900 - วิกฤตของจักรพรรดิน้อย
900 - วิกฤตของจักรพรรดิน้อย
มังกรนับพันปรากฎตัวออกมาพร้อมกัน ฟ้าแลบเป็นประกายเหนือฟากฟ้า เสียงฟ้าร้องเขย่าสวรรค์ทั้งเก้า และสถานที่นั้นเต็มไปด้วยปราณมังกร
หวังเถิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาพุ่งเข้าใส่เย่ฟ่านท่ามกลางมังกรนับพัน แต่พลังของมังกรจะไม่มีสิ้นสุด หากขาดไปหนึ่งอีกหนึ่งก็จะปรากฏตัวขึ้นทดแทน พวกมันคือเงามังกรทั้งหมด
“ตายซะเถอะ!” เขาส่งเสียงคำรามพร้อมกับเงื้อกระบี่ขึ้นเหนือศีรษะ พลังของกระบี่สวรรค์แสดงออกมาอย่างเต็มที่ และร่างเงามังกรทั้งหมดก็พังทลายลงอย่างง่ายดาย
“ผนึก”
เย่ฟ่านยังตะโกนเสียงดังและสร้างผนึกด้วยมือของเขาเพื่อตัดขาดความว่างเปล่า และอักขระโบราณทั้งเก้าก็ไล่เรียงออกมาจากปลายนิ้วของเขาทีละตัว
มีอักขระโบราณลึกลับเก้าตัวในคัมภีร์เต๋าซึ่งสามารถผลักดันคนคนหนึ่งให้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะได้ มันลึกลับและคาดเดาไม่ได้ ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้วเย่ฟ่านก็ยังศึกษามันไม่สำเร็จ
ในเวลานี้ เขานึกถึงทักษะศักดิ์สิทธิ์นี้โดยธรรมชาติ ทักษะเหล่านี้คือ อักขระจักรพรรดิทั้งเก้าซึ่งมีพลังลึกลับที่คาดเดาไม่ได้และมีเพียงจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้นใช้ออก
อักขระโบราณหลั่งไหลออกมาทีละตัวและกรงแห่งแสงก็ปรากฏขึ้นในอากาศ อักขระทั้งเก้าตัวผนึกท้องฟ้าและไม่มีใครรู้ว่ามันหมายถึงอะไร
“อักขระจักรพรรดิทั้งเก้าตัดกันเป็นกรง นี่มันอะไรกัน?!” ทุกคนอุทาน
กรงแห่งแสงถูกกดลงและปิดลงอย่างช้าๆ โลกมิติใบเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นราวกับว่าท้องฟ้าเปิดออกและหมอกโกลาหลก็ไหลออกมา พลังทั้งหมดนี้ได้รับจากมังกรแห่งเทือกเขาฉินหลิง
สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกและองค์หญิงเยว่หลิง มองดูเหตุการณ์ด้วยดวงตาที่สดใส น่าประหลาดใจจริงๆ ที่เย่ฟ่านสามารถต่อกรจักรพรรดิน้อยดาวเหนือได้อย่างเท่าเทียม
ผู้อาวุโสหลายคนตกใจกลัวเพราะคู่ต่อสู้ของหวังเถิงอยู่ในการเปลี่ยนแปลงครั้งที่แปดของอาณาจักรแปลงมังกร ด้วยความช่วยเหลือของปราณมังกรแห่งฉินหลิง เขาได้แสดงทักษะอันสูงส่งซึ่งน่ากลัวเกินไป
“ครืนน”
กรงแห่งแสงกำลังจะปิดลงในที่สุด หวังเถิงใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด ลำคอของเขากสั่นสะเทือนราวกับฟ้าร้องก่อนที่เสียงศักดิ์สิทธิ์จะระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ในขณะนั้นอักขระโบราณเก้าตัวพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา แต่ละตัวน่ากลัวมาก ราวกับว่าพวกมันสามารถสร้างความความผันผวนได้ทั่วทั้งดินแดน
จิตใจของเย่ฟ่านสะท้านหวั่นไหว อีกฝ่ายก็เชี่ยวชาญคัมภีร์เต๋าเช่นกัน และนี่คืออักขระจักรพรรดิเก้าตัวชนิดเดียวกับของเขาอย่างไม่ผิดเพี้ยน
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของหวังเถิงเห็นได้ชัดว่าเกือบจะรู้แจ้งในอักขระเต๋าทั้งหมดแล้ว และพลังที่อักขระเต๋าทั้งเก้าตัวที่แสดงออกมาน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด
“เป็นไปได้ไหมว่าเพราะดวงตาสงวรรค์ ทักษะศักดิ์สิทธิ์ของเขาจึงสามารถพัฒนาไปอย่างง่ายดาย?”
