ตอนที่ 317 ได้เวลาเก็บเกี่ยว
“เปลี่ยนแปลงอะไร?” ถังเทียนถามอย่างเร่งด่วน
“นายท่านโปรดดู” ผู้เฒ่าเฟ่ยเปิดตู้แช่แข็งบรอนซ์และเอาหลอดทดลองออกมา หลอดทดลองมีสารปรอทหนืด สีขาวเงินมันวาวสัมผัสกับจุดดำๆ ที่ดูเหมือนดาวมันดูลึกลับมาก
“นั่นคือเลือดข้าหรือ?” ถังเทียนตะลึง เขาแทบไม่เชื่อตาตนเอง
“ใช่แล้ว” ผู้เฒ่าเฟ่ยดูคลั่งไคล้ “นี่เป็นครั้งแรกที่บริวารเห็นสายเลือดที่น่าอัศจรรย์ขนาดนั้นและนั่นไม่ใช่รูปแบบธรรมดาอย่างแน่นอน แม้ว่าองค์ประกอบของเหลวเงินและจุดดำจะยังไม่บริสุทธิ์ดี แต่บริวารกล้าเดาได้ว่าความจริงมันเป็นเหมือนเพลิงดำมิติว่างและหัวใจน้ำแข็งฟ้าและนั่นคือผนึกชั้นที่สอง
“ผนึกชั้นที่สอง?” ถังเทียนสับสน
“สายเลือดของนายท่านไม่ธรรมดาเลย” ผู้เฒ่าเฟ่ยยิ่งมีความกระตือรือร้นมากขึ้น “เพลิงดำมิติว่างและหัวใจน้ำแข็งฟ้า ผนึกชั้นนอกของสายเลือดนายท่านทั้งหมดประกอบด้วยสารสองอย่างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ได้ผลสมดุลอย่างน่าอัศจรรย์เป็นเหมือนผนึกและมีลักษณะป้องกัน ของเหลวเงินและจุดดำสร้างสภาวะสมดุลรูปแบบใหม่อีกอย่างหนึ่ง ถ้านายท่านต้องการปลุกพลังสายเลือดของท่าน ท่านจำเป็นต้องเปิดผนึกออกทั้งหมด”
“ทำไมสายเลือดข้าถึงได้มีอะไรอย่างนั้น?” ถังเทียนถามหลังจากไตร่ตรอง
ผู้เฒ่าเฟ่ยจ้องมองถังเทียนและลังเลใจอยู่บ้าง
ถังเทียนจ้องมองเขา “คิดยังไงก็พูดออกมาได้เลย”
ผู้เฒ่าเฟ่ยละอาย “เกี่ยวกับเรื่องนั้นใครจะตอบได้ถูก? แต่ตาแก่ผู้นี้คงเดาได้สองสามอย่าง”
“สองสามอย่าง?” ถังเทียนสะดุ้ง เขาเดาอะไรไม่ออกเลย แต่ผู้เฒ่าเฟ่ยยังคิดได้ถึงสองสามอย่างดังนั้นเขาถามด้วยความสงสัย “อะไรบ้าง?”
