ตอนที่ 10-29 เลื่องชื่อลือนาม
เมื่อเห็นนักรบเลือดมังกรผู้ไร้เทียมทานทานจนแทบเป็นเทพเจ้านี้ กิ้งก่าสายฟ้า, มังกรทองและมังกรหฤโหดระดับเซียนเริ่มรู้สึกได้ถึงความกลัวจับใจ
ใช่แล้วกลัว!
กลัวว่าลินลี่ย์จะฆ่าพวกเขา มังกรระดับเซียนทั้งสามนี้เข้าใจแล้วว่ามังกรทองมีเวทที่ทรงพลังที่สุดในพวกเขาทั้งสามก็ยังไม่สามารถทำอันตรายลินลี่ย์ได้ ขณะที่มังกรหฤโหดที่มีร่างกายแข็งแกร่งที่สุดก็ตามความเร็วของเขาไม่ทัน
ขณะที่กิ้งก่าสายฟ้า คนอย่างลินลี่ย์มีพลังป้องกันแบบนั้นนั่นคือหายนะใหญ่ของเขา
“เราจะตายจริงๆ หรือ?”
มังกรระดับเซียนทั้งสามไม่รู้ว่าจะทำยังไง พวกเขาไม่ได้คิดว่าลินลี่ย์จะไว้ชีวิตพวกเขา เพราะในตอนแรกลินลี่ย์อ่อนข้อให้กับพวกเขา แต่จากนั้นพวกเขาทั้งสามกลับใช้พลังโจมตีสูงสุดกับเขา พยายามจะฆ่าเขา
ตอนนั้นพวกเขาตั้งใจจะฆ่าลินลี่ย์จริงๆลินลี่ย์จะไว้ชีวิตพวกเขาหรือ?
มังกรระดับเซียนทั้งสามไม่คิดเช่นนั้น!
ในขณะนั้นเสียงเยือกเย็นดังขึ้นซึ่งสำหรับพวกเขาทั้งสามเป็นเหมือนกับเสียงจากสวรรค์ “จะเลือกความตายหรือยอมรับใช้เป็นพาหนะให้ข้าสักร้อยปี” ตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จ้องมองมังกรระดับเซียนทั้งสาม บางทีเป็นเพราะสิบสองปีของการบำเพ็ญสมาธิอย่างเงียบสงบตอนนี้ลินลี่ย์ยากที่จะลงมือฆ่าใครง่ายๆ
มังกรระดับเซียนทั้งสามไม่สามารถรับมือกับลินลี่ย์ได้ แต่พวกเขาจะส่งผลคุกคามกับคนระดับโอเซนโน
กิ้งก่าสายฟ้า,มังกรทองและมังกรหฤโหดลอบถอนหายใจโล่งอก เพียงร้อยปีสำหรับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีอายุขัยไม่มีสิ้นสุด นั่นถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก นอกจากนี้ในฐานะอสูรเวท พวกเขานับถือผู้ทรงพลัง ลินลี่ย์เอาชนะพวกเขาทั้งสามด้วยฝีมือตนเอง
ยอมแพ้เขาไม่นับว่าเป็นการเสียเกียรติ
“นายท่าน!”
มังกรระดับเซียนทั้งสามก้มศีรษะที่เคยหยิ่งผยองเขาพวกเขาให้กับลินลี่ย์ เดเลีย เทย์เลอร์ซีน่าและชาชาที่มองดูแต่ไกลขี่หลังบีบีเข้ามาสมทบ เด็กๆ ร่าเริงดีใจ แม้ว่ามังกรระดับเซียนจะมีพลานุภาพมาก แต่ในที่สุดก็ต้องก้มหัวให้กับลินลี่ย์ ผู้ที่เด็กๆ เทิดทูนบูชา
“ท่านพ่อ, พ่อแข็งแกร่งทรงพลังที่สุด! ว้าว! มังกรระดับเซียนเชียวนะ!” เทย์เลอร์ตะโกนร้องด้วยความตื่นเต้น
ชาชาและซีน่ายังคงสงบเป็นปกติ แต่เมื่อเห็นมังกรขนาดมหึมาทั้งสาม ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายและพวกเขากระตือรือร้นอย่างมากเช่นกัน บีบีแค่นเสียง “เจ้าพวกหนอนโง่ทั้งสาม, ทำไมพวกเจ้าต้องสู้ต่อต้านพี่ใหญ่ข้าด้วย? พวกเจ้าก็แค่ยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่แรกพอก็จบแล้ว”
“ฮึ่ม!” มังกรระดับเซียนทั้งสามจ้องมองบีบีอย่างไม่พอใจ
พอถึงตอนนี้ลินลี่ย์พูดขึ้น “นี่คือบีบี น้องรักของข้า เขาเป็นอสูรเวทระดับเซียน พลังของเขาสูงกว่าพวกเจ้าทั้งสามมาก ความเร็วของบีบีเกือบจะเท่าของกิ้งก่าสายฟ้าเจ้า แม้จะไม่เทียบเท่าแต่พลังป้องกันและโจมตีของเขายังมากกว่ามังกรหฤโหดมากมาย”
คำพูดเหล่านี้ทำให้มังกรระดับเซียนทั้งสามตะลึง
มีสัตว์ประหลาดแบบนี้เป็นอสูรเวทอยู่ในโลกนี้ด้วยหรือ?