…
“ปัง” “ปัง”
อีกด้านหนึ่ง วานรศักดิ์สิทธิ์ยกเท้าใหญ่ขึ้น และเหยียบสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองอย่างรุนแรงพวกมันส่งเสียงร้องโหยหวน ข้างหน้าหวังเถิง
“การยินยอมเป็นทาสของผู้อื่นมันเป็นสิ่งที่น่าอัปยศสำหรับเผ่าพันธุ์ของเรา ข้าจะลงทัณฑ์พวกเจ้าแทนราชาของเจ้าเอง”
การกระทำนี้เห็นได้ชัดว่าพยายามหักหน้าหวังเถิงอย่างชัดเจน
“พอได้แล้ว!”
จักรพรรดิน้อยแดนเหนือตะโกนและฟาดฟันกระบี่เข้าหาวานรศักดิ์สิทธิ์ในทันที
วานรศักดิ์สิทธิ์เหลือบมองหวังเถิงอย่างเย็นชาพร้อมกับลงน้ำหนักที่ฝ่าเท้าเพิ่มมากขึ้น
“เจ้าก็ต้องตายด้วย!”
ปัง!
คำพูดของเขาและเย่ฟ่านเหมือนกันทุกประการ
ทุกคนในดินแดนเซียนตกตะลึง วันนี้มีกี่คนที่กล้ายั่วยุหวังเถิง แม้แต่ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ยังต้องไว้หน้าเขาสามส่วน
อย่างไรก็ตามวานรศักดิ์สิทธิ์และเย่ฟ่านม่ได้สนใจมันและยังคงทุบสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองเขาด้วยกระบองเหล็ก เขาก็ไม่กลัวจักรพรรดิน้อยแดนเหนือแม้แต่น้อย
หวังเถิงโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด กระบี่ยาวของเขาชี้ไปยังวานรศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่กล่าวว่า “เจ้ากล้าท้าทายข้าหรือ?”
“เจ้ากล้าชี้คมอาวุธมาหาข้า”
วานรศักดิ์สิทธิ์มีบุคลิกแข็งกร้าว กระบองสีดำของเขาทุบลงสู่พื้นทันที
“บูม”
ดินแดนเซียนทั้งหมดสั่นสะเทือน หนึ่งคือองค์ชายศักดิ์สิทธิ์ในสมัยโบราณและอีกคนหนึ่งคือการเกิดใหม่ของจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งมวลมนุษย์ แรงปะทะของพวกเขาเทียบได้กับดาวหางพุ่งชนโลก
“ขวับ”
วานรศักดิ์สิทธิ์ถือกระบองเหล็กสีดำหมุนควงกลางอากาศ แสงสีดำส่องลอดผ่านและทุกสิ่งก็เคลื่อนไหว นี่คือพลังบริสุทธิ์ แข็งแกร่งและมีอำนาจเหนือกว่า
หวังเถิงก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน กระบี่ของเขาฟาดฟันเข้าหากระบองเหล็กด้วยความโกรธเรื่องอย่างถึงที่สุด
บูม!
เสียงอะน่าตกใจดังขึ้น ทุกคนในที่นั้นต่างถอยหลังด้วยความหวาดกลัว
ยอดฝีมือสองสามคนที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตแลกของเซียนเทียมร่างกายสั่นสะท้านและกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
“บูม”
มีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง แท่งเหล็กดำของวานรศักดิ์สิทธิ์เห็นได้ชัดว่าทรงอำนาจมากกว่ากระบี่ของหวังเถิง และตอนนี้เขากำลังข้อความได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อหลายล้านปีก่อนมีเผ่าพันธุ์โบราณมากมายในโลก มานอนศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้คือทายาทของจักรพรรดิ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าพันธุ์โบราณ
ในขณะที่หวังเถิงเพียงอุปโลกน์ตัวเองว่าเป็นจักรพรรดิโบราณแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ดังนั้นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขาจึงถูกแสดงออกมาทีละน้อย
ถึงกระนั้นหวังเถิงก็ยังดูเฉยเมย กระบี่ศักดิ์สิทธิ์สีทองลอยขึ้นอีกครั้งก่อนที่แสงทั้งหมดบนท้องฟ้าจะถูกดึงดูดเข้าสู่กระบี่ของเขาในทันที
ในเวลานี้ มังกรและเฟิ่งหวงร้องเพลงประสานเสียงอย่างกลมกลืน พวกมันวนเวียนอยู่รอบตัวหวังเถิงราวกับสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านี้ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง
วานรศักดิ์สิทธิ์เพียงมองอย่างเย็นชา หลังจากสูดลมหายใจอย่างลึกล้ำกระบองเหล็กกล้าที่ใหญ่โตราวกับเสาค้ำยันสวรรค์ก็ถูกฟาดเข้าหาหวังเถิงอีกครั้ง
บูม!
