ตอนที่ 10-30 การค้นพบ
ถังน้อยบรรจุเต็มด้วยเลือดมังกรวางอยู่หน้าเด็กทั้งสามคนและพอลินลี่ย์พลิกมือคราหนึ่ง เขาดึงหญ้าใจฟ้าออกมากำใหญ่จากในแหวนของเขา ใบสีหยกของหญ้าใจฟ้าเปล่งประกายเรืองแสงสีน้ำเงินบางๆลินลี่ย์แบ่งหญ้าออกเป็นสามส่วน แต่ละส่วนมีห้ากลุ่มก้อน
“ฟังนะพวกเจ้าทั้งสามคน” ลินลี่ย์มองดูเด็กทั้งสาม
ซีน่า เทย์ลอร์และชาชาทุกคนลุกขึ้นยืนอยู่ข้างหน้าของลินลี่ย์คอยฟังคำแนะนำของผู้อาวุโสของพวกเขา ลินลี่ย์กล่าวให้ดื่มเลือดมังกรให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกว่าจะรู้สึกว่าเต็มท้อง แต่ก่อนที่จะทำเช่นนั้น พวกเจ้าจะต้องกินหญ้าใจฟ้านี้ก่อนว่ากันตามเหตุผล หญ้าใจฟ้าคนละสามก้อนก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่เพื่อให้ปลอดภัย จะดีที่สุดพวกเจ้าควรกินให้ได้ห้าก้อน”
“กินหญ้า?” ชาชาเชิดจมูกไม่สบายใจ
จะให้เด็กคนหนึ่งกินหญ้าใจฟ้า โดยเฉพาะเด็กที่ถูกฟูมฟักเลี้ยงดูมาตลอดชีวิตของเธอ ย่อมได้รับการต่อต้านบ้างเป็นธรรมดา
“พี่ชาชา!! เมื่อท่านพ่อยังเป็นวัยรุ่น ท่านต้องไปที่ภูเขาอสูรวิเศษด้วยตัวเองเพื่อหาหญ้าใจฟ้าและดื่มเลือดมังกรเกราะหนาม แต่ตอนนี้ท่านพ่อเอาเลือดมังกรมาวางไว้ต่อหน้าเรา เจ้ายังกลัวที่จะดื่มด้วยหรือ?” เทย์เลอร์ไม่มีความห่วงกังวลอะไร เขาคว้าหญ้าใจฟ้าทันทีและเริ่มกิน
เห็นก้อนใหญ่อย่างนั้น เขากระเดือกลงไปทั้งหมด
เมื่อเห็นเช่นนี้ ลินลี่ย์อดยิ้มไม่ได้ ลินลี่ย์พอใจเทย์เลอร์ลูกชายของเขา แม้ว่าเทย์เลอร์จะค่อนข้างชอบเล่นสนุก แต่เขาเป็นคนที่อดทนมีความเพียรพยายาม และเขาก็ฝึกฝนได้ดี เทย์เลอร์ไม่ได้อ่อนแอกว่าระดับลินลี่ย์เมื่อตอนสิบขวบเท่าใดนัก
ซีน่ายิ้ม จากนั้นคว้าหญ้าใจฟ้ามาถือแล้วเริ่มกินเช่นกัน
“ชาชา, ไม่เป็นไรหรอก น้ำจากหญ้าใจฟ้าความจริงเย็นและสดชื่นนะ” ซีน่าพูดหลอกล่อ
“เหรอ?” เมื่อถูกบิดาจ้องมอง ชาชาหยิบหญ้าใจฟ้าและเริ่มเคี้ยว ขณะที่เธอเริ่มเคี้ยว ก็ทำหน้าเบ้เหมือนกินยาขม “พี่ซีน่า เจ้าหลอกข้า นี่เหรอน้ำยาเย็น? แต่เจ้าใบไม้นี่ทำให้ข้าปากชาไปหมดแล้ว” ถึงแม้จะบ่น แต่ชาชาก็ยังคงกินต่อ
