ตอนที่ 40 ทดสอบมรดก (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 40 ทดสอบมรดก
*เปรี้ยง*
“ให้ตายเถอะ ดูนักเรียนของข้าสิ เตะเก่งอะไรอย่างนี้” อาเธอร์ส่งเสียงเชียร์จากภาพวาดที่เขาแย่งชิงไปในห้องนั่งเล่นรวม เมอร์ลินก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเช่นกัน
“เจ้าสอนศิลปะป้องกันตัวให้เขาได้ดีนี่” เมอร์ลินกล่าวชื่นชม
“แน่นอน มันดีกว่าการใช้คาถาที่ไร้สาระของเจ้าอีก คนจริงเขาถือดาบ คนปัญญานิ่มถือกิ่งไม้” อาเธอร์ตะโกนกลับ
เมอร์ลินหันไปหาเขาด้วยความโกรธ “เจ้าพูดอะไรคาถาที่ไร้สาระหรอ คอยดูเถอะ”
*บูม*
แม็กนัสหยุดการโจมตีของหมอนั่นด้วยเวทมนตร์ใส่เขา เมอร์ลินมองไปที่อาเธอร์ “เจ้ากำลังพูดบ้าอะไร? ถ้าไม่มีเวทมนตร์ เขาคงเสียหัวไปแล้ว”
“ว่าไงนะ… ไอ้ลูเซียสคนนี้เป็นบ้าไปแล้วเหรอ?” อาเธอร์ถามด้วยความตกใจ
*เห้อ*
“นี่คือสิ่งที่สังคมเวทมนตร์เสื่อมถอย อาร์เธอร์ นี่คือสิ่งที่แม็กนัสต้องเผชิญ” เมอร์ลินตอบอย่างเหนื่อยล้า เขาอยู่ในฮอกวอตส์ตั้งแต่เขาเสียชีวิต ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นแม็กนัสคงต้องเตะก้นอีกหลายที ข้ารอไม่ไหวแล้ว” อาเธอร์หัวเราะด้วยความมั่นใจว่าแม็กนัสจะทำสำเร็จ
...
แม็กนัสให้คำให้การของเขากับมู้ดดี้ชายคนนั้นอยากจะถามแต่คำถามโง่ๆ ส่วนคำตอบแปลกๆ ของแม็กนัสก็แสดงจุดยืนของเขา ตัวอย่างเช่น เขาต้องการถามแมกนัสว่าเขากลายเป็นผู้สืบทอดได้อย่างไรในเมื่อทั้งพ่อและแม่ของเขาต่างก็เป็นมักเกิ้ล
แม็กนัสเพิ่งบอกว่าเขาได้รับวิบากกรรมจากสวรรค์และถูกทดสอบโดยสายฟ้าฟาด 500 ครั้งตอนเขาไปดูกำแพงเมืองจีน [ผู้แปล : อย่างฮาผู้แต่งนี่ต้องอ่านนิยายจีนมาไม่น้อยแน่ๆ ปล.ผู้แต่งเป็นชาวอเมริกันนะครับ]
หลังจากนั้นก็กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง วันต่อมา เขาก็ต้องไปที่กริงกอตส์พร้อมกับดัมเบิลดอร์เพื่อทดสอบมรดก มันเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีเรียนอยู่แล้ว ปกติเขาคงใช้เวลานี้เรียนรู้เพิ่มเติม
แต่ในขณะที่เขาหลับ ในห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ มีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง
“ไอ้เด็กเวรนั่น ฉลาดเกินวัย” มู้ดดี้พูดด้วยความโกรธ
"ใจเย็นๆ อลาสเตอร์ ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าเขาฉลาด คุณต่างหากที่นอกลู่นอกทางก่อน" ดัมเบิลดอร์ปกป้องแม็กนัส
“เด็กเวรนั่นเรียกชื่อฉัน 50 ชื่อในเวลา 15 นาที ลิ้นเขาแหลมคมจริงๆ ดูความผิดพลาดนี้สิ แม้ว่าฉันจะมีความสุขมากที่เห็นเด็กมัลฟอยถูกทุบตี แต่ฉันก็ไม่อยากมีเรื่องดราม่าใดๆ ในตอนนี้ที่กระทรวง และฉันแน่ใจว่าตอนนี้ แอแบรกซัส มัลฟอย กำลังจะเล่นละครสำหรับลูกชายสุดหวงของเขา” มู้ดดี้กล่าวว่า
“ฉันเข้าใจอลาสเตอร์ ฉันจัดการทุกอย่างให้แล้ว พรุ่งนี้เมื่อคุณเพนดราก้อนจะทำการทดสอบมรดกเสร็จ ฉันจะให้เขาให้สัมภาษณ์ เมื่อโลกรู้ว่าเขาคือทายาทที่แท้จริง คนส่วนใหญ่ก็ไม่มีใจจะต่อต้านเขา เพราะหลายคนจะมาหาเขาเพื่อเข้าร่วมกับเขา อย่าเพิกเฉยต่ออิทธิพลแห่งเมอร์ลิน” ดัมเบิลดอร์อธิบายแผนของเขาอย่างละเอียด
มู้ดดี้พยักหน้า “ก็จริง ถ้าฉันเป็นพวกที่เกิดจากมักเกิ้ลหรือพ่อมดลูกครึ่งตามท้องถนน ฉันคงจะมาหาเขาเพื่อเป็นผู้ติดตามเขา ฉันหวังว่าแผนของคุณจะได้ผล มัลฟอยคนพ่อไม่ติดตามเรื่องนี้ ว่าแต่แล้วลูเซียส มัลฟอยล่ะ? ตามกฎปกติเขาควรถูกไล่ออก”
“ไม่ ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น ตอนนี้เรารู้แล้วว่าลูเซียสอยู่ภายใต้อิทธิพลของเขา ถ้าฉันไล่เขาออก มันจะยิ่งผลักลูเซียสเข้าหาเขาเร็วขึ้นเท่านั้น ที่นี่เราสามารถจับตาดูเขาได้ *เฮ้อ* คุณควรกลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องมั่นใจว่ามาพร้อมกับความปลอดภัยเพียงพอ” เขาแนะนำ
มู้ดดี้ลุกขึ้น “ฉันรู้แล้ว คุณแน่ใจหรือว่าคุณไม่ต้องการให้เด็กคนนั้นฝึก? จากสิ่งที่เขาทำในวันนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นอัจฉริยะด้านเวทมนตร์การต่อสู้”
ดัมเบิลดอร์ไม่ได้มองเขาและเขียนบางอย่างบนหน้ากระดาษต่อไป “ไม่ เขายังเด็กเกินไป ถ้าปล่อยให้เขาได้รับผลกระทบจากโลกมืดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยมีแต่จะพรากความบริสุทธิ์ของเขาไป แล้วคุณก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เสียของจริ๊ง” มู้ดดี้คำรามแล้วจากไป
...