ความเร็วเกือบเท่ากับกิ้งก่าสายฟ้า และพลังและการป้องกันยังน่ากลัวมากกว่ามังกรหฤโหด เป็นไปได้ยังไงที่มีอสูรเวทแบบนี้อยู่ในโลก?
“เจ้าเป็นอสูรเวทประเภทหนูไม่ใช่หรือ?” กิ้งก่าสายฟ้าระดับเซียนพูดเสียงต่ำขณะจ้องมองบีบีอย่างตกใจ พวกเขาไม่สงสัยในคำพูดของลินลี่ย์แม้แต่น้อย ยอดฝีมือระดับลินลี่ย์ไม่โกหกพวกเขา
บีบีพยักหน้า
“แต่..แต่..ขนของเจ้าสีดำ ไม่ใช่สีม่วง” กิ้งก่าสายฟ้าไม่กล้าปักใจเชื่อ “ในทวีปยูลาน มีอสูรเวทประเภทหนูชนิดเดียวเท่านั้นที่มีถึงระดับเซียน...จักรพรรดิหนูในตำนานแห่งไพรทมิฬ แต่ขนของจักรพรรดิหนูเป็นสีทองอมม่วง”
สถานที่ซึ่งหนูกินศิลาและหนูเงาอยู่ชุกชุมที่สุดก็คือไพรทมิฬ
“สีทองอมม่วง?” บีบีเข้าใจทันที “โอว..เจ้ากำลังพูดถึงสหายของข้า ความจริงเขาเป็นจักรพรรดิหนู”
“อสูรเวทระดับเซียนประเภทหนู, นี่มัน...” มังกรระดับเซียนทั้งสามไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
บีบีมองดูลินลี่ย์ “พี่ใหญ่ ได้เวลากลับกันแล้วไม่ใช่หรือ?” เนื่องจากพวกเขาได้มังกรระดับเซียนเป็นพาหนะแล้ว พวกเขาสามารถกลับได้ และซีน่า เทย์เลอร์และชาชาจะได้ทำการกระตุ้นสายเลือดมังกรของพวกเขา
มังกรหฤโหดคำราม “นายท่านท่านจะไม่ร่ายเวทสัญญาผูกวิญญาณหรือ?” ขอเพียงใช้วิชาผูกวิญญาณก็จะส่งผลควบคุมอสูรเวทได้ เนื่องจากมังกรทั้งสามนี้ยอมรับความพ่ายแพ้ พวกเขาจึงยินดีรับสัญญาผูกวิญญาณ
“ไม่จำเป็น” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น
วิชาผูกวิญญาณ?
เท่าที่ลินลี่ย์รู้ คนผู้หนึ่งสามารถทำสัญญากับอสูรเวทได้สามเท่านั้น ถ้าเขาต้องการรับเพิ่มตัวอื่น อย่างนั้นเขาจะต้องปลดปล่อยความสัมพันธ์นายบ่าวกับอสูรเวทตัวอื่น ลินลี่ย์มีอสูรเวทถึงสองแล้ว เขาสามารถรับได้เต็มที่แค่เพียงหนึ่งเท่านั้น
“ไม่จำเป็น?” มังกรระดับเซียนทั้งสามตกใจ อสูรเวทระดับเซียนทั้งสามเสนอตนเองให้เขา แต่เขากลับไม่ต้องการพวกเขาหรือ?
