ตอนที่แล้วตอนที่ 308 เพราะข้าต้องการชนะ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 310 ทุกคน, ข้าอยู่นี่

ตอนที่ 309 เพลิงดำและกองทัพ


ตาขวาของถังเทียนพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงดุจเลือด

บางอย่างระเบิดออกมาจากส่วนลึกในร่างของเขาและพุ่งเข้าไปในสมอง  ร่างของถังเทียนสั่นและม่านตาของเขาสูญเสียประกาย และตาสีน้ำเงินด้านซ้ายของเขากลายเป็นว่างเปล่าและสีแดงที่ออกมาจากส่วนลึกภายใน ครอบครองพื้นที่ดวงตาของเขา

เพลิงดำลุกโพลงออกมาจากภายในร่างของเขาอย่างเงียบงันลามไปตามผิวของเขาในพริบตาเพลิงดำก็กลืนตัวถังเทียนและภายในเพลิงดำมีแต่เพียงเงาที่เห็นได้

เขากางแขนยืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบๆ  เพลิงดำยังคงเผาต่อไป  ตาคู่สีแดงค่อยๆขยายใหญ่อยู่ภายในเพลิงดำสั่นสะท้านจิตวิญญาณผู้คน

เขาเป็นเหมือนกับเทพอสูร

“นั่นคือ...เพลิงดำ!”  สีหน้าของชิวจื่อจวินเปลี่ยน  เสียงของเขาสั่น

ซือหม่าเซี่ยวหันหน้ามามองและเหม่อมองจ้องศิษย์พี่ของเขา  ศิษย์พี่...

เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มผมน้ำตาลมองเห็นศิษย์พี่ตื่นตระหนก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าศิษย์พี่ของเขาจะทำหน้าแบบนั้น

เขาไม่สามารถห้ามตนเองไม่ให้หันหนีและสายตาของเขาจับอยู่ที่ร่างที่กำลังมีเพลิงดำลุกไหม้

หลางวี่ตกใจอย่างหนักเมื่อเขาเห็นถังเทียนมีเพลิงดำครอบคลุมตัว สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น  เมื่อเขาเห็นว่าถังเทียนมีเนตรราชันย์มยุรา  เขามีความคิดจะสร้างความลำบากใจให้ถังเทียนแล้ว  แต่ตอนนี้ ความคิดนั้นหายไปแล้ว  เขาไม่รู้ว่าเพลิงดำคืออะไร แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเข้าไปวุ่นวายได้แน่

เขาคือเจ้าผู้ปกครองกลุ่มดาวนกยูง และเขาอาบพลังของกลุ่มดาวนกยูงมาหลายปีแล้ว  ดังนั้นพลังสายเลือดในร่างของเขาเปลี่ยนสภาพไปนานแล้ว แต่เขาเข้าใจชัดเจนว่าพลังสายเลือดของเขาคงพลาดท่าในระยะเวลาสั้นๆเมื่อเผชิญหน้ากับพลังสายเลือดของถังเทียน

ถูหรูไห่กำลังจ้องมองดูการต่อสู้  แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง  เขาไม่ได้เข้าร่วมเอง  นอกจากทั้งหกแล้วเหมิงเว่ยสร้างความกังวลให้เขาน้อยที่สุด แต่ไม่เคยคิดว่าเหมิงเว่ยจะเป็นคนที่เผชิญความยุ่งยากมากที่สุด

กระบวนการต่อสู้อยู่ในลักษณะคุมเชิง  ตาซ้ายสีฟ้าของถังเทียนทำให้เขาดูน่าสนใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นถังเทียนบังคับให้เหมิงเว่ยใช้พลังของกลุ่มดาว  เขาประหลาดใจ แต่คิดว่าคงจะจบการต่อสู้ได้

แต่เมื่อเห็นถังเทียนปลดปล่อยเพลิงดำ  เขาถึงกับลุกขึ้นยืน

พลังสายเลือด...นั่นคือพลังสายเลือดอย่างแน่นอน!