วันต่อมา แม็กนัสพร้อมที่จะออกไปข้างนอก เขาเก็บไม้กายสิทธิ์ที่หักไว้กับตัวเอง ไม้กายสิทธิ์ถูกติดด้วยกาวจำนวนมาก และใช้งานได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เขาได้พบกับดัมเบิลดอร์ในห้องทำงานของเขา พวกเขากำลังจะไปยังตรอกไดแอกอนจากในห้องนั้น
“คุณเพนดราก้อน ได้โปรดเอามือมาจับแขนฉันไว้ แล้วอย่าปล่อย เธออาจจะเกิดอาการค้างครึ่งถ้าเธอเผลอปล่อยมือ” ดัมเบิลดอร์เตือนเขา
แม็กนัสก็เหมือนกับกริฟฟินดอร์ที่ภูมิใจในเอง เดินหน้าไปจับแขนของชายชรา
“ไปกันเถอะ” ดัมเบิลดอร์ส่งสัญญาณ
*ฟุบ*
ระหว่างเดินทาง แม็กนัสเสียใจที่ไว้ใจชายชราคนนี้ จิตใจของกริฟฟินดอร์ที่กล้าหาญของเขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญกับการทรมาน ด้วยร่างกายเล็กๆ ของเขารู้สึกราวกับว่ามีคนดึงลำไส้ของเขาออกมา บีบให้แห้งแล้วใส่กลับเข้าไป ตามด้วยการบังคับให้เขาดื่มน้ำ
~อา แม่จ๋าบอกว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า ฉันมันโง่ขนาดนี้ได้ยังไง"~ เขาคิดในใจในขณะที่พยายามไม่อ้วก
แม้ว่าการเดินทางจะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ แต่สำหรับเขา มันรู้สึกเหมือนชั่วนิรันดร์
"อุแวะ..." แม็กนัสรู้สึกอยากจะอาเจียน แต่ก็ไม่มีอะไรออกมาจากปากของเขา
"คุณคุ้นเคยกับมันเมื่อเวลาผ่านไป" ดัมเบิลดอร์ปลอบใจเขา
แม็กนัสส่ายหัว "ไม่ฮะ-เอ่อ... ผมขอใช้ไม้กวาดมากกว่าไม่ว่าจะตอนไหน"
ดัมเบิลดอร์หยิบลูกอมรสเลมอนออกมาและส่งให้แม็กนัส “เอ้า กินนี่สิ จะได้สบายใจขึ้น ถ้าเธอรู้สึกดีขึ้นแล้ว เราจะไปกันต่อ”
"เราอยู่ที่ไหนฮะ?" แม็กนัสถามขณะกินขนมจากคนแปลกหน้า
"ร้านหม้อใหญ่รั่ว ห้องที่ฉันจองไว้" ดัมเบิลดอร์อธิบาย
หลังจากนั้นไม่กี่นาที แม็กนัสก็รู้สึกดีขึ้น เขาเสกน้ำในแก้วที่เขาใช้คาถาแปลงร่างจากเทียนใกล้ๆ
ดัมเบิลดอร์พยักหน้าเมื่อเห็นเขาใช้เวทมนตร์อย่างง่ายดาย ~เขามีทักษะเป็นยอด~
แต่อย่างน้อย ดัมเบิลดอร์ก็มีมุมมองเชิงบวกต่อแม็กนัสเพราะบุคลิกที่ร่าเริงและเปิดเผยของเขา ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกอยู่เสมอว่าถ้าก็อดดริก กริฟฟินดอร์ยังมีชีวิตอยู่ เขาก็น่าจะเป็นเช่นนี้
"ไปกันเถอะครับศาสตราจารย์" แม็กนัสรู้สึกดีขึ้นพลางออกไปจากห้อง
ขณะที่พวกเขาเดินไปที่ธนาคาร ผู้คนมากมายทักทายดัมเบิลดอร์ เขามีภาพลักษณ์ที่ดีทั่วสถานที่
"การทดสอบมรดกต้องใช้อะไรบ้างหรอครับ" แม็กนัสถาม
“มันเป็นเวทมนตร์ที่ซับซ้อน เมื่อใดก็ตามที่มีคนเปิดบัญชีในกริงกอตส์ พวกเขายังมีการแสกนเธอด้วยเวทมนตร์เพื่อกำหนดทายาทในอนาคต แต่การทดสอบมรดกนั้นถูกควบคุมอย่างเข้มงวดมาก เพราะอาจมีคนหลายพันคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเวทมนตร์บางตระกูลเพราะมักจะมีพวกสควิปหลายคนต้องไปใช้ชีวิตอยู่กับพวกมักเกิ้ล” ดัมเบิลดอร์อธิบาย
“ใครเป็นผู้ควบคุมการทดสอบนี้” แม็กนัสถาม
“มีเพียงฮอกวอตส์หรือกระทรวงเท่านั้นที่สามารถอนุญาตให้ทำการทดสอบมรดกได้ ตอนนี้กรณีของเธอถือเป็นเรื่องพิเศษ ดังนั้นคาดว่าจะมีคนจำนวนไม่น้อย รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ก็จะอยู่ที่นั่นด้วย นักข่าวบางคนก็เช่นกัน เธอควรให้สัมภาษณ์เล็กน้อยหลังการทดสอบ” ดัมเบิลดอร์เสนอโดยพยายามบังคับให้แม็กนัสให้สัมภาษณ์
"ผมจะทบทวนเรื่องนี้อีกทีครับ" แม็กนัสตอบกลับ พูดตามตรงตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนกำลังออกไปล่าสมบัติ
หลังจากเดินไม่กี่นาที ในที่สุดพวกเขาก็มาปรากฏตัวที่หน้าธนาคาร มีมือปราบมารจำนวนมากอยู่ที่นั่น พยายามกันไม่ให้ผู้คนและนักข่าวเข้าถึงพวกเขา พวกเขาไม่สนใจที่พวกนั้นตะโกนชื่อแม็กนัส พวกเขารีบเข้าไปในธนาคาร
ข้างในนั้น รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ยูจีเนีย เจนคินส์ อยู่ที่นั่นพร้อมกับคนสนิดของเธอสองสามคน
"ยินดีที่ได้พบคุณ คุณเพนดราก้อน" เธอทักทายเขาอย่างสุภาพ
“เช่นกันครับท่านรัฐมนตรี” แม็กนัสทักทายเธอกลับ
แม็กนัสมองไปรอบๆ และเห็นก็อบลินจำนวนมากกำลังมองเขาด้วยสีหน้าที่หลากหลาย ราวกับว่าเขาเป็นถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติ หลายคนคิดอยู่แล้วว่าแม็กนัสจะหาเงินได้เท่าไหร่ในห้องนิรภัย
หลังจากรอและพูดคุยกับรัฐมนตรีอยู่ครู่หนึ่ง ก็อบลินในชุดสูทก็เข้ามาชี้ทางให้พวกเขา
“มากับผม ที่นี่ไม่เหมาะกับสิ่งที่สำคัญขนาดนั้น” เขาขอนำทาง
พวกเขามาถึงสำนักงานใหญ่ ที่นั่นกระดาษสีทองวางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับมีดสีทองเล่มเล็กๆ ห้องใหญ่พอสมควรแต่ไม่มีหน้าต่างและดูจะประดับด้วยทองมาก มันเป็นความชอบของแม็กนัส ทองเป็นที่ชื่นชอบของเขาตลอดเวลา
“คุณเพนดราก้อน ได้โปรดหยดเลือดลงบนกระดาษแผ่นนั้น” ก็อบลินออกคำสั่ง
แม็กนัสทำตามที่ขอ เขาเดินไปข้างหน้า กรีดนิ้วเล็กๆ ด้วยมีดที่คมกริบ แล้วหยดลงไปสองสามหยด มันดูเหมือนว่าเลือดของเขาจะหยดลงบนน้ำ ขณะที่มันละลายไปกับกระดาษ
จากนั้น ก็บังเกิดเวทมนตร์ชื่อและรายละเอียดอื่นๆ เริ่มปรากฏขึ้นบนกระดาษ
แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจ มันไม่ได้หยุดลงหลังจากเขียนชื่อ 2 ชื่อและทรัพย์สินที่พวกเขาคาดหวังไว้บนนั้น มีการเขียนชื่อที่สาม หมายความว่าชื่อที่สามนี้มีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมกับเขาน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีความเกี่ยวข้องกันอยู่บ้างเล็กน้อย
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการทดสอบการสืบทอดจึงถูกควบคุม เพราะสายเลือดใดๆ สามารถปรากฏขึ้นได้เนื่องจากสายเลือดสควิบที่สูญหายไปนาน แล้วก็อบลินก็เกลียดชังเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น
ก็อบลินเดินมาข้างหน้าพลางหยิบกระดาษมาอ่านและส่งให้หัวหน้าธนาคาร เมื่อเขาเห็นมัน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจเช่นกัน
เขามองไปที่แม็กนัสและพูดว่า "ยินดีด้วย คุณเป็นอย่างที่พูดไว้ เป็นลูกหลานของเมอร์ลินและกษัตริย์อาเธอร์ แต่ชื่อที่สาม..."
[ผู้แปล : แล้วก็ตัดจบแบบละครไทย 55]
_____________________________