ลินลี่ย์กับเดเลียหัวเราะ
“อึกอึก” เทย์เลอร์เป็นคนแรกที่ยกถังเลือดน้อยและเริ่มจ่อปากดื่ม เทย์เลอร์รู้ว่ายิ่งดื่มเลือดมังกรมากก็ยิ่งกระตุ้นพลังสายเลือดมังกรในเส้นเลือดของเขาได้ ดังนั้นเขาดื่มอึกใหญ่อย่างไม่ลังเล
ซีน่าและชาชายกถังเลือดและเริ่มดื่มเช่นกัน
“อึก อึก” เด็กทั้งสามดื่มเลือดมังกรพร้อมกัน ภาพนี้ทำให้ลินลี่ย์ถอนหายใจอย่างปลื้มใจในที่สุด
คนรุ่นก่อนตัดไม้ฟืนเผื่อ คนรุ่นหลังไม่ต้องกลัวหนาวเย็น
ลินลี่ย์พยายามอย่างหนักเท่าที่เป็นไปได้เพื่อไม่ให้ลูกหลานต้องเผชิญพบกับอันตรายที่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
“อ๊า!” คนแรกที่เริ่มตะโกนร้องออกมาอย่างเจ็บปวดคือเทย์เลอร์ ถังเลือดในมือของเขาหล่นลงพื้น และเทย์เลอร์เจ็บปวดจนล้มลงกับพื้นและเกลือกกลิ้งกับพื้น หน้าของเขาซีดขาวทันทีและหยาดเหงื่อเริ่มไหลเต็มใบหน้าของเขา
หน้าของเดเลียเปลี่ยนทันที
“ไม่เป็นไร” ลินลี่ย์ให้ความมั่นใจเดเลีย
เดเลียรู้..ว่าครั้งแรกที่นักรบเลือดมังกรกระตุ้นพลังสายเลือดมังกรของพวกเขา พวกเขาจะแปลงร่างได้โดยไม่ตั้งใจ การแปลงร่างครั้งแรกนี้จะเจ็บปวดมาก ลินลี่ย์ได้ประสบกับความเจ็บปวดนี้มาในอดีตเช่นกัน...เมื่อความเจ็บปวดถึงระดับที่แน่นอน ความเจ็บนั้นจะหายไป และแน่นอน
ขณะที่เกล็ดดำงอกออกมาจากตัวของเขา เทย์เลอร์ก็หมดสติ
หลังจากนั้นทันทีซีน่าและชาชาก็เริ่มกรีดร้องครวญครางเช่นกัน ทั้งสองคนนอนกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น เกล็ดสีฟ้าเริ่มงอกออกมาจากร่างของซีน่า ความรู้สึกถึงเกล็ดที่งอกออกมาจากทั่วร่างเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกฆ่า
“ถ้าพวกเขาไม่สามารถทนความเจ็บปวดเล็กน้อยนี้ได้ พวกเขาจะบรรลุความสำเร็จอะไรได้?” ลินลี่ย์มองดูเงียบๆ
ในเวลาสั้นๆเทย์เลอร์และซีน่าทั้งสองคนมีความเปลี่ยนแปลงเต็มที่ ขณะที่ชาชาเป็นคนสุดท้ายที่ดื่มเลือดมังกรในที่สุดเธอก็เริ่มแปลงร่างเช่นกัน เกล็ดของเทย์เลอร์เป็นสีดำ ขณะที่เขาได้รับตกทอดสีสันของมังกรหฤโหด เกล็ดของซีน่าเป็นสีฟ้าเหมือนกับที่กิ้งก่าสายฟ้าเป็นสีฟ้า
ขณะที่ชาชา...
