ตอนที่แล้วEp.511 - ไม่ต้องการพูดถึงมัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.513 - เข้าคุมแคว้นทุ่งขจี

Ep.512 - จับโจรต้องจับหัวหน้า


4/5

Ep.512 - จับโจรต้องจับหัวหน้า

แด็กซีโดร์ยังคงดูแคลนมนุษย์

ไม่สำคัญว่ามนุษย์ใช้วิธีใดปราบทีช

แต่คิดว่าแค่ได้ทีชเป็นพวก แล้วจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้หรือ?

พวกเจ้าดูถูกผู้ครองแคว้นอย่างข้าเกินไป!

จะยังไงเมืองมรกตก็เป็นของข้า!

ต่อให้ข้าอ่อนแอที่สุดในบรรดาผู้ครองแคว้น แต่พลังรบก็ยังสูงกว่าขุนนางใหญ่ตนอื่นๆ มิใช่ลูกพลับอ่อนที่สามารถบีบคั้นได้ตามต้องการ

แล้วอีกอย่างในสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นพวกเจ้าต่างหากที่เสียเปรียบ!

แด็กซีโดร์ร่ายคาถาป้องกันสามครั้งติดต่อกัน

รัศมีแสงสามสายก่อตัวเป็นเกราะป้องกันห่อหุ้มทั้งร่างเอาไว้ในคราเดียว

แม้ตัวมันจะมีอาชีพนักเวทย์ที่ร่างกายบอบบาง แต่ด้วยคาถาป้องกันอันทรงพลังถึงสามชั้น ก็มากพอแล้วที่จะต้านศัตรูไว้ซัก 2 - 3 นาที

มีสมุทนทหารอยู่รอบด้านในเมืองมรกต เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ทหารจากพื้นที่อื่นและสมาชิกของเมืองมรกตจะเข้ามาสมทบ

ทีมมนุษย์ไม่กี่สิบคน และสมุนทหารไม่ถึง 300 นาย

ฮึ่ม!

เทียบกันแล้วช่างน้อยนิด ไม่พออุดร่องฟันกองทัพข้าด้วยซ้ำ!

ขอแค่ไม่กี่นาทีก็กำจัดพวกเจ้าได้แล้ว!

วินาทีถัดมา

เห็นแค่เพียงตามตัวฮังอวี่ระเบิดปราณสงครามอันทรงพลังออกมา

มรดกของปรมาจารย์ปราณสงครามขั้น 4 - ปราณสงครามวายุคลั่ง!

หลายสิบเมตรโดยมีฮังอวี่เป็นจุดศูนย์กลาง ทุกแห่งยุบตัวลงกลายเป็นปล่องภูเขาไฟรูปชามขนาดยักษ์

ไม่ว่าจะเป็นลูกศร มีดบิน หรือคาถาโจมตีที่สมุนทหารขว้างเข้ามา

เมื่อวายุคลั่งพัดผ่าน ทั้งหมดสลายเป็นขี้เถ้า

สมุนทหารหลายสิบนายที่อยู่ใกล้ๆถูกยกตัวลอยจากพื้น เกือบทั้งหมดร่างฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสียชีวิตในวินาทีเดียว ณ จุดนั้น

ฮังอวี่เก็บกวาดบริเวณโดยรอบ ทำให้ใกล้ๆเหลือแค่เขากับผู้ครองแคว้นทุ่งขจี ไม่มีอุปสรรคใดๆมาขวางอีกต่อไป

ถึงตอนนี้เขาได้ทำการเรียนรู้สกิล : ปราณสงครามวายุคลั่ง ปราณสงครามพลังจิต และปราณสงครามสะบั้นสังหารเรียบร้อยแล้ว เมื่อรวมกับปราณสงครามเกราะที่มี

เท่ากับว่าฮังอวี่ลงทุนจ่ายแต้มวิญญาณไปเกือบ 100,000 แต้ม

และเมื่อทั้งหมดอัพเกรดจนเต็ม

เขาก็สืบทอดมรดกปรมาจารย์ปราณสงครามได้สำเร็จ!