อารมณ์ของเขาเครียด,เขาไม่เคยได้ยินว่าพลังสายเลือดจะสามารถสร้างเพลิงดำออกมาได้  ตาของเขาเบิกกว้าง  เขาโน้มตัวไปข้างหน้า  จนลืมไปว่าเขากำลังจ้องมองจออยู่

ถูหรูไห่รู้จักพลังสายเลือดในปัจจุบันทั้งหมด สายเลือดระดับสูงที่สุดก็คือสายเลือดระดับเงินของตำหนักระนาบกลาง  สำหรับพลังสายเลือดระดับสูงเขาทำได้แต่เพียงฝันเท่านั้น

เขาเป็นลูกหลานเผ่าพันธุ์โบราณ?  หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่โชคดี

ใจของถูหรูไห่เต็มไปด้วยความคิดนับไม่ถ้วน  ตาของเขาไม่ได้ละจากจอภาพ ตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความละโมบและความหลงใหล ถ้าเขาสามารถผลิตสายเลือดที่มีระดับสูงมากกว่าสายเลือดระดับเงินของกลุ่มตำหนักระนาบกลาง  อย่างนั้นสถานะผู้เฒ่าของตระกูลเขาก็จะยกขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง!

มีผู้อาวุโสตระกูลหลายคนในองค์การวิญญาณมืด  แต่แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้อาวุโสตระกูล แต่สถานะของพวกเขาบางทีก็แตกต่างราวฟ้ากับดิน  ยิ่งพวกเขาทำให้องค์การวิญญาณมืดมากขึ้น  ตำแหน่งก็จะยิ่งสูงและมีอำนาจมากและความมั่งคั่งก็จะตามมา

เหตุผลที่เขาขยายข้อพิพาทครั้งนี้ก็เพราะเรื่องนั้น  ตำแหน่งของเขาไม่ว่าจะสร้างความยุ่งเหยิงในสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ยังไงก็ตาม  ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เขามีคุณวุฒิและอำนาจอย่างแน่นอนในสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ไม่ว่าจะเกิดผลกระทบเนื่องจากข้อพิพาทใดก็ตามล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขา  เขาจะสร้างทุกอย่างไปตามอำนาจของเขาไม่มีใครสามารถกล่าวโทษโยนความผิดให้เขาได้

ตลอดหลายปีมานี้ เขามักต้องการจะไต่บันไดขึ้นไปให้สูงกว่านี้  แต่เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้

สายเลือดเงินของตำหนักในระนาบกลางมีความแข็งแกร่งมากสำหรับเขา  สำหรับสายเลือดเงินจากตำหนักระนาบสุริยุปราคาที่มีคุณภาพสูงยิ่งกว่าถือว่าเป็นสายเลือดระดับสูงที่สุด และไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงิน จะได้สายเลือดเงินจากตำหนักระนาบสุริยุปราคามาได้  ท่านจะต้องมีความสำเร็จในกลุ่มดาวตำหนักในระนาบสุริยุปราคา  ในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา  บางตำหนักเกือบจะถูกทำลายอยู่แล้วแต่ไม่มีใครกล้าต่อสู้กับทายาทของตำหนักในระนาบสุริยุปราคา

แม้ว่าสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาจะต่อสู้ระหว่างกัน  แต่พวกเขาก็ปกป้องทายาทพวกเขาพอกัน  ศิษย์ของสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาสามารถต่อสู้ฆ่าฟันกันเองได้  แต่ถ้ามีใครพยายามเอาพลังสายเลือดไป พวกเขาจะต้องเผชิญกับการร่วมมือโจมตีจากสิบสองวังระนาบสุริยุปราคา

นอกจากนี้ปัจจุบันนี้ราชสีห์เลโอนคือคนหนึ่งที่ตัดสินใจออกหน้า  เพราะเรื่องของพลังสายเลือด  พวกเขาได้ก่อสงครามใหญ่ถึงสามครั้งแล้ว เลือดไหลนองเป็นแม่น้ำ

ต่อให้เป็นองค์การวิญญาณมืดซึ่งเป็นองค์กรใหญ่  พวกเขาก็ไม่กล้าเริ่มก่อสงครามกับมหาอำนาจใหญ่เหล่านี้

ตอนนี้มีแต่เพียงสายเลือดจากตำหนักระนาบสุริยุปราคาเท่านั้นที่ถูกซื้อมาด้วยราคาแพงลิ่วในองค์การวิญญาณมืด  แต่จากตำหนักระนาบสุริยุปราคาเอง  ก็มีคนผู้เชี่ยวชาญในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาทำธุรกิจเอง  หลังจากบรรลุความสำเร็จ  แต่ไม่มีที่จะไป และใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก พวกเขาจึงใช้สายเลือดแลกเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอดหรือมีลูกหลานที่อาจมีความสำเร็จที่ดีกว่า

