ตอนที่ 41 : สำเร็จพลังที่สอง
ที่ยอดจับดารา ศิษย์ภายในนั้นวิ่งแตกตื่นด้วยความกระวนกระวายบนใบหน้า พวกเขาตรวจพบมิติปั่นป่วนมากมายเมื่อครู่ก่อนหน้าและกำลังตามหาตำแหน่งที่ชัดเจนให้เจอ
ผู้เฒ่าชุดดำที่มีตรายอดจับดาราปักอยู่บนอกยืนอยู่ที่หัวค่ายกลขนาดใหญ่ ศิษย์อีกร้อยคนเองก็นั่งประจำตำแหน่งของตัวเองในค่ายกล
เหงื่อซึมออกมาจากใบหน้าศิษย์ทุกคน และแม้แต่ผู้เฒ่าชุดดำเองก็ดูไม่สู้ดีนัก
“ผู้เฒ่าเฟิงกับศิษย์ของเราทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เราต้องขอให้ผู้เฒ่าคนอื่นมาช่วยสนับสนุนค่ายกล”
หัวหน้าศิษย์ที่นั่งใกล้ผู้เฒ่าชุดดำพูดขึ้นมา
ความรำคาญใจเล็กน้อยและความสิ้นหวังปรากฏบนใบหน้าผู้เฒ่าชุดดำเมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าศิษย์ ผู้เฒ่าชุดดำหันไปหาหัวหน้าศิษย์และพูด
“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้รึ? ถ้าทำได้ข้าคงติดต่อกับผู้เฒ่าคนอื่นไปแล้ว”
หัวหน้าศิษย์ไม่แม้แต่หวั่นไหวจากคำตำหนิของผู้เฒ่าชุดดำ เขายังคงมีความเด็ดเดี่ยวบนใบหน้า ผู้เฒ่าเฟิงสังเกตเห็นและถอนหายใจยาว
“ผู้เฒ่าคนอื่นในตอนนี้อยู่ที่ลานทดสอบและติดต่อไม่ได้ หยกสื่อสารเองก็ไม่ทำงานข้ามพื้นที่อื่น ข้าต้องติดต่อผู้เฒ่าและเข้าสู่ลานทดสอบและแจ้งข่าวกับผู้เฒ่าคนอื่นด้วยตัวเอง”
ผู้เฒ่าเฟิงเผยข้อมูลออกมา
หัวหน้าศิษย์พยักหน้ายอมรับและหันไปสนใจค่ายกลและพูดเบา ๆ
‘หวังว่าพวกเขาจะกลับมาก่อนที่เราจะเสียร่องรอยมิติปั่นป่วนนี้ไปด้วยเถอะ’
ผู้เฒ่าชุดดำได้ยินเสียงพึมพำนั้นและถอนหายใจยาวออกมาอีกครั้ง
กลับมาที่กระท่อม หลินมู่กำลังเอนกายอยู่บนเตียง เขารอที่จะหลับเพื่อเข้าสู่ห้วงหลับไหล เขามีความคิดมากมายที่อยากจะลองทำในห้วงหลับใหลเมื่อมีพลังปราณแล้ว
ไม่กี่นาทีต่อมาหลินมู่ก็หลับไปและปรากฏตัวในห้วงหลับใหล ภาพที่ได้เห็นคือท้องนภาสีฟ้าคราม หญ้าเขียวขจีพริ้วไหว และต้นแอปเปิ้ลที่อยู่ไกลออกไปทำให้หลินมู่รู้สึกโหยหา เขาเดินไปที่ต้นไม้และสังเกตเห็นว่ามันแตกต่างจากเดิม
มีแอปเปิ้ลลูกหนึ่งห้อยอยู่บนกิ้งไม้ สีของแอปเปิ้ลนั้นมีสีแดงและเขียวผสมกันโดยมีสีเขียวที่โดดเด่นกว่า ผลแอปเปิ้ลดูชุ่มฉ่ำเย้ายวนในสายตาหลินมู่จนทำให้เขาอยากจะเด็ดมัน
หลินมู่กระโดดขึ้นเด็ดผลแอปเปิ้ลอย่างง่ายดาย ส่วนสูงของต้นแอปเปิ้ลนั้นไม่มีผลต่อเขา แต่ทันทีที่หลินมู่มีแอปเปิ้ลในมือ มันก็หายไป เขาคิดว่ามันจะย้อนกลับไปยังกิ่งไม้ที่เคยอยู่ หลินมู่จึงมองไปยังกิ่งไม้กิ่งนั้น
‘หายไปแล้วเรอะ? มันหายไปไหนกัน?’