“เรามาเริ่มจากผนึกเหล่านี้ก่อน สำหรับข้าหลักๆ ที่ใหญ่ที่สุดของตัวผนึกนี้ก็เพื่อใช้ป้องกัน คาดว่าเป็นการป้องพลังสายเลือดของนายท่าน และคนอื่นไม่สามารถเอาไปใช้ได้ สายเลือดของนายท่าน ต่อให้คนอื่นได้ไป พวกเขาก็ไม่สามารถใช้ได้ เว้นแต่พวกเขาจะสามารถทำลายผนึกเหล่านี้ได้ แต่มันเป็นวิธีที่ยากมาก ความเป็นไปได้ประการอื่นก็คือใช้ปกป้องนายท่านจากการถูกกลืนกินโดยพลังสายเลือดของท่านเอง”
“พลังสายเลือดสามารถกลืนกินตัวข้าได้ด้วยหรือ?” เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้และรู้สึกสับสน
“ใช่แล้ว” ผู้เฒ่าเฟ่ยอธิบาย “ทำไมพวกเผ่าพันธุ์โบราณที่แข็งแกร่งถึงถูกกวาดล้างหมด? นั่นเป็นเพราะความบริสุทธิ์ของพลังสายเลือดพวกเขา ได้สะสมพลังกล้าแข็งมากเกินไป ดังนั้นเมื่อมันปลดปล่อยพลัง ร่างของพวกเขาไม่สามารถรับภาระได้ เผ่าพันธุ์ประเภทนักรบรุ่นปัจจุบันมีพลังสายเลือดที่ไม่บริสุทธิ์นัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความเสี่ยงต่อการเผาผลาญตัวเอง ความจริงมันยังคงเป็นรูปแบบหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เผ่าพันธุ์พวกเขาดีขึ้น”
“พลังสายเลือดข้าทรงพลังมากนักหรือ?” ถังเทียนตื่นเต้น
“เรายังไม่รู้เรื่องนั้น” ผู้เฒ่าเฟ่ยส่ายหัว และพูดต่อด้วยความระมัดระวัง “เรื่องนี้เราต้องปลดตัวปิดกั้นให้หมดก่อน จากนั้นเราจึงจะรู้ บางทีสายเลือดของนายท่านอาจจะไม่แข็งแกร่งก็ได้ แต่มีความเป็นไปได้มากว่าจะมีความอ่อนไหวและเพื่อหลบหนีครอบครัวศัตรู นั่นก็เป็นไปได้เหมือนกัน”
“อย่างนั้นตราบใดที่เรายังคงปลดตัวขวางกั้นไม่ได้เราก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้กระจ่างใช่ไหม?” ถังเทียนสับสนเรื่องความเป็นไปได้ทั้งหมดของผู้เฒ่าเฟ่ย
“ใช่แล้ว” ผู้เฒ่าเฟ่ยเกรงว่าถังเทียนต้องการให้เขาหาเหตุผลให้ทันที เขาจึงพูดทันที “นั่นคืองานที่จำเป็นต้องใช้เวลาและอาจจะเสียเวลานานด้วย สารที่ปิดกั้นแต่ละชั้นและพลังของมันไม่เป็นที่รู้จักเลย และจะเข้าใจให้กระจ่างก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โชคดีที่ข้าได้เห็นหัวใจน้ำแข็งฟ้าและเพลิงดำมิติว่างมาบางแล้ว ดังนั้นกระบวนการของข้าจะต้องเร็วขึ้นมากในครั้งนี้”
ถังเทียนรู้ว่าเป็นเรื่องที่เร่งรัดไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงปลอบโยนผู้เฒ่าเฟ่ย “ก็แค่ทำให้สุดฝีมือ”
ผู้เฒ่าเฟ่ยคลายใจและหัวเราะ “ข้ายังได้ศึกษาเรื่องเพลิงดำมิติว่างและหัวใจน้ำแข็งฟ้า วิธีทำให้สมดุลนี้ช่างงดงามมาก คนที่ทำได้ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้นแต่ยังคงเชี่ยวชาญพลังสายเลือดมาก ทั้งสองอย่างนี้คงต้องมีการเก็บเกี่ยวกันบ้างล่ะ”
“เก็บเกี่ยว?”
“ข้าสงสัยว่าทำไมต้องใช้เปลวเพลิงดำมิติว่างและหัวใจน้ำแข็งฟ้า?ทำไมถึงไม่ใช้อย่างอื่น? นอกเหนือจากความจริงที่ว่าแก่นสำคัญของสารทั้งสองอย่างนี้ตรงกันข้าม ต้องมีเหตุผลอื่นบางอย่าง หัวใจน้ำแข็งฟ้าสามารถทำให้ผู้คนใจเย็นและเฉียบคม ขณะที่เปลวเพลิงดำมิติว่างกลับตรงกันข้าม สามารถทำให้ผู้คนคลั่งและสามารถกระตุ้นพลังจากร่างกายได้มากมายอีกด้วย....”
