ตอนที่ 313 นามกระบี่ปลอดสำเนียง
เมื่อเห็นกระบี่ในมือของถังเทียนค่อยๆส่าย เหมิงเว่ยรู้สึกขนในตัวลุกชัน ความรู้สึกถึงอันตรายทำให้นางต้องการหันหลังวิ่งหนี
แต่...
แต่นางจับกระบี่แน่นพยายามควบคุมลมหายใจของนางและเรียกความปรารถนาต่อสู้ของนาง นางมักคิดเสมอว่าจิตตานุภาพของนางมั่นคงราวกับเหล็กกล้า แต่ในเวลานั้นมันกลับสั่นคลอนช้าๆ
แข็งแกร่งมาก! ถังเทียนแข็งแกร่งมากจนถึงขนาดที่นางไม่มีความคิดจะต่อต้านเขา
นางมีประสบการณ์ต่อสู้มากมายและรู้ว่านางเองไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย
ข้าอาจจะตายได้
ปากของเหมิงเว่ยมีรอยยิ้ม นางกลับรู้สึกโล่งใจแทน ถ้านางตาย อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องสู้อีกต่อไป
ฉากภาพนับไม่ถ้วนผ่านเข้ามาในสายตานาง วัยเด็กของนาง เมื่อนางเป็นเด็กเร่ร่อน ถูกผู้อาวุโสเก็บมาเลี้ยง การแข่งขันต่อสู้อันโหดร้ายและเด็กหญิงอ่อนแอที่ถือกระบี่เปื้อนเลือดด้วยความหวาดหวั่นขวัญผวาสะอื้นไห้เงียบๆ ในกลางดึก .... มันจะมาถึงจุดสิ้นสุดหรือไม่?
ชีวิตที่ขื่นขมมืดมนของนางจะถึงคราวสิ้นสุด
นางสามารถรู้สึกถึงความเสียใจในตัวกระบี่ได้มันไม่ใช่สมบัติดวงดาว นอกจากหนักแล้วมันไม่มีอะไร ก็แค่กระบี่ฝึกธรรมดาเท่านั้น ไม่มีคม มีแต่ความทนทาน นางใช้มันมาทั้งชีวิต หลังจากมีประสบการณ์การแข่งขันที่โหดร้ายจนอยู่รอดเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด นางไม่เคยเปลี่ยนมันเลย มันติดตามนาง มันคือต้นแหล่งความแข็งแกร่งและความสะดวกของนาง ทุกครั้งที่นางรู้สึกกลัว แค่จับกระบี่หัวใจนางก็สงบลง
หลังจากฆ่าคนมานับไม่ถ้วนจนเลือดท่วม กระบี่สำหรับฝึกธรรมดาก็ค่อยๆมีวิญญาณเติบโตขึ้น
โปรดอย่าเศร้าเพราะข้าเลย นี่คือการไถ่บาปให้ข้าเอง
ในสายตาของเหมิงเว่ยมีแววอ่อนโยน กระบี่ธรรมดามีจิตวิญญาณ ชีวิตของเจ้าเพิ่งเริ่มต้นแท้ๆ ต่อไปเจ้าจะต้องมีชื่อเสียงและสั่นสะเทือนโลก
ตัวกระบี่เริ่มมีรอยบิ่นเต็มไปด้วยรอยแตก แม้ว่านางจะรักมันแต่มันก็เป็นอาวุธระดับธรรมดา
เมื่อข้าตายเจ้าจะต้องถูกมองข้ามแน่นอน มีคนน้อยมากที่ชอบกระบี่ฝึกหัด แต่เจ้าแข็งแกร่งมาก เจ้าคงไม่พอใจอย่างแน่นอน
ขอบคุณที่เจ้าต่อสู้เคียงข้างกับข้ามาตลอดโปรดรับการขอบคุณเป็นครั้งสุดท้ายจากข้า
เหมิงเว่ยจับกระบี่สองมือชูข้างหน้านางและหลับตา
เผียะ...เกิดเสียงระเบิดในร่างกายนาง และนางสั่นสะท้าน
ปัง ปัง ปัง!
