Ep.512 - จับโจรต้องจับหัวหน้า
4/5
Ep.512 - จับโจรต้องจับหัวหน้า
แด็กซีโดร์ยังคงดูแคลนมนุษย์
ไม่สำคัญว่ามนุษย์ใช้วิธีใดปราบทีช
แต่คิดว่าแค่ได้ทีชเป็นพวก แล้วจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้หรือ?
พวกเจ้าดูถูกผู้ครองแคว้นอย่างข้าเกินไป!
จะยังไงเมืองมรกตก็เป็นของข้า!
ต่อให้ข้าอ่อนแอที่สุดในบรรดาผู้ครองแคว้น แต่พลังรบก็ยังสูงกว่าขุนนางใหญ่ตนอื่นๆ มิใช่ลูกพลับอ่อนที่สามารถบีบคั้นได้ตามต้องการ
แล้วอีกอย่างในสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นพวกเจ้าต่างหากที่เสียเปรียบ!
แด็กซีโดร์ร่ายคาถาป้องกันสามครั้งติดต่อกัน
รัศมีแสงสามสายก่อตัวเป็นเกราะป้องกันห่อหุ้มทั้งร่างเอาไว้ในคราเดียว
แม้ตัวมันจะมีอาชีพนักเวทย์ที่ร่างกายบอบบาง แต่ด้วยคาถาป้องกันอันทรงพลังถึงสามชั้น ก็มากพอแล้วที่จะต้านศัตรูไว้ซัก 2 - 3 นาที
มีสมุทนทหารอยู่รอบด้านในเมืองมรกต เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ทหารจากพื้นที่อื่นและสมาชิกของเมืองมรกตจะเข้ามาสมทบ
ทีมมนุษย์ไม่กี่สิบคน และสมุนทหารไม่ถึง 300 นาย
ฮึ่ม!
เทียบกันแล้วช่างน้อยนิด ไม่พออุดร่องฟันกองทัพข้าด้วยซ้ำ!
ขอแค่ไม่กี่นาทีก็กำจัดพวกเจ้าได้แล้ว!
วินาทีถัดมา
เห็นแค่เพียงตามตัวฮังอวี่ระเบิดปราณสงครามอันทรงพลังออกมา
มรดกของปรมาจารย์ปราณสงครามขั้น 4 - ปราณสงครามวายุคลั่ง!
หลายสิบเมตรโดยมีฮังอวี่เป็นจุดศูนย์กลาง ทุกแห่งยุบตัวลงกลายเป็นปล่องภูเขาไฟรูปชามขนาดยักษ์
ไม่ว่าจะเป็นลูกศร มีดบิน หรือคาถาโจมตีที่สมุนทหารขว้างเข้ามา
เมื่อวายุคลั่งพัดผ่าน ทั้งหมดสลายเป็นขี้เถ้า
สมุนทหารหลายสิบนายที่อยู่ใกล้ๆถูกยกตัวลอยจากพื้น เกือบทั้งหมดร่างฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสียชีวิตในวินาทีเดียว ณ จุดนั้น
ฮังอวี่เก็บกวาดบริเวณโดยรอบ ทำให้ใกล้ๆเหลือแค่เขากับผู้ครองแคว้นทุ่งขจี ไม่มีอุปสรรคใดๆมาขวางอีกต่อไป
ถึงตอนนี้เขาได้ทำการเรียนรู้สกิล : ปราณสงครามวายุคลั่ง ปราณสงครามพลังจิต และปราณสงครามสะบั้นสังหารเรียบร้อยแล้ว เมื่อรวมกับปราณสงครามเกราะที่มี
เท่ากับว่าฮังอวี่ลงทุนจ่ายแต้มวิญญาณไปเกือบ 100,000 แต้ม
และเมื่อทั้งหมดอัพเกรดจนเต็ม
เขาก็สืบทอดมรดกปรมาจารย์ปราณสงครามได้สำเร็จ!
นี่คือมรดกของนักรบในขั้น 4
โบนัสค่าคุณสมบัติที่ได้รับจากการสืบทอดมรดกนี้คล้ายๆกับสืบทอดปีศาจคลั่งอาบโลหิตและเซียนกระบี่ล่าแสง
แน่นอนว่าทุกการสืบทอดมรดกจะมาพร้อมความสามารถใหม่ ซึ่งครั้งนี้ฮังอวี่ได้รับความสามารถ ‘ปลุกเร้าปราณสงคราม’
ผลของมันคือ เมื่อฮังอวี่ใช้สกิลใดๆก็ตามที่เกี่ยวกับปราณสงคราม เอฟเฟกต์ของมันจะดีขึ้น
และการโจมตีปกติของฮังอวี่ จะได้รับการบัฟปราณสงครามเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ และมันไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติม
ปราณสงครามวายุคลั่งคือสกิลขั้นสูงของปราณสงครามระเบิด ทั้งสองสกิลมีผลเหมือนกัน แต่ปราณสงครามวายุคลั่งรุนแรงและรัศมีกว้างกว่า
ฮังอวี่สามารถเลือกได้ว่าจะปลดปล่อยพายุในพริบตา เพื่อทำดาเมจสูงและคลื่นกระแทกในทันที หรือค่อยๆปล่อยพายุนี้ออกมา ชะลอความเร็วของมัน เพื่อให้คงอยู่ได้นานขึ้นก็ได้
ตอนสู้กับไมนัส อีกฝ่ายปลดปล่อยปราณสงครามวายุคลั่งถึงสองครั้ง เวลานั้นกระทั่งจัตุรัสคุกโลหิตก็ไม่สามารถฉุดรั้งมันเอาไว้ได้
แต่เมื่อฮังอวี่ใช้สกิลเดียวกัน เอฟเฟกต์โดยรวมของมันกลับดีกว่าไมนัสมาก
เพราะเอฟเฟกต์ที่ส่งออกมาสอดคล้องกับค่าคุณสมบัติ ทุกวันนี้ฮังอวี่สืบทอดมรดกขั้น 4 ถึง 3 รายการ และสวมใส่อุปกรณ์สีม่วงอีกหลายชิ้น
พลังรบเหนือกว่าไมนัสในทุกๆด้าน ดังนั้นเอฟเฟกต์ที่ออกมาย่อมสูงกว่า
“ไม่ได้การ!”
แด็กซีโดร์ตะลึงพรึงเพริด
เมื่อปราณสงครามดั่งพายุกวาดฮือเข้ามา คาถาป้องกันสามชั้นของมันถูกฉีกเหมือนกระดาษแผ่นบางๆ สลายหายไปในพริบตา!
ช่างเป็นพลังรบที่น่าสะพรึงกลัวเสียนี่กระไร!
นี่มันเกินกว่าระดับของผู้ครองแคว้นไปแล้ว!
แด็กซีโดร์ตระหนักว่ามันประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป หยิบคัมภีร์ขึ้นเปิดใช้งานทันที
เอฟเกต์ของคัมภีร์สีฟ้านี้เรียบง่ายมาก มันช่วยเพิ่มความเร็วในการร่ายเวทย์ในช่วงสั้นๆ ช่วยให้สกิลที่เดิมอาจใช้เวลาร่ายหลายวินาทีหรือนานกว่านั้นสามารถเสร็จสิ้นได้ทันที
มนตร์สายฟ้าโปรย!
เพลิงหายนะนิจนิรันดร์!
คาถาอันทรงพลังทั้งสองถูกปลดปล่อยออกมา
ฮังอวี่สร้างปราณสงครามปกคลุมรอบตัวเขา - ปราณสงครามเกราะพลังจิต!
เจ้าสิ่งนี้ไม่เหมือนกับปราณสงครามวายุคลั่ง
เมื่อเปิดใช้งานปราณสงครามจะไม่กระจายออกไป แต่จะเกาะกลุ่มเป็นชั้นบางๆรอบตัว
เจ้าสิ่งนี้อาจป้องกันการโจมตีทางกายภาพได้ไม่ดีนัก แต่สำหรับการโจมตีด้วยพลังงานรูปแบบอื่น มันจะมีประสิทธิภาพมาก
เสาสายฟ้าแตกเป็นเสี่ยงๆ
เพลิงสีแดงฉานมอดดับลง
ขวานสลายอากาศในมือฮังอวี่โบกเบาๆ ขว้างขวานบินที่ไม่อาจหลบเลี่ยงโจมตีแด็กซีโดร์ต่อทันที!
