Ep.504 - ดวลกับราชามังกร
1/5
Ep.504 - ดวลกับราชามังกร
“ยิงได้!”
อาวุธที่ติดตั้งบนกำแพงเมืองหนามทมิฬถูกเปิดใช้งาน
ปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตรา , หอคอยเวทมนตร์ ทั้งหมดล็อคเป้าเตรียมไว้แล้ว
เมื่อฮังอวี่ออกคำสั่ง พวกมันยิงใส่กองทัพสันเขามังกรทันที
อานุภาพของอาวุธเหนี่ยวนำมนตราที่ติดตั้งในเมืองหนามทมิฬ มันไม่ด้อยไปกว่าปืนใหญ่ทั้ง 500 ที่มนุษย์ติดตั้งไว้ในเมืองพายุระห่ำเลย
แต่ที่พิเศษกว่าก็คือ ครั้งนี้เป็นการยิงจากบนฟ้า
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน กองทัพสันเขามังกรตั้งรับไม่ทัน
สมุนทหารหลายร้อยนายถูกสังหารในวินาทีเดียว! มีบาดเจ็บสาหัสอีกนับร้อย!
ทั้งกองทัพแคว้นเดียวดายและกองทัพสันเขามังกรตะลึงงัน!
ทั้งคู่ไม่เคยเห็นป้อมปราการเคลื่อนที่ที่มีอำนาจการยิงรุนแรงเช่นนี้มาก่อน
“สงครามยังไม่จบ! แต่เพิ่งเริ่มต้น!” ฉูเทียนหัวตะโกนเสียงดัง “อย่าถอย! ทุกคนตามฉันมา! ฆ่า!”
ไม่ต้องสงสัยเลย อำนาจการยิงอันทรงพลังของเมืองหนามทมิฬ และการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฮังอวี่ ทำให้ฝั่งแคว้นเดียวดายเกิดความกล้า และขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้น
ทุกคนเลือดลมเดือดพล่าน!
“พวกเรายังไม่แพ้!”
“ไปกัน! เตะตูดไอ้พวกเชี่ยนั่น!”
“มีบอสฮังร่วมสู้ ยังต้องกลัวอะไรอีก!”
ขวัญและกำลังใจของมนุษย์นับหลายพันทำให้ขุนนางเล็กชาวพื้นเมืองตนอื่นๆของแคว้นเดียวดายฮึดสู้ขึ้น
เมืองพายุระห่ำยังเหลือความหวัง!
นี่ทำให้พวกเขามีแรงต่อต้านเพิ่มขึ้น
ภายใต้การร่วมมือของเมืองหนามทมิฬที่เสมือนดั่งเครื่องบินทิ้งระเบิดจากเบื้องบน และกองทัพแคว้นเดียวดายจากเบื้องล่าง
เมื่อศัตรูต้องเผชิญกับการโจมตีทั้งสองด้าน
กองทัพสันเขามังกรที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้ว พวกมันจะทานทนต่อสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
ราชามังกรคลั่งตัดสินใจเด็ดขาดในทันที
ร่างอันใหญ่โตของมันลอยสูงขึ้น ขณะเดียวกันเอ่ยสั่งการ
“กองทหารมังกรบินทั้งหมด ตามข้าขึ้นไปถล่มเมืองลอยฟ้า! สปิตซ์! เจ้านำทหารที่เหลือบุกตีเมืองพายุระห่ำต่อไป!”
แม่ทัพมังกรสังหารตอบรับทันควัน “น้อมรับคำสั่ง!”