คลื่นเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากในร่างของนางจนสะดุ้ง ใบหน้าของนางที่มักเย็นชาและไร้ความรู้สึกเสมอ ขมวดคิ้วทันทีเหมือนกับว่านางกำลังทรมานจากความเจ็บปวด
เปิดพลังอัญเชิญสายเลือดดวงดาวครั้งที่สอง!
สายเลือดวาฬขาวในตัวเหมิงเว่ยมีความพิเศษมาก เลือดวาฬขาวเป็นแค่สายเลือดสาขาของสายเลือดกลุ่มดาววาฬ แต่สายเลือดในตัวนางมีความบริสุทธิ์ถึง 90เปอร์เซนต์
นั่นอาจเป็นเหตุผลทำให้นางสามารถใช้พลังอัญเชิญสายเลือดดวงดาวได้อีกครั้ง
ตลอดทั้งตัวของนางสว่างด้วยรัศมีสีขาว กลุ่มดาววาฬที่หายไปจากท้องฟ้าปรากฏให้เห็นอีกครั้งและปล่อยลำแสงสีขาวเข้ามาในกระบี่ในมือนางอย่างต่อเนื่อง
“กระบี่เหล็กธรรมดาไร้ชื่อ ก่อเกิดวิญญาณหลังจากผ่านการรบร้อยศึกด้วยพลังสายเลือดวาฬขาว ขอมอบชีวิตให้เจ้า”
รัศมีขาวอาบไปตามตัวกระบี่และจู่ๆ ก็เริ่มไหลเร็วมากขึ้นจนเป็นช่องสว่าง
เสียงจริงใจของสตรีคนหนึ่งดังลอยล่องในสายลม
“ไม่มีใครสามารถทำลายเจ้าได้”
“ไม่มีอะไรคมกล้าเท่ากับเจ้า”
“เจ้าจะไม่ถูกโลหิตย้อม!”
….
เมื่อได้ยินเสียงกระซิบของสตรีนางนั้นสีหน้าเย็นชาของถังเทียนไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยแต่หัวใจของเขาหวั่นไหวเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง
“น่าขัน”
เสียงเย็นชาของถังเทียนดังขึ้น กระบี่กักสมุทรซึ่งอยู่ในมือเขาชี้ตรงมาที่เหมิงเว่ย
ปัง
คลื่นเปลวเพลิงดำทะลักออกจากตัวกระบี่และกระแสเพลิงสีดำพุ่งตรงไปที่เหมิงเว่ย
ทัศนวิสัยการมองของเหมิงเว่ยปกคลุมไปด้วยเพลิงดำซึ่งคลุมเต็มถึงท้องฟ้า นางไม่มีที่ให้ซ่อนทันใดนั้นตัวกระบี่เปล่งแสงสีขาวคลุมตัวเหมิงเว่ย ขณะที่แสงขาวกับเพลิงดำสัมผัสกันก่อให้เกิดสภาพที่ไม่เสถียร
เพลิงดำดุร้ายรุนแรงคุกคามทำให้แสงสีขาวตกอยู่ในอันตรายทันที
หน้าของสตรีผู้นี้ซีดขาวและเสียงของนางสั่น นางยังคงพูดอย่างมั่นคง
“เจ้าจะมีชีวิตที่ปลอดภัยและมีชื่อ”
รังสีขาวรอบๆกระบี่ระเบิดออก ในพริบตารังสีขาวก็หายไปทั้งหมดทั้งหมดถูกดูดซับเข้าไปในตัวกระบี่
ตัวกระบี่ดำปกคลุมไปด้วยลายเส้นเงินเล็กละเอียดทำให้ตัวกระบี่ดูงดงามไม่มีร่องรอยของความชั่วร้าย แต่ตัวกระบี่ยังมีรอยบิ่นรอยแตกและรูทำให้ดูเหมือนมันได้รับความเสียหาย ภาพกลุ่มดาววาฬในท้องฟ้าฉายรังสีขาวทันที ในพริบตาท้องฟ้ากลายเป็นมืดดำ ขณะที่เมฆสีเทาปกคลุมไปทั่วทุกแห่ง
ดาวของกลุ่มดาววาฬเริ่มส่องแสงกันทั้งหมดดวงแล้วดวงเล่า
ถังเทียนรั้งกระบี่กักสมุทรกลับมาเพลิงดำในท้องฟ้าหายไปทันที เขามองดูเหมิงเว่ย
เท้าของเหมิงเว่ยเริ่มหายไป ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนทำให้นางตกใจหนัก
กลุ่มดาววาฬต้องการทำลายกระบี่
ไม่!
