55

บทที่ 55

[รายชื่อผู้เข้าร่วมรายการ : หัวหน้ากิลด์โลกใหม่ คิม ซอกจอง , หัวหน้ากิลด์ฟีนิกซ์ แครี่ , หัวหน้ากิลด์แมนโอ มาร์โก , หัวหน้าทีมเรดบลูอเมริกา มาเซราโน่ , ตัวแทนจากอังกฤษ ไรอัล , หัวหน้ากิลด์แทงค์คอร์ป แดเนียล ]

มีผู้เข้าร่วมรายการในสัปดาห์แรกหกคน สี่คนเป็นหัวหน้ากิลด์ใหญ่ และอีกสองคนเป็นผู้เล่นมืออาชีพ ไม่มีใครที่มีชื่อเสียงด้อยไปกว่า อัลเลย์บอส ยิ่งไปกว่านั้นเพียงแค่ชื่อเสียงของพวกเขาอย่างเดียวก็พอที่จะทำให้ ฮยอนอู ดูด้อยลงไปมากกว่าด้วยซ้ำ

“ทำไมถึงมีหกคนล่ะครับ ไม่ใช่ว่าต้องมีแขกรับเชิญแปดคนเหรอครับ !?” หลังจากตรวจสอบรายชื่อ ฮยอนอู ก็พบบางอย่างแปลก ๆ

แต่เดิมแล้วในแต่ละสัปดาห์ของรายการจะต้องมีผู้เข้าร่วมรายการแปดคน และทั้งหมดจะต้องต่อสู้กันด้วยรูปแบบลีก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กลับมีผู้เข้าแข่งขันเพียงหกคนเท่านั้น

“เราพยายามจำลองการออกอาการของรายการศึกราชันหน้ากากภายใต้แบรนด์ของเราดูแล้ว แต่ว่า ...” ใบหน้าของ เคล ค่อนข้างหม่นหมองขณะที่เขาพูดออกมา

“มันใช้เวลามากเกินไป ไม่ว่าเราจะพยายามตัดต่อให้สั้นที่สุดมันก็ยังใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง นั่นทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนแผนของรายการไปแบบนี้” เจมี่ แทรกขึ้น

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การสตรีมของ ฮยอนอู แต่อยู่ที่การออกอากาศผ่านโทรทัศน์ซึ่งมีเวลาจำกัดอยู่เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะจัดแข่งขันในเวลาอันสั้นให้ครบทั้ง 28 แมตช์ได้

“ถึงเราจะลดผู้เข้าแข่งขันลงเหลือเพียงหกคนแล้วก็ยังต้องจัดแข่งถึง 15 แมตช์ มันใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมง เราจึงได้ข้อตกลงว่าจะแบ่งรายการแต่ละสัปดาห์ออกเป็นสองพาร์ท”

ฮยอนอู พยักหน้าให้กับคำอธิบายจาก เจมี่ แต่เดิมแล้วเขาคิดถึงเพียงแค่ช่วงเวลาในการสตรีมของเขาเท่านั้น เขาจึงเชื่อว่ามันจะไม่เป็นปัญหาถึงแม้ว่าจะต้องจัดการต่อสู้ถึง 28 แมตช์ก็ตาม

“ผมอยากจะเข้าแข่งขันในสัปดาห์ที่สองด้วยครับ” ทันใดนั้น ฮยอนอู ก็โยนระเบิดลงกลางวงสนทนาอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นสีหน้าของ เจมี่ และ เคล ก็เปลี่ยนไปทันที

“คุณหมายความว่า ... คุณจะเข้าแข่งขันในสัปดาห์หน้าเหรอครับ !?”

“มันไม่เร็วไปเหรอครับ !?ไม่ใช่ว่าระดับเลเวลของคุณ ....”