ในบรรดาชาวมังกรมีอยู่สองประเภทที่ว่องไวเป็นพิเศษ
หนึ่งคือมังกรบิน หรือที่เรียกอีกอย่างว่าไวเวิร์น พวกนี้เป็นชาวมังกรที่เกิดมาพร้อมปีก
อีกหนึ่งคือมังกรปฐพี แม้ไม่มีปีกแต่ผิวหนาเนื้อหยาบ พลังชีวิตสูง และมีโบนัสค่าร่างกายที่สูง
กองทัพสันเขามังกรประกอบด้วยสมุนทหารสองประเภทนี้เป็นหลัก
ราชามังกรตัดสินใจนำทัพมังกรบินเข้าโจมตีเมืองหนามทมิฬด้วยตัวเอง
ในทางกลับกัน สปิตซ์ยังคงนำทัพภาคพื้นดินเข้าโจมตีเมืองพายุระห่ำ
ฮังอวี่เห็นราชามังกรคลั่งในสภาพมังกรยักษ์
นี่ไม่ใช่เอฟเฟกต์ของโพชั่นมนตรา แต่เกิดจากสกิลขั้น 5
พลังรบของราชามังกรคลั่งทรงพลังมากอยู่แล้ว และฐานค่าคุณสมบัติของมันไม่มีผู้ใดเทียบได้
แม่ในสภาพปกติ ฮังอวี่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ฉะนั้นในสภาพแปลงร่างด้วยมรดกขั้น 5 ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง
ร่างอวตารของมังกรสูงใหญ่ 40 - 50 เมตร ฉะนั้นค่าคุณสมบัติของมันก็ย่อมเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม
ฮังอวี่รู้
ว่าการรักษาสภาพเปลี่ยนร่างในมรดกขั้น 5 นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
แม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นถึงราชามังกรคลั่ง แต่หากให้อยู่ในสภาพมังกรยักษ์นานๆ และใช้สกิลหลากหลายอย่างต่อเนื่องคงเป็นไปไม่ได้
การบุกเข้ามาเช่นนี้ จึงเท่ากับเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย!
เมืองหนามทมิฬก่อนเข้าสู่สนามรบได้เตรียมพร้อมอยู่ในสถานะสูงสุดเรียบร้อยแล้ว!
ฮังอวี่สั่งการเด็ดขาด “ยิงราชามังกร!”
เฮสการ์มาถึงเมืองหนามทมิฬเป็นตนแรก มันเปิดฉากด้วยลมหายใจมังกร
อย่างไรก็ตาม เสาเพลิงเมื่อพ่นใส่เมืองหนามทมิฬ กลับถูกหยุดไว้ได้ด้วยเขตแดนที่ปกคลุมอยู่ภายนอก
ปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราและหอเวทมนตร์ มุ่งเป้ายิงใส่ราชามังกรทันที
ราชามังกรถูกโจมตี 7 - 8 ครั้งทีเดียวพร้อมกัน เกล็ดตามตัวระเบิดเป็นชิ้นๆ
ราชามังกรคลั่งหาได้แยแสไม่ มันเปิดใช้งานสกิลรักษาตัวเอง ฟื้นพลังชีวิตทั้งหมด จากนั้นเสริมทับด้วยสกิลป้องกัน แล้วโจมตีเมืองหนามทมิฬต่อ
ภายใต้การโจมตีอันหนักหน่วงจากลมหายใจมังกร เขตแดนของเมืองหนามทมิฬเริ่มแหวกออก
กองทัพมังกรบินฉวยโอกาสนี้ฝ่าเขตแดนเข้าไป เปิดฉากโจมตีเมืองหนามทมิฬอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม
หนามทมิฬไม่ใช่เมืองธรรมดา!
มันเป็นเหมือนป้อมปราการสงครามอันแข็งกล้า!
และยิ่งแกร่งขึ้นในระหว่างทางที่มา เพราะฮังอวี่ช่วยจัดตำแหน่งพลรบและติดตั้งปืนใหญ่ก่อนถึงแคว้นเดียวดาย
ขณะนี้อาคารทรงปิระมิดในเมือง แต่ละหลังดั่งป้อมปราการ ตลอดทั้งทางเดิน ไม่ได้มีแค่อาวุธเหนี่ยวนำมนตราเท่านั้น แต่สมุนทหารยังติดอาวุธหนักเตรียมพร้อมรับมือผู้มาเยือน!
“ยิงลูกศร!”
“ยิงสกิล!”