เหมิงเว่ยแตกตื่น กระบี่คือห่วงกังวลประการเดียวในโลกและเป็นคู่หูของนาง นางต้องการให้มันอยู่ต่อไป แต่นางไม่เคยคิดว่านางต้องเผชิญหน้ากับความกราดเกรี้ยวของกลุ่มดาววาฬ
กลุ่มดาววาฬต้องการกินมันซึ่งจะทำให้มันเหลืออยู่แต่เพียงผงธุลี
เหมิงเว่ยใจสลายและเศร้าโศก ทันใดนั้นนางมองถังเทียนนางเหมือนคนกำลังจะจมน้ำที่พยายามคว้าเศษฟางเพื่อช่วยชีวิตในท่ามกลางความตื่นกลัวนางวิงวอน “จอมยุทธ, โปรดช่วยมันด้วย”
“ได้โปรด ข้าขอร้อง โปรดช่วยมัน”
ร่างที่แม้แต่กลุ่มดาววาฬก็ยังเกรงกลัวจะช่วยเหลือกระบี่ได้แน่นอน!
เหมิงเว่ยขอร้องอย่างน่าสงสารน้ำตานองหน้า
ถังเทียนที่ยังมีสีหน้าเย็นชาเอ่ยปากทันที“ชื่อของกระบี่”
ชื่อกระบี่? ชื่อกระบี่!
เหมิงเว่ยพึมพำ “ชื่อกระบี่.... ชื่อกระบี่...”
นางเงยหน้า“มันเรียกว่ากระบี่ปลอดสำเนียง”
ข้าขอให้เจ้าปลอดภัยและมีชื่อ
กระบี่ร้องออกมามีแสงล้อมรอบมันตลอดเวลา มีแสงยิงออกไปยังกลุ่มดาววาฬในท้องฟ้า ขณะเดียวกัน กลุ่มดาววาฬก็เปล่งแสงแพรวพราว และยิงรังสีออกมาเช่นกันรังสีทั้งสองปะทะกัน
ปัง,ท้องฟ้าสั่นสะเทือน
เมฆมืดครึ้มหนาขึ้นทุกที ทั้งฟ้าแล่บฟ้าร้องเริ่มปรากฏราวกับว่าจะเป็นอวสานของโลก
นั่นคือ...การกลืนกลุ่มดาว
สมบัติดวงดาวทุกอย่างถือกำเนิดจากกลุ่มดาวและสมบัติดวงดาวของกลุ่มดาวทั้งหมดจะมีระบบที่เข้มงวดกวดขันมาก สำหรับคนที่สร้างสมบัติดวงดาวจะได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มดาว และนั่นก็คือการกลืนกินของกลุ่มดาว
ตราบใดที่มันสามารถต่อต้านการกลืนกินของกลุ่มดาววาฬได้ มันจะสามารถกลายเป็นสมบัติดวงดาวชิ้นใหม่ได้
สมบัติดวงดาวแบบนี้ไม่สามารถใช้พลังของกลุ่มดาวได้ แต่มีความพิเศษอย่างอื่น นั่นก็คือไม่ถูกพลังกลุ่มดาวควบคุมและแน่นอนมันถูกถือว่าเป็นสมบัติกลุ่มดาวมืด
แต่พลังของการกลืนกินของกลุ่มดาวนั้นมีอำนาจทำลายล้างมาก ดังนั้นจึงมีสมบัติกลุ่มดาวมืดอยู่เพียงไม่กี่ชิ้นในประวัติศาสตร์
อาเฮ่องงงวยสำหรับตำนานที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาทำให้เขาตะลึง และเมื่อเขาเห็นว่าถังเทียนถูกเพลิงดำห่อหุ้มไม่มีความตั้งใจจะถอยหรือหลบสีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที
เจ้าบ้านั่นอย่าบอกนะว่าต้องการจะช่วยกระบี่?