เจมี่ และ เคล เป็นกังวลอย่างมาก ฮยอนอู เป็นเหมือนไพ่ตายใบสุดท้าย หากรายการศึกราชันหน้ากากสูญเสียความนิยมไปเรื่อย ๆ เขาอาจเป็นดาวดวงใหม่ที่จะทำให้ศึกราชันหน้ากากกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง มันเสี่ยงเกินไปหากจะปล่อยให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันโดยที่ระดับเลเวลยังน้อยเกินไปแบบนี้

“คุณลองคิดดูอีกครั้งดีไหม !?ถ้าคุณเข้าแข่งขันในสัปดาห์ที่หก คุณจะมีเวลาอีกมากในการเพิ่มระดับเลเวลของคุณ ถ้าคุณใช้เวลาที่มีไปกับการฟาร์มมันจะช่วยเพิ่มระดับเลเวลของคุณได้อีกมากเลยนะ” เคล เสนอความคิดด้วยสีหน้ากังวล

ถ้า อัลเลย์บอส พ่ายแพ้ตั้งแต่เนิ่น ๆ รายการศึกราชันหน้ากากอาจจะล้มเหลวเร็วกว่าที่ทุกคนคิด นั่นเป็นเพราะตอนนี้ อัลเลย์บอส คือสัญลักษณ์แห่งชัยชนะไร้พ่าย มันจึงทำให้รายการศึกราชันหน้ากากได้รับความสนใจอย่างมาก

“ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ หลังจากนี้ผมมั่นใจว่าจะสามารถเก็บเลเวลได้ถึง 120 เมื่อถึงตอนนั้นไม่ว่าจะต้องสู้กับใครก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม” ฮยอนอู พูดอย่างมั่นใจ แน่นอนว่าเขามีเหตุผลรองรับความมั่นใจของเขา มันไม่ใช่สูตรสำเร็จที่เขาเคยใช้เมื่อสองปีก่อน แต่มันเป็นบางสิ่งที่เขาสามารถทำได้

“ผมคงต้องขอตัวไปเตรียมความพร้อมที่สนามประลองก่อนนะครับ”

.....

ควินซี่เองก็ให้ความสนใจกับรายการศึกราชันหน้ากากของ ฮยอนอู ด้วยเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาสร้างสนามประลองเฉพาะรายการนี้ขึ้นมา และผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะสามารถใช้เทเลพอร์ตเพื่อเข้าสู่ห้องพักของตัวเองได้โดยตรง ขณะเดียวกันในฐานะพิธีกร ฮยอนอู ก็ได้รับสิทธิ์ให้สามารถพูดคุยกับผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้ก่อนรายการจะเริ่มถ่ายทำ

“นายดูดีมากเลยน้องชาย” คิม ซอกจอง ทักทายเมื่อเห็น ฮยอนอู เข้ามาพบกับเขาระหว่างรออยู่ในห้องพัก

ในฐานะพิธีกร ฮยอนอู สวมชุดสูทที่ดูเรียบหรู ด้วยร่างกายที่ได้สัดส่วนของเขามันทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูดีอย่างมาก แต่ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ดูขัดกับชุดสูทของเขาอย่างมากอยู่ นั่นก็คือหน้ากากที่เขาใช้ปิดบังใบหน้าของตัวเอง

“ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะเข้าร่วมรายการของผมด้วย พี่น่าจะกระซิบบอกผมสักหน่อย”

“ฉันก็มีเหตุผลที่ไม่อยากบอกนายนั่นแหละ เพราะฉันอยากเข้าแข่งขันในรอบเดียวกับที่นายแข่งด้วย”

“รอบเดียวกับผมเหรอ !?แต่ว่าผมเข้าแข่งขันในสัปดาห์หน้านะครับ !?”

“จริงเหรอ !?”

คิม ซอกจอง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะถูก เจมี่ หลอก เขายอมเข้าแข่งขันรายการศึกราชันหน้ากากเพราะอยากต่อสู้กับ ฮยอนอู ทว่า ฮยอนอู กลับไม่ได้เข้าแข่งขันในรอบเดียวกับเขา

“งั้นหมายความว่าฉันต้องชนะให้ได้สินะ” จิตวิญญาณของ คิม ซอกจอง ลุกโชนไปด้วยความมุ่งมั่น ‘ถ้าฉันชนะในรอบนี้ ฉันจะสามารถต่อสู้กับเขาได้ในสัปดาห์หน้าใช่ไหม !?’

.....

