899 - องค์ชายศักดิ์สิทธิ์
899 - องค์ชายศักดิ์สิทธิ์
พื้นที่นี้มีปราณมังกรโบราณกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง หลังจากการสังเกตและคาดคะเนเป็นเวลาหนึ่งเดือนเย่ฟ่านก็ได้รู้จักทุกๆ ตารางนิ้วของแผ่นดินแล้ว
เขาสามารถใช้พลังของมังกรเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ซึ่งทำให้พลังของเขาน่ากลัวไม่เป็นรองคนเหล่านี้
“พี่เซียง ปล่อยเด็กน้อยคนนั้นให้เป็นเหยื่อของข้า”
เย่ฟานหยุดอยู่ด้านนอกของสนามรบและกล่าวกับเซียงอี้เฟยด้วยความเคารพ
สีหน้าของหวังเถิงไม่แยแส เขามองมาทางนี้แล้วกล่าวว่า “ข้าจะนำเลือดศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามาชำระกระบี่จักรพรรดิของข้า”
“เจ้ายังไม่ได้เป็นจักรพรรดิ!” อู๋จงเทียนและคนอื่นๆ หัวเราะเยาะ
“ถ้าน้องชายของข้าเป็นอะไรไป พวกเจ้าทั้งหมดจะถูกกำจัด และจะไม่มีใครรอดชีวิตไปได้” หวังเถิงเฉยเมยมาก
“บูม
แท่งสีดำขนาดใหญ่พุ่งทะลุท้องฟ้าและพังลงมา มันยิ่งใหญ่และทรงพลัง กฎแห่งสวรรค์และโลกสะท้อนกับมัน ผู้นำทุกคนต่างหวาดกลัว
แท่งสีดำหนักหลายพันล้านจินและดินแดนเซียนถูกบดและแตกออก ถ้าเป็นที่อื่นภูเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะกลายเป็นเพียงละอองฝุ่น
ในขณะนั้นหวังเถิงใช้กระบี่ไจักรพรรดิสวรรค์ฟันไปที่แท่งสีดำ ประกายไฟพุ่งออกมาราวกับฝนดาวตก และพลังอันยิ่งใหญ่เหล่านั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าแท่งสีดำนี้น่ากลัวเพียงใด
เมื่อแสงสีดำไหลออมา เกือบจะบดขยี้โลกและมันจะทำให้ทุกคนต้องปวดหัวอย่างแน่นอน
หวังเถิงรู้สึกถึงพลังมหาศาลเมื่อกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สีทองฟาดเข้าใส่ เขารู้ว่าศัตรูที่น่าเกรงขามกำลังจะมา ดวงตาสวรรค์เปิดออกและแสงสีทองพราวสองดวงก็ยิงมาจากอีกด้านหนึ่งพร้อมกับเปลวเพลิง
นี่คือใคร ทุกคนสงสัย เขากล้าที่จะแทรกแซงในการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแห่งภาคกลางและจักรพรรดิน้อยแดนเหนือ
“ปัง”
แท่งเหล็กขนาดใหญ่กระแทกอีกครั้ง มันเกือบจะทุบแดนเซียนให้จมลง พลังนั้นน่ากลัวเกินไป และพลังอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ต่างก็หน้าซีดด้วยความกลัว
ในที่สุด หวังเถิง เซียงอี้เฟย และชายลึกลับก็แยกจากกันและหยุดชั่วคราว
ในลานประลอง มีวานรศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งดึงแท่งเหล็กขนาดใหญ่กลับขึ้นสู่ท้องฟ้า จากนั้นแท่งเหล็กก็ค่อยๆย่อตัวลงกลายเป็นกระบองสีดำที่อยู่ในฝ่ามือของมัน
เมื่อวานรศักดิ์สิทธิ์มาถึงหลี่เหอซุยและคนอื่นๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นี่คือปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ที่จะให้ความคุ้มครองกับพวกเขาในอนาคต
“บูม!”
ไม่ไกลนัก ในที่สุดสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองก็ทะลุผ่านค่ายกลเข้ามาข้างในได้สำเร็จ มันคำรามเสียงดังและพุ่งเข้ามาหาเย่ฟ่านโดยไม่ไม่รู้ว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
“ให้ตายเถอะ ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“ผนึกวิญญาณของมันให้นายท่าน!”
เมื่อวานรศักดิ์สิทธิ์เห็นสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองวิ่งเข้ามาหา มันรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ก่อนที่เย่ฟ่านจะเคลื่อนไหว เท้าสีทองของมันก็เหยียบลงมาอย่างรวดเร็ว
“เคารพมนุษย์เป็นเจ้านายโดยหลงลืมสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง พวกเจ้าสมควรตาย!”
พลังของวานรศักดิ์สิทธิ์น่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า เท้าของมันเหยียบย่ำมดแมลงสองตัวจนบี้แบนอย่างน่าสังเวช
“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์?”