อาเฮ่อสบถอยู่ในใจร่างของเขาเหมือนกับสายฟ้าขณะบินเข้าหาถังเทียน
หลิงซิ่วก็คิดเหมือนกับเขา แม้ว่าหลิงซิ่วจะไม่รู้ว่าสมบัติกลุ่มดาวมืดคืออะไร แต่เขาอาศัยแต่เพียงสัญชาตญาณก็รู้ว่าถังเทียนตกอยู่ในอันตราย
ตาของถังเทียนเหลือบเห็นร่างทั้งสองกำลังตรงมาทางเขาและระลอกเสียงดังก้องในหัวใจเขา เขาพูดออกมาทันที “เจ้าโง่”
กระบี่กักสมุทรในมือของเขาปลดปล่อยรังสีกระบี่สีดำสองสายทันที
อาเฮ่อกับหลิงซิ่วตระหนักได้ทันทีว่ารังสีกระบี่เพลิงดำกำลังพุ่งตรงมาทางพวกเขา พวกเขาสั่นทันที
อาเฮ่อสะบัดกระบี่กระเรียนในมือสร้างคลื่นพลังประหลาดและปล่อยออกมาจากตัวกระบี่เป็นเหตุให้เขาลอยไปข้างหน้า ปฏิกิริยาของเขารวดเร็ว เขาสามารถรู้สึกได้ว่าแม้พลังจะน่ากลัว แต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกเจ็บปวดใดๆกับเขา ดังนั้นเขาจึงปล่อยไหลไปตามพลัง
หลิงซิ่วไม่ฉลาดเท่าอาเฮ่อ ทั้งร่างคนร่างนกปลิวออกไปเหมือนกระสุนไกลกว่าสองสามร้อยเมตร หลิงซิ่วที่อยู่ในกลางอากาศสบถด่าด้วยความโกรธขณะปลิวห่างออกไป
“เจ้าบัดซบเอ๊ย! เจ้าตายแน่...”
ถังเทียนพูดเบาๆ “งี่เง่า”
เหมิงเว่ยที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนร่างของนางกลายสภาพเป็นรูปโปร่งใสอย่างรวดเร็ว มองดูถังเทียนด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณ!”
ถังเทียนมีสีหน้าเฉยเมย กระบี่ลอยเข้ามาอยู่ในมือของเขาพร้อมกับคลื่นพลัง มีคำอยู่บนตัวกระบี่“ปลอดสำเนียง”
เหมิงเว่ยหายไปในอากาศโดยไม่เหลือร่องรอย
กระบี่ปลอดสำเนียงในมือถังเทียนเปล่งเสียงร้อง
เมฆมืดครึ้มในท้องฟ้าสีดำทะมึน มีแต่กลุ่มดาววาฬที่สว่างเจิดจ้า
ถังเทียนเงยหน้าขึ้นมองฟ้า เพลิงดำลุกท่วมทำให้เขาทั้งดูสง่าและดุร้ายทั้งสงบอย่างไม่มีอะไรต้องกลัว
“เขาทำสำเร็จไหม?” ซือหม่าเซี่ยวพูดหลังจากเงียบไปชั่วขณะ
ร่างเพลิงดำในท้องฟ้าเพราะเหตุผลบางอย่างมันเต็มไปด้วยอำนาจคุกคาม ด้วยพลังของเขากลับกล้าเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์ เขาไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนใจ
“ข้าไม่รู้” ชิวจื่อจวินส่ายศีรษะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความนับถือ
ใครก็ตามที่เผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนั้นคงจะวิ่งหนีฝุ่นตลบไปแล้ว แต่ถังเทียน...