“ลินลี่ย์, ดูสิ” เดเลียดูเหมือนจะตกใจและหวาดกลัว
ลินลี่ย์สังเกตการแปลงร่างของชาชาเช่นกันพร้อมกับเสียงสั่นสะเทือนปีกเหมือนผีเสื้อสีทองเบาบางงอกออกมาจากหลังของชาชา นี่คือสิ่งที่เธอได้รับตกทอดมาจากมังกรทองเป็นปีกคู่ขนาดใหญ่ แต่ปีกสีทองเลือนรางเหล่านี้ทำให้ชาชาดูเหมือนภูตน้อยตนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามเกล็ดสีทองที่คลุมทั้งหน้าของเธอทำให้ชาชาดูลึกลับมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากเธอมีเขามังกรงอกบนหน้าผากและมีหางมังกรด้วยซึ่งทำให้ร่างนักรบเลือดมังกรของชาชามีราศีที่โดดเด่นเช่นกัน
….
หลังจากผ่านไปนานเด็กทั้งสามก็ฟื้นขึ้น หลังจากฟื้นขึ้นแล้วเด็กทั้งสามเริ่มจ้องมองตัวเองและร่างแปลงอย่างตื่นเต้น
“โหว.. พี่ชาชา.. เจ้ามีปีกด้วย?” เทย์เลอร์จ้องมองชาชาอย่างอิจฉา
ชาชาเองก็ชอบปีกของเธอเช่นกัน ปีกเป็นส่วนหนึ่งของเธอเหมือนกับมือ ปีกทั้งสองกระพือเล็กน้อยชาชาก็บินขึ้นไปในอากาศอย่างสง่างาม และเธอตะโกนอย่างตื่นเต้น “ข้าบินได้ ข้าบินได้ด้วย”
“ข้าก็รู้สึกว่าทรงพลังมาก” เทย์เลอร์ตื่นเต้นและต่อยใส่หินที่อยู่ใกล้ๆ หินก้อนนั้นแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที เด็กอายุสิบปีสามารถต่อยหินจนแตกเป็นชิ้นๆได้ด้วยหรือ? ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาจะสามารถทำเช่นนี้ได้สำเร็จ
ซีน่าก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน
“วูบ” เคลื่อนไหวได้ราวกับประกายไฟ ร่างซีน่าทิ้งไว้แต่เงาตามหลังเลือนราง เมื่อเขาเคลื่อนไหว เขาไวมาก
ลินลี่ย์ เดเลียวอร์ตันและนีน่าพากันหัวเราะทุกคนเมื่อเห็นเช่นนั้น
“น่าอัศจรรย์จริงๆ” เซียนมังกรทองถอนหายใจชมเชย “นักรบเลือดมังกรนี่เหลือเชื่อจริงๆ” มังกรระดับเซียนทั้งสามถอนหายใจด้วยความรู้สึกทึ่งกับภาพที่เกิดขึ้นนี้ สุดยอดนักรบในตำนานล้วนน่าทึ่งจริงๆ พวกเขาสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้...ในอีกไม่กี่ทศวรรษ เด็กทั้งสามคนนี้จะกลายเป็นนักรบเลือดมังกรระดับเซียน
หลังจากเด็กทั้งสามเหนื่อยจากการละเล่นแล้ว
“ท่านแม่, เสื้อผ้าของข้าอยู่ไหน?” ชาชาพูดกับเดเลีย
การแปลงร่างทำให้เสื้อผ้าของเธอเสียหาย กางเกงของชาชาไม่ขาดเสียหาย แค่เพียงเปรอะเปื้อนเล็กน้อย แต่ชุดที่ปิดร่างกายช่วงบนฉีกขาดเพราะปีกทั้งสองของเธอ ตอนนี้ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่เมื่ออยู่ในร่างมังกรแปลง ถ้าเธอกลับคืนร่างมนุษย์เธอจะไม่เปิดเผยร่างกายทั้งหมดหรือ?