“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์...ยกโทษให้เราด้วย!”
วานรศักดิ์สิทธิ์นั่นคือทายาทเพียงคนเดียวของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าพันธุ์โบราณ
สิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองเป็นเหมือนหนูที่พบเจอแมว ไม่ต้องพูดถึงความแตกต่างของพลัง เพียงแค่ลำดับชั้นแห่งสายเลือดก็สามารถทำให้ร่างกายของพวกมันแหลกละเอียดเป็นผุยผงได้แล้ว
“พวกเจ้าทำให้เผ่าพันธุ์โบราณของเราต้องอับอาย ไสหัวไปจากที่นี่!”
วานรศักดิ์สิทธิ์มีอารมณ์รุนแรงและเปลี่ยนร่างกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง ความแข็งแกร่งของเขาไม่เป็นรองครึ่งเซียนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย และทุกคนทำได้เพียงมองเขาสั่งสอนสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองโดยไม่กล้าทำอะไร
“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์โปรดยกโทษให้เราด้วย”
อสูรโบราณทั้งสองไม่ยอมไปไหนและยังคงคลานอยู่บนพื้นอย่างน่าสังเวช
“การที่เจ้ายอมเป็นทาสของคนอื่นนับได้ว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กับเผ่าพันธุ์โบราณอย่างยิ่ง การที่ข้าไม่ฆ่าเจ้านับเป็นความเมตตาแค่ไหนแล้ว ยังไม่รีบมากราบขอโทษพี่น้องของข้าอีก”
วานรศักดิ์สิทธิ์ชี้ไปที่เย่ฟ่าน สิ่งมีชีวิตโบราณสองตัวไม่เต็มใจ แต่ภายใต้อำนาจของวานรศักดิ์สิทธิ์พวกมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคุกเข่าเพื่อขอขมาต่อเย่ฟ่าน
ทุกคนตกใจอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชายศักดิ์สิทธิ์และเย่ฟ่านนั้นสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ นี่จะไม่กลายเป็นหายนะของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายหรือ?
วานรตัวนี้คือใคร องค์ชายผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสมัยโบราณของสายเลือดสิ่งมีชีวิตโบราณ
ผู้คนมากมายจะไม่มีวันลืมจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์โบราณผู้ทรงพลังที่กล้าต่อกรกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
ผู้คนในปัจจุบันได้รู้ความลับบางอย่างแล้ว ท้ายที่สุดก็มีพันธุ์โบราณมากมายตื่นขึ้น และยิ่งเมื่อเห็นฉากที่อยู่ตรงหน้านี้พวกเขายิ่งเกิดความหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
เย่ฟ่านเองก็มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต่อสู้กับหวังเถิงได้อย่างแน่นอน
และเมื่อตอนนี้วานรศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังไม่เป็นรองครึ่งเซียนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้น ผู้ที่คิดช่วยโอกาสจับปลาในน้ำขุ่นก็ต้องทอดถอนใจด้วยความเศร้าโศกทันที
ร่างศักดิ์สิทธิ์มีความสัมพันธ์กับวานรศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร!
หลายคนอดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง!
วานรศักดิ์สิทธิ์ตนนี้เหมือนวานรศักดิ์สิทธิ์ที่ทำมาจากทองคำ มันมีขนสีทองเป็นประกาย ดวงตาสีทอง กระบองขนาดใหญ่ในมือปักลงพื้น ราวกับจะบดขยี้ทั้งผืนปฐพี
เย่ฟ่านรับรู้ได้ในทันทีว่านี่คืออาวุธที่น่าตกตะลึงและมีอานุภาพรุนแรงมันคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์ ในอดีตมันเคยดื่มเลือดของราชาโบราณมามากมายนับไม่ถ้วน
แม้ว่าจิตวิญาณที่อยู่ภายในอาวุธที่ดุร้ายนี้จะหลับไหลไปแล้วแต่ก็ยังมีกลิ่นอายปีศาจที่น่าสะพรึงกลัว เมื่อมันถูกปลุกขึ้นก็จะไม่มีใครเทียบได้
ปลายหอกของกระบองถูกทำลายไปแล้ว และตอนนี้มันกลายเป็นแท่งเหล็กสีดำขนาดใหญ่ แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหาย แต่มันก็นับเป็นหนึ่งในอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ตัวตนขององค์ชายศักดิ์สิทธิ์โบราณนั้นอ่อนไหวเกินไปและเขาก็ทรงพลังมาก ตอนนี้สิ่งมีชีวิตโบราณกำลังจะตื่นขึ้นอีกครั้ง จะมีสักกี่คนที่กล้ายั่วยุพวกเขา? เปลือกตาของหลายคนกระตุกอย่างไม่เต็มใจ
สิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองก้มหัวให้เย่ฟ่านเพื่อขออภัย ทำให้หวังเถิงผู้ซึ่งเป็นนายเหนือหัวพวกมัน ไม่ใคร่จะพอใจนัก
“เจ้าจะยอมรับหรือไม่ไม่สำคัญ เพราะไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องตายอยู่แล้ว!”
เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้า มีปราณมังกรพุ่งทะลุออกมาจากพื้น
คนอื่นๆ ต่างก็ประหลาดใจ ถ้าเย่ฟ่านกล้าที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิน้อยแดนเหนือ เขาจะมีโอกาสชนะจริงๆ หรือไม่? ทุกคนมองมาที่เย่ฟ่านเป็นตาเดียว
“เขาก้าวหน้าเร็วมาก ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น แต่เขาสามารถเป็นคู่ต่อสู้กับผู้อาวุโสได้ เด็กคนนี้คู่ควรกับการเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณจริงๆ”
เพียงไม่กี่ปีผ่านไป พลังการต่อสู้ของเย่ฟ่านก็พัฒนาขึ้นมาก เมื่อก่อนผู้คนต่างเชื่อว่า เขาคงจะพัฒนาไปได้ไม่มากนั้ก และในเวลาไม่นานกลับไม่มีผู้ใดสามารถปราบปรามเขาได้แล้ว
“ข้าจะทำให้กระบี่จักรพรรดิของข้าได้ดื่มเลือดศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า!” หวังเถิงเดินเข้ามาอย่างมั่นคง ถือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สีทองฟาดฟันมาจากระยะไกล
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันอย่างใจเย็น ภาพธรรมราชาสวรรค์ปะทะกับแผนภูมิเต๋าอย่างรุนแรง
“ครืน”
ทันใดนั้น พื้นดินก็แยกออก มีมังกรพุ่งขึ้นมาพร้อมกับเกล็ดสีฟ้าที่ส่องประกายระยิบระยับ ร่างของมังกรนั้นใหญ่โต เกล็ดสีมรกตหนา และกรงเล็บยักษ์ของมันสะท้อนแสงราวกับใบมีดขนาดใหญ่ “นี่คือมังกรที่แท้จริง”
“แม้ว่าข้าจะรู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากปราณมังกร แต่มันก็เหมือนจริงจนแยกไม่ออก”
มังกรสีมรกตยืดลำตัวในแนวนอน เขี้ยวยาวคมกริบเหมือนมีดสีเขียว และปะทะกับกระบี่จักรพรรดิสวรรค์
หวังเถิงถอยหลังกลับด้วยท่าทีเฉยชา และกระบี่ของเขาได้ฟาดฟันออกไปในแนวเฉียง แต่มังกรสีมรกตยังคงพุ่งเข้าหาการโจมตีของเขาโดยไม่อนุญาตให้เย่ฟ่านได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
“มันเป็นเพียงแรงภายนอก ใช้ไม่ได้ผลกับข้าหรอก” เส้นผมสีดำของหวังเถิงโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง
เย่ฟ่านมีสีหน้าเรียบเฉย และด้วยเสียงคำรามเบาๆ มังกรหลายร้อยตัวพุ่งออกมาจากพื้น พวกมันทั้งหมดมีพลังพอๆ กับมังกรที่แท้จริงตัวแรก
ด้านหลัง ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนเปลี่ยนสีหน้า การโจมตีครั้งนี้ทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัวอย่างแท้จริง
“...หลายสิบตัวก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้มีหลายร้อยตัว” พลังโจมตีที่น่าอัศจรรย์ ของมังกรหลายร้อยตัวได้กลืนกินแสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในโลกทันที
โอหยางเย่และคนอื่น ๆ ต่างก็หน้าเปลี่ยนสี ความลึกลับของดวงตาสวรรค์ไม่มีที่สิ้นสุด นี่คือทักษะลับเฉพาะที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์ที่พวกเขาปรารถนาอยู่ตลอดเวลา
“ณ ที่แห่งนี้ ร่างเซียนโบราณสามารถต่อสู้กับจักรพรรดิน้อยแดนเหนือได้จริงๆ!”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก องค์ชายเซี่ย องค์หญิงเยว่หลิงและคนอื่น ๆ ต่างรู้สึกสะเทือนใจ มีรุ่นเยาว์ไม่กี่คนที่กล้าเหวี่ยงมีดใส่หวังเถิง แต่ตอนนี้เย่ฟ่านถึงกับต้องการสังหารเขาที่นี่ให้ได้
“ระวังให้ดีถ้าเขาสังหารด้วยทักษะต้นกำเนิด แม้แต่พวกเราก็อยากจะหลบหนีจากอันตรายได้”
“ทักษะต้นกำเนิดนั้นน่ากลัวมาก มันสามารถสังหารปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยซ้ำ!”