จุดหมายต่อไปของ ฮยอนอู คือห้องพักของหัวหน้ากิลด์ฟีนิกซ์ แครี่ , แครี่ ไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของ ฮยอนอู มากนัก เพราะเธอเคยได้ยินเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันอยู่ก่อนแล้ว

“คุณคือ อัลเลย์บอส เหรอ !?ฉันชื่อ แครี่ อย่างที่คุณรู้ ฉันคือหัวหน้ากิลด์ฟีนิกซ์”

เมื่อ แครี่ แนะนำตัวเองแบบนี้มันก็ทำให้ ฮยอนอู เขินอายเล็กน้อย เพราะมันเป็นเหมือนกับเขากลายเป็นผู้เข้าแข่งขัน และ แครี่ เป็นพิธีกรดำเนินรายการมากกว่า

“อ่า ... ผมคือ อัลเลย์บอส ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“ขอบคุณสำหรับโอกาสในครั้งนี้นะคะ”

‘ขอบคุณฉันทำไมหว่า !?’ ฮยอนอู รับรู้ได้ถึงความจริงใจของ แครี่ เพียงแต่เขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงขอบคุณเขา มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย ดังนั้น เธอจึงไม่ควรต้องขอบคุณเขา

“ฉันหมายความอย่างนั้นจริง ๆ ทุกคนที่ถูกเชิญเข้าร่วมศึกราชันหน้ากาก ... พวกเขาไม่ใช่คนที่จะได้เจอง่าย ๆ ในโคลอสเซียมใช่ไหม !?นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากจริง ๆ” แครี่ พูด ก่อนจะลดเสียงลงเล็กน้อยพลางถาม “ตอนนี้คุณสตรีมอยู่หรือเปล่าคะ !?”

“เปล่าครับ ตอนนี้ผมแค่มาพบกับผู้แข่งขันทุกคนก่อนเริ่มรายการเท่านั้น หลังจากนี้ผมต้องไปเตรียมตัวอีกเล็กน้อยถึงจะเริ่มสตรีมครับ”

“ฉันเข้าใจ การสตรีมครั้งนี้แตกต่างไปจากปกติ เพราะคุณไม่สามารถทำอะไรได้ตามอิสระเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่ว่ายังไงฉันมีบางอย่างอยากจะบอกคุณ อีกไม่นานจะมีการอัพเดตแพทช์ใหญ่ และมันจะมีอีเวนท์พร้อมกับแพทต์ครั้งนี้ หนึ่งในนั้นคืออีเวนต์ PVP”

“อา !!”

‘แบบนี้เองสินะเธอถึงได้ขอบคุณฉัน’

ฮยอนอู เข้าใจได้ทันที นี่คือเหตุผลที่ แครี่ ขอบคุณเขา เพราะเธอคิดว่าศึกราชันหน้ากากเป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ทั้งหมด

“แล้วเจอกันบนเวทีนะครับ”

หลังจากการสัมภาษณ์สั้น ๆ ฮยอนอู ก็ออกจากห้องพักของ แครี่ เขายังมีเรื่องอื่นให้พิจารณาต่อ แต่การสัมภาษณ์ครั้งนี้ก็ทำให้เขาได้รับการเก็บเกี่ยวที่ไม่คาดคิดจริง ๆ

.....

ฮยอนอู สัมภาษณ์ มาร์โก และ แดเนียล เพียงช่วงสั้น ๆ และตอนนี้ก็เหลือผู้เข้าแข่งขันอีกเพียงสองคนเท่านั้น มาเซราโน และ ไรอัล แตกต่างจากสี่คนที่ผ่านมา ทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นผู้เล่นมืออาชีพ และเป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมต้นกัดที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน อารีน่าโปรลีก

“พวกเขาอยากเข้าร่วมการแข่งขันศึกราชันหน้ากากขนาดนั้นเลยเหรอ !?”

