51
บทที่ 51
เทียนหู่ ได้มาเห็นข้อความที่ ริน ส่งมาโดยผ่านมานานแล้วกว่าหนึ่งชั่วโมง
-ท่านประธาน ฉันเจอ อัลเลย์บอส ระหว่างตั้งค่าย ตอนนี้สมาชิกทีมอีกห้าคนรวมฉันกำลังไล่ตามเขาไป พวกเราจะ PK เขา
“ทำไมฉันเพิ่งมาเห็นตอนนี้”
เทียนหู่ คาดเดาว่า ฮยอนอู น่าจะมีระดับเลเวลอยู่ที่ 80 แต่ ริน เลขาของเขามีระดับเลเวลอยู่ที่ 155 ทั้งสองมีความต่างของระดับเลเวลเกือบสองเท่า นอกจากนี้กลุ่มของ ริน ยังมีอยู่ด้วยกันถึงห้าคน นี่คือการต่อสู้ที่ถูกกำหนดชัยชนะเอาไว้แล้วแน่นอน
“ฉันต้องการเห็นไอ้เวรนั่นถูกกระทืบด้วยตาของฉันเอง” เทียนหู่ รีบกลับเข้าไปในแคปซูล แต่ทันใดนั้นเสียงจากโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
-ท่านประธาน ฉันขอโทษ
.....
ฮยอนอู รู้สึกประหม่ามากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วที่เขาถูกสะกดรอยตามจนไม่สามารถออกล่ามอนสเตอร์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมาล่าเนื้อที่เขาสัมผัสได้เมื่อ 30 นาทีก่อน มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะอีกฝ่ายรวดเร็วมากพอที่จะติดตามเขาได้ทันแม้ว่าเขาจะใส่ชุดเซตแบล็คจากัวร์อยู่ก็ตาม ฮยอนอู พยายามหนีไปเรื่อย ๆ มานานกว่าสิบนาทีแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถสลัดหมาล่าเนื้อเหล่านั้นได้
‘ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ฉันคงไม่ต้องได้ทำอะไรแน่’
“ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”
ขณะนั้น ฮยอนอู ก็คว้าหินก้อนไม่ใหญ่มากขึ้นมาจากพื้น จากนั้นเขาก็ถ่ายพลังเวทมนตร์เข้าไปคล้ายกับวิธีการใช้ดาบออร่าก่อนจะขว้างมันออกไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ทันใดนั้น ผู้เล่นห้าคนกปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลังพุ่มไม้ คนที่ก้าวออกมาเป็นคนแรกคือจอมเวทหญิง และที่เหลืออีกสี่คนคือนักรบ
“พวกนายตามฉันมาทำไม !?” ฮยอนอู ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นายคือ อัลเลย์บอส ใช่ไหม !?ฉันอยากจะลองสู้กับนายดูสักครั้ง” จอมเวทหญิงตอบ
‘แฟนคลับของฉันเหรอ !?’
“พวกนายคงไม่ใช่พวกสต็อกเกอร์ใช่ไหม !?ฉันคิดว่าพวกนายคงจะเป็นผู้เล่นระดับสูงมากกว่า เพราะดูจากการที่พวกนายมาอยู่ที่เทือกเขาเฮจินแบบนี้จริงไหม”
ใบหน้าของจอมเวทหญิงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด แม้ว่าจะถูกเรียกว่าสต็อกเกอร์ก็ตาม ริมฝีปากของเธอยังคงแขวนไว้ด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา
“ฉันไม่คิดว่าพวกนายตามฉันมาเพราะว่าชื่นชอบฉันหรอก พวกนายมาจากไหน !?” ฮยอนอู ถาม
“ฉันไม่ได้บอกเหรอ ว่าฉันอยากจะสู้กับนายสักครั้ง” จอมเวทหญิงเลี่ยงที่จะตอบคำถามของ ฮยอนอู และแสดงจุดประสงค์ชัดเจนว่าพวกเธอต้องการต่อสู้
“พวกนายมาจากกิลด์ไหน !?ฉันไม่คิดว่าจะมีกิลด์ไหนเคยมีปัญหากับฉัน” ฮยอนอู พูดอย่างไม่พอใจขณะที่เริ่มทบทวนความจำของตัวเอง
‘พวกนี้เป็นใคร !!?ฉันไม่เคยมีปัญหากับใครเลย !?’
เขาบังเอิญมีปัญหากับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนหรือเปล่า !?หากตัดสินจากไอเทมสวมใส่ของคนเหล่านี้ มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีระดับเลเวลมากกว่า 140-150 หรืออาจจะมากกว่านั้น อีกฝ่ายมีจำนวนถึงห้าคน ซึ่งมันทำให้ ฮยอนอู ค่อนข้างอึดอัดอยู่ไม่น้อย
“ฉันจะพูดอีกครั้ง อยากจะดวล หรืออยากจะ PK!?” จอมเวทหญิงพูดอีกครั้ง
‘หมายความว่ายังไงที่ให้ฉันเลือกระหว่างการดวลกับการ PK’
คำตอบของคำถามมันชัดเจนจากการแสดงออกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ !?
ทัศนคติแบบนี้ทำให้ ฮยอนอู นึกถึงสิ่งหนึ่ง มันเป็นหนึ่งในประสบการณ์จากเกมอื่นที่เขาเคยพบมา ในอดีต ฮยอนอู เริ่มเล่นเกมช้ากว่าคนอื่น แต่เขาสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ในเวลานั้นกิลด์ใหญ่ได้มาหาเขาและบังคับให้ ฮยอนอู เข้าร่วมกิลด์ของพวกเขา
ฮยอนอู ปฏิเสธข้อเสนอนั้น เขาไม่ได้ตั้งใจจะเข้าร่วมกิลด์ เพราะเขาสนุกกับการเป็นโซโลเพลย์เยอร์มากกว่า การเข้าร่วมกิลด์จะทำให้เขาถูกตีกรอบจากกฎต่าง ๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ หลังจากนั้นกิลด์ใหญ่ก็ต้องการกำจัด ฮยอนอู ทันที แน่นอนว่าผู้ชนะคือ ฮยอนอู แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้เล่นเกมนั้นอีกต่อไป
‘น่ารังเกียจ มันเป็นความทรงจำที่น่ารังเกียจ’
“ฉันรู้ว่ามันมักจะมีพวกสกปรกแบบนี้อยู่เสมอ” ฮยอนอู พึมพำกับตัวเอง
“อะไรนะ !?”
ฮยอนอู วิ่งออกไปข้างหน้าในทิศทางตรงข้ามกับที่ทั้งห้าคนยืนอยู่
“จับเขา !!”
ทันใดนั้น การไล่ล่าที่ชีวิตของ ฮยอนอู ตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายก็เริ่มขึ้น
.....
บนทุ่งกว้างในเทือกเขาเฮจินที่เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับสูงของอารีน่า ผู้เล่นคนหนึ่งกำลังวิ่งออกไปอย่างสุดกำลังด้วยร่างกายที่อาบไปด้วยเหงื่อ
‘บ้าจริง !!มันอยู่ตรงไหนเนี่ย ไอ้จุดที่ฉันเห็นก่อนหน้านี้’
แม้ว่า ฮยอนอู ไม่สามารถเพิ่มระยะห่างระหว่างตัวเขาเองกับกลุ่มผู้เล่นทั้งห้าคนนั้นได้ก็ตาม แต่เขาก็ยังถูกคนกลุ่มนั้นจับตัวเพราะการเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่จากเซตแบล็คจากัวร์
‘ในที่สุดก็เจอสักที!!’ หลังจากการวิ่งที่ยาวนาน ในที่สุด ฮยอนอู ก็พบกับจุดหมายที่เขากำลังมองหา
ความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เพียงแค่พักหายใจช่วงสั้น ๆ สภาพร่างกายของเขาก็ฟื้นกลับมาได้เป็นปกติ แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ สถานที่ที่ ฮยอนอู วิ่งมาถึงนั้นเป็นพื้นที่ที่แตกต่างจากส่วนอื่น ๆ ของเทือกเขาเฮจิน เพราะมันเป็นหน้าผาลึกลงไปด้านล่าง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ทางตัน
‘พวกนั้นคงคิดว่าฉันไม่มีทางหนีแล้วแน่ ๆ’
“แกวิ่งหนีเก่งเหมือนกันนี่หว่า แต่ดูเหมือนว่าแกจะโชคไม่ดีเอาซะเลย ที่วิ่งเจอทางตันแบบนี้” หนึ่งในกลุ่มห้าคนพูดด้วยรอยยิ้มเยาะ
‘หึ ... เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ’
ฮยอนอู ไม่เคยพ่ายแพ้ และด้วยความได้เปรียบเรื่องความรู้ทางภูมิศาสตร์ ผลลัพธ์ในวันนี้ก็คงถูกกำหนดไว้เช่นเดิมอีกครั้ง ฮยอนอู พาดดาบมือเดียวบนไหล่ข้างหนึ่ง จากนั้นก็หันมาเผชิญหน้ากับทั้งห้าคนที่ต้องการ PK เขา
“เข้ามาไอ้พวกเวร !!”
