ตอนที่ 38 สถานะสายเลือดที่แท้จริง (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 38 สถานะสายเลือดที่แท้จริง
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป แม็กนัสกำลังสนุกกับชีวิตในฮอกวอตส์ เขามักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียน ฝึกฝนเวทมนตร์ พยายามหาวิธีปรุงน้ำยานำโชค เล่นตลกกับเพื่อนหรือไปบิน
แต่ตอนนี้ชีวิตของเขามีแต่เรื่องน่าปวดหัว เอ็มม่าแม่เด็กสาวคนนั้นหาวิธีแก้แค้นเขาตลอดด้วยการแกล้งเขา แม้ว่าจะไม่เคยทำสำเร็จก็ตาม เขาขอให้เธอซื้อหนังสือปรุงยาล่วงหน้าให้เขา เธอทำมันอย่างไม่เต็มใจ แต่ความแค้นของเธอมันไม่จบลงแค่นั้น
“ฉันกำลังบอกนายนะแม็ก เธอปิ๊งนายแน่ๆ ฉันหมายถึง ถ้าฉันเป็นผู้หญิง ฉันก็จะไล่ตามนายเหมือนกัน นายคือหนุ่มในฝันของสาวๆ ทุกคน เป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งและฉลาด เจ้าชายแห่งเวทมนตร์ เฮ้ แถมนายกำลังจะได้เป็นพระราชาด้วย” รักนาร์รู้สึกสบายใจกับคำพูดของเขาเมื่ออยู่กับแม็กนัส แต่กับคนอื่นๆ เขายังเหมือนลูกสุนัข ขนาดแม็กนัสเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มันทำให้เขาเสียวสันหลังวาบอย่างช้าๆ
สเนปที่เดินอยู่อีกฟากของแมกนัส ย่นจมูกด้วยความขยะแขยง “ช่างคิดได้น่าขยะแขยงเสียนี่กระไร”
รักนาร์เย้ยหยัน “อย่าโกหกฉันหน่อยเลย เซเวอรัส ถ้านายเป็นผู้หญิง นายก็คงน้ำลายไหลเพราะเขาเหมือนกัน”
แม็กนัสหัวเราะ “ก็นะ เขามีคนที่ทำให้เขาน้ำลายหกอยู่แล้ว เพราะงั้นหยุดพูดเพ้อเจ้อบ้าๆ บอๆ ของนายได้แล้ว นายได้ฝึกคาถาที่ฉันสอนไปมั่งป่ะเนี่ย? อย่างน้อยคุณควรรู้จักช่วยตัวเองนะ”
"จ้าๆ ฉันทำแล้วนะ แต่มันยากเกินไปสำหรับฉันนี่ ฉันหมายถึงฉันไม่สามารถขยับไม้กายสิทธิ์ได้อย่างถูกต้อง” รักนาร์แย้ง
สเนปส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง “ช่างเป็นพรสวรรค์ที่สูญเปล่า การปรุงยาของนายน่าจะดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่นายยังร่ายคาถาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
รักนาร์มองเขาด้วยความเคืองเล่นๆ "หรออ? นายพูดเองนะ
หยุดไล่ตามสาวบ้านกริฟฟินดอร์เดี๋ยวนี้ แล้วตั้งใจเรียนซะ"
“เอาล่ะๆ หยุดทะเลาะกันได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันจะไปที่กริงกอตส์กับตาเฒ่าดัมเบิลดอร์ ฉันต้องทำการทดสอบมรดก” แม็กนัสเปิดเผย
“หืม คุณมัลฟอยอยากจะคุยเรื่องบางอย่างกับนายเมื่อวานนี้ เขาไม่ได้ถามฉันแต่ฉันได้ยินเขาพูด” จู่ๆ สเนปก็พูดขึ้น
“เซฟ เลิกเทิดทูนผู้ชายคนนั้นเสียที เขาเป็นพวกจอมบงการและพยายามมาตลอดตั้งแต่ฉันก้าวเข้ามาในบริเวณโรงเรียนแห่งนี้ หากนายสนใจตระกูลหรือทรัพยากรของเขา ฉันมีมากกว่านั้นอีก ถึงฉันจะยังไม่รู้เกี่ยวกับสถานะการเงินตอนนี้ แต่เดี๋ยวฉันจะรู้พรุ่งนี้” แม็กนัสแนะนำเขา
พวกเขาเดินเข้าไปในคุกใต้ดินสลิธีริน แต่ทันทีที่แม็กนัสเข้าไป เขาก็สัมผัสได้ถึงเวทมนตร์เขาก็หลบทันที
"อะฮ่าา... อ๊ะ ไม่นะ..." เอ็มม่ากำลังพยายามปาเค้กบนใบหน้าของเขา
*แบม*
มันแปะเข้าหน้ารักนาร์ เขาโกรธเธอ "เธอ ฉันจะไม่ช่วยเธอในคาบปรุงยาอีกแล้ว หึ..."