กระบองเหล็กอันใหญ่กระแทกเข้ากับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงดังกึกก้อง ผู้คนมากมาย กรีดร้อง ปิดหู ผู้บ่มเพาะระดับกลางบางคนถึงกับกระอักเลือดจนเสียชีวิตในทันที
หวังเถิงพยายามปิดกั้นคลื่นพลังที่ถาโถมเข้าหาเขาราวกับมหาสมุทร ทุกๆ การโจมตีของวานรศักดิ์สิทธิ์นั้นเหมือนท้องฟ้าถล่มลงมาและเกือบจะทำให้ร่างกายของเขาแยกออกจากกัน
เขาถอยหลังไปเก้าก้าวติดต่อกัน ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง ถ้านี่ไม่ใช่กระบี่จักรพรรดิสวรรค์ มันคงหักไปนานแล้ว เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งและกลิ่นอายอันทรงพลังของวานรศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเต็มที่
“วานรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้แข็งแกร่งเกินไปและตอนนี้จักรพรรดิน้อยแดนเหนือต้องการหลีกเลี่ยง ไม่น่าแปลกใจที่มันถูกเรียกว่าเป็นองค์ชายศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าพันธุ์โบราณ!”
ทุกคนตกตะลึง วานรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งไม่เป็นรองบิดาของมันในช่วงที่อายุเท่ากัน ในอนาคตมันจะกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหรือไม่!
หวังเถิงก้าวถอยหลังแปดสิบเอ็ดก้าว ปากของเขามีเลือดไหลเป็นทาง ในแง่ของความแข็งแกร่งทางร่างกายมันไม่มีทางที่เขาจะเปรียบเทียบกับวานรศักดิ์สิทธิ์ได้เลย
“เจ้าเรียกตัวเองว่าเป็นจักรพรรดิน้อยแดนเหนือ? ลำพังแค่ความสามารถเท่านี้ก็คิดจะเป็นจักรพรรดิโบราณได้ มาเถอะให้ข้าส่งเจ้าออกเดินทาง!” วานรศักดิ์สิทธิ์ตะโกน
หวังเถิงส่งเสียงคำรามและตอบโต้อย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าผู้คนจะบอกว่าเขาแข็งแกร่งทัดเทียมกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงอายุไล่เลี่ยกัน แต่ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นถึงทายาทที่แท้จริงของจักรพรรดิ์ศักดิ์สิทธิ์ การที่เขาจะเสียเปรียบมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
อย่างไรก็ตามหวังเถิงมีหรือจะยอมรับความพ่ายแพ้ ตลอดชีวิตเกือบสามสิบปีของเขาถูกเรียกว่าจักรพรรดิน้อยแดนเหนือเสมอ เขามั่นใจว่าจะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาไม่มีทางยอมแพ้ให้กับเดรัจฉานตัวหนึ่ง!
กระบี่จักรพรรดิสวรรค์ฟาดฟันออกไปเหมือนสายรุ้ง ในขณะนั้นสวรรค์พิภพก็ท่วมท้นไปด้วยปราณศักดิ์สิทธิ์ และมังกรที่แท้จริงเก้าตัว เฟิ่งหวงศักดิ์สิทธิ์เก้าตัว เสือขาวเก้าตัวและเต่าดำเก้าตัวก็โผล่ออกมาจากความว่างเปล่า
“พี่วานร มอบเด็กน้อยนี้ให้ข้า!”
เย่ฟ่านระดมพลังจากปราณมังกรของภูเขาฉินหลิงโดยต้องการจะปิดฉากการโจมตีครั้งนี้
ทุกคนพูดไม่ออก จักรพรรดิน้อยแดนเหนือเป็นใคร? ตอนนี้เขากลับตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชที่พร้อมจะเสียชีวิตได้ตลอดเวลา