เดเลียเริ่มหัวเราะ
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะพลางกล่าว “พวกเจ้าทั้งสามฟังให้ดี ต่อไปข้างหน้าพวกเจ้าต้องตั้งใจฝึกฝนตามคัมภีร์ลับเลือดมังกร อย่างไรก็ตามมีอยู่เรื่องหนึ่งที่จะต้องบอกไว้คร่าวๆ พวกเจ้าจะยังไม่สามารถแปลงร่างเป็นมังกรได้ นอกจากนี้ในตอนนี้พวกเจ้ายังอ่อนแออยู่แม้จะอยู่ในร่างมังกรก็ตาม พลังของพวกเจ้ายังไม่มากนัก”
“ขอรับ ท่านพ่อ (ท่านลุง)”
เด็กทั้งสามเห็นด้วย
“วอร์ตัน, ข้าจะมอบเด็กทั้งสามให้เจ้าจัดการ” ลินลี่ย์มองดูน้องชายของเขา เด็กทั้งสามควรใช้ชีวิตอยู่ในนครบาลุค พวกเขายังอายุน้อย ที่สำคัญถ้าพวกเขามาใช้ชีวิตในที่อย่างภูเขาแบล็คคราเวนสถานที่ซึ่งแทบจะไม่มีคนอื่นอยู่รอบๆ คงไม่มีประโยชน์อะไรกับเด็กๆ และอารมณ์ของพวกเขาจะได้รับผลกระทบไปด้วยเหมือนกัน
“ได้เลย” วอร์ตันพยักหน้า
….
เทย์เลอร์และคนอื่นๆลงจากเขา มังกรสองในสามอยากรู้ใคร่เห็น ตัดสินใจเข้าวังในนครบาลุคด้วยเช่นกัน แต่แน่นอน พวกเขาต้องย่อขนาดลงก่อน ลินลี่ย์และเดเลียยังคงอยู่ที่ภูเขาแบล็คคราเวนต่อไป ใช้ชีวิตฝึกฝนอย่างเงียบสงบ
เดเลียจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับลินลี่ย์ ปกตินางจะไปที่นครบาลุคเพื่อพบลูกๆเป็นครั้งคราว
สำหรับลินลี่ย์...
เขาอาจจะใช้เวลาหลายเดือนหรือครึ่งปีต่อครั้งโดยไม่ได้พบเจอกับลูกๆโดยปกติเขาจะอยู่ที่ภูเขาแบล็คคราเวนและฝึกฝน
ท้องฟ้ามืดมิด
ที่บ้านศิลากลางทะเลสาบในภูเขาแบล็คคราเวน ภายในห้องพักลินลี่ย์กับเดเลียนอนตระกองกอดอยู่บนเตียง “ลินลี่ย์, เจ้าเคยถามบีบีบ้างไหมว่าหินดำที่เขาให้เราในวันแต่งงานนั้นมีคุณสมบัติอะไร?”
“ข้าถามบีบีดูแล้ว แต่จักรพรรดิหนูบอกแต่เพียงว่าเป็นของที่ดีต่อการฝึกฝน” ลินลี่ย์ตอบ
เดเลียเริ่มหัวเราะเช่นกัน “โธ่เอ๊ย..ข้าไม่เคยคิดเลยว่าการฝึกฝนเป็นจอมเวทของข้าจะทำได้เร็วถึงขนาดนี้ พี่ชายข้าเป็นอัจฉริยะขนาดนั้นและทั้งยังได้รับการอบรมสั่งสอนจากมหานักพรตโดยตรง เขายังเป็นจอมเวทระดับเก้าอยู่ ในขณะที่ข้า ข้ายังไม่เก่งเท่าเขา.. แต่ข้ากลับเข้าถึงจอมเวทระดับเก้าได้ก่อนเขา ทุกๆวันข้ารู้สึกเหมือนพลังจิตของข้ากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย..แม้ในเวลาที่ข้าไม่ได้ฝึกก็ตาม พลังจิตของข้าจะเพิ่มอย่างช้าๆ แม้แต่ข้าเองก็กลัวระดับความก้าวหน้าของข้าเอง”
“พอเถอะ, อย่าคิดมากไปเลย อะไรก็ตามที่จักรพรรดิหนูให้เรา เราจะพบได้ในไม่ช้านี้ ตอนนี้ดึกแล้ว นอนเสียเถอะ”
…….
