ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 23 ข้อมูลผิดพลาดอีกแล้ว?
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 23 ข้อมูลผิดพลาดอีกแล้ว?
ฉู่เซวียนสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น เวลานี้เขารู้สึกมั่นใจมากขึ้น
“หากยอดฝีมือของลัทธิมารมาอีกสักหลายคน...”
ฉู่เซวียนรีบปัดเป่าความคิดนี้ออกไปทันที
เขาคิดฟุ้งซ่านเช่นนี้ไม่ได้ เขาต้องใช้ชีวิตอย่างมั่นคง มีเพียงความมั่นคงถึงจะเก็บตัวอยู่บ้านได้อย่างยาวนาน
คงไม่ดีแน่หากผู้บุกรุกมีฐานพลังยุทธ์สูงขึ้น เขาจึงไม่ควรละทิ้งวิถีแห่งความมั่นคง เขาควรเก็บตัวเพื่อสะสมความแข็งแกร่งต่อไป
เขาไม่ควรแกว่งเท้าหาเสี่ยน!
ในขณะเดียวกัน ฉู่เซวียนก็ได้รับเนตรทองคำเช่นกัน นี่คือเนตรลี้ลับที่มีความสามารถในการมองทะลุภาพลวงตาและลอบมองกฎแห่งฟ้าดิน
และยังมีความสามารถในการโจมตีอีกด้วย มันสามารถยิงลำแสงทองคำที่มีพลังอันน่าอัศจรรย์ออกมาจากดวงตา
มันสามารถสังหารผู้คนได้ด้วยการจ้องมอง!
ฉู่เซวียนนอนลงบนเตียงอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับฝึกฝนวิชาหมื่นชำระวิญญาณอย่างเงียบๆ
..
ฉู่เทียนหมิงกำลังถืออาวุธสมบัติลาดตระเวนไปทั่วเขตตระกูล ผู้อาวุโสคนอื่นในตระกูลต่างก็ตื่นตระหนก
จางขุยแกร่งแข็งอย่างยิ่ง หากผู้อาวุโสธรรมดาในตระกูลพบเจอเขา พวกเขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้
ฉู่เทียนหมิงจึงลาดตระเวนเขตตระกูลด้วยตนเอง ตอนที่เขาพบจางขุย เขาจะสามารถสังหารมันได้ในทันที
หลังจากได้รับข้อมูลจากว่านฉาง เขาก็รีบไปยังฐานลับของจางขุยแต่กลับไม่พบร่องรอยของลัทธิมารแต่อย่างใด
ในตอนนั้นเขารู้สึกโมโหอย่างยิ่ง ว่านฉางให้ข้อมูลผิดพลาดอีกแล้ว?
ข้อมูลของหอจันทร์ทมิฬเป็นข้อมูลผิดพลาดอีกแล้ว?
ต้องเอาผลึกวิญญาณกลับมา!
ฉู่เทียนหมิงรีบกลับมายังแคว้นฉู่ด้วยใบหน้ามืดมน
“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางผิด!”
ว่านฉางกล่าวอย่างใจเย็น “ท่านต้องเข้าใจหน่อยสิว่าจางขุยคือคนที่มีหัวคิดคนหนึ่ง บางทีตอนที่ท่านไปถึง เขาก็ออกไปในเวลาไล่เลี่ยกัน? ข้อมูลข่าวสารย่อมมีความล่าช้าอยู่บ้าง ข้าไม่สามารถให้ข้อมูลตามเวลาจริงแก่ท่านได้”
ฉู่เทียนหมิงเย้ยหยัน “หอจันทร์ทมิฬของเจ้าขายข้อมูลเรื่องที่ข้าไปสังหารเขาสิไม่ว่า?”