แม็กนัสยิ้ม “เป็นอีกครั้งที่แพ้ 12 ชนะ 0 สำหรับเธอ เลิกเถอะ สาวน้อย คุณอ่อนเกินไปสำหรับเรื่องนี้”
เขาหันไปด้านข้างและไปคุยกับนาร์ซิสซา แบล็ก แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงจอมบงการ แต่บางครั้งเธอก็ดูดีมากราวกับว่านั่นเป็นบุคลิกดั้งเดิมของเธอ แต่ความเย็นชาก็เข้าครอบงำ เขานึกไม่ออกว่าผู้ชายอย่างลูเซียสจะเอาชนะใจเธอได้อย่างไร เขาไม่มีอะไรเลยนอกจากหน้าตาดีกับนามสกุล... อาจจะมีสมองบ้างเหมือนกัน แต่มันก็ดีเท่ากับไม่มีเลย
“สวัสดียามเย็นครับ คุณแบล็ค” เขาทักทายเธอ
“ฉันบอกให้เธอเรียกฉันว่าพี่สาวหรือเรียกแค่ว่านาร์ซิสซา ไม่ต้องเรียกเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้ แม็กนัส” เธอตอบด้วยรอยยิ้มซึ่งดูเหมือนจริงใจครึ่งหนึ่งและขับเคลื่อนทางการเมืองครึ่งหนึ่ง
เธอนั่งข้างเตาผิง อ่านหนังสือแบบสุ่มเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของเลือด เขายังไม่แน่ใจว่าเธอรู้หรือไม่ว่าเขามาจากครอบครัวมักเกิ้ล
“ยังมีปัญหาเรื่องปรุงยาอยู่หรือเปล่า?” เธอถาม
"ใช่ ฉันปรุงได้แค่ระดับค่าเฉลี่ย ฉันก็อยากเก่งกว่านี้" เขาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
เธอหัวเราะเบา ๆ "ฮิฮิ ไม่เป็นไรหรอกที่จะเป็นคนธรรมดาในบางสิ่ง ในเมื่อเธอโดดเด่นในเรื่องอื่นๆ ทั้งหมด เธอเคยคิดบ้างไหมว่าเธอจะทำอะไรหลังเรียนจบ?”
“เป็นกษัตริย์ มั้งนะ” เขาพึมพำ ถึงตอนนี้ ทุกคนรู้เหตุผลที่เขามีชื่อเพนดราก้อนแล้ว
"บางทีฉันสามารถช่วยได้" ลูเซียสปรากฏตัวขึ้นและนั่งลง
แม็กนัสรีดเค้นประสาทสัมผัสของเขาจนถึงขีดสุด ผู้ชายคนนี้ไม่น่าไว้ใจเลย
"แล้วมันต้องแลกอะไรล่ะ" เขาตั้งคำถาม
“นายเป็นชนชั้นสูง คุณเพนดราก้อน นายคือผู้สืบทอดตระกูลเวทมนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดตระกูลหนึ่งและเป็นผู้ปกครองประเทศ
คุณสมควรที่จะเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ตัวฉันเองคิดว่าถ้าฉันทำงานให้ใครเขาก็ต้องยิ่งใหญ่ที่สุด” ลูเซียสเริ่มสานเครือข่ายของเขา เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะจัดการกับแม็กนัส เขาเชื่อว่าแม็กนัสเป็นเลือดบริสุทธิ์เพราะพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ของเขา ส่วนที่เกี่ยวกับการที่เขาเป็นผู้รับมรดกของกษัตริย์อาเธอร์ก็เดาว่าเป็นพรของเมอร์ลินเช่นกัน
“นายรู้อะไรเกี่ยวกับบรรพบุรุษของนาย เมอร์ลินที่เคยเป็นลูกศิษย์สายตรงของซัลลาซาร์ สลิธีรินไหม?” ลูเซียสถาม
“ใช่ ฉันก็รู้เรื่องนั้น เขาต้องเรียนรู้อะไรมากมายจากซัลลาซาร์ สลิธีริน ถึงจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นพ่อมดชื่อดังได้” แม็กนัสตอบโดยเน้นไปที่ซัลลาซาร์มากเกินปกติ เพราะต้องการดูว่าลูเซียสกำลังไปถึงไหน
ลูเซียสยิ้ม “ใช่ เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะซัลลาซาร์ สลิธีริน เมอร์ลินคงไม่สามารถขึ้นไปบนที่สูงได้ ซัลลาซาร์ สลิธีริน เป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ที่มีพลังเหนือจินตนาการ แต่น่าเศร้าที่คนรุ่นหลังของเขาตายกันหมด แทบไม่มีผู้สืบสกุลเหลืออยู่เว้นแต่คนผู้หนึ่ง ทายาทที่แท้จริงของซัลลาซาร์ สลิธีริน”
แม็กนัสแสดงท่าทีตกใจ “เขาเป็นใครล่ะ?”