ผู้เฒ่าเฟ่ยยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆด้วยคำพูดมากมายที่ถังเทียนไม่รู้ไม่เข้าใจทำให้เขารู้สึกปวดหัว
ถังเทียนทนทรมานฟังอยู่สิบห้านาทีก็ปิดตาและตบไหล่ของผู้เฒ่าเฟ่ย “ดีมาก ทำได้ดี เอาล่ะ ข้าขอปล่อยให้ท่านจัดการทุกอย่าง”
ผู้เฒ่าเฟ่ยปลาบปลื้มใจ “นายท่านไม่ต้องห่วง บริวารจะทำอย่างดีที่สุด”
ถังเทียนหาวและเดินออกมา
ทันทีที่เดินออกจากห้อง ควั่บแขนขาวผุดผ่องดุจหิมะคล้องคอเขาทันที เซรีนทำตัวเหมือนอันธพาลหญิงเหนี่ยวคอถังเทียนลงด้วยท่าทีสนิทสนมมาก แต่ความจริงนางฉุดถังเทียนให้มาเดินเล่นกับนาง
“หวา..เสี่ยวถังถัง ไม่เจอะกันนานเลยนะ เจ๊คิดถึง”
เสียงหวานหยาดเยิ้มพอเข้าหูถังเทียนทำให้เขาสั่นทันที “เฮ้ เฮ้เจ้าต้องการอะไร”
เขาเข้าใจอย่างชัดเจนดีถึงบุคลิกของเซรีน นางเป็นเหมือนอสรพิษ อสรพิษที่ไร้ยางอาย เมื่อได้ยินเสียงเซรีนเขารู้ว่านางไม่ได้มีเจตนาดีแน่
“หวา..เจ๊คิดถึงหน่อยไม่ได้เหรอ?” นิ้วขาวๆ ของนางช้อนอยู่ใต้คางถังเทียนและเป่าลมใส่หูเขา หน้าของนางมีเสน่ห์ชวนให้คนหลงใหล นางกล่าว“ห้องวิจัยค้นคว้าราคาพันห้าร้อยล้านเหรียญ นั่นเป็นจำนวนมหาศาลเชียวนะ เจ๊กะลุงหน้าไพ่ยังได้ส่วนแบ่งแค่สามพันล้านเองและเขายังได้มากกว่าอีก ตอนนี้เจ๊อยู่นี่ยิ่งน่าสงสารขึ้นไปอีก งานปัจจุบันนี้ก็มีขนาดเล็กลงแล้ว เสี่ยวถังถัง บอกทีเจ้าจะช่วยเจ๊ยังไง?”
เล็บสีแดงของนางเกาเล่นอยู่คางถังเทียนทำให้เขาลุกไปทั้งตัว สตรีนางนี้ไม่ได้วางแผนเชือดคอเขาหรอกนะ
แต่ในฐานะลูกผู้ชาย เขาจะกลัวสตรีคนหนึ่งได้ยังไง?
ถังเทียนปลอบใจตัวเองและหัวเราะ“อย่าบอกข้านะว่าเจ้ากำลังขาดเงิน”
“เจ้าเห็นว่าอย่างนั้นเหรอ? เสี่ยวถังถังก็มีพลังขึ้นมาก” เสียงไพเราะและมีเสน่ห์ของนางกับทั้งเล็บของนางเหมือนคมดาบที่ทำให้ถังเทียนหัวใจสั่นไหว “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าทำเงินได้พันห้าร้อยล้านที่เมืองหย่งอัน เจ้าเห็นไหม เจ้าจะไม่อุดหนุนเจ๊หน่อยเชียวหรือ? ไม่ว่าเจ้าต้องการเงื่อนไขอะไร เจ๊จะตอบสนองให้อย่างจุใจ”
เสียงยั่วยวนและลมหายใจที่อุ่นเป่าใส่หูของถังเทียน
ถ้าข้าเชื่อเจ้า ข้าคงเป็นไอ้งั่ง!