เพราะเรื่องเหล่านี้ตำหนักที่เกี่ยวข้องกันจึงทำตัวปิดตาข้างหนึ่ง

แม้แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือพลังสายเลือดทอง

นั่นคือโลกที่แตกต่างไปจากเดิมสิ้นเชิง

สายเลือดเงินแห่งวังระนาบสุริยุปราคาต้องอยู่ในตัวถังเทียนแน่นอน

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นแล้วใจของถูหรูไห่ก็สงบ ถ้าเป็นสายเลือดเงินของตำหนักระนาบสุริยุปราคา อย่างนั้นหมายความเขาไม่สามารถแตะต้องถังเทียนได้ แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นพลังสายเลือดโบราณ  ถ้าเป็นอย่างนั้นถังเทียนจะกลายเป็นเนื้ออ้วนพีทันที

ตำหนักระนาบสุริยุปราคาของกลุ่มดาวไหนที่สามารถสร้างเปลวเพลิงดำได้?  เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น เขาสะดุ้งด้วยความตกใจ

ดูเหมือนว่ากลุ่มดาวทั้งหมดก็สามารถทำได้

กลุ่มดาวสิงห์ก็ถูกยกย่องเพราะมันคือไฟแม้ว่าเพลิงดำจะเห็นได้ยาก แต่ถ้าเป็นในกลุ่มดาวสิงห์ บางทีอาจมีระดับสูงมากก็ได้  กลุ่มดาวคนยิงธนูก็ยังมีธนูไฟและบางทีกลุ่มดาวแมงป่องก็น่าจะมีระดับที่สูงกว่า....

ถูหรูไห่คิดไม่ออกเลยได้แต่จ้องดูผลลงเอยของสงครามอย่างกังวล

ถ้าถังเทียนมีพลังสายเลือดของตำหนักระนาบสุริยุปราคา  อย่างนั้นเหมิงเว่ยก็อยู่ในอันตราย

***************

ในสนามรบคนเกือบทั้งหมดจ้องดูการต่อสู้ระหว่างถังเทียนกับเหมิงเว่ย  แต่ยังมีการต่อสู้อีกศึกหนึ่ง ที่ยังมีคนหลายคนติดตามสนใจดูนั่นก็คือกองทัพหมาป่า ในสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ ไม่เคยมีกองทหารที่คุณภาพต่ำขนาดนี้เลย

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือพรสวรรค์ที่ยากจะมี  ทุกกองทัพต้องมีผู้นำทัพ  และมีแต่ผู้นำทัพที่มีความสามารถในการนำทัพเท่านั้นจึงจะเป็นกองทัพที่แท้จริง

ผู้นำทัพต้องสามารถนำทัพและควบคุมคนได้เกินสิบคนเพื่อโจมตีนักสู้

ผู้นำทหารจะต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดายิ่งกว่านักสู้ ผู้นำทหารคนใดสามารถสั่งการคนได้สิบคนจะมีค่าจ้างสูงมากในทุกกองกำลัง ผู้นำทหารจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยสองอย่างคือประการแรกก็คืออำนาจสั่งการของเขา นักสู้เท่าใดที่เขาสามารถสั่งการได้ยิ่งเป็นนักสู้ระดับสูงก็ยิ่งสั่งการได้ ปัจจัยที่สองระดับของกลยุทธ์ สถานการณ์ในสนามรบมีการเปลี่ยนแปลง ขอเพียงตัดสินใจได้ถูกเวลาก็จะได้ผลสำเร็จออกมาดีที่สุด

ผู้นำทหารส่วนใหญ่มีพลังเฉพาะตัวอ่อนแอนอกจากนี้ผู้นำทหารมักจะฝึกฝนวิทยายุทธเสริม พวกเขาฝึกฝนควบคุมรังสีการควบคุมรังสีกลิ่นอายก็คือความสามารถในการควบคุมความสามารถปล่อยพลังรังสีดาบกระบี่ เป็นต้น ยิ่งพลังควบคุมรังสีที่สูงก็ยิ่งมีพลังสั่งการที่สูง

เมื่อได้ยินว่ากลุ่มดาวหมาป่ามีกองทัพ  ทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องตลก จนกระทั่งพวกเขาได้ยินว่านักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีตายและได้รับบาดเจ็บจากทหาร  พวกเขาจึงเริ่มให้ความสนใจทันที

อย่างนั้น เมืองเล็กๆนี้สร้างกองทัพได้จริงๆ น่ะหรือ?