ทหารชาวนากา ชาวมังกรน้ำ และโนมส์โปรยห่าธนูและคาถาออกไป กองทัพมังกรที่หลั่งไหลเข้ามาผ่านช่องโหว่
สิ่งที่ต้อนรับพวกมันคือพยุหะโจมตีอันหนักหน่วง ภาพนี้ดั่งแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ จุดจบคือการฆ่าตัวตาย
ป้อมปราการพีระมิด แต่ละตำแหน่งแข็งแกร่งมาก คาถาธรรมดาไม่อาจทำลายได้ในเวลาอันสั้น
กองทัพเมืองหนามทมิฬใช้โอกาสจากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ยิงปืนใหญ่สังหารศัตรูผู้มาเยือนไม่หยุดยั้ง
ราชามังกรคลั่งตื่นตระหนก มันรีบเปิดใช้งานสกิลสอดแนมอย่างรวดเร็ว
กระบวนการสอดแนมไม่มีอะไรติดขัด แต่ผลลัพธ์ที่มันเจอทำให้ต้องตกตะลึง
ไม่น่าแปลกใจเลยที่อำนาจการยิงของเมืองๆนี้รุนแรงมาก นั่นเพราะบนป้อมปราการเต็มไปด้วยหน่วยรบ แล้วอีกอย่างสมุนทหารก็มีแต่ระดับหัวกะทิ ไม่ด้อยไปกว่ากองทัพสันเขามังกรเลย
อาศัยเพียงมังกรบินที่เหลือเพียง 2000 -3000 นาย มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะบุกทะลวงเมืองลอยฟ้าแห่งนี้!
ด้วยความโกรธเกรี้ยว
ราชามังกรเปิดใช้งานสกิลมิติ
ร่างอันใหญ่โตของมันบิดเบี้ยวและหายวับไปในอากาศ
และแทบจะในเวลาเดียวกัน
ราชามังกรคลั่งข้ามผ่านเขตแดน โผล่ใจกลางเมือง
ลมหายใจมังกรพ่นใส่ป้อมปราการทรงพีระมิด
การโจมตีเพียงครั้งเดียวทำให้ปราการเหล็กดำคุณภาพสูงละลายเป็นรูขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันทำให้ทหารในตำแหน่งนั้นบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
“ไม่ได้การ!”
“ราชามังกรคลั่งเข้ามาแล้ว!”
คูเวตันเคยสัมผัสอำนาจของราชามังกรคลั่งมาก่อน อาจกล่าวได้ว่าพลังรบของราชามังกรเป็นเงามืดในใจเขา
ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญกับศัตรูตรงๆ กลิ่นอายอันหนักหนานั้น แรงกดดันอันน่าสะพรึงนั้น ทำให้เขาหายใจไม่ออก
ฮังอวี่เองก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่าสะพรึงจากราชามังกร สมแล้วที่เป็นอำนาจสะกดข่มที่เกิดจากผู้ปกครองอาณาจักร
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ขวัญกำลังใจของเมืองพายุระห่ำจะพังทลายลงภายใต้การโจมตีของราชามังกร
ชายผู้นี้แก่กล้าเกินไป!
ฮังอวี่บังคับให้ตัวเองสงบใจ
“ฮึ่ม! ต่อให้แกร่งแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิต!”
“คูเวตัน นี่เป็นโอกาสดี ให้กองทหารตั้งสมาธิไปกับการยิงต่อไป!”
“ยิงอย่าหยุด ยิงจนกว่าจะหมดแรง ห้ามปล่อยให้มันรอดไปได้!”
การกระทำของราชามังกรที่บุกเข้ามาถึงข้างในเมืองหนามทมิฬเป็นการกระทำที่เสี่ยงมาก
เมืองหนามทมิฬไม่เหมือนกับเมืองพายุระห่ำ
มีจำนวนสมุนทหารในเมืองไม่มากนักก็จริง แต่รอบด้านเต็มไปด้วยป้อมปราการ
ดังนั้น เมื่อราชามังกรเข้ามา มันจึงต้องเผชิญกับห่าลูกศรและคาถาหลั่งไหลราวกับน้ำตก
แม้ค่าคุณสมบัติของราชามังกรจะสูงเพียงใด แม้พลังป้องกันของมันจะแก่กล้าขนาดไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทานการโจมตีอันหนักหน่วงและหนาแน่นเช่นนี้!