“ข้าเชื่อใจพวกเจ้า” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น
ความรู้สึกเชื่อใจเป็นความรู้สึกที่ดี
“เราสามพี่น้องตกลงยินดีรับใช้เป็นพาหานะให้ท่านร้อยปี เราจะรักษาคำพูดของเราแน่นอน” มังกรระดับเซียนทั้งสามรู้สึกชื่นชมที่ลินลี่ย์อยู่ในใจ เมื่อเห็นมังกรระดับเซียนทั้งสามยอมเชื่อฟังเขา ลินลี่ย์รู้สึกคาดไม่ถึง
เขายังจำได้เมื่อตอนที่เขายังเยาว์วัย บิดาของเขาชักจูงให้เขาอ่านเรื่องราวตำนานของตระกูลเขาในหอบรรพบุรุษ
“บาลุค นักรบเลือดมังกรคนแรกแห่งจักรวรรดิยูลานในปีศักราชยูลานที่ 4560 ภายนอกกำแพงเมืองใหญ่หลินนาน บาลุคได้สู้รบกับมังกรดำและมังกรยักษ์น้ำแข็ง ในที่สุดเขาได้ฆ่าทั้งมังกรยักษ์น้ำแข็งและมังกรดำสร้างชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วโลกในปีศักราชยูลานที่ 4579 ที่แนวชายฝั่งทะเลเหนือของทวีป บาลุคได้สู้กับจักรพรรดิอสรพิษเก้าหัว ในวันนั้นเกิดคลื่นลมแรงพัดถล่มเมืองใกล้เคียง แต่หลังจากต่อสู้กันอย่างดุเดือดหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ในที่สุดบาลุคก็สังหารจักรพรรดิอสรพิษเก้าหัวได้.. บาลุคก่อตั้งตระกูลบาลุคและกลายเป็นผู้นำคนแรกของตระกูลบาลุค!”
“ไรอันบาลุคคือนักรบเลือดมังกรคนที่สองแห่งทวีปยูลาน ในปีศักราชยูลาน 4690 ในเทือกเขาอสูรวิเศษเขาเอาชนะและปราบมังกรทองระดับเซียนตัวหนึ่งได้ และกลายเป็นที่รู้จักกันว่าเซียนผู้ขับขี่มังกรทอง! ในปีที่ 4697...”
“ฮาร์ซาร์ดบาลุคคือนักรบเลือดมังกรคนที่สามแห่งตระกูลบาลุค เกิดในปีศักราชยูลานที่ 5360 ในการสู้รบครั้งแรกของเขา เขาสู้กับราชสีห์ตาโลหิตระดับเซียนในเทือกเขาอาทิตย์อัสดงค์อย่างดุเดือด เขาเอาชนะราชสีห์ได้และบังคับให้มันหนีไป ทำให้ฮาร์ซาร์ดมีชื่อเสียงก้องโลก...”
ลินลี่ย์ยังคงจำได้ถึงท่าทางของบิดาของเขา
ดูหยิ่งและภาคภูมิใจ
ภาคภูมิใจในบรรพบุรุษของเขา ภาคภูมิใจที่ได้เป็นลูกหลานทายาทของตระกูลนักรบเลือดมังกร
อย่างไรก็ตามตลอดชีวิตของเขาบิดาของเขามีเรื่องเสียใจอยู่เรื่องหนึ่ง เขามักฝันว่าจะเอามรดกตระกูลกลับคืนมาได้ ฝันว่าสักวันหนึ่ง.. เขาจะได้เห็นตระกูลกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองได้สักวัน
“ท่านพ่อ... พ่อเห็นไหม?” ลินลี่ย์พึมพำในใจ “ข้า, ลินลี่ย์ บาลุค ในปีศักราชยูลานที่ 10022ได้ไปที่เทือกเขาอาทิตย์อัสดงค์และต่อสู้กับมังกรระดับเซียนสามตัวและปราบพยศพวกเขาได้” บันทึกนี้เท่านั้นก็เหนือกว่าความสำเร็จที่บรรพบุรุษของเขาได้ทำไว้
ลินลี่ย์สามารถจารึกชื่อตนเองว่าเป็นนักรบเลือดมังกรผู้ทรงพลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเขาได้อย่างมิต้องอายเลย
“ถ้าเพียงแต่ท่านพ่อสามารถเห็นเรื่องนี้ได้...”
บิดาของเขาปรารถนามาทั้งชีวิตที่จะฟื้นฟูความรุ่งเรืองของตระกูล เมื่อลินลี่ย์กลายเป็นนักเรียนในสถาบันเอินส์ได้ บิดาของเขาได้ฝากฝังงานสำคัญกับเขาไว้คือ เอามรดกของตระกูลกลับคืนมาและฟื้นฟูความรุ่งเรืองของตระกูล และวันนี้...
ลินลี่ย์ทำได้สำเร็จหมดแล้ว!