ขณะที่ลินลี่ย์ฝึกฝนอยู่เงียบๆ ที่ภูเขาแบล็คคราเวนและวิเคราะห์กฎธรรมชาติธาตุลมและธาตุดินอย่างต่อเนื่อง ในภูเขาเล็กไกลไปทางทิศตะวันออกของนครบาลุคสามร้อยกิโลเมตร มีบุรุษสองคนกำลังตรวจสอบคุณภาพของดินอย่างระมัดระวัง
อาณาจักรและจักรวรรดิทั้งหมดจำเป็นต้องได้ทรัพยากรแร่ธาตุเพื่อพึ่งพาตนเอง
ก่อนที่อาณาจักรบาลุคจะก่อตั้งภูมิภาคนี้เดือดร้อนจากไฟสงครามและอยู่ภายใต้การบริหารที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว วันนี้ท่านได้เมือง พรุ่งนี้เมืองอาจตกเป็นของคนอื่น ไม่มีใครมีเวลาหรือความสามารถในการหาแหล่งแร่เพื่อทำเหมืองแร่
ต่อให้พวกเขาหาแหล่งแร่พบ บางทีพวกเขาอาจถูกโจมตีโดยกลุ่มชนใกล้เคียงและลงท้ายด้วยความตาย
ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ทำเหมืองแร่
แต่หลังจากก่อตั้งอาณาจักรบาลุค พวกเขาก็เพ่งกับการสำรวจค้นหาแหล่งทรัพยากรแร่ ผู้สำรวจเหล่านั้นได้ตรวจสอบพื้นที่ทุกตารางนิ้วในอาณาจักรบาลุคอย่างระมัดระวัง ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา พวกเขาได้พบเหมืองแร่โลหะได้น้อยมาก อย่างเช่นเหมืองเหล็ก เหมืองทองแดง เหมืองทองเหมืองเงิน และไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น เหมืองยังมีขนาดแตกต่างกันทั้งหมด
พวกเขายังได้พบเหมืองที่มีค่าบางแห่ง แต่ผลผลิตของเหมืองเหล่านี้ค่อนข้างต่ำ เช่นเหมืองเหล็กดำ และเหมือนโลหะมิทธิลเป็นต้น
การมีเหมืองเป็นของตนเองก็หมายความว่าอาณาจักรไม่จำเป็นต้องนำเข้าวัสดุสำหรับสร้างอาวุธจากประเทศอื่น
“หัวหน้า,ดูเหมือนดินที่นี่จะค่อนข้างมีลักษณะเฉพาะตน” บุรุษผมทองผอมเหมือนลิงพูดเบาๆ บุรุษวัยกลางคนที่อยู่ใกล้เขาตรวจสอบดินอย่างระมัดระวังเช่นกันจากนั้นออกทำสั่งทันที “คาย่า, ขุดลึกลงไปอีก ลึกลงไปอีกหน่อย มาดูว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น”
“ได้ขอรับ หัวหน้า” บุรุษหนุ่มเอาเครื่องมือออกมาและเริ่มขุดตามคำสั่งของหัวหน้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนแข็งแกร่ง แต่บุรุษหนุ่มก็เป็นนักรบระดับสาม ขณะที่หัวหน้าของเขาเป็นนักรบระดับห้า การขุดจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
ทักษะการขุดของพวกเขาได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และหลุมจึงถูกขุดได้ลึกอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องขยายออกมาก
“แคล้ง” เสียงกระทบดังขึ้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะขุดกระทบโลหะอย่างใดอย่างหนึ่ง!