ด้วยการติดใจในข้อสงสัยนี้  กองทัพหมาป่าจึงเริ่มดึงดูดความสนใจมากมาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้คนได้เห็นว่าผู้นำทหารความจริงก็คือขุนพลวิญญาณผู้หนึ่งก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยขึ้นอีก

ผู้นำทหารเป็นขุนพลวิญญาณที่ถูกยกย่องขุนพลวิญญาณทหารและดูไม่ธรรมดาเลย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการสั่งการกองกำลังยี่สิบคนหรือต่ำกว่า กองกำลังส่วนใหญ่ องค์การส่วนใหญ่จะใช้ขุนพลวิญญาณทหาร สำหรับขุนพลวิญญาณที่มีพลังสั่งการได้เกินห้าสิบคน มีราคาแพงมากและยากที่จะทนต่อองค์กรใดๆ ได้ นอกจากนี้ ขุนพลวิญญาณยังมีความรู้จำกัด  แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังสั่งการ  แต่เมื่อเทียบกับคน  พวกเขามีความยืดหยุ่นคล่องตัวเพียงพอ  พวกเขาสามารถใช้กองทหารที่มีจำนวนขนาดเล็ก แต่หาได้ยากที่พวกเขาจะใช้กองกำลังที่มีจำนวนมาก

เมื่อทุกคนเห็นว่าจำนวนของทหารก็คือสองร้อยคน  พวกเขาพากันประหลาดใจกันหมด

ขุนพลวิญญาณที่มีพลังสั่งการได้ถึงสองร้อยคนมีราคาสูงเทียมฟ้าแน่นอน แต่ในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาก็ต้องตระหนักว่ายังมีขุนพลวิญญาณในอีกกองกำลังหนึ่งสั่งการได้ห้าสิบคน ถ้าเป็นเช่นนี้พลังสั่งการของขุนพลวิญญาณหน้าไพ่ก็คือร้อยห้าสิบคน

ขุนพลวิญญาณที่มีพลังสั่งการถึงสองร้อยคนมีราคาเทียมฟ้า แต่ขุนพลวิญญาณที่มีพลังสั่งการได้ร้อยห้าสิบคนก็เทียมฟ้าเช่นกัน

ดังนั้นเขาจึงร่ำรวยมาก

แต่ทุกคนยังคงส่ายศีรษะ ขุนพลวิญญาณมีพลังสั่งการเพียงพอแต่จะอาศัยทหารเช่นนั้นเพื่อเอาชนะสมาชิกองครักษ์ตระกูลถูสามคนนั่นเป็นการคิดตื้นเกินไป  หลายคนคลี่คลายความสงสัยของตัวเองและกลายเป็นว่าพวกเขาไม่สนใจการต่อสู้  คิดแต่เพียงว่านักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีนั้นอาจประมาทเกินไปและถูกกองกำลังกล้าตายสยบได้

กองทหารที่อยู่เบื้องหลังปิงจัดรูปขบวนแปลกอีกแถวหนึ่งที่รวมอยู่ข้างหลังเขามีรูปเหมือนร่ม

นั่นมันขบวนรบอะไร?

