ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 441 พิธีตอนรับศิษใหม่
เพียงพริบตาเดียวซู่เสี่ยวไป่ก็เป็นศิษของนิกายวังจิตวิญญาณเหนือภพมา 1 เดือนแล้ว
ในหนึ่งเดือนมานี้ซู่เสี่ยวไป่ได้เอาตราประจำตัวนิกายของศิษและสาวกของนิกายมีชื่อมากมายมาแลกเป็นแต้มนิกาย ทำให้เขาสามารถเปิดทางไปยังพิภพมหาพันภพหลักได้ 7 แห่ง
แล้วตอนนี้มี 5 พิภพนั้นกำลังถูกเงารุกรานอย่างต่อเนื่อง!
-เงานั้นราวกับพายุไต้ฝุ่นที่ย้อมไปด้วยสีของเลือด เมื่อมันพัดผ่านไปที่ใด ที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยบ่อโลหิต และห่าฝนเลือด!
ทำให้ 5 พิภพหลักนั้นเสียหายอย่างต่อเนื่อง!
และซู่เสี่ยวไป่ก็นั่งรอรับความมั่งคั่งมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาในตัวของเขาอย่างไม่หยุด
ทั้งศิลาบรรพชนทั้งทองคำเอกภพ วิชา ยุทธภัณฑ์สมบัติ มากมายกว่าที่ได้จากการฆ่าปล้นชิงในพิภพมหาพันภพธรรมดาเป็นสิบเท่า!
และด้วยวิชามากมายที่ได้มานั้นทำให้ซู่เสี่ยวไป่ใช้สร้างวิชาระดับบรรพชน และเอกภพบรรพชนออกมามากมาย และตอนนี้การบรรลุวิชาของเขาก็ไปถึงขั้นสูงสุดหลายวิชาแล้วด้วย
ทำให้ตอนนี้ขอบเขตพลังของซู่เสี่ยวไป่ก้าวทะยานสู่บรรพชนสูงสุดก้าวที่ 3 เต็มตัวแล้ว
แม้ว่าจะได้วิชาเอกภพบรรพชนช่วยเพิ่มพลังให้ แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มขอบเขตให้พุ่งทะยานเหมือนแต่ก่อน…..
หากเป็นตัวตนบรรพชนสูงสุดได้เรียนรู้วิชาเอกภพบรรพชนพวกเขาจะสามารถดึงพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้มากกว่านี้ และระเบิดพลังวิญญาณที่ทรงพลังยิ่งกว่าปกติออกมาได้ และยิ่งถ้าบรรลุในขั้นพื้นฐาน สูง หรือสูงสุด มันจะก้าวข้ามขอบเขตพลังได้อย่างง่ายดาย!
แต่ซู่เสี่ยวไป่นั้นไม่อาจทำเช่นนั้นได้
เขายังมีตบะบ่มเป็นกึ่งบรรพชนชะตาชีวิตที่ 9 ต่อให้วิชามีระดับสูงหรือทรงพลังเท่าไร มันก็ยังไม่อาจจะส่งผลกับเขาได้เต็มที่!
ถึงแม้ว่าซู่เสี่ยวไป่นั้นจะบรรลุเส้นทางสู่สวรรค์ทั้งสามพันเส้นทางแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่ได้รวมมันเข้ากับดาราจักรแห่งชีวิตทั้ง 12 ดาราจักรของตัวเอง หากเขารวมพวกมันเข้าด้วยกัน จะทำให้วิชาบรรพชนหรือเอกภพบรรพชนที่มีเส้นทางนั้นทรงพลังมากขึ้นไปอีก!
ต้องรู้ก่อนว่าปกติแล้วอัจฉริยะส่วนใหญ่ที่มาถึงเขตแดนจักรพรรดิบรรพชนแล้ว ร่างกายและจิตวิญญาณจะถูกหลอมรวมเป็นพลังงานศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์ พวกเขานั้นก็แทบจะเรียกได้ว่ามีชีวิตนิรันดิ์!