ถังเทียนสะดุ้งจนขนลุกชัน
“นั่น..นั่นจำเป็นต้องใช้เวลา ม่อเว่ยเทียนจะมาที่นี่เพื่อเยี่ยมชมในไม่ช้า และเขาจะเอาธุรกิจชุดใหญ่มาด้วย” เดิมทีถังเทียนคิดว่าภัยพิบัติกำลังจะเล่นงานเขา แต่ยิ่งเขาพูดมากเขาก็ยิ่งคิดว่าความคิดของเขาดูเข้าที “ทองอีกาที่เราขายให้ม่อเว่ยเทียนครั้งก่อนถูกขายให้เจ้าเมืองหย่งอันหมดแล้ว เขาทำรายได้มากถึงสิบหกพันล้านเหรียญ”
ซี่...
ถังเทียนรู้สึกเจ็บที่คาง เขาสูดลมหายใจลึก และได้ยินเซรีนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันสบถ “นั่นค้ากำไรเกินควร”
ถังเทียนไม่สนอาการเจ็บและรีบพูดทันที “แต่เขาวางแผนจะให้เงินทั้งสิบหกพันล้านกับเราทั้งหมด แน่นอนว่ามีเงื่อนไขข้อหนึ่งและแน่นอนว่าเราต้องช่วยเขาฝึกนักเรียนจำนวนหนึ่ง เพราะเหตุนั้นเงื่อนไขนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเจ้า แต่เมื่อคิดดูแล้วเจ้าก็เป็นคนสร้างและเป็นผู้ลงแรงด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกฝนก็เป็นเจ้าสร้าง เจ้าก็ต้องทำงานอยู่ดี ที่สำคัญมากกว่าก็คือการฝึกวิธีใช้อาวุธจักรกลวิญญาณ ดังนั้นเราจำเป็นต้องให้เจ้าสร้างบางส่วนด้วยเช่นกัน ข้ารู้สึกว่าสิบหกพันล้านนี้เจ้าจะได้รับไปจัดการครึ่งหนึ่ง”
ถังเทียนรับรองอย่างเคร่งขรึม
“นั่นแหละที่ข้าต้องการคือครึ่งหนึ่ง” รังสีอำมหิตของเซรีนพุ่งขึ้นมาทันที “เจ้าจะปล่อยให้อีตาลุงหน้าไพ่ฟาดเรียบทุกอย่างไม่ได้”
นางหันหน้ามาและแสดงรอยยิ้ม นางลูบหน้าของถังเทียน “เสี่ยวถังถังเป็นเด็กดีไม่เสียแรงเลยที่เจ๊รักเจ้า ว่าแต่ม่อเว่ยเทียนจะมาเมื่อไหร่?”
“อีกสองวันเขาก็คงจะมา” ถังเทียนยิ้มค้าง
เรื่องที่ม่อเว่ยเทียนเดินทางมาเมืองสามวิญญาณ เขามั่นใจมาก ถ้าเขาแพ้ อย่างนั้นเขาคงไม่มีรายได้จากธุรกิจ แต่เขาชนะ ม่อเว่ยเทียนก็คงนั่งไม่ติดเช่นกัน
“ดูเหมือนว่าเจ๊ผู้นี้ต้องเตรียมตัวเช่นกัน!” เซรีนเล่นชายแขนเสื้อนางรังสีอำมหิตแฝงอยู่ในหน้าของนาง เหมือนกับว่านางต้องการฆ่าม่อเว่ยเทียน
ถังเทียนเตือนนาง “จำไว้เตรียมออกแบบอาวุธจักรกลวิญญาณไว้สองแบบ บางทีเจ้าอาจขายได้ราคาดีก็ได้”
“สบายใจได้เจ๊มีวิธีทำธุรกิจของตนเอง เทียบกับเจ้าที่เป็นมือใหม่ ยังแข็งแกร่งกว่าเยอะ” เซรีนกระโดดและหมุนตัวเดินจากไป
ตามคาด ทุกอย่างกลายเป็นเหมือนขยะทอดทิ้งผู้มีพระคุณหลังจากบรรลุเป้าหมายตัวเองแล้ว
ถังเทียนแอบด่าในใจ