นี่คือมรดกของนักรบในขั้น 4

โบนัสค่าคุณสมบัติที่ได้รับจากการสืบทอดมรดกนี้คล้ายๆกับสืบทอดปีศาจคลั่งอาบโลหิตและเซียนกระบี่ล่าแสง

แน่นอนว่าทุกการสืบทอดมรดกจะมาพร้อมความสามารถใหม่ ซึ่งครั้งนี้ฮังอวี่ได้รับความสามารถ ‘ปลุกเร้าปราณสงคราม’

ผลของมันคือ เมื่อฮังอวี่ใช้สกิลใดๆก็ตามที่เกี่ยวกับปราณสงคราม เอฟเฟกต์ของมันจะดีขึ้น

และการโจมตีปกติของฮังอวี่ จะได้รับการบัฟปราณสงครามเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ และมันไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติม

ปราณสงครามวายุคลั่งคือสกิลขั้นสูงของปราณสงครามระเบิด ทั้งสองสกิลมีผลเหมือนกัน แต่ปราณสงครามวายุคลั่งรุนแรงและรัศมีกว้างกว่า

ฮังอวี่สามารถเลือกได้ว่าจะปลดปล่อยพายุในพริบตา เพื่อทำดาเมจสูงและคลื่นกระแทกในทันที หรือค่อยๆปล่อยพายุนี้ออกมา ชะลอความเร็วของมัน เพื่อให้คงอยู่ได้นานขึ้นก็ได้

ตอนสู้กับไมนัส อีกฝ่ายปลดปล่อยปราณสงครามวายุคลั่งถึงสองครั้ง เวลานั้นกระทั่งจัตุรัสคุกโลหิตก็ไม่สามารถฉุดรั้งมันเอาไว้ได้

แต่เมื่อฮังอวี่ใช้สกิลเดียวกัน เอฟเฟกต์โดยรวมของมันกลับดีกว่าไมนัสมาก

เพราะเอฟเฟกต์ที่ส่งออกมาสอดคล้องกับค่าคุณสมบัติ ทุกวันนี้ฮังอวี่สืบทอดมรดกขั้น 4 ถึง 3 รายการ และสวมใส่อุปกรณ์สีม่วงอีกหลายชิ้น

พลังรบเหนือกว่าไมนัสในทุกๆด้าน ดังนั้นเอฟเฟกต์ที่ออกมาย่อมสูงกว่า

“ไม่ได้การ!”

แด็กซีโดร์ตะลึงพรึงเพริด

เมื่อปราณสงครามดั่งพายุกวาดฮือเข้ามา คาถาป้องกันสามชั้นของมันถูกฉีกเหมือนกระดาษแผ่นบางๆ สลายหายไปในพริบตา!

ช่างเป็นพลังรบที่น่าสะพรึงกลัวเสียนี่กระไร!

นี่มันเกินกว่าระดับของผู้ครองแคว้นไปแล้ว!

แด็กซีโดร์ตระหนักว่ามันประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป หยิบคัมภีร์ขึ้นเปิดใช้งานทันที

เอฟเกต์ของคัมภีร์สีฟ้านี้เรียบง่ายมาก มันช่วยเพิ่มความเร็วในการร่ายเวทย์ในช่วงสั้นๆ ช่วยให้สกิลที่เดิมอาจใช้เวลาร่ายหลายวินาทีหรือนานกว่านั้นสามารถเสร็จสิ้นได้ทันที

มนตร์สายฟ้าโปรย!

เพลิงหายนะนิจนิรันดร์!

คาถาอันทรงพลังทั้งสองถูกปลดปล่อยออกมา

ฮังอวี่สร้างปราณสงครามปกคลุมรอบตัวเขา - ปราณสงครามเกราะพลังจิต!

เจ้าสิ่งนี้ไม่เหมือนกับปราณสงครามวายุคลั่ง

เมื่อเปิดใช้งานปราณสงครามจะไม่กระจายออกไป แต่จะเกาะกลุ่มเป็นชั้นบางๆรอบตัว

เจ้าสิ่งนี้อาจป้องกันการโจมตีทางกายภาพได้ไม่ดีนัก แต่สำหรับการโจมตีด้วยพลังงานรูปแบบอื่น มันจะมีประสิทธิภาพมาก

เสาสายฟ้าแตกเป็นเสี่ยงๆ

เพลิงสีแดงฉานมอดดับลง

ขวานสลายอากาศในมือฮังอวี่โบกเบาๆ ขว้างขวานบินที่ไม่อาจหลบเลี่ยงโจมตีแด็กซีโดร์ต่อทันที!