หลังจากนั้นพวกเขาก็จะเริ่มขัดเกลาร่างกายของตัวเองอีกครั้ง
แต่ซู่เสี่ยวไปนั้นยังไม่ใช่บรรพชนเต็มตัว ทำให้เข้านั้นเริ่มบีบอัดตบะบ่มเพาะตัวเองเอาไว้ ซึ่งทำให้เขามีพลังมากกว่าตัวตนอื่น
นอกเหนือจากการปรับแต่งเพิ่มขอบเขตพลังแล้ว ซู่เสี่ยวไป่ยังเพิ่มระดับความสามารถของระบบอย่างครอบคลุมด้วย
สิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่นั้นให้ความสำคัญที่สุดในตอนนี้คือพื้นที่ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว เพราะมันเป็นอะไรที่ต้องได้รับการเพิ่มพลังอย่างเร่งด่วน ซู่เสี่ยวไป่นั้นไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะเพิ่มระดับให้กับมัน
ตอนนี้ทำให้พื้นที่ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียวนั้นเพิ่มระดับจาก 125 ไปเป็น 135 และได้รับความสามารถเสริมใหม่ 2 อัน
อย่างแรกคือ*กลั่นยาเงา 3* ทำให้เวลาในการฟื้นเงาที่กลั่นยานั้นลดลงอีกครึ่งหนึ่ง และเพิ่มประเภทยาขึ้นมาจากเดิม
อย่างที่สองคือ *กองทัพเงาจลาจล 2* ทำให้จำนวนเงาที่มีอยู่นั้นเพิ่มขึ้นอีกเท่าทวีคูณ จำนวนเงาหลักของเขามี 352,000 ร่างแล้ว!!
ไม่เพียงเท่านั้นทุกๆ การเพิ่ม 1 ระดับเขาจะได้รับเงาหลัก 10 ร่าง นั้นคือเท่ากับเงารอง 100 ร่าง ด้วยอัตราการเพิ่มเช่นนี้ทำให้ซุ่เสี่ยวไป่มีเงารองถึง 3,520,000 ร่าง!
และยังมีเงาทับทิมทองคำ เงารองทองคำอีกที่แข็งแกร่งกว่าเงาปกติ
ด้วยการเสริมพลังจากความสามารถเสริมของพื้นที่ออกล่าสัตวอสูรในคลิกเดียวนั้น ทำให้ซู่เสี่ยวไป่สามารถที่จะควบคุมทั้งพิภพมหาพันภพได้อย่างเด็ดขาด และขยายวงขอบเขตการบุกรุกได้กว้างขึ้นไปอีก
ทำให้จำนวนเงานั้นบุกรุกเพิ่มไปยังพิภพมหาพันภพธรรมดาอีก 500 พิภพ และนี้ยังไม่นับรวมกับพิภพมหาพันภพหลักอีก 7 แห่ง
ทำให้ซู่เสี่ยวไป่นั้นเพียงแค่นั่งเฉยๆ ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีได้
แต่กลับกันซู่เสี่ยวไป่นั้นดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร
“วันนี้เป็นพิธีต้อนรับศิษใหม่ ข้าต้องไปที่นั้นด้วย…”
“ในนิกายวังจิตวิญญาณเหนือภพนั้นเริ่มอันตรายมากขึ้นทุกที จนเราเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปพื้นที่ส่วนกลางอีกแล้ว จึงให้เงาไปจัดการธุระแทนตัวเราทุกครั้ง”
แววตาของซู่เสี่ยวไป่นั้นดูลึกล้ำมากขึ้น
ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นซู่เสี่ยวไป่ได้ไปหาไต๋หลานแบบลับๆ แต่โชคไม่ดีนักไต๋หลานนั้นรับภารกิจและออกไปนอกนิกาย
เขาได้ยินมาว่าผู้อาวุโสจื่อหยานนั้นเป็นคนจัดงานนี้ด้วยตัวเอง เพื่อต้อนรับเขาโดยเฉพาะ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ซู่เสี่ยวไป่ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ นับตั้งแต่เขานั้นได้เข้ามาในนิกายแห่งนี้และได้เจอว่าจ้าวนิกายนั้นเป็นไส้ศึกที่แอบแฝงเข้ามา เขานั้นก็แทบจะสงสัยทุกการเคลื่อนไหวของบรรพชนบรรพกาล และผู้อาวุโสทุกคน
พิธีการนี้ทั้งจ้าวนิกาย และจ้าวตำหนักทั้ง 12 และเหล่าผู้อาวุโสที่มีชื่อนั้นจะมารวมตัวกัน การที่มีตัวตนที่แข็งแกร่งมากันมากมายเพียงนี้ ซู่เสี่ยวไป่ไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเด็ดขาด
ใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
“เจ้า 1!”