หลินมู่สงสัย
ครั้งสุดท้ายที่หลินมู่เข้ามาในห้วงหลับไหล เขาได้ทดสอบลักษณะของที่นี่แล้ว ลักษณะหลักก็คือถ้าเขาทำให้ที่นี่เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อใด มันจะย้อนคืนกลับมาเป็นเหมือนเดิมไปเอง การได้เห็นแอปเปิ้ลที่ไม่ย้อนกลับมาบนต้นไม้นั้นทำให้เขาคิดว่ามีบางสิ่งที่เขาพลาดไป
หลินมู่นึกถึงของในรอยแยกมิติที่ถูกเก็บในแหวนตอนที่เขาสัมผัสและสงสัยว่ามันอาจจะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน เขาจึงใช้ความคิดให้แอปเปิ้ลออกมาจากแหวนและมันก็ปรากฏอยู่ในมือเขา
“ดูเหมือนข้าจะคิดถูกนะ”
หลินมู่พูดกับตัวเอง
หลินมู่มองดูแอปเปิ้ลและไม่พบสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับมัน จากนั้นเขาก็พยายามกินมันแต่ในทันทีที่กัดไป แอปเปิ้ลก็หายไปและกลับมาเป็นแอปเปิ้ลเต็มลูกในมือเขาเหมือนเดิม
‘แต่ข้ายังกินมันไม่ได้ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าข้ายังอยู่ในห้วงหลับใหล ข้าต้องตื่นมากินมันสินะ’
หลินมู่คิด
“แต่เดี๋ยวก่อนสิ ถ้าแอปเปิ้ลเก็บในแหวนได้ ข้าก็เรียกของอย่างอื่นออกมาได้เหมือนกันน่ะสิ?”
หลินมู่คาดเดา
ด้วยความปรารถนาที่จะลองสมมติฐาน หลินมู่เรียกดาบสั้นออกมาในมือ ต่อมาดาบสั้นก็ได้ก่อตัวในมือ หลินมู่ที่ตื่นเต้นกับการค้นพบลองเรียกของอย่างอื่นออกมาจากแหวนด้วย
“ตอนนี้ข้าฝึกในห้วงหลับใหลได้แล้ว”
หลินมู่พูดด้วยความรู้สึกในแง่ดี
จากนั้นหลินมู่จึงฝึกการใช้อาวุธต่อในห้วงหลับใหล เขาฝึกทุกวิถีทางจนกระทั่งรู้สึกว่าจิตใจเหนื่อยล้าและอยากจะหลับตามปกติ เมื่อเขาคิดเช่นนั้น ร่างกายของเขาก็จางหายไปจากห้วงหลับใหลและไม่ปรากฏตัวในโลกจริง ขณะนี้หลินมู่ได้หลับตามปกติ และเขาเพิ่งค้นพบอีกการใช้งานหนึ่งของห้วงหลับใหล
พระอาทิตย์ขึ้นในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาและหลินมู่เพิ่งจะตื่นนอน เขารู้สึกสดชื่นและจำการฝึกในห้วงหลับใหลได้อย่างชัดเจน
‘ตอนนี้ข้ามีเวลาฝึกมากขึ้นแล้วก็พัฒนาการใช้อาวุธได้ด้วย’
หลินมู่คิด
เขาลุกขึ้นเตรียมอาหารเช้า เขากินเนื้อสัตว์ขั้น 9 ไปแล้วและตอนนี้หมาป่าหลังเหล็กก็เป็นทางเลือกต่อไปที่ดีกว่าอย่างอื่น ขณะที่กำลังรอเนื้อสุก เขาลองเรียกแอปเปิ้ลที่ได้มาจากในห้วงหลับใหล
หลินมู่ใช้ความคิดและแอปเปิ้ลก็ปรากฏในมือเขาจริง ๆ เขานำมันเข้าใกล้ปากและกัด น้ำชุ่มฉ่ำของแอปเปิ้ลกระจายไปทั่วปากส่งรสหวานอมเปรี้ยว เขาลิ้มรสชาติและรู้สึกถึงความอบอุ่นที่กระจายมาจากท้อง
หลินมู่แปลกใจในความอบอุ่นนั้นและบอกได้ว่ามันคือพลังปราณ
‘ต้นไม้ในห้วงหลับใหลคือแอปเปิ้ลจิตงั้นเรอะ?’