ฮังอวี่ชักดาบปราณสงครามและดาบไอเยือกแข็งออกมา เปิดใช้งานปลุกเลือดปีศาจ เรียกใช้ความสามารถในการบิน ลอยขึ้นไปในอากาศ พุ่งเข้าหาราชามังกร จากนั้นทิ้งตัวจากเบื้องบน แทงสองดาบเข้าที่คอของมัน ทำดาเมจร้อยกว่าจุด
ด้วยพลังรบของฮังอวี่ในตอนนี้ เดิมเป็นเรื่องยากหากคิดทำลายการป้องกันของราชามังกรในสภาพมังกรยักษ์
อย่างไรก็ตาม ราชามังกรกำลังทุกข์ตรมกับการเผชิญกับการโจมตีจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
พลังป้องกันของมันจึงอ่อนแอลง
ราชามังกรคลั่งตระหนักได้เช่นกัน ว่าเวลานี้ขนาดตัวของมันใหญ่เกินไป จึงตกกลายเป็นเป้าถูกสูบพลังชีวิตเพียงตนเดียว และแบบนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อการต่อสู้
ดังนั้นยกเลิกร่างมังกรยักษ์ กลับคืนสู่สภาพมนุษย์มังกรสูง 3 - 4 เมตรอีกครั้ง
“เจ้าคือฮังอวี่ผู้เลื่องชื่อของเผ่ามนุษย์?” ราชามังกรคลั่งปล่อยสกิลป้องกัน จากนั้นกล่าวต่อว่า “เจ้ามีความสามารถมากจริงๆ เซนอสก็เหมือนจะตายด้วยน้ำมือเจ้า”
ราชามังกรยังคงเย่อหยิ่ง มันกล้าเปิดจังหวะสนทนาแม้ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยเช่นนี้
และนั่นหมายความได้อีกอย่างหนึ่ง ว่าด้วยพลังรบในปัจจุบันของฮังอวี่ ยังไม่อยู่ในสายตามัน
ในสถานการณ์เช่นนี้ ขอแค่สองสามกระบวนท่า ก็สามารถสังหารฮังอวี่ได้!
...
กองทัพมังกรบินยังคงบุกฝ่าเขตแดนและถูกยิงตกเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
ทหารบนป้อมปราการหนามทมิฬ เข้าร่วมการต่อสู้อย่างดุเดือดกับมังกรที่บินวนราวฝูงกา
เห็นแค่เพียงมังกรบินตนแล้วตนเล่าถูกยิงร่วงลงกลางอากาศ ขณะที่ความสูญเสียของเมืองหนามทมิฬไม่ได้สาหัสนัก
ในเวลาเดียวกัน
สถานการณ์รบภาคพื้นดิน
กองทัพหลักของสันเขามังกรไม่มั่นใจอีกต่อไป
จำนวนของพวกมันยิ่งมายิ่งน้อยลงเรื่อยๆ
แม่ทัพมังกรสังหารถูกรุมล้อมโดยกลุ่มยอดฝีมือจากมังกรครามและสำนักกระบี่วิญญาณ
ฮี่ ฮี่
ในสถานการณ์นี้ หากให้สรุปสั้นๆ
ฮังอวี่แทบอดใจไม่ไหวที่จะสั่งปีกไก่ย่างสักหนึ่งโลและเบียร์อีกหลายกระป๋อง มานั่งชนแก้วกับราชามังกรจนมืดค่ำ ถ่วงเวลาไปเรื่อยๆจนสงครามจบลง
“ถูกต้อง เป็นฉันเอง!”
ราชามังกรคลั่ง “ข้ารับรู้ถึงพลังรบของเจ้าแล้ว จงภักดีต่อข้านับแต่นี้ไป แล้วข้าจะมอบทุกอย่างที่เจ้าต้องการ”
ฮังอวี่แสร้งทำท่าทีสนใจ กล่าวตอบว่า
“สิ่งเดียวที่ฉันต้องการในอาณาจักรมังกรโลกา คือบัลลังก์เมืองมังกร! แกจะยอมให้ไหมล่ะ?”
“รนหาที่ตาย!”
ราชามังกรโกรธจัด ร่างสั่นเทาอย่างแรง ทะยานเข้าหาฮังอวี่ ซัดกำปั้นเหวี่ยงใส่ใบหน้าเขา
กระนั้น เมื่อการโจมตีเข้าถึงตัว มันกลับทะลุผ่านร่างฮังอวี่
เทคนิคแปลงอากาศธาตุ?
สกิลมิติ!
ที่ฐานการผลิตเมืองมังกรถูกทำลาย และการหายตัวไปของทาเซีย ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเจ้ามนุษย์น่าตายผู้นี้นี่เอง!
อัตราการพัฒนาของชายผู้นี้สูงกว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด
หากไม่ปราบปรามเสียแต่ต้นๆ
อนาคตคงยากจะควบคุม!