กระบวนท่านี้ไม่เพียงขัดจังหวะแด็กซีโดร์ไม่ให้โจมตีต่อเท่านั้น แต่ยังทำให้พลังชีวิตของมันลดฮวบลงกว่าสองในสาม

สร้อยคอสีม่วงของแด็กซีโดร์เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ

เทคนิคการรักษาอันทรงพลังห่อหุ้มร่างกายมัน

แด็กซีโดร์ฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาได้อีกครั้ง

ทว่าพลังรบของทั้งสองฝ่ายห่างชั้นกันมากเกินไป

ในฐานะนักเวทย์ที่เปราะบาง การต้องประมือในระยะประชิดกับนักรบที่ดุดัน ต่อให้ได้รับการฟื้นพลังชีวิตอย่างต่อเนื่องไปก็ไร้ประโยชน์ วิธีเดียวที่จะรอดคือใช้สกิลมิติหลบหนี

หนึ่งกระบี่ล่าแสง!

กลบฝังปีศาจคลั่ง!

รอบตัวฮังอวี่ราวกับมีของไฟหลอมเหลวสีเลือดลุกท่วมขึ้น

พลังชีวิตของแด็กซีโดร์หายไปอีกครึ่ง ผลของคาถารักษายังคงอยู่ แต่ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิต ไม่ทันกับความเสียหายที่ได้รับ

อีหรอบนี้ต่อให้มีเครื่องมือช่วยชีวิตก็ไร้ประโยชน์

ฮังอวี่กุมขวานสลายอากาศไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างถือกระบี่เซียนวายุ

ภายใต้การเสริมสมรรถนะอุปกรณ์สีม่วงทั้งสอง แด็กซีโดร์ถูกหั่นราวกับผักปลา

ภายใต้พลังรบมหาศาล มันสามารถตัดผ่านชั้นป้องกัน หั่นมือและเท้าทั้งสองข้าง เปลี่ยนแด็กซีโดร์ให้กลายเป็นท่อนไม้ แต่ไม่ได้ฆ่ามัน เพียงทุบตีจนเกือบตาย

แด็กซีโดร์ไม่คาดฝันว่าตัวมันจะพ่ายแพ้ได้ง่ายดายเช่นนี้

“เจ้าเอาชนะข้าได้แล้วอย่างไร? สุดท้ายก็ออกไปจากเมืองมรกตไม่ได้อยู่ดี พวกเจ้าทุกคนต้องตายที่นี่!” ผู้ครองแคว้นทุ่งขจียังคงดื้อรั้น

“ฆ่า! ฆ่าพวกมันซะ! อย่าปล่อยให้รอดชีวิตไปได้!”

สมุนทหารของเมืองมรกตบุกโจมตีแล้ว

ลูกศรและคาถานับไม่ถ้วน ปกคลุมจากทุกทิศทาง

กลุ่มของจ้าวหมิง และเจียงหนานรีบเข้าไปประคับประคองสถานการณ์ทันที

แต่เมื่อเผชิญกับการโจมตีหนาทึบ จึงตกเป็นฝ่ายถูกข่มในพริบตา

สุดท้ายศัตรูมีจำนวนมากกว่า และยิ่งนานสมุนทหารก็ยิ่งตามมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ

ฮังอวี่ไม่ได้มาที่เมืองมรกตเพื่อลอบสังหารผู้ครองแคว้น เพราะการลอบสังหารไม่จำเป็นต้องพาคนมามากขนาดนี้

ซูหยุนปิง , ฮังเสี่ยวไป๋ และฉินมู่ ผู้ใช้วิญญาณทั้งสามใช้ประโยชน์จากพวกจ้าวหมิงเป็นโล่กำบัง วิ่งตรงเข้ามา

เสี่ยวไป๋เสกมนตร์สะกดผนึกขั้น 4 ใส่แด็กซีโดร์ที่ใกล้ตาย

ฉินมู่เรียกใช้มนตร์สะกดผนึกอีกหลายตัว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการผนึกไปอีกชั้น

แด็กซีโดร์รู้สึกว่าร่างกายและสกิลทั้งหมดของมันถูกผนึกไว้ ทุกค่าคุณสมบัติลดลง อ่อนแอถึงขีดสุด

ซูหยุนปิงหยิบหลอดโพชั่นสีฟ้าออกมาและฉีดเข้าไปในคอของแด็กซีโดร์

ฤทธิ์ยาทำให้มันตาพร่าเบลอ ค่าเจตจำนงลดฮวบ

“ขอสิบนาที!”

ซูหยุนปิงพูดกับฮังอวี่

ฮังอวี่พยักหน้า “ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเราเอง!”

สมาชิกหลายสิบคนและสมุนทหารสองร้อยกว่านาย ขยับตัวชิดกันเป็นวงกลมล้อม

ฮังอวี่ จ้าวหมิง และคนอื่นๆ คอยทานรับอำนาจการโจมตีที่รุนแรง ปกปองซูหยุนปิงกับแด็กซีโดร์ที่อยู่ตรงกลาง

“มีมากมายเหลือเกิน!”

จ้าวหมิงถือโล่ยักษ์สีม่วง การโจมตีปกติเมื่อโดนเขามันไม่ต่างกับการจั๊กจี้ อย่างไรก็ตาม หากต้องถูกรุมโจมตีพร้อมกัน แม้แต่เขาก็ยังทนไม่ได้

สมุนทหารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมีจำนวนมากเกินไป ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่านอกจากสมุนทหารทั่วไปแล้ว ตอนนี้ยังมียอดฝีมือในเมืองมรกตเริ่มเข้ามาสมทบ

สิบนาทีค่อนข้างกดดัน อ๊าาาา!

ยังไงก็ตาม ที่ต้องทำคือถ่วงเวลาให้ได้!

ฮังอวี่ขว้างขวานออกไปอย่างรวดเร็ว ปักใส่ร่างนักรบโทรลล์

ทันทีที่ขวานสลายอากาศปะทะคู่ต่อสู้ ดั่งเสียงกระจกแตกดังสนั่น ระหว่างกระบวนการเกิดรอยแยกในอากาศนับไม่ถ้วน แต่แทนที่มันจะฉีกร่างทหารตนนั้นเป็นชิ้นๆ รอยแยกในอากาศกลับกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง สังหารสมุนทหารรอบๆหลายตนในพริบตาเดียว

ระหว่างรอขวานกลับเข้ามือ กระบี่เรียวกวัดแกว่งออกไป สร้างการโจมตีดั่งพายุกระหน่ำ

ขวานอันทรงพลัง

กระบี่อันว่องไว

เมื่อทั้งสองรวมพลังกัน กลายเป็นไร้เทียมทาน

ทุกแห่งหนที่คมขวานและคมกระบี่พัดผ่าน ศัตรูต่างร่ำไห้ล้มตาย

ฮังอวี่อาละวาดไปทั่วสนามรบเหมือนเทพเจ้าแห่งสงคราม มีผู้ใช้วิญญาณไม่น้อยโจมตีเขา แต่แทนที่จะถูกควบคุม เอฟเฟกต์จากสกิลเหล่านั้นกลับสะท้อนไปโดนผู้ร่ายซะเอง

นี่คือเอฟเฟกต์ตอบโต้ทางจิตของดวงตาอันน่าพรั่นพรึงของจอมเผด็จการ

สรุปสั้นๆ

ฮังอวี่รับหน้าที่เป็นตัวล่อการโจมตีส่วนใหญ่ และภายใต้ความร่วมมือของคนอื่นๆ

แม้จะค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็พอยื้อไหว

ในที่สุดแด็กซีโดร์ก็ขัดขืนไม่ได้อีกต่อไป ถูกครอบงำด้วยอำนาจแห่งมนตร์เสน่ห์ ตกอยู่ในการควบคุมชั่วคราว

มันลุกขึ้นยืนจากพื้น ผนึกตามตัวถูกยกเลิกแล้ว

ได้ผล!

แม้นี่จะเป็นแค่สถานะหลงเสน่ห์ธรรมดา

แต่ตราบใดที่ซูหยุนปิงไม่หยุดจ่ายพลังจิตของเธอ เอฟเฟกต์เสน่ห์ก็จะดำเนินต่อไป

ซูหยุนปิงออกคำสั่ง “บอกให้พวกทหารหยุดโจมตี!”

ในแววตาแด็กซีโดร์มีร่องรอยของการต่อต้านเล็กน้อย แต่ก็ยอมทำตามในที่สุด สั่งเสียงดัง “พวกเจ้าถอยไป!”

ถูกต้อง

เจ้าเมืองมีอำนาจทางทหารสูงสุดในเมือง

และคำสั่งของผู้ครองแคว้นถือเป็นอันดับหนึ่ง!

จับโจรต้องจับหัวหน้า!

เมื่อควบคุมแด็กซีโดร์ได้ ก็เท่ากับสามารถควบคุมเมืองมรกตได้ในทางอ้อม!