ฮยอนอู อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย ผู้เล่นมืออาชีพคือเอซของทีม และถือเป็นตัวแทนของประเทศที่จากมา มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่พวกเขาจะต้องมาเข้าร่วมการแข่งขันแบบนี้

“สวัสดีครับ ผมคือ อัลเลย์บอส”

“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมคือ มาเซราโน่ จากทีมเรดบลูอเมริกา” มาเซราโน ดูเป็นคนที่มีไหวพริบ และมีความเฉลียวฉลาดเหมาะกับคลาสอาชีพจอมเวท แต่ที่จริงแล้วคลาสอาชีพของเขาคือนักสู้ นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่าเขาเป็นนักสู้ที่ไม่มีรูปแบบตายตัว

“นี่อาจเป็นคำถามที่คุณเคยตอบคนอื่นไปก่อนแล้ว แต่ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมคุณถึงตัดสินใจเข้าร่วมศึกราชันหน้ากากเหรอครับ !?” ฮยอนอู ตรวจสอบเวลา และพบว่าเขาเหลือเวลาในการสัมภาษณ์อีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เหลืออีก 30 นาที ก่อนเริ่มการสตรีม เมื่อพิจารณาว่ายังมีการซ้อมถ่ายอีกครั้งรออยู่ ฮยอนอู จึงตัดสินใจว่าเขาจะต้องสัมภาษณ์ให้เสร็จภายใน 10 นาที

“เมื่อมาถึงจุดหนึ่งทุกคนต่างรู้จักผมในฐานะ มาเซราโน แห่งเรดบลูอเมริกา พวกเขามองเห็นเพียงแค่สิ่งนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากหาประสบการณ์เพื่อพัฒนาตัวเองระหว่างการพักจากโปรลีก” มาเซราโน ได้เล่าถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาในปีที่แล้วของขา “ยังไงก็ตาม มันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย พวกเขายังเห็นว่าผมเป็นเอซของทีม DPS หลักของทีม พอผมลองมองย้อนกลับไปผมก็หาข้อแก้ตัวจากสิ่งเหล่านั้นให้กับตัวเองไม่ได้”

มาเซราโน พูดราวกับเขาเตรียมบทพูดสำหรับการสัมภาษณ์เอาไว้ก่อนแล้ว หรือไม่ก็เขาคิดทบเรื่องนี้มาเป็นเวลานานอยู่ก่อนแล้ว

“แล้วมีใครที่คุณอยากจะสู้ด้วยเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ !?”

“ผมอยากลองสู้กับ จิน ชิจอง หัวหน้ากิลด์โลกใหม่ ในอดีตผมเคยพ่ายแพ้ให้กับเขาในโคลอสเซียม รายการนี้ไม่ใช่โอกาสดีสำหรับผมในการแก้แค้นเหรอ !?ผมหวังว่าเขาจะเข้าร่วมรายการด้วย”

‘เขาเคยถูกพี่ชายอัดมาก่อนเหรอเนี่ย !?’

“งั้นผมจะถามคำถามสุดท้ายนะครับ คุณตั้งเป้าที่จะเป็นราชันหน้ากากของรายการเราหรือเปล่าครับ !?” ฮยอนอู พยักหน้าให้กับคำตอบของ มาเซราโน่ เกี่ยวกับ คิม ซอกจอง จากนั้นเขาก็ถามคำถามสุดท้ายออกมา

“แน่นอนอยู่แล้ว ในฐานะเอซของทีม อย่างน้อยผมจะต้องได้นั่งบนบัลลังก์ของศึกราชันหน้ากากให้ได้จริงไหม !?” มาเซราโน่ ตอบอย่างไม่ลังเล

“แน่นอน ขอบคุณสำหรับการให้สัมภาษณ์ครับ” ฮญอนอู ยิ้มอย่างพอใจ การสัมภาษณ์จบลงเร็วกว่าที่เขาคาดไว้เล็กน้อย

‘แบบนี้น่าจะมีเวลาพอสำหรับการทดสอบก่อน’

“การสัมภาษณ์ก็ส่วนหนึ่ง แต่ผมมาที่นี่ด้วยเหตุผลอื่น และคิดว่า ไรอัล เองก็เหมือนกัน” ทันใดนั้น มาเซราโน ก็เปิดปากอย่างกะทันหัน

“หืม !?คุณหมายความว่ายังไงเหรอครับ !?” ฮยอนอู ไม่รู้ว่า มาเซราโน กำลังต้องการจะสื่ออะไร

ทำไม ไรอัล กับ มาเซราโน ถึงต้องการเข้าร่วมรายการศึกราชันหน้ากาก !?