การต่อสู้ที่พบเห็นได้ยากกำลังจะเริ่มขึ้นที่ริมหน้าผาสักแห่งในเทือกเขาเฮจิน
.....
ฮยอนอู ค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขามากนัก
‘แต่ว่าฉันก็ไม่รู้ความสามารถของพวกนั้นเหมือนกัน’
อย่างไรก็ตาม ทักษะที่เขามีเหนือกว่าอีกฝ่ายมันก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา นอกจากนี้ ค่าสถานะตัวละครของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่ายมากนัก อย่างน้อยก็ภายในเวลาห้านาที ....
ในเวลานั้น ฮยอนอู ก็ส่งสัญญาณมือไปให้ ทังอี ที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้
[คุณได้รับบัพ จิตวิญญาณแห่งหมี ]
[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]
[ความอึดเพิ่มขึ้น ]
[คุณได้รับบัพ คำอวยพรแห่งป่า ]
[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น ]
[อัตราฟื้นฟูเพิ่มขึ้น ]
ในเวลาเดียวกัน นักรบจากกลุ่มห้าคนก็ชี้ปลายดาบตรงมาที่ ฮยอนอู
[ปรมาจารย์การต่อสู้ทำงาน ]
[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น ]
[ค่าสถานะ จิตวิญญาณต่อสู้ ทำให้ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น ]
[คู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าคุณ ]
[จะมีการเพิ่มค่าสถานะเพิ่มเติม ]
เมื่อสกิลติดตัวทำงานนั้น ในที่สุด ฮยอนอู ก็เริ่มเหวี่ยงดาบใส่นักรบฝ่ายตรงข้าม
[จิตวิญญาณแห่งยักษ์ทำงาน ]
[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]
[ธรรมชาติแห่งยักษ์ทำงาน ]
[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]
สกิลแห่งยักษ์ถูกใช้งานเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ ฮยอนอู สามารถรีดค่าสถานะทั้งหมดให้อยู่บนจุดสูงสุดเท่าที่ทำได้เป็นเวลาห้านาที แม้จะมีเวลาเพียงห้านาที แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่นานมากเกินพอสำหรับการต่อสู้กับผู้เล่น ดาบคมยาวมือเดียวของ ฮยอนอู เข้าปะทะกับดาบของนักรบอีกฝ่าย เขาแยกดาบในมือของอีกฝ่ายเป็นสองท่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
นี่คือดาบออร่าที่ถูกสร้างขึ้นจากค่าความแข็งแรง 1,500 แต้ม พลังระดับนี้มันสามารถเทียบได้กับการโจมตีจากบอสมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ได้ด้วยซ้ำ อีกนัยหนึ่งก็คือ มันเหมือนกับนักรบคนนั้นพยายามโจมตีใส่กระบองของยักษ์น้ำแข็งโดยไม่ได้ใช้สกิลใด ๆ ดังนั้น มันจึงไม่แปลกที่ผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ มันเหมือนกับความแตกต่างระหว่างกำปั้นเปล่า ๆ กับมีด
พริบตานั้น นักรบคนนั้นก็ถูกบังคับให้ล็อกเอาท์ออกจากเกมเนื่องจากเขาเสียชีวิตโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำ คนอื่น ๆ อีกสี่คนทำได้เพียงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พวกเขาเห็นเพียงแค่ว่าขณะที่พรรคพวกของพวกเขาเหวี่ยงดาบออกไปนั้น แสงสีน้ำเงินก็ตัดผ่านร่างของเขาในพริบตา
“เกิดอะไรขึ้น !?”