“หัวหน้า,มาดูเร็วเข้า!” บุรุษหนุ่มคนนั้นรีบกล่าว
บุรุษวัยกลางคนก้มหัวจ้องมองดูทันที ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายและมีแสงอาทิตย์ส่องให้เห็น บุรุษวัยกลางคนเห็นได้ชัดเจนว่าของบางอย่างนี้สะท้อนกับแสงอาทิตย์อัสดงค์ และเขารีบใช้มือปัดฝุ่นและดินออกทันที
อัญมณีโปร่งใสปรากฏต่อสายตาของเขา
“นี่...นี่คือ...” บุรุษวัยกลางคนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จากนั้นพูดอย่างตกใจ “นี่คือแร่อัญมณีเวท อัญมณีเวท คาย่า มันคืออัญมณีเวท!”
“อะไรนะ? หัวหน้า,เรารวยแล้ว! เรารวยแล้ว!” ตาของบุรุษหนุ่มเป็นประกายความสุขทันที
อัญมณีเวทคือสิ่งที่มีค่ามาก ในความเป็นจริง...อัญมณีเวทของอสูรเวทก็มีคุณสมบัติคล้ายกับอัญมณีเวท แม้ว่าจะเป็นผลึก แต่มันก็ยังเป็นอัญมณีชนิดหนึ่งเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผลึกแก่นมังกรก็เรียกกันว่า ‘อัญมณีมังกร’
แต่แน่นอนว่าอัญมณีเวทตามธรรมชาติไม่ได้มีปริมาณพลังงานที่น่ากลัวอย่างที่อัญมณีมังกรมี
ตามราคาในตลาดปกติ...
อัญมณีเวทคุณภาพต่ำ ราคาสิบเหรียญทอง จะมีคุณภาพเท่ากับผลึกเวทของอสูรเวทระดับสาม
อัญมณีเวทคุณภาพปานกลาง ราคาร้อยเหรียญทองเท่ากับแก่นเวทของอสูรเวทระดับสี่
อัญมณีเวทคุณภาพสูง ราคาพันเหรียญทองเท่ากับแก่นเวทของอสูรเวทระดับหก
อัญมณีเวทคุณภาพสูงสุด ราคาหมื่นเหรียญทองโดยทั่วไปยังไม่เทียบเท่ากับแก่นเวทของอสูรเวทระดับเจ็ด ซึ่งจะมีราคาราวๆห้าหมื่นเหรียญทอง การหาอัญมณีเวทหรือแก่นเวทอสูรที่มีราคามากกว่าอัญมณีเวทคุณภาพสูงสุด ผู้ครอบครองจะต้องไปฆ่าอสูรเวทระดับเจ็ดหรือแปดหรือสูงกว่านั้น
อาจกล่าวได้ว่า...เหมืองอัญมณีเวทจะมีค่ามากกว่าเหมืองทองเป็นล้านเท่า ทั้งนี้เพราะเมื่อร่วมทำเหมืองทอง ก็จะต้องมีการร่อนทอง และใช้เวลามาก แต่เหมืองอัญมณีเวทแตกต่างออกไป มันมีอัญมณีเวทจำนวนมากรวมกลุ่มกันอยู่...
ก็เหมือนกับว่ามีแก่นเวทจำนวนมากรวมๆ กัน
ในทวีปยูลานสิ่งเดียวที่เทียบราคากับเหมืองอัญมณีเวทได้ก็คือเหมืองมิทธิล
“เรากำลังจะรวยแล้ว, หัวหน้า! เราสามารถหาอัญมณีเวทได้เป็นกระสอบ และอัญมณีเหล่านั้นจะทำเงินได้หลายแสนเหรียญทอง เราจะรวยกันใหญ่แล้ว!” บุรุษหนุ่มดีใจแทบคลั่ง
คนหัวหน้าขมวดคิ้ว “อย่าเพิ่งรีบร้อน นี่น่าจะเป็นเหมือนอัญมณีเวทเหมืองหนึ่ง.. มาสำรวจดูก่อนว่าเหมืองนี้จะใหญ่ขนาดไหน?”