แต่ครั้งนี้ผลเก็บเกี่ยวของเขายอดเยี่ยมมาก แม้ว่าเขายังไม่ได้คลี่คลายปริศนาเบื้องหลังสายเลือดของเขา แต่ก็ยังมีความก้าวหน้า และหลังจากติงตังไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเซียนกระบี่อูหวังไห่ อาเฮ่อพูดถึงกระบี่ที่เขาชักออกมาจากมิติว่างมันมีนามว่ากระบี่กักสมุทร
เมื่อถังเทียนพบติงตัง นางตื่นเต้นมาก
“กลับมาคราวนี้เจ้าได้อะไรดีๆมาบ้าง” ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
ติงตังตอบอย่างมีความสุข “เมืองหย่งอันมีบ่อนให้คนได้เดิมพันการต่อสู้ด้วยไม่ใช่หรือ ใครชนะ? ข้าคิดว่าถ้าเจ้านายแพ้ อย่างนั้นกองทุนก็คงไม่มีความหมาย ดังนั้นก็เลยใช้เงินทั้งหมดที่ท่านให้ข้าเดิมพันว่าเจ้านายจะชนะ ตอนนี้ข้าชนะเดิมพันได้เงินมาก้อนใหญ่”
ถังเทียนประหลาดใจ “เจ้าชนะได้มามากแค่ไหน?”
ติงตังชูห้านิ้ว “ห้าร้อยล้าน”
“หวา..ตอนนี้เจ้าร่ำรวยมากนักจะทำยังไงกับเงินดี?” ถังเทียนส่ายหัวหน้าของเขาดูเจ้าเล่ห์ น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความหยิ่ง
“ใช่แล้ว ใช่แล้วข้าจะใช้ทำอะไรดี? ข้าไม่อาจใช้หมดได้” ติงตังหัวเราะลั่น
ทันใดนั้นถังเทียนตบหน้าผาก “ความจริงข้าลืมตรวจดูสินสงคราม”
พูดได้แค่นั้นก็วิ่งออกไปทันที
เขาไวมาก เร่งผ่านเมืองสามวิญญาณเหมือนลมพัดและมาปรากฏตัวที่ค่ายทหารใหม่
ปง ปง ปง!
เสียงกระแทกหนักๆ ทำให้ถังเทียนสะดุ้ง แต่เมื่อเขามองดู เขาถอนหายใจโล่งอก
หยาหยากำลังควงหมัดอย่างรวดเร็วเหมือนเครื่องเจาะน้อยๆ “ปง ปง ปง” ชกใส่ข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพียงชั่วขณะเดียวมันไปได้ถึงสิบเมตร เนื่องจากเป็นวิชาหมัดกลืนแสง
เมื่อคิดถึงเรื่องที่ราบสูง ฮ่าฮ่า วันนี้อากาศดีมาก
หยาหยารู้ว่าถังเทียนอยู่ที่นั่นมันรีบมาปรากฏอยู่ที่ใกล้ขาเขาทันที มันใช้มือกระตุกขากางเกงถังเทียนแหงนหน้าดำของมัน น้ำตาคลอเบ้า
ถังเทียนไอและขยับออกมา “ในฐานะลูกผู้ชาย เจ้าต้องยินดีรับงานท้าทายทุกอย่าง และทั้งหมดก็ควรจะแบ่งปันร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องของเจ้า ดูสิเจ้ายังมีคู่หูอยู่”
ถังเทียนชี้ไปที่อสูรจักรกลน้อยที่ยืนอยู่ด้านข้าง
ทันใดนั้นพวกมันมีท่าทางกลัวและหันหลังเผ่นแน่บทันที ขณะที่หยาหยามีสีหน้าเหมือนรู้แจ้งในทันใดมันไล่กวดตามทันที
เมื่อเห็นหยาหยาลากอสูรจักรกลน้อยทั้งสามกลับมายังตำแหน่งที่มันต่อยใส่ผนังเดิม ถังเทียนรู้สึกโล่งใจ
ดีจริงๆ
เขาเตรียมตัวกลับไปยังเผ่าหมาป่าอย่างมีความสุข ได้เวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เสียที