“ริน นั่นมันอะไร !”
“เขาตายในการโจมตีครั้งเดียวได้ยังไง !?”
ริน ตกตะลึงอย่างมาก บางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน นักรบที่เพิ่งตายไปมีชื่อว่า เฉิน เขาคือนักรบหนึ่งในห้าอันดับแรกของกิลด์ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาและทีมของเขามาล่ามอนสเตอร์อยู่ในเทือกเขาเฮจิน แต่ทว่าในตอนนี้ เฉิน กลับถูกฆ่าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“รุมมันเลย !!” ริน ตะโกน
การผสานการโจมตีคือวิธีการที่จะทำให้พวกเขาแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ฮยอนอู ไม่ได้เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นสนามรบอย่างไร้เหตุผล ด้านข้างปกคลุมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ และด้านหลังยังมีหน้าผาสูงขวางอยู่ อีกนัยหนึ่งก็คือ หากคนเหล่านี้ต้องการโจมตี ฮยอนอู พร้อมกัน พวกเขาต้องเข้ามาจากด้านหน้าเท่านั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะลอบโจมตีมาจากด้านข้าง หรือด้านหลัง
“เร่งเร้ากำลัง !!” ริน ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก และเลือกที่จะใช้สกิลบัพเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม
แม้ว่าสกิลบัพของจอมเวทจะไม่ดีเท่านักบวช แต่อย่างน้อยมันก็ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสมาชิกทีมได้อยู่บ้าง
‘เมื่อกี้มันคือสกิลใช่ไหม !?’
“ไอ้หมอนี่มันจะต้องใช้สกิลจัดการกับ เฉิน ถ้าดูจากพลังโจมตีแบบนั้นแล้วสกิลของมันจะต้องมีคูลดาวน์นานแน่ ๆ!!” เจียง หนึ่งในสามนักรบที่เหลืออยู่ตะโกนบอกกับคนอื่น
จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหา ฮยอนอู โดยที่มี เสี่ยว และ เว่ย ติดตามมาจากด้านหลังอย่างใกล้ชิด
‘มันก็เท่านั้น ที่แท้ไอ้หมอนี่ก็แค่พึ่งพาพลังจากสกิล ...’
เมื่อเห็นว่าดาบของ ฮยอนอู กระเด็นออกไปทันทีที่ปะทะกับดาบของตัวเอง เจียง ก็ยิ่งมั่นใจว่า เฉิน ต้องตายเพราะสกิลบางอย่าง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความคิดสุดท้ายก่อนที่ดาบคมยาวมือเดียวของ ฮยอนอู จะตัดผ่านลำคอของเขาอย่างกะทันหัน แท้จริงแล้ว ฮยอนอู จงใจปล่อยให้ดาบของตัวเองกระเด็นกลับมา จากนั้นเขาก็ใช้แรงเหวี่ยงหมุนตัวจัดการกับ เจียง ในเสี้ยววินาที ขณะเดียวกัน เสี่ยว และ เว่ย ต่างก็ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ของพวกเขาเห็น เจียง ตายไปแบบนั้น
“มันต้องเป็นพลังเวทมนตร์แน่ แต่พลังเวทมนตร์ของมันจะต้องหมดลงในอีกไม่ช้า”
“โจมตีแบบรักษาระยะห่างเอาไว้ อย่าปล่อยให้มันมีเวลาฟื้นฟูพลังเวทมนตร์ได้!!”