กระบวนท่านี้ไม่เพียงขัดจังหวะแด็กซีโดร์ไม่ให้โจมตีต่อเท่านั้น แต่ยังทำให้พลังชีวิตของมันลดฮวบลงกว่าสองในสาม
สร้อยคอสีม่วงของแด็กซีโดร์เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
เทคนิคการรักษาอันทรงพลังห่อหุ้มร่างกายมัน
แด็กซีโดร์ฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาได้อีกครั้ง
ทว่าพลังรบของทั้งสองฝ่ายห่างชั้นกันมากเกินไป
ในฐานะนักเวทย์ที่เปราะบาง การต้องประมือในระยะประชิดกับนักรบที่ดุดัน ต่อให้ได้รับการฟื้นพลังชีวิตอย่างต่อเนื่องไปก็ไร้ประโยชน์ วิธีเดียวที่จะรอดคือใช้สกิลมิติหลบหนี
หนึ่งกระบี่ล่าแสง!
กลบฝังปีศาจคลั่ง!
รอบตัวฮังอวี่ราวกับมีของไฟหลอมเหลวสีเลือดลุกท่วมขึ้น
พลังชีวิตของแด็กซีโดร์หายไปอีกครึ่ง ผลของคาถารักษายังคงอยู่ แต่ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิต ไม่ทันกับความเสียหายที่ได้รับ
อีหรอบนี้ต่อให้มีเครื่องมือช่วยชีวิตก็ไร้ประโยชน์
ฮังอวี่กุมขวานสลายอากาศไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างถือกระบี่เซียนวายุ
ภายใต้การเสริมสมรรถนะอุปกรณ์สีม่วงทั้งสอง แด็กซีโดร์ถูกหั่นราวกับผักปลา
ภายใต้พลังรบมหาศาล มันสามารถตัดผ่านชั้นป้องกัน หั่นมือและเท้าทั้งสองข้าง เปลี่ยนแด็กซีโดร์ให้กลายเป็นท่อนไม้ แต่ไม่ได้ฆ่ามัน เพียงทุบตีจนเกือบตาย
แด็กซีโดร์ไม่คาดฝันว่าตัวมันจะพ่ายแพ้ได้ง่ายดายเช่นนี้
“เจ้าเอาชนะข้าได้แล้วอย่างไร? สุดท้ายก็ออกไปจากเมืองมรกตไม่ได้อยู่ดี พวกเจ้าทุกคนต้องตายที่นี่!” ผู้ครองแคว้นทุ่งขจียังคงดื้อรั้น
“ฆ่า! ฆ่าพวกมันซะ! อย่าปล่อยให้รอดชีวิตไปได้!”
สมุนทหารของเมืองมรกตบุกโจมตีแล้ว
ลูกศรและคาถานับไม่ถ้วน ปกคลุมจากทุกทิศทาง
กลุ่มของจ้าวหมิง และเจียงหนานรีบเข้าไปประคับประคองสถานการณ์ทันที
แต่เมื่อเผชิญกับการโจมตีหนาทึบ จึงตกเป็นฝ่ายถูกข่มในพริบตา
สุดท้ายศัตรูมีจำนวนมากกว่า และยิ่งนานสมุนทหารก็ยิ่งตามมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ
ฮังอวี่ไม่ได้มาที่เมืองมรกตเพื่อลอบสังหารผู้ครองแคว้น เพราะการลอบสังหารไม่จำเป็นต้องพาคนมามากขนาดนี้
ซูหยุนปิง , ฮังเสี่ยวไป๋ และฉินมู่ ผู้ใช้วิญญาณทั้งสามใช้ประโยชน์จากพวกจ้าวหมิงเป็นโล่กำบัง วิ่งตรงเข้ามา
เสี่ยวไป๋เสกมนตร์สะกดผนึกขั้น 4 ใส่แด็กซีโดร์ที่ใกล้ตาย
ฉินมู่เรียกใช้มนตร์สะกดผนึกอีกหลายตัว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการผนึกไปอีกชั้น
แด็กซีโดร์รู้สึกว่าร่างกายและสกิลทั้งหมดของมันถูกผนึกไว้ ทุกค่าคุณสมบัติลดลง อ่อนแอถึงขีดสุด
ซูหยุนปิงหยิบหลอดโพชั่นสีฟ้าออกมาและฉีดเข้าไปในคอของแด็กซีโดร์
ฤทธิ์ยาทำให้มันตาพร่าเบลอ ค่าเจตจำนงลดฮวบ
“ขอสิบนาที!”
ซูหยุนปิงพูดกับฮังอวี่
ฮังอวี่พยักหน้า “ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเราเอง!”