ซู่เสี่ยวไป่เรียกชื่อเงาออกมาเบาๆ ก่อนที่เงา 1 จะปรากฏตัวออกมาต่อหน้าเขา
“=เจ้านาย=”
เงา 1 นั้นขานรับในทันที
“ปลอมตัวเป็นข้า”
แล้วจากร่างเงาสีดำ ก็เริ่มมีสีสันขึ้นดูมีชีวิตและมีเนื้อหนังก่อนที่จะกลายเป็นร่างแฝดของซู่เสี่ยวไป่อย่างสมบูรณ์
และทั้งกลิ่นไอ และกระแสพลังนั้นเงาเองก็เหมือนกับซู่เสียวไป่ทุกปราการอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีท่าทางที่เหมือนกันอีกด้วย เป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะได้!
“ยอดเยี่ยม! ที่นี่ก็เอาตราประจำตัวนิกายไปด้วย ต่อให้จ้าวนิกายตรวจสอบ ก็ไม่สามารถแยกแยะได้แล้ว”
การปลอมตัวครั้งนี้ซู่เสี่ยวไป่มั่นใจอย่างมาก
เขานั้นได้บรรลุเส้นทางสู้สวรรค์ทั้งสามพันเส้นทาง และวิชาบรรพชนกับวิชาเอกภพบรรพชนมากมาย ซึ่งทำให้การปลอมตัวเป็นใครนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก นับประสาอะไรกับการปลอมเป็นตัวเอง…
หากซู่เสี่ยวไป่สามารถเข้าใจกลิ่นไอ กระแสพลัง เส้นทางตรรกะ โชคชะตา และวิชากับความทรงจำ ของใครก็ตาม ซู่เสี่ยวไป่นั้นก็สามารถปลอมเป็นคนนั้นได้อย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกับพวกสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรคลื่นโบราณที่กำลังแอบแฝงอยู่ในจักรวาลแห่งนี้
“ไป…”
เงา 1 ได้ออกจากที่พักของซู่เสี่ยวไป่ และตรงไปยังสถานที่ลานจัดพิธีซึ่งถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่!