หลินมู่สงสัย
จากนั้นเขาจึงกินแอปเปิ้ลจิตไปทั้งลูกและนั่งลงท่องบทพรากดวงใจ เขานำทางพลังปราณผ่านเส้นปราณไปสู่ตันเถียน เมื่อพลังปราณเก็บในตันเถียนแล้วหลินมู่ก็ประเมินว่าได้รับพลังปราณจากแอปเปิ้ลจิตมาเกือบยี่สิบเสี้ยวปราณ
หลินมู่ดีใจจากผลที่ได้และถ้าหากเขาได้แอปเปิ้ลจิตจากห้วงหลับใหลเพิ่มขึ้นอีก เขาก็จะใช้มันเพื่อฟื้นฟูปราณจิตถ้าหากว่าพลังถูกใช้จนหมดสิ้น ปัญหาเดียวคือหลินมู่ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่แอปเปิ้ลจิตลูกต่อไปจะเกิดขึ้นในห้วงหลับใหล
กว่าเนื้อจะสุกเต็มที่ก็กินเวลาราวสิบห้านาที มันปล่อยกลิ่นหอมน่าอร่อยออกมาด้วย หลินมู่กินเนื้อย่างและนั่งลงดูดซับพลังชีวิต เมื่อความเร็วการดูดซับพลังเพิ่มขึ้นแล้วเขาก็ดูดซับพลังทั้งหมดเสร็จใน 10 นาที
หลินมู่มองดูตันเถียนของตัวเองและสัมผัสได้ถึงพลังปราณข้างใน เขาพบว่าปริมาณพลังปราณได้เพิ่มขึ้นเกือบ 150 เสี้ยวปราณ ตันเถียนของเขาตอนนี้ถูกใช้ไป 7.5 ในร้อยส่วน นี่คือผลจากการบ่มเพาะปราณจากเมื่อวานผสมกับแอปเปิ้ลจิตที่เขากินในวันนี้
“ข้าต้องทดสอบพลัง ‘ก้าวพริบตา’ ต่อไป”
หลินมู่พึมพำกับตัวเอง
หลินมู่ลุกขึ้นใช้พลัง เขาเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่ร่างกายเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น เขาพบว่าร่างกายของเขาเลือนลางไปครู่หนึ่งในตอนที่ใช้พลัง แต่ก็มิอาจหาเหตุผลได้
หลินมู่ใช้พลังต่อไปอีกหลายครั้งในหลายเงื่อนไข หลังจากลองได้สิบครั้งเขาก็ใช้พลังปราณไปเกือบ เขาจึงนั่งท่องบทพรากดวงใจเพื่อรับทดสลับชุดกันอีก
สามชั่วโฒงต่อมา หลินมู่ได้ฟื้นฟูพลังปราณทั้งหมดจนเต็ม เขามีเสี้ยวพลังปราณ 150 เสี้ยวและสามารถใช้ ‘ก้าวพริบตา’ ได้สิบสี่ครั้งก่อนที่จะต้องพักและฟื้นพลังอีกครั้ง ในตอนนี้ดวงอาทิตย์เคลื่อนคล้อยมาถึงหัวแสดงเวลาบ่ายกับหลินมู่
“ข้าต้องลองอีกหลายครั้งก่อนจะกินมื้อเย็น”
หลินมู่ตัดสินใจ
หลินมู่ต้องพยายามอีกหลายครั้งจนกระทั่งได้รู้ว่าสกิลเป็นอย่างไร เขาพบว่าร่างกายของเขาเลือนลางตอนที่เขาอยู่ในที่เปิดและไม่ได้ถูกขังในพื้นที่อย่างกระท่อม แต่ถ้าเขาจะใช้พลังในกระท่อมขณะที่ประตูเปิด ร่างกายของเขาก็ยังคงเลือนลางอยู่
แต่ไม่นานจางนั้นก็มาถึงการลองใช้พลังครั้งที่ 23 ของหลินมู่ ในตอนนี้เขาใช้พลังได้สำเร็จ เมื่อหลินมู่ใช้พลังโดยที่ใช้ความคิดเพ่งมองไปยังตำแหน่งที่ไกลออกไปไม่มากจากตัวเขา เขาก็พบว่าจู่ ๆ ตัวเองก็ไปอยู่ตำแหน่งนั้นทันที
เพราะการเคลื่อนไหวที่กระชากเช่นนี้เองทำให้หลินมู่เสียสมดุลจนล้มลง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดแต่กลับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจแล้ว”
หลินมู่อุทานเสียงดัง