สมาชิกหลายสิบคนและสมุนทหารสองร้อยกว่านาย ขยับตัวชิดกันเป็นวงกลมล้อม
ฮังอวี่ จ้าวหมิง และคนอื่นๆ คอยทานรับอำนาจการโจมตีที่รุนแรง ปกปองซูหยุนปิงกับแด็กซีโดร์ที่อยู่ตรงกลาง
“มีมากมายเหลือเกิน!”
จ้าวหมิงถือโล่ยักษ์สีม่วง การโจมตีปกติเมื่อโดนเขามันไม่ต่างกับการจั๊กจี้ อย่างไรก็ตาม หากต้องถูกรุมโจมตีพร้อมกัน แม้แต่เขาก็ยังทนไม่ได้
สมุนทหารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมีจำนวนมากเกินไป ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่านอกจากสมุนทหารทั่วไปแล้ว ตอนนี้ยังมียอดฝีมือในเมืองมรกตเริ่มเข้ามาสมทบ
สิบนาทีค่อนข้างกดดัน อ๊าาาา!
ยังไงก็ตาม ที่ต้องทำคือถ่วงเวลาให้ได้!
ฮังอวี่ขว้างขวานออกไปอย่างรวดเร็ว ปักใส่ร่างนักรบโทรลล์
ทันทีที่ขวานสลายอากาศปะทะคู่ต่อสู้ ดั่งเสียงกระจกแตกดังสนั่น ระหว่างกระบวนการเกิดรอยแยกในอากาศนับไม่ถ้วน แต่แทนที่มันจะฉีกร่างทหารตนนั้นเป็นชิ้นๆ รอยแยกในอากาศกลับกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง สังหารสมุนทหารรอบๆหลายตนในพริบตาเดียว
ระหว่างรอขวานกลับเข้ามือ กระบี่เรียวกวัดแกว่งออกไป สร้างการโจมตีดั่งพายุกระหน่ำ
ขวานอันทรงพลัง
กระบี่อันว่องไว
เมื่อทั้งสองรวมพลังกัน กลายเป็นไร้เทียมทาน
ทุกแห่งหนที่คมขวานและคมกระบี่พัดผ่าน ศัตรูต่างร่ำไห้ล้มตาย
ฮังอวี่อาละวาดไปทั่วสนามรบเหมือนเทพเจ้าแห่งสงคราม มีผู้ใช้วิญญาณไม่น้อยโจมตีเขา แต่แทนที่จะถูกควบคุม เอฟเฟกต์จากสกิลเหล่านั้นกลับสะท้อนไปโดนผู้ร่ายซะเอง
นี่คือเอฟเฟกต์ตอบโต้ทางจิตของดวงตาอันน่าพรั่นพรึงของจอมเผด็จการ
สรุปสั้นๆ
ฮังอวี่รับหน้าที่เป็นตัวล่อการโจมตีส่วนใหญ่ และภายใต้ความร่วมมือของคนอื่นๆ
แม้จะค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็พอยื้อไหว
ในที่สุดแด็กซีโดร์ก็ขัดขืนไม่ได้อีกต่อไป ถูกครอบงำด้วยอำนาจแห่งมนตร์เสน่ห์ ตกอยู่ในการควบคุมชั่วคราว
มันลุกขึ้นยืนจากพื้น ผนึกตามตัวถูกยกเลิกแล้ว
ได้ผล!
แม้นี่จะเป็นแค่สถานะหลงเสน่ห์ธรรมดา
แต่ตราบใดที่ซูหยุนปิงไม่หยุดจ่ายพลังจิตของเธอ เอฟเฟกต์เสน่ห์ก็จะดำเนินต่อไป
ซูหยุนปิงออกคำสั่ง “บอกให้พวกทหารหยุดโจมตี!”
ในแววตาแด็กซีโดร์มีร่องรอยของการต่อต้านเล็กน้อย แต่ก็ยอมทำตามในที่สุด สั่งเสียงดัง “พวกเจ้าถอยไป!”
ถูกต้อง
เจ้าเมืองมีอำนาจทางทหารสูงสุดในเมือง
และคำสั่งของผู้ครองแคว้นถือเป็นอันดับหนึ่ง!
จับโจรต้องจับหัวหน้า!
เมื่อควบคุมแด็กซีโดร์ได้ ก็เท่ากับสามารถควบคุมเมืองมรกตได้ในทางอ้อม!