‘ฉันจะไปรู้ความตั้งใจของพวกเขาได้ยังไง’

“คุณอัลเลย์บอส ได้โปรดเข้าทีมเรดบลูของเราในฐานะ DPS หลักของทีมเราด้วย” คำตอบของ มาเซราโน ทำให้ ฮยอนอู ประหลาดใจอย่างมาก เพราะเขาไม่คิดว่า มาเซราโน จะชักชวนเขาที่หากเทียบกันแล้วยังเป็นมือใหม่สำหรับผู้เล่นมืออาชีพเข้าทีมแบบนี้

“ผมคงต้องขอปฏิเสธข้อเสนอของคุณก่อนนะครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตั้งใจจะกลายเป็นผู้เล่นมืออาชีพ ผมอยากจะตั้งเป้าหมายไปที่การเป็นสตรีมเมอร์เป็นอันดับแรกก่อน” ฮยอนอู ตอบ

“ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าคุณจะปฏิเสธ แต่ผมเองก็ยังไม่ได้ต้องการคำตอบของคุณในตอนนี้ เพียงแค่อยากให้คุณจำข้อเสนอนี้เอาไว้ หากคุณอยากเป็นผู้เล่นมืออาชีพหลังจากนี้ ทีมของเรายินดีต้อนรับคุณเสมอ คุณอัลเลย์บอส” มาเซราโน ตอบกลับราวกับคาดเดาคำตอบของ ฮยอนอู เอาไว้อยู่ก่อนแล้ว

“ผมเข้าใจแล้ว แล้วพบกันบนเวทีนะครับ”

.....

มันเป็นอย่างที่ มาเซราโน บอกไว้ ไรอัล เองก็ยื่นข้อเสนอให้ ฮยอนอู เช่นกัน “พวกเราต้องการคุณ คุณอัลเลย์บอส”

ฮยอนอู ให้คำตอบแบบเดียวกับที่เขาตอบ มาเซราโน “ผมคงต้องขอปฏิเสธข้อเสนอของคุณ ตอนนี้ผมยังไม่อยากเป็นผู้เล่นมืออาชีพ และอยากจะตั้งเป้าไปกับการเป็นสตรีมเมอร์ก่อนครับ”

ไรอัล รู้สึกสับสน เขาไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ จากนั้นเขาก็พยายามควบคุมตัวเอง และพูดบทพูดเดียวกับ มาเซราโน “ถ้าในอนาคตคุณอยากลงสนามของผู้เล่นมืออาชีพ ทีมของเรายินดีต้อนรับคุณเสมอนะครับ”

“ครับ เมื่อถึงเวลานั้นผมจะลองคิดดูนะครับ”

ในที่สุดการสัมภาษณ์ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดก็จบลง ตอนนี้เหลือเพียงการทดสอบการออกอากาศ และการเริ่มสตรีมเท่านั้น

.....

ขณะที่ ฮยอนอู กำลังง่วนอยู่กับการทดสอบการออกอากาศอยู่นั้น บนแพลคฟอร์ม A-World ในห้องสตรีมของ ฮยอนอู ก็กำลังเป็นไปอย่างคึกคัก โดยปกติแล้วสตรีมเมอร์จะเปิดห้องสตรีมก่อนเริ่ม 10 นาที อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วห้องของ ฮยอนอู มีผู้ชมเฉลี่ย 3-5 หมื่นคน แต่ในวันนี้แม้ว่าจะยังไม่ถึง 10 นาที ...

-เมื่อไหร่จะเริ่ม !?

-ฉันคิดว่าน่าจะเริ่มตอน 6 โมงเย็นนะ

-ฉันเริ่มเวียนหัวแล้ว ได้โปรดเริ่มเร็ว ๆ เถอะ

-วันนี้มีคนเข้ามาดูสตรีมมากเป็นประวัติการณ์เลย

-200,000 คน แล้วเหรอเนี่ย

ผู้ชม 200,000 คน เป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าศึกราชันหน้ากากได้รับความสนใจมากแค่ไหน และไม่ช้าเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง บนหน้าจอสีดำก่อนหน้านี้มีชายในชุดสูทสีดำ และสวมหน้ากากปรากฏตัวขึ้น

“สวัสดีครับทุก ๆ คน !!!!”

ศึกราชันหน้ากากได้เริ่มขึ้นแล้ว