ทันในดั้น ลูกไฟลูกเล็ก ๆ ก็พุ่งมาจากด้านหลัง มันเป็นสกิลของ ริน อย่างไรก็ตาม ฮยอนอู กลับสามารถใช้ดาบตัดลูกไฟเหล่านั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ออร่าดาบมีพลังมากพอที่จะทำลายสกิลของจอมเวทได้อย่างง่ายดาย
‘ลำบากแล้วสิ’
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ทุกคนคิด พลังทำลายจากเวทมนตร์นั้นแข็งแกร่งกว่าสกิลทางกายภาพ นอกจากนี้สกิลเวทมนตร์ส่วนใหญ่ยังสามารถสร้างสถานะผิดปกติได้ อย่างเช่น เผาไหม้ หากถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ , แช่แข็ง หากถูกโจมตีด้วยสกิลธาตุน้ำแข็ง หรือ เลือดออก หากถูกโจมตีด้วยสกิลธาตุลม
ฮยอนอู จ้องมองไปยัง ริน ก่อนจะเหลือบมองไปทาง ทังอี ที่ยังซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ด้วยความคาดหวัง
‘เข้าใจฉันใชไหม ทังอี !!ได้โปรดเข้าใจฉันด้วยเถอะ !!’
.....
ฮยอนอู อยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเมื่อต้องรับมือกับนักรบเลเวลสูงกว่า 150 ถึงสองคนพร้อมกัน
‘พวกนี้เป็นพี่น้องกันเหรอ !?การประสานของพวกเขาทำได้ดีมาก’
ไม่มีช่องว่างพอให้เขาจัดการกับทั้งสองคนนี้ได้ นอกจากนี้ระยะเวลบัพสกิลแห่งยักษ์ได้หมดลงแล้ว เขาไม่สามารถเอาชนะทั้งสองคนนี้ได้ด้วยความแข็งแรงอีกต่อไป ที่ ฮยอนอู ยังสามารถต้านทั้งสองคนนี้เอาไว้ได้ เป็นเพราะสกิบบัพอื่น ๆ ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้เล่นที่มีระดับเลเวลสูงกว่า 150 แล้ว ทั้งสองต่างก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
“มันอ่อนลงแล้ว !!”
“งั้นเรามาจัดการมันกันเถอะ!!”
พวกเขาพุ่งเข้ามาจากทางซ้ายและขวาพร้อม ๆ กัน ฮยอนอู ถูกบีบให้เป็นฝ่ายตั้งรับ และป้องกันการโจมตีที่ตรงเข้ามาที่ศีรษะ และหน้าท้องซ้ำ ๆ ทันใดนั้น ฮยอนอู ก็สัมผัสได้ถึงพลังเวทมนตร์มหาศาลกำลังก่อตัวขึ้นจากระยะไกล เมื่อเขาเหลือบไปมองก็พบว่าจอมเวทหญิงกำลังสร้างลูกไฟขนาดใหญ่อยู่
เว่ย และ เสี่ยว ตระหนักดีว่าเวทมนตร์ของ ริน สมบูรณ์แบบมากแค่ไหน และสิ่งที่พวกเขาต้องทำก็มีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ ยับยั้งการเคลื่อนไหวของ ฮยอนอู พวกเขาทั้งสองตบฝ่ามือลงกับพื้นพร้อมกกัน พริบตานั้นรากไม้ก็โผล่ออกมาจากพื้นพ้นข้อเท้าของ ฮยอนอู เอาไว้ นี่คือสกิลสร้างสถานะผิดปกติของพวกเขา แต่ข้อเสียของมันก็คือ จำเป็นต้องมีผู้เล่นสองคนใช้สกิลนี้พร้อมกัน นอกจากนี้ผู้เล่นที่ใช้สกิลนี้จะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นกัน
“นี่มันอะไร !?” ฮยอนอู ตื่นตระหนกเมื่อจู่ ๆ ก็มีรากไม้ผุดขึ้นมาจากพื้นจับขาเขา ในสถานการณ์เช่นนี้เขาคงถูกฆ่าโดยลูกไฟขนาดใหญ่จากจอมเวทคนนั้นแน่
[ผู้เล่น คัง ฮยอนอู ได้รับสถานะผิดปกติ ผูกมัด แล้ว ]
ในเวลาเดียวกัน การเตรียมการสกิลเวทมนตร์ของ ริน ก็เสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน “รับนี่ไปซะ อัลเลย์บอส !!”