"ชายผู้ยิ่งใหญ่ที่เชื่อในตัวเรา สายเลือดผู้บริสุทธิ์ ภายใต้บัญชาของเขา เหล่าผู้วิเศษจะได้เห็นยุคใหม่ที่เราเป็นผู้ปกครองทั้งหมด" ลูเซียสอธิบายอย่างเพ้อฝัน
จากนั้นเขาก็ประกาศชื่อในที่สุด "ชื่อของเขาคือ ลอร์ด โวลเดอมอร์!..."
แม็กนัสปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว ~ พ่อมดศาสตร์มืดนั่นตามล่าฉันเหรอ? ผู้ติดตามของเขากำลังฆ่าคนอยู่นี่?~
"แล้วลอร์ดโวลเดอมอร์ปรารถนาจะให้เด็กอายุ 11 ขวบรับใช้งั้นหรอ?" แม็กนัสถาม
"ฮ่าฮ่า เปล่า-เปล่า เขาฉลาดและห่วงใยมาก เขาไม่ได้ต้องการให้เธอทำอะไรให้ เขาแค่ต้องการให้คุณเรียนรู้และแข็งแกร่งขึ้น แต่เพื่อแสดงความจงรักภักดี นายจะต้องสักที่แขน" ลูเซียสพูด
แม็กนัสพยักหน้า ลูเซียสรู้สึกยินดีอยู่ในใจ เขาคิดว่าภารกิจสำเร็จแล้ว
“นายรู้อะไรเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของฉันบ้าง” จู่ๆ แม็กนัสก็ถามขึ้น
ลูเซียสรู้สึกสับสน “แน่นอน พวกเขาต้องได้รับความเคารพนับถือจากเหล่าพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ หากเกี่ยวข้องกับเมอร์ลิน นายก็ต้องมีประวัติอันยาวนาน”
ตอนนี้ลูเซียสกำลังพูดเรื่องไร้สาระใน เขาไม่สามารถค้นหาได้ว่ามีตระกูลเวทมนตร์ใดที่เกี่ยวข้องกับแม็กนัส ดังนั้นเขาเดาว่ามันต้องเป็นตระกูลลับบางอย่าง
แม็กนัสส่ายหัว “ฮะ ผิดแล้ว นายคิดผิด ครอบครัวของฉันเป็นมักเกิ้ล ฉันเป็นพ่อมดคนแรกในตระกูล”
"และ...ข้อเสนอของลอร์ดโวลเดอมอร์...ฉันขอปฏิเสธ!..." เขาประกาศ
เกือบทุกคนหยุดพูด หลายคนเบิกตากว้างเมื่อเห็นการเปิดเผยนี้ โดยเฉพาะนาร์ซิสซ่ากับมัลฟอย บรรยากาศตึงเครียดมาก ราวกับว่าระเบิดจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ลูเซียสกัดฟันดังกรอดจนทุกคนได้ยิน เขาไม่ใช่คนที่จะโกรธใครง่ายๆ แต่ตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ถูกหลอกลวง เขาปฏิบัติต่อแม็กนัสอย่างดีหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟ เขายอมลดตัวลงเพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าเด็กชาย แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว
ในทางกลับกัน นาร์ซิสซามองแม็กนัสด้วยความ... สงสารหรอ?