หอจันทร์ทมิฬนั้นเห็นแก่ตัว พวกเขาอาจจะทำเรื่องนั้นจริงๆ
ตราบใดที่ราคาเหมาะสม ย่อมไม่มีปัญหาในการเรื่องซื้อข้อมูล
“หอจันทร์ทมิฬของเราทำตัวน่าเชื่อถืออยู่ตลอด ท่านซื้อข้อมูลจากเรา ข้อมูลเกี่ยวกับการลงมือของท่านจึงจะขายได้ก็อย่างน้อยหนึ่งวันให้หลัง!”
ว่านฉางเตือนเขาด้วยรอยยิ้ม “พี่ฉู่ จางขุยออกไปฉับพลันเช่นนี้ แหล่งกบดานของเขาอยู่ไม่ไกลจากอาณาเขตตระกูลฉู่ ท่านไม่ห่วงหน่อยรึว่าเขากำลังไปที่ใด?”
ฉู่เทียนหมิงสีหน้าเปลี่ยนไป
เขาประมาท!
เขาจดจ่ออยู่กับการหาเรื่องว่านฉางจนละเลยความเป็นไปได้ในการลงมือของจางขุย
“หากคราวนี้ข้อมูลผิดผลาดอีกครั้ง น้องว่านจะต้องมอบคำอธิบายให้แก่ข้า!”
แล้วฉู่เทียนหมิงก็รีบกลับไปยังอาณาเขตตระกูลฉู่ทันที
ว่านฉางยิ้มด้วยความมั่นใจแล้วพึมพำกับตนเองว่า “ข้อมูลจะผิดไปได้อย่างไร? ข้อมูลของหอจันทร์ทมิฬข้าเป็นความจริงและเชื่อถือได้มาเสมอ ไม่เคยผิดพลาดสักครั้ง พวกเราไม่เคยโกหก”
จู่ๆ นกประหลาดที่มีขนาดเท่าหัวแม่มือได้บินเข้ามาในห้อง
มันปลดปล่อยความผันผวนพลังวิญญาณที่อ่อนแอ
ว่านฉางก็พลันหัวเราะออกมา จางขุยวางแผนเข้าไปในอาณาเขตตระกูลฉู่อย่างที่คาดไว้
ด้วยลูกปัดมิติหลบหนีและการทะลวงขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่เก้า ทำให้จางขุยมีความมั่นใจกว่าเดิม
อาณาเขตตระกูลฉู่ กำลังจะตกอยู่ในความโกลาหลและหากประมาทเพียงนิดเดียว ผู้อาวุโสในขอบเขตว่างเปล่าหนึ่งถึงสองคนอาจสิ้นชีพก็เป็นได้
ว่านฉางรออย่างใจเย็นเพื่อให้ฉู่เทียนหมิงกลับมา แล้วซื้อข้อมูลจากเขาด้วยโกรธเกรี้ยวพร้อมสาบานว่าจะสังหารจางขุย
ว่านฉางเตรียมขอราคาสูงลิ่วแล้ว
หนึ่งวันให้หลัง...
ตามที่คาดไว้ ฉู่เทียนหมิงก็ปรากฏตัวด้วยความโกรธเกรี้ยว
ว่านฉางชงชาด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม เขาพร้อมจะเขมือบตระกูลฉู่ได้ทุกเมื่อ
หลังจากเขมือบตระกูลฉู่แล้ว ผลงานของเขาจะทำให้เบื้องบนพอใจแล้วมอบรางวัลแก่เขา และอาจได้รับการเลื่อนตำแหน่งในไม่ช้าเลยก็เป็นได้
“จ้าวหอว่าน ท่านคิดว่าข้ารังแกง่ายนักหรือ? หรือเจ้าอยากโยนชื่อเสียงของหอจันทร์ทมิฬลงหลุมล่ะ?”
คาดไม่ถึง ฉู่เทียนหมิงโกรธเกรี้ยวอย่างที่คาดไว้ แต่กลับไม่ใช่เพราะการบุกโจมตีของจางขุย
ว่านฉางตะลึงงันแล้วกล่าวด้วยสีหน้ามืดมนว่า “ผู้นำตระกูลฉู่ ท่านหมายความว่าอย่างไร”
“หมายความว่าอย่างไรหรือ? เจ้าเอาหนึ่งล้านผลึกวิญญาณไปจากข้าแล้ว แต่ข้อมูลที่เจ้าให้มานั้นผิดพลาด ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียวนะแต่มันตั้งสองครั้ง!” ฉู่เทียนหมิงกล่าวด้วยความขุ่นเคือง
เมื่อคืนนี้เขาได้ลาดตระเวนเขตตระกูลเพื่อป้องกันการโจมตีจากจางขุย
พอรุ่งสาง เขาก็ไปยังแหล่งกบดานของจางขุย แต่กลับไม่พบอะไรเช่นกัน
ราวกับว่าจางขุยไม่เคยปรากฏตัวอย่างไรอย่างนั้นยังนั้น
“เป็นไปไม่ได้!”
ว่านฉางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้อมูลของหอจันทร์ทมิฬเราเชื่อถือได้เสมอ มันจะผิดพลาดซ้ำหลายครั้งได้ยังไง”
“ท่านหาทั่วแล้วหรือ?”
ฉู่เทียนหมิงหัวเราะเยาะ “หาทั่วหรือไม่? ไม่ได้อยู่ที่แหล่งกบดานและไม่ได้บุกโจมตีอาณาเขตตระกูลฉู่ของเรา แล้วมันจะไปอยู่ที่ใด?”
“เขาจะต้องบุกอาณาเขตตระกูลฉู่ของท่าน”
ว่านฉางตะลึงงัน
เป็นไปได้อย่างไร? จางขุยพาต่งเฉียนบุกอาณาเขตตระกูลฉู่ นี่เป็นข้อมูลจริง ไม่มีทางผิดพลาด
“ท่านแน่ใจหรือ?”
“ข้าตรวจสอบทั่วทั้งเขตทั้งคืน ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ”
ฉู่เทียนหมิงขุ่นเคืองมาก “จ้าวหอว่าน เนื่องจากข้อมูลผิดพลาด ผลึกวิญญาณควรถูกส่งคืนหรือไม่?”
“ผู้นำตระกูลฉู่ รอสักครู่เถิด!”
ว่านฉางรู้สึกปวดหัวขึ้นมา เกิดอะไรขึ้นกับจางขุย? ไม่ใช่ว่าเขาควรบุกเข้าไปในอาณาเขตตระกูลฉู่หรือ?
หรือเขาเกิดอาการขลาดกลัวในนาทีสุดท้าย?
ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
จางขุยทะลวงไปยังขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่เก้าแล้ว และยังครอบครองลูกปัดมิติหลบหนี ถึงแม้จะเผชิญหน้ากับฉู่เทียนหมิง เขาก็ยังสามารถหลบหนีได้
ด้วยบุคลิกหยิ่งผยองของจางขุย เขายอมรับว่าหวาดกลัวได้อย่างไร?