ไม่มีใครสามารถคิดได้ว่าการต่อสู้จะจบลงโดยขยายวงมาถึงขนาดนี้ แต่ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคนสร้างความตื่นตะลึงยิ่งกว่าคนสองคนต่อสู้กันเสียอีก นี่คือการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับสวรรค์
ทุกคนที่อยู่หน้าจอพูดไม่ออก
ปราณยะเยือกรุนแรงไหลออกมาตามกระบี่กักสมุทรเข้ามาในตัวถังเทียน หัวใจที่เมินเฉยของเขาเหมือนกับกระจกเงาไม่มีความกลัว ขณะที่วิชากระบี่นับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขา ทั้งคุ้นเคยแต่ก็มีความรู้สึกแปลก
มือซ้ายของเขาถือกระบี่ปลอดสำเนียง มือขวาถือกระบี่กักสมุทรร่างของเขาย่อตัวลงเล็กน้อย
พลังในท้องฟ้าหนาแน่นขึ้นทุกทีเมฆสีดำหนาแน่นเข้มข้นขึ้น
วืดดดด
ลำแสงสายหนึ่งยิงลงมาพร้อมกับส่งเสียงดัง มันแตกต่างจากลำแสงครั้งก่อนสิ้นเชิงรุนแรงและอันตรายยิ่งกว่า
เฟี้ยววว
สายฟ้าแล่บแปลบปลาบเป็นข่ายสายมาบรรจบกันเป็นลำแสง
ถังเทียนยังคงไร้ความรู้สึกกระบี่กักสมุทรสว่างวาบและปลดปล่อยพลัง
รังสีกระบี่เปลวเพลิงดำดูเหมือนกับลำแสงดำพุ่งตรงขึ้นไปบนฟ้าปะทะกับลำแสงที่ยิงมาโดยกลุ่มดาววาฬ “ปัง!”
แสงขาวและแสงดำแตกกระจายรังสีสายฟ้าแตกเป็นเสี่ยง ปราณประหลาดกวาดกระจายไปทั่วทุกตำแหน่ง
ท้องฟ้าสั่นรุนแรง
จอภาพที่ใช้ดูพลอยสั่นสะเทือนและพร่าเลือน คลื่นพลังงานเข้มข้นมีผลต่อสมบัติดวงดาวทั้งหมด
ถังเทียนเซ แต่ปากของเขามีรอยยิ้มเย้ยเย็นชา วิชากระบี่ที่หลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขาและประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดของอูหวังไห่ที่ถูกไล่ล่าตามฆ่าถึงยี่สิบปี เขาถูกกดขี่ข่มเหงจากอำนาจระดับสูงทุกระดับจึงเต็มไปด้วยความรังเกียจและเกลียดชัง ความรู้สึกรังเกียจและเกลียดชังฝังลึกเข้ากระดูก
แต่เขาสามารถใช้ความรู้สึกนี้ เขาสามารถใช้อารมณ์เช่นนี้เพื่อนำพลังกระบี่กักสมุทรมาใช้ และตัวกระบี่กักสมุทรที่แท้จริงนั้นอยู่ในมิติว่างเปล่า เนื่องจากความเกลียดชังของมันจึงเพิ่มพลังให้กับตัวกระบี่ภาพจำลองในมือถังเทียน
สายตาของถังเทียนเหี้ยมโหดดุร้ายทันที เหมือนกับว่าเขาคือสัตว์ป่าที่โกรธแค้น
เพลิงดำปะทุออกมาทำให้ปราณของเขาเพิ่มความเข้มข้นขึ้น
ในมิติมืดมนไร้ขอบเขตร่างหนึ่งยืนอยู่ตามลำพัง เขาหัวเราะเสียงแหบแห้ง“เป็นลูกชายของเขาตามที่คาดจริงๆ สามารถใช้ความเกลียดชังของข้าได้ ดีมาก”
“หึหึ ข้ารู้ชัดแล้ว ถึงถูกนำมาใช้ ข้าก็ยังเกลียดมัน”
เสียงแหบแห้งของอูหวังไห่ดังเหมือนสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บ
ถังเทียนเงยหน้ามองไปทางกลุ่มดาววาฬในท้องฟ้า สายตาเขาเต็มไปด้วยความเกลียด
เขาสะบัดกระบี่กักสมุทรเพลิงดำ