ว่ากันว่าพิธีต้อนรับศิษใหม่นั้นมีการทดสอบพรสวรรค์ของตัวศิษอีกครั้ง
ทำให้วันนี้เหล่าจักรพรรดิบรรพชนจะได้รับอาวุธจากบ่อศาตรา
ในบ่อนี้ผู้แข็งแกร่งของนิกาย เมื่อทะลวงเขตแดนมากขึ้น พวกเขาจะนำอาวุธยุทธภัณฑ์ของตัวเองมาใส่เอาไว้ เพื่อแสดงว่าตัวเองนั้นแข็งแกร่งกว่าเดิมแล้ว ทำให้บ่อแห่งนี้ถูกเรียกอีกชื่อว่า สุสานศาตรา
ศิษสาวกใหม่นั้นต้องปลดปล่อยพลังของตัวเอง เพื่อที่จะได้รับอาวุธหรือสิ่งของจากบ่อศาตราแห่งนี้
เมื่อสิ่งใดที่อยู่ในบ่อศาตราได้เลือกแล้วของชิ้นนั้นจะเป็นของของเขาทันที
บ้างครั้งในอาวุธเหล่านั้นก็มีวิชา และเคล็บลับต่างๆ ประสบการณ์ของตัวตนที่ยิ่งใหญ่ได้ถ่ายทอดเอาไว้ด้วย
สำหรับศิษสาวกใหม่นั้น นี่เป็นโอกาสที่จะได้รับสมบัติล้ำค่า และค่อนข้างจะแน่นอนว่าจะได้ทุกคน แต่สำหรับซู่เสี่ยวไป่แล้วของที่อยู่ในบ่อนั้นเขาไม่ต้องการเลยแม้แต่น้อย อย่างมากได้มาก็จะถูกหมุนเวียนกลายเป็นทองคำเอกภพหรือศิลาบรรพชนแทน
…..
ในเวลาเดียวกัน
ที่อาณาจักรคลื่นโบราณพระราชวังสวรรค์เนรมิตร
นี่เป็นหนึ่งในพระราชวังของราชวงษ์ของอาณาจักรคลื่นโบราณ และยังเป็นฐานทัพลับของอาณาจักรคลื่นโบราณด้วย
เป็นสถานที่สำคัญของอาณาจักรคลื่นโบราณ และเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลตัวอย่างเลือดเนื้อด้วย!
และที่พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่วิเคราะห์และตรวจสอบแก่นโลหิตที่ได้มาทั้งหมด สืบหาไปยังอดีตและอนาคต ทำให้ตัวตนใดที่จะได้รับภารกิจเข้าไปแอบแฝงในจักรวาลทวีปใหญ่สามารถที่จะได้รับรู้ข้อมูลของตัวตนที่พวกเขาจะปลอมตัวได้ ทำให้การปลอมตัวนั้นสมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่าผู้ที่จะปลอมตัวนั้นต้องมีขอบเขตพลังเท่ากับตัวตนจริง
-สิ่งนี้ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่ต้องการห้องทดลอง ที่พวกเขาจะได้รับแก่นโลหิตที่ถูกส่งกลับมาจากพิภพมหาพันภพ และนิกายวังจิตวิญญาณเหนือภพ
“บรรพชนบรรพกาลหลิงทิง….ทำการตรวจสอบแล้ว และสามารถที่จะตรวจค้นได้ถึง 100 ส่วน”
“สามารถปลอมแปลงได้สมบูรณ์”
ที่ใจกลางห้องแห่งหนึ่งภายในพระราชวัง ที่กลางห้องนั้นมีหลอดแก้วทรงกลมที่เต็มไปด้วยหยดเลือดมากมายล่องลอยอยู่ภายในหลอดแก้ว และที่รอบๆ นั้นก็มีกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ทำงานเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ยืนอยู่
ทั้งหมดเป็นนักวิทยาศาสตร์ของอาณาจักรคลื่นโบราณ และหนึ่งในนั้นกำลังหยิบตราที่สลักคำว่า
ไป่หยินอยู่บนนั้น ก่อนที่พวกเขาจะดึงแก่นโลหิตออกมาจากตราหยก
วูม!!!
ทันใดแสงนั้นก็สาดสองออกมาจากแก่นโลหิตนี้อย่างรุนแรง
ทำให้จิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์ของอาณาจักรคลื่นโบราณนั้นสั่นสะท้าน เขานั้นทั้งแสดงท่าทีที่ตื่นเต้น หวาดกลัว ตกใจ และตกตะลึงอย่างสุดๆ ราวกับไม่เคยพบเคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนในชีวิต…..
“ด–ด—ดารา—จ–จักรชีวิตที่ 12!!!”