
เมื่อเห็นสีหน้าทุกคนถังเทียนที่ตอนแรกไม่ค่อยพอใจ ถึงกับมีความสุขทันทีและกล่าวอย่างภูมิใจ “ถูกแล้ว สร้างจากบรอนซ์ล้วนๆข้าใช้เวลาสองวันจึงสร้างได้ขนาดนี้ เหนื่อยมาก”
สองวัน...
ถ้าเป็นที่พักทุกคนคงเรียกถังเทียนว่าบ้าแน่ ฐานใต้ดินบรอนซ์ สร้างสำเร็จในสองวัน? นี่เขานึกว่าเราโง่อย่างนั้นหรือ?
อาเฮ่อและหลิงซิ่วมองหน้ากัน พวกเขาตกใจพอๆ กัน พวกเขารู้ว่าถังเทียนมีวิศวกรจักรกลที่ทำงานให้เขา ถ้าไม่อย่างนั้นหลิงซิ่วจะได้ฟลามิงโกมาจากไหน? แต่ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักว่าวิศวกรจักรกลที่ทำงานให้ถังเทียนไม่ใช่วิศวกรจักรกลธรรมดา
มีวิศวกรจักรกลที่มีความสามารถน่าทึ่งจริงๆ..
เขาหรือนางต้องมีความแข็งแกร่งมากแน่นอน
วิศวกรจักรกลแบบไหนที่สามารถสร้างฐานบรอนซ์ได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยภายในสองวัน?
ตาของหลิงซิ่วเป็นประกาย เมื่อเห็นเครื่องจักรกลลึกลับทรงพลังมากกว่าที่เขาคิด อย่างนั้นฟลามิงโกของเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นได้แน่นอน ไม่ว่าพลังอำนาจใดที่หนุนถังเทียนอยู่เขาไม่สนทั้งนั้น
ถังเทียนพอใจมาก เขาสามารถสร้างฐานใต้ดินเสร็จได้ภายในสองวัน เขาทำงานหนักแทบตาย
ประสิทธิภาพงานของเซรีนเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง อสูรจักรกลจำนวนมากถูกส่งเข้าประตูแสงและตามหยาหยาช่วยขุดที่ราบสูงในระดับที่เร็วขึ้น ถังเทียนได้รับแรงบันดาลใจมากจึงขอให้เซรีนสร้างอสูรจักรกลสำหรับขุดอีกมากกว่าสิบเนื่องจากเนินทรายอ่อนนุ่ม พวกมันจึงขุดได้อย่างง่ายดาย และอสูรจักรกลทั้งสิบก็ขุดทั้งวันทั้งคืนสร้างพื้นที่ขนาดมหึมา ขณะที่ชิ้นส่วนบรอนซ์ทั้งหมดถูกส่งมาจากเมืองสามวิญญาณจากนั้นใช้ตู้เก็บของอควาเรียสเคลื่อนย้ายมาติดตั้งทั้งหมด
แม้ว่าถังเทียนจะแข็งแกร่งมากแต่การเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนบรอนซ์ทั้งหมดติดตั้งก็ทำให้เขาเกือบหมดแรง
มันสามารถถูกจัดอันดับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้ ด้วยความรู้สึกเกี่ยวกับมันทำให้ถังเทียนรู้สึกว่างานหนักที่เขาทำมานั้นไม่มีอะไร
“แค่ก” ถังเทียนพูดขัดจังหวะความคิดของทุกคนและเริ่มอธิบาย “เหตุผลที่ข้าสร้างฐานนี้ขึ้นมาก็คือเพื่อช่วยในการฝึกฝนพิเศษของพวกเรา”
“ฝึกฝนพิเศษ?”
คำเหล่านี้ช่างดึงดูดทุกคนนัก
“ถูกแล้ว” เสียงของปิงดังออกมาจากเงามืดในฐาน ขณะที่เขาค่อยๆลอยออกมาให้ทุกคนเห็น “การต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นเรื่องยากลำบากมาก พวกเจ้าทุกคนรู้ว่าสมาพันธ์ชาวยุทธทำงานกันอย่างไร พวกเขาจะต้องส่งคนมาฆ่าพวกเจ้าทุกคนแน่ ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนจำเป็นต้องฝึกบทฝึกพิเศษสนามมรณะนี้ให้สำเร็จในช่วงเวลานี้”
“บทฝึกมรณะพิเศษ?” อาโมรี่สงสัย “มันคืออะไร?”
“ฝึกมรณะพิเศษนี้หมายความว่าถ้าพวกเจ้าทำไม่สำเร็จ พวกเจ้าก็จะตาย” ปิงกล่าวเฉื่อยชา
“ถ้าเราเราฝึกไม่สำเร็จ...เราจะตาย...” อาโมรี่แข็งค้างขณะตะกุกตะกักกล่าว
“ถูกแล้ว”ปิงพูดเฉื่อยชา “กล่าวกันว่าสิ่งที่สามารถดึงศักยภาพเต็มที่ของมนุษย์ออกมาได้เต็มที่ อันดับหนึ่งมีเพียงสิ่งเดียวและนั่นก็คือความตาย มีแต่เมื่อเผชิญกับความตายเท่านั้น พวกเจ้าจึงจะได้ตระหนักรับรู้ ทุกอย่างรอบตัวเจ้าจะเปลี่ยนไป นั่นรวมทั้งทัศนคติของเจ้า พลังใจของเจ้า วิทยายุทธ ความตายจะช่วยให้พวกเจ้าเติบโตก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ละคนจะเปลี่ยนแปลง หรือไม่ก็พังทลายไปเลย”