ว่านฉางรีบติดต่อหัวหน้าหน่วยลับของหอจันทร์ทมิฬทันที
“จางขุยอยู่ที่ใด”
“ไม่รู้ขอรับ”
“เจ้าบอกว่าไม่รู้งั้นหรือ? เจ้าทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเจ้าต้องรับผิดชอบกับความผิดพลาดครั้งนี้”
ว่านฉางคำราม
“ข้าไม่รู้จริงๆ ขอรับ”
หัวหน้าหน่วยลับกล่าวอย่างเสียใจว่า “จางขุยไปยังอาณาเขตตระกูลฉู่อย่างชัดเจนเมื่อคืนนี้ แต่นับแต่นั้นจนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่พบที่อยู่ของเขาเลย ราวกับว่าเขาอันตรธานหายไปในอากาศ”
เพื่อที่จะเตรียมสูบเลือดสูบเนื้อของฉู่เทียนหมิง หัวหน้าหน่วยลับจึงมุ่งความสนใจกับที่อยู่ของจางขุยอย่างใกล้ชิด
เมื่อฉู่เทียนหมิงมาซื้อข้อมูล เขาจึงจะสามารถจัดหาข้อมูลให้ได้ในทันที
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อจางขุยบุกรุกเข้าไปในอาณาเขตตระกูลฉู่และสังหารผู้อาวุโสของตระกูลฉู่ เขาย่อมหลบหนีไปทันที และไม่อยู่ที่ใดที่หนึ่งอย่างแน่นอน
ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของจางขุยสามารถแบ่งออกเป็นหลายส่วน และขายทีละส่วนได้
บริการในการให้ข้อมูลตามเวลาจริงมีราคาแพง ผู้นำตระกูลฉู่ต้องเข้าใจและยอมซื้อแน่
เมื่อฉู่เทียนหมิงโกรธเกรี้ยว เพื่อที่จะล้างแค้นให้แก่ตระกูลฉู่ เขาย่อมไม่สนใจราคาของข้อมูลอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุด ร่องรอยของจางขุยก็อันตรธานหายโดยสิ้นเชิง
ถึงแม้เขาจะใช้อาวุธสมบัติของหอจันทร์ทมิฬเพื่อค้นหาร่องรอย เขาก็ยังตรวจไม่พบอะไรแม้แต่น้อย
จางขุยแข็งแกร่งมาก เนื่องจากเขาอยู่ในขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่เก้า จึงพอเข้าใจได้หากเขามีวิธีหลีกเลี่ยงการตรวจจับ อย่างไรก็ตาม ทำไมต่งเฉียนถึงสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับได้ล่ะ?
ทั้งคู่ราวกับอันตรธานหายไปในอากาศ
“ใช้กำลังคนตรวจสอบให้แก่ข้า ค้นหาที่อยู่ของจางขุยโดยเร็วที่สุด!”
ว่านฉางสั่ง
เขาลูบหน้าผาก เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไมจางขุยถึงไม่บุกเข้าไปในอาณาเขตตระกูลฉู่?
เดิมทีเขามีผลงานยอดเยี่ยมมากจนมีโอกาสได้รับการเลื่อนตำแหน่งด้วยซ้ำ แต่หากข่าวข้อมูลผิดพลาดแพร่ออกไป การเลื่อนตำแหน่งคงได้แต่ฝัน
เขาต้องเอาใจฉู่เทียนหมิง ป้องกันไม่ให้เขาก่อปัญหา
เมื่อกลับไปยังห้องวีไอพี เขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ฉู่ เหตุใดถึงโกรธด้วยเล่า? เช่นนี้เป็นอย่างไร? ข้าได้ออกคำสั่งให้ค้นหาที่อยู่ของจางขุยแล้ว”
“จ้าวหอว่าน จางขุยเจ้าเล่ห์นัก หอจันทร์ทมิฬก็ทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องข้อมูลทำให้ตระกูลฉู่ไม่สามารถกำจัดเขาได้ทันเวลา ท่านคิดว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้”
ฉู่เทียนหมิงหรี่ตาแล้วกล่าว
ว่านฉางก่นด่าอยู่ในใจ อย่างไรก็ตาม เพื่ออนาคตของเขาและชื่อเสียงของหอจันทร์ทมิฬ เขาต้องชดใช้ไปในบางส่วน
เรื่องเช่นนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เหตุผลที่ชื่อเสียงของหอจันทร์ทมิฬได้รับความไว้วางใจมาตลอดก็เพราะหลังจากทำผิดพลาด พวกเขานั้นแก้ไขได้ทันเวลาและลูกค้าของพวกเขาก็พึงพอใจในตอนท้าย
สำหรับลูกค้าที่ต้องการขอชดเชยมากเกินควรนั้น ทุกคนล้วนกลายเป็นขี้เถ้าในตอนท้าย
ในเมื่อลูกค้ากลายเป็นขี้เถ้า ใครจะไปรู้ว่าชื่อเสียงของหอจันทร์ทมิฬมีปัญหา?