แต่บิดาของเขา...จากไปตลอดกาล
“ไปกันเถอะ ถึงเวลากลับกันแล้ว พวกเจ้าทั้งสามย่อขนาดตัวลงด้วย” ลินลี่ย์ถอนหายใจ จากนั้นออกคำสั่ง
ทันใดนั้นมังกรระดับเซียนทั้งสามย่อขนาดตัวลงเหลือประมาณสิบเมตร ขนาดเท่ากับบีบี เมื่อมีมังกรสามตัวเข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วย กลุ่มของลินลี่ย์ก็บินขึ้นเหนือด้วยความเร็วสูงมุ่งสู่ดินแดนอนารยชน
ดินแดนอนารยชน นอกนครบาลุค ที่เหนือภูเขาแบล็คคราเวน
“พี่ใหญ่! ฝีมือของท่านน่าทึ่งจริงๆ” หน้าของวอร์ตันทั้งตกใจและยินดี “ท่านพามังกรระดับเซียนสามตนมาถึงนี่ได้โดยตรงทั้งให้พวกเขารับหน้าที่เป็นพาหนะถึงร้อยปีได้ ต่อไปในอนาคตลูกหลานไม่จำเป็นต้องไปหามังกรระดับเซียนแล้ว”
ลินลี่ย์หัวเราะ
ความจริงเมื่อเขาตัดสินใจให้มังกรระดับเซียนทั้งสามนี้ทำหน้าที่เป็นพาหนะร้อยปี นอกจากจะเพิ่มกองกำลังระดับเซียนฝ่ายเขาแล้วส่วนหนึ่งก็คือเหตุผลตามที่วอร์ตันระบุไว้
“พี่ใหญ่” วอร์ตันตื่นเต้น “ข้ามีความรู้สึกว่า...ตระกูลนักรบเลือดมังกรเราเตรียมกอบกู้ความรุ่งเรืองเมื่อหลายพันปีก่อนกลับมา ท่านบอกข้าว่าฮ็อดเดิลได้พูดไว้เมื่อในอดีตบอกว่าตระกูลของเรามีนักรบเลือดมังกรเป็นสิบเลยมิใช่หรือ?”
ลินลี่ย์พยักหน้า “ถูกแล้ว หลายพันปีที่แล้ว ตระกูลนักรบเลือดมังกรเราใช้วิธีเดียวกันนี้สร้างนักรบเลือดมังกรไว้หลายคน นักรบเลือดมังกรนับสิบมีในที่เดียวกัน...เรื่องราวของสี่ตระกูลสุดยอดนักรบที่สามารถครอบครองโลกได้ ไม่ใช่เพียงนิทานปรัมปราเท่านั้น”
ตระกูลของเขายอดเยี่ยม! ใครๆ ก็สามารถจินตนาการได้
“โชคไม่ดีที่ความสามารถในการแพร่พันธุ์ของนักรบเลือดมังกรเรายังอ่อนอยู่” วอร์ตันถอนหายใจ
ความจริงปู่ของลินลี่ย์มีบุตรเพียงคนเดียวก็คือฮ็อก และฮ็อกก็มีบุตรเพียงสองคนคือลินลี่ย์กับวอร์ตัน ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่า..ในหลายตระกูลจะมีลูกหลานถึงเจ็ดแปดคนอยู่ในแต่ละครอบครัว แต่ตระกูลนักรบเลือดมังกรจะแตกต่างออกไป
ลินลี่ย์และเดเลียนอกจากได้ลูกแฝดแล้ว ก็ยังไม่สามารถมีลูกเพิ่มได้แม้แต่คนเดียวอีก
“สวรรค์เมตตาต่อเราพอแล้ว ถ้าพวกท่านยังให้เด็กๆ กับเราหลายคน...อย่างนั้นคงไม่มีคนอื่นรอดอยู่ได้ในทวีปยูลานเป็นแน่” ลินลี่ย์หัวเราะ และวอร์ตันก็หัวเราะเช่นกัน แน่นอนว่าคนเราไม่ควรโลภเกินไป
ลินลี่ย์สั่ง “วอร์ตัน! ให้ซีน่าและเด็กๆ เตรียมตัวกันได้แล้วพรุ่งนี้จะทำการกระตุ้นพลังเลือดมังกรในสายเลือดพวกเขา”
การกระตุ้นเลือดมังกรเป็นเหตุการณ์ใหญ่ วันต่อมาแฮรุและบีบีทั้งสองมาอยู่ที่ภูเขาแบล็คคราเวนอย่างว่าง่าย มังกรระดับเซียนทั้งสามรู้ความปรารถนานี้ของลินลี่ย์จึงไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย สำหรับมังกรขนาดมหึมาทั้งสามนี้ เลือดเพียงเล็กน้อยไม่นับว่ากระไร