พวกคนที่เพ่งมองดูขุนพลวิญญาณในสนามรบอดแค่นเสียงไม่ได้ ขุนพลวิญญาณนี้คงดื่มด่ำกับจินตนาการของตัวเองจึงได้ก่อรูปขบวนที่แปลกประหลาด  ใช้ขุนพลวิญญาณเป็นผู้นำทหารในการรบ  ทำให้ทุกคนเชื่อว่าถังเทียนเลิกทำกองทัพและด้วยขุนพลวิญญาณนำทัพแสดงรูปขบวนประหลาดแบบนั้นทุกคนพบว่าเป็นเพียงเรื่องน่าตลก

ปิงยังคงสงบมาก

แม้ว่าหน่วยกล้าตายจะได้ฝึกมาแต่กลยุทธ์ขบวนร่มมาไม่กี่วัน แต่เมื่อคิดจะอาศัยช่วงเวลาไม่กี่วันจะเชี่ยวชาญกลยุทธ์นี้ได้นั้นเป็นไปไม่ได้

แต่โชคดีที่ความตั้งใจแท้จริงของเขาไม่ใช่ตรงนั้น  เขากลยุทธ์นับไม่ถ้วน  แต่ยังใหม่เกินไปที่จะอาศัยแก๊งคนเหล่านี้เข้าต่อสู้กับศัตรูเป็นเรื่องยากและน่ากลัว และถ้าตามวิธีต่อสู้ธรรมดาถือว่าไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน  ถ้าเขามีเวลาสักสองสามเดือนเขามั่นใจว่าเขาจะพาหน่วยกล้าตายนี้ย่ำศัตรูทั้งสามได้สบาย  แต่ตอนนี้ไม่ใช่

ถ้าเขาต้องการได้ชัยชนะในตอนนี้ เขาก็ต้องอาศัยกลยุทธ์อย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น

ศัตรูทั้งสามมีประสบการณ์ต่อสู้และไม่เร่งบุกตะลุยใส่ขบวน  ได้แต่วนดูรอบๆและวิ่งกลับมาที่ด้านหลังขบวนกองทหาร นับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบขบวนรบที่แปลกประหลาด  แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้เรื่องขบวนรบมากนัก  แต่พวกเขาสามารถบอกได้ว่าด้านหลังขบวนรบต้องมีจุดอ่อนใหญ่อยู่

แต่  นั่นคือจุดที่พวกเขาจะได้พบกับถังอี้

ถังอี้มีพลังสั่งการได้หกสิบ  จ่าทหารทั่วไปมีพลังสั่งการได้ห้าสิบ  แต่เขาเป็นจ่าตรีชั้นทอง  ดังนั้นเขาจึงสามารถควบคุมเพิ่มได้อีกสิบ

การสั่งการคนห้าสิบถือเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา

บุรุษทั้งห้าสิบคนใต้บังคับบัญชาของเขาก็ว่องไวมากวิ่งตรงเข้าหาศัตรูทั้งสาม ไม่ต้องมีการเสียเวลา ดาบฟันขาม้าในมือเขาฟันออกและแทบจะในเวลาเดียวกันนักสู้เผ่าหมาป่าด้านหลังของเขาปล่อยพลังดาบโค้งพร้อมกัน

รังสีดาบขนาดใหญ่ส่งเสียงหวีดหวิวขู่ขวัญคนทั้งสาม พวกเขาหลบไปข้างหนึ่งและเพิ่มระยะห่างระหว่างพวกเขาทันที

“ขุนพลวิญญาณที่นำทหารนี้คือตัวยุ่งยาก”  หน้าของผู้เฒ่าฟงเคร่งเครียดรวมทั้งอีกสองคน

ถังอี้ตัดสินใจเลือกแนวทางโจมตีได้ถูกต้องและรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาฉวยได้ประโยชน์จากการหาโอกาสได้ดี

“กองทัพกำลังเปลี่ยนขบวน”  จื่อจิง (สตรีผมม่วง) เตือน

ตามคาด กองกำลังที่อยู่ด้านหลังถังอี้กำลังเปลี่ยนรูปขบวนอย่างรวดเร็ว

“วิ่งไปตรงโน้น ไม่ว่าเขาจะทรงพลังแค่ไหน  พวกเขาก็มีเพียงห้าสิบคน”  ผู้เฒ่าฟงกัดฟัน  “หมั่นจู้ เจ้านำขบวนบุก”

“ตกลง” หมั่นจู้ผู้มีรูปร่างดุจหอคอยสูงใหญ่กว่าคนอื่น  ทุกคนเห็นด้วยพลังป่าเถื่อนดุร้ายของเขาเหมาะกับสถานการณ์อย่างนี้

เมื่อเห็นทั้งสามคนวิ่งตรงเข้าหาเขาถังอี้ยังคงมีสีหน้าเฉื่อยชาและเงื้อดาบฟันขาม้าในมืออีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด