ตอนที่ 45 เมื่อฝุ่นจางหาย ความวุ่นวายสงบลง (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 45 เมื่อฝุ่นจางหาย ความวุ่นวายสงบลง
*ชี่…………*
แม็กนัสรู้สึกว่าดาบดิสเพียร์รู้สึกเย็นลงและดาบโฮปรู้สึกอุ่นขึ้น ขณะเดียวกันมันก็ส่งเสียงดังชี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง จากนั้น ดาบโฮปก็เริ่มส่องสว่างขึ้นทุกวินาที
"ไม่ดีแล้ว!" แม็กนัสอุทาน
เขาตระหนักว่าดาบทั้งสองถูกเรียกว่าดิสเพียร์และโฮปเพราะมีเหตุผล ดิสเพียร์กำลังดูดพลังงานจากคำสาปพิฆาตและส่งต่อไปยังโฮป
“หึ ยังไงก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี” ทันใดนั้นมู้ดดี้ก็คำราม จากนั้นวินาทีต่อมามู้ดดี้ก็ขว้างอะไรบางอย่างใส่คำสาปพิฆาตทำให้มันระเบิดใส่กับอะไรก็ตามที่ขว้างใส่มัน
เมื่อเห็นคำสาปหายไป เขามองไปที่มู้ดดี้ด้วยความตกใจ "นี่คุณ... เหวี่ยงขาใส่คำสาปเหรอ?"
"เหอะ... ยังไงก็ไร้ประโยชน์ แล้วดาบเล่มนั้นล่ะ?" มู้ดดี้ถามราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เขาเพิ่งเสียสละขาของเขา
แม็กนัสมองไปที่ดาบโฮป “ไม่รู้สิ มันมีพลังงานสะสมอยู่มาก ดาบนี่เคยเป็นของกษัตริย์อาเธอร์”
~ เร็วเข้า! ชูขึ้นไปบนฟ้า~ เสียงบอกแม็กนัสในหัวของเขา
แม็กนัสไม่ถามอะไรต่อทำตามที่ขอทันที เขาชี้โฮปขึ้นไปยังท้องฟ้ามืดครึ้มกับฝนที่กำลังตกอยู่
"เธอทำอะไรน่ะ?" ดัมเบิลดอร์ถาม
“นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับโพสท่าแห่งชัยชะ-….” มู้ดดี้หยุดพูดกลางประโยค
*บู้มมมมมมมมม*
“ฮ้าาาาาา…” แม็กนัสเปล่งเสียง
เสียงระเบิดดังสนั่นหู แต่ก่อนที่จะมีเสียง พวกเขาเห็นแสงสีขาวออกจากปลายดาบโฮปอย่างรวดเร็วจนเสียงนั้นมาทีหลัง และเมื่อถึงเวลาที่เสียงนั้นปรากฏขึ้น แสงก็มาถึงเมฆและระเบิดออกเป็นอนุภาคเล็กๆ สีขาวคล้ายทราย
เมฆบนท้องฟ้าก็สลายไปเพราะเหตุนี้ และแสงแดดแรกก็ตกกระทบแม็กนัสโดยตรง ซึ่งยังคงถือดาบชี้ฟ้าอยู่ หลายคนเห็นสิ่งนี้จากหน้าต่างบ้านหรือร้านค้าของพวกเขา ก็อบลินที่หวาดกลัวหลบซ่อนอยู่ก็ออกมาเห็นสิ่งนี้เช่นกัน พวกเขาเพิ่งตระหนักว่าการไม่ช่วยเขา พวกเขาได้สร้างปัญหาครั้งใหญ่แล้ว
แมลงเต่าทองตัวเล็กตัวหนึ่งก็เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน ในความเป็นจริงเต่าทองตัวนี้ติดตามแม็กนัสมาตลอด
แสงตกกระทบดวงตาสีแดงของแม็กนัส ทำให้ใบหน้าและผมสีบลอนด์เข้มสว่างขึ้น ดาบทั้งสองของเขาส่องแสงสีแตกต่างกัน จากนั้นแสงแดดก็แผ่ขยายครอบคลุมตรอกไดแอกอนทั้งหมด ร้านค้าบางส่วนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
แม็กนัสยิ้มขณะที่เขามองไปที่มู้ดดี้ แม็กนัสเพิ่งฆ่าคนเป็นครั้งแรก แต่แทนที่จะเสียใจหรือสมเพช เขากลับไม่รู้สึกอะไรแปลกๆ หัวใจของเขากำลังบอกให้เขารู้สึกแย่แต่จิตใจของเขากำลังบอกว่าเขาทำถูกต้องแล้ว เพราะคนเหล่านั้นต้องการที่จะฆ่าเขาอยู่ดี
ทันใดนั้น ภาพเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีครึ่งก่อนก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในความคิดของเขา ตอนที่เขาเห็นคนขับรถบัสเสียชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้เสียชีวิต และเขาได้พูดคุยกับบ็อบบี้เกี่ยวกับเรื่องนี้
[ย้อนภาพจำ]
แม็กนัส: บ๊อบบี้ ฉันรู้สึกว่าเรายังเด็กเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องแบบนี้... ฉันค่อนข้างกลัวนิดหน่อย คิดว่าจุดจบของฉันจะเป็นแบบนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันพยายามอย่างมากที่จะพังหน้าต่าง แต่มันยังทำให้ฉันตาสว่าง พวกเรามัน... อ่อนแอ... เปราะบางเหลือเกิน ร่างกายของเราก็ไม่ต่างจากแก้ว
บ๊อบบี้: แล้วเราควรทำยังไงเพื่อให้แข็งแรงขึ้นล่ะ?
แม็กนัส: ฉันไม่รู้สิ... อาจจะออกกำลังกายมั้ง? ให้เยอะที่สุด เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ นั่นคือทั้งหมดที่ฉันคิดได้
[สิ้นสุดภาพจำ]
*เฮ่อ*
“ฉันต้องซื้อไอศกรีมอีกกล่อง ตอนนี้กล่องคงอยู่ใต้ซากปรักหักพังแล้ว” เขาเอ่ยเศร้าๆ
ดัมเบิลดอร์เข้ามาใกล้เขาและตบไหล่ของเขา "เธอทำได้ดีมาก แม็กนัส ดีกว่าฉันด้วยซ้ำ"
มู้ดดี้ผงกหัวขึ้นจากพื้น “ให้ตายสิ เขาทำถูกแล้ว แม้แต่มือปราบมารที่มีประสบการณ์สูงก็ยังแพ้เขา เลือดเมอร์ลินในตัวเขานี่มันเข้มข้นจริง และด้วยดาบคู่นั้น ฉันไม่สงสัยเลยว่าเขาควรจะเป็นราชา ฉันหมายความว่า แม้แต่ธรรมชาติก็ยังยอมรับด้วยการสาดแสงแดดใส่หน้าเขาอย่างแม่นยำ”
"ฮ่าฮ่า..." แม็กนัสหัวเราะและพูดต่อ
“คุณจะทำยังไงกับขาของคุณตอนนี้” แม็กนัสถาม
มู้ดดี้ยักไหล่ “เมอร์ลินเป็นพ-... เอ่อ มันคงแปลกที่ได้ยินพวกเราสบถในนามของเมอร์ลิน”
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นโดยมีดัมเบิลดอร์ช่วย “อีกเดี๋ยวฉันคงจะใช้ขาปลอมแทน แต่อย่างน้อยเราก็ได้กำจัดผู้เสพความตายเหล่านี้ไปบ้างถึงราคาที่จ่ายจะสูงก็เหอะ”
"คุณควรไปคุยกับพ่อผมนะ เขาเป็นวิศวกรเครื่องกล เขาสามารถสร้างขาโลหะให้คุณได้ ที่เหลือคุณก็แค่คือใช้เวทมนตร์กับมัน" แม็กนัสแนะนำ
“ฉันจะลองดู… ดัมเบิลดอร์ กลับไปที่ฮอกวอตส์เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว” เขาพูดอย่างจริงจัง
รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ยูจีเนียก็เห็นด้วย “ใช่ค่ะกลับไปที่ฮอกวอตส์ก่อน ฝ่าบาทเพคะ ขอบพระทัยสำหรับความช่วยเหลือ
หม่อมฉันอยากเสนอเหรียญตราเมอร์ลินให้พระองค์"
แม็กนัสหัวเราะและจากไปพร้อมกับดัมเบิลดอร์
"เอาจริงดิ? คุณอยากให้ "เขา" รับเหรียญตราเมอร์ลินงั้นหรอ!? เขาคือเมอร์ลินผู้กระหายเลือดกลับชาติมาเกิดนะ..." มู้ดดี้ตอกใส่หน้าเธอแล้วกระโดดขาเดียวเพื่อหาม้านั่ง
แม็กนัสเดินไปที่หม้อใหญ่รั่วกับดัมเบิลดอร์
“เธอรู้สึกอะไรเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต 2 คนนั้นไหม?” ดัมเบิลดอร์ถามเขา
"ทั้งใช่ และไม่... น่าใจหายแต่ก็จำเป็นเช่นกัน ผมไม่ได้ต้องการฆ่าพวกเขา ผมแค่ใช้พลังของผมอย่างเต็มที่เพื่อเอาชีวิตรอด” แม็กนัสตอบ
“ใช่ ถูกแล้ว การมีชีวิตรอดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การสูญเสียชีวิตของเธอให้กับคนอย่างพวกเขาเป็นหนึ่งในสิ่งเลวร้ายที่สุดที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เนื่องจากเป้าหมายของพวกเขาคือเส้นทางแห่งการทำลายล้าง เพื่อต่อสู้กับการทำลายล้าง คุณต้องสร้างมันขึ้นมาใหม่ มันยังหมายถึงการปรับปรุงใหม่ด้วยการเปลี่ยนแปลงสิ่งเก่า
“ผมอยู่กับมักเกิ้ลมาหลายปี ต้องบอกว่าพวกเขาหวงแหน พวกเขาต้องอดทนอดกลั้นและพัฒนา พวกเขาต่อสู้ดิ้นรนรับการเปลี่ยนแปลง พวกเขามีปัญหา แต่ไม่มีสิ่งใดที่คุกคามการดำรงอยู่ทั้งหมดของพวกเขาได้ ในขณะที่สิ่งที่พวกคลั่งเลือดเชื่อกันคือการตายของมักเกิ้ลทุกคน การตกเป็นทาสของโลกผู้วิเศษที่ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์” ดัมเบิลดอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า
แม็กนัสถอนหายใจ “ผมเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่กี่สัปดาห์ ผมคาดหวังว่าคงอีก 7 ปีกว่าที่ผมจะได้กลับไปหาครอบครัว”
“ฉันเชื่อว่าเธอคิดผิด แม็กนัส เมื่อเธออยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์ เธอจะไม่มีวันทิ้งมันไป ใช่ เธอสามารถกลายเป็นคนโง่เขลาได้ แต่เธอเป็นคนแบบนั้นหรือเปล่า?” ดัมเบิลดอร์ถาม
“คุณเป็นมีวาทะศิลป์เป็นเลิศ มีใครบอกคุณไหมครับ?” แม็กนัสชมเชยเขา
ดัมเบิลดอร์ลูบเคราอย่างภาคภูมิใจ "ทำไมฉันว่าฉันเคยได้ยินคำชมแบบนี้มาก่อน"
แม็กนัสตอบโพล่งไปว่า "เฮ้ มีคนพูดถึงฮิตเลอร์แบบนี้เหมือนกันฮะ"
-_-
ดัมเบิลดอร์พูดไม่ออกขณะที่แม็กนัสไปทานอาหารที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว
...
ในขณะที่แม็กนัสกำลังต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แชด แมวของเขาก็กำลังผจญภัยในฮอกวอตส์ ในฐานะแมวมันมีสิทธิ์เข้า-ออกได้แทบจะทุกที่
นั่นคือตอนที่ แชดเห็นแมวอีกตัว เขาไม่เคยเห็นแมวที่ร้อนแรงเช่นนี้มาก่อน แมวสีเทาสวยงาม อ้วนท้วนสำหรับการผสมพันธุ์
"เหมียววววว..." แชดเดินตามแมวไปพร้อมกับส่งเสียงดัง
เมื่อแมวสาวไม่สนใจเขา มันก็กระโดดไปดักหน้าเธอ
...
แอนิเมจัสของศาสตราจารย์มักกอนนากัลเป็นแมว เธอชอบความสามารถนี้ของเธอเพราะมันเป็นข้อพิสูจน์ถึงทักษะการแปลงร่างของเธอ ร่างแมวนี้ยังมีประโยชน์มากสำหรับเธอ เธอใช้มันเพื่อจับตาดูนักเรียนและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีกิจกรรมที่ผิดกฎโรงเรียนเกิดขึ้น
แต่วันนี้เธอพบแมวอีกตัว เดินเตร่ไปตามทางเดิน แล้วตอนนี้มันกำลังตามเธอมา
เธอเม้มปากแมวเพื่อทำให้มันหายไป แต่แมวไม่หยุด เธอสัมผัสได้ถึงความหิวโหยในดวงตาของแมว ดูน่ากลัวสำหรับเธอ
เธอวิ่งหนีแต่แมวนั่นตามมา จากนั้นมันก็พยายามก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งหมดเมื่อกระโดดเข้าหาเธอ
ด้วยความโกรธ เธอตบแมวอ้วนออกไปแล้วแปลงกลับไปร่างมนุษย์ของเธอเพราะไม่มีใครอยู่รอบๆ เธออุ้มเจ้าแมวอ้วนไว้ที่ท้ายทอย
“เธอเป็นแมวที่ขาดระเบียบวินัยมาก เธอจะถูกกักบริเวณ 2 ชั่วโมง” เธอดุ
"เหมียว?" แชดตกใจมากในตอน ความรักของเขากลายเป็นแมวปลอม มันปวดใจ
“มะแง้วววววว” แชดร้องระงม
_____________________________
มักกอนนากัล