มังกรหฤโหด,กิ้งก่าสายฟ้าและมังกรทองพากันย่อขนาดลงทั้งหมด และมองดูเด็กทั้งสาม ลินลี่ย์หัวเราะพลางมองดูเด็กทั้งสาม “พวกเจ้าทุกคนควรจะรู้นะว่าเมื่อพวกเจ้าดื่มเลือดมังกรที่ยังมีชีวิตเลือดจะไปกระตุ้นพลังเลือดมังกรในสายเลือดของพวกเจ้า ชนิดของเลือดที่พวกเจ้าดื่มจะส่งผลใหญ่ต่อการแปลงร่างของพวกเจ้า”
“ตัวอย่างเช่น ในอดีตข้าดื่มเลือดของมังกรเกราะหนามซึ่งทำให้เข่าหน้าผากและศอกของข้ามีหนามแหลมของมังกรเกราะหนามงอกขึ้นมา และความเร็วของข้าก็ยังเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นี่ก็เช่นกันต้องขอบคุณอิทธิพลของมังกรเกราะหนาม” ลินลี่ย์อธิบายรายละเอียด “คิดให้ดีก่อนจะที่พวกเจ้าจะเลือก”
เทเลอร์ชาชาและซีน่าพิจารณาถึงคำถามนี้
เด็กทั้งสามคนสามารถเลือกมังกรตัวเดียวกันก็ได้หรือจะเลือกแตกต่างกันก็ได้ เพราะมังกรระดับเซียนทั้งสามนี้จะให้เลือดกับเด็กทั้งสามคนอย่างง่ายดาย
“เทเลอร์, ลูกจะเลือกมังกรชนิดไหน?” เดเลียมองดูบุตรของนาง
เทเลอร์มองดูมังกรระดับเซียนทั้งสามอย่างระมัดระวัง จากนั้นสายตาของเขาจับจ้องมองที่มังกรหฤโหด “ข้าเลือกมังกรหฤโหด เขาแข็งแกร่งมาก ข้าชอบ” คำพูดของเทย์เลอร์ถูกใจมังกรหฤโหดมาก เขาดีใจ“แน่นอน ข้า..แพล็กเก็ต แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว”
“ข้าเลือกมังกรทอง” เสียงสดใสของชาชาดังขึ้น “มังกรทองสวยงามมากเกล็ดก็เรียบลื่นมองดูคล้ายทองคำ”
“สวย?” ลินลี่ย์กับเดเลียต่างมองหน้ากัน
ธิดาของพวกเขาเลือกมังกรทองเพราะเหตุผลนี้? มังกรทองยิ่งรู้สึกถูกใจและมีความสุข ในอดีตเขามักจะมองว่าเลือดของเขาจะถูกดูแคลน แต่ตอนนี้เจ้านายของเขาคือลินลี่ย์ เพราะลูกของเจ้านายเลือกเขา นั่นแสดงว่าพวกเขาชอบเขา
มังกรเป็นสัตว์ที่หยิ่งผยองภาคภูมิใจ พวกเขาเกลียดการด้อยกว่าคนอื่น
กิ้งก่าสายฟ้ามองดูซีน่าทันที หน้าของซีน่าสง่างามและสงบเหมือนเช่นเคย เขาหัวเราะพลางกล่าว “อย่างนั้นข้าขอเลือกพญากิ้งก่าสายฟ้า”
ความจริงไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเลือกมังกรตัวไหน เลือดมังกรจะส่งผลบางอย่างในตอนเริ่มต้นเท่านั้น ที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นเชื้อสายนักรบเลือดมังกร
“พวกเจ้าทั้งสามเติมเลือดมังกรไว้ในถังเล็กสามใบนี่เถอะ” ลินลี่ย์ชี้ไปที่ถังเล็กสามใบที่ใหญ่เพียงพออิ่มท้องของคนๆ หนึ่ง อย่างไรก็ตามสำหรับมังกรถังสามใบนี้ไม่มีผลอะไร มังกรทองหักเกล็ดโดยตรงและดึงเกล็ดออกมา
มังกรทองวางเกล็ดอยู่เหนือถังไม้และหยดเลือดหนึ่งหยดขนาดเท่าศีรษะคนและเต็มถังพอดี