ลูเซียสลุกขึ้นจากเก้าอี้ การเดาที่แย่ที่สุดของเขากลายเป็นจริง " แกไอ้เลือดสีโคลนโสโครก!... หลอกพวกเรา?... ใช้พวกเรา?... ลุกขึ้นมา!... ไปนั่งบนพื้นซะ! นั่นคือที่ๆ แกควรอยู่ นั่นคือค่าของแกไอ้สิ่งสกปรก "
แม็กนัสลุกขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ดวงตาสีฟ้าของเขากลับเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม คางของเขายกสูงด้วยความภาคภูมิใจและความมั่นใจ เขาตัดสินใจแล้วก่อนที่จะมาที่ฮอกวอตส์ว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ใครรังแกเขา
“นายถูกเลือดสีโคลนโสโครกหลอกงั้นเหรอ? อะไรทำให้นายเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดน้อยกว่าเลือดสีโคลนโสโครกล่ะหือ? อา ถ้าอย่างงั้นนายคือ สุดยอดเลือดบริสุทธิ์แห่งความโสมมล่ะ” แม็กนัสพูดกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
"หุบปากนะ! ไอ้เลือดสีโคลน!..."
*ควับ*
ลูเซียสหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาชี้ปลายไม้ไปแตะที่ศีรษะของแม็กนัส
"ก็ลองดูเด้!" แม็กนัสเปล่งเสียงด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้น ลูเซียสก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขาก้มมองลงไป มีไม้กายสิทธิ์ของแม็กนัสอยู่ แถมปลายไม้มันแตะที่เป้ากางเกงของเขา
ดวงตาของเขาสั่นไหวเล็กน้อยด้วยความตื่นตระหนก เขาหันกลับไปหาแม็กนัส "แกไม่กล้าหรอก เลือดสีโคลน!"
*เฮ้อ*
“นายรู้ไหมว่าเราทุกคนมี DNA เดียวกัน? เราทุกคนคือมนุษย์สายพันธุ์เดียวกันที่เรียกว่า โฮโมเซเปียนส์ อ่าฉันถามอะไรโง่ๆ แบบนี้นะ? สมองชิมแปนซียุคดึกดำบรรพ์ของนายไม่สามารถเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้
ฉันแนะนำให้นายลองนะ ระเบิดหัวฉันเลย แต่ฉันสัญญาว่าคุณจะไม่สามารถใช้เจ้ามัลฟอยน้อยกับน้องสาวนาร์ซิสซาแสนหวานได้อีกเลย หัวหน้าตระกูลมัลฟอยคงไม่ต้องการแบบนั้นใช่ไหมล่ะ?” แม็กนัสล้อเลียนเขาเสียงดังฟังชัดต่อหน้าทุกคน
ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาอยู่ที่นี่ แม็กนัสได้เรียนรู้สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับสลิธีริน นั่นคือกฎแห่งป่า กฎที่ว่าใครแข็งแกร่งที่สุดก็ครอบครองซึ่งตอนนี้คือลูเซียส แต่แม็กนัสก็ต้องการผู้ติดตามด้วยเช่นกัน แค่ 1 หรือ 2 คนก็เพียงพอแล้ว
"ฉันจะฆ่าแก" ลูเซียสเกรี้ยวกราด
แม็กนัสยิ้ม "ก็ลองดูเซ่!... แต่รู้ไว้อย่างหนึ่ง นายกำลังจะฆ่าทายาทคนสุดท้ายของเมอร์ลิน โลกแห่งเวทมนตร์ทั้งหมดจะตามล่านาย ไม่ใช่แค่ของนายแต่เป็นทั้งตระกูลของนายด้วย เรามีพยานเพียงพอซะด้วยสิ”
ตอนนี้มันมาถึงทางตันแล้ว แม็กนัสเริ่มเบื่อกับมัน ลูเซียสยังไม่กล้าทำอะไร เขาแค่ขู่ให้ผู้คนหวาดกลัวได้เท่านั้น
*เปรี้ยง*
~ ขอบคุณฮะพ่อ ~
แม็กนัสเตะ เป็นการเตะตามมาตรฐานกองทัพที่สมบูรณ์แบบไปที่หัวเข่าของลูเซียสจากด้านข้าง ทำให้เขาล้มลงคุกเข่า ต่อมาลูเซียสเห็นแม็กนัสคว้าคอตัวเองราวกับมังกรที่คีบคอเขา การคว้าจับของเด็กชายแข็งแกร่งอย่างไร้มนุษยธรรมและดวงตาของเขาดูเย็นชา
*แคก*
“ก่อนจะมาโรงเรียนนี้ ฉันไม่ได้เล่นกระบะทรายในสวนสาธารณะ
ฉันกำลังเรียนรู้ อ่านหนังสือ และจากการอ่าน ฉันรู้ว่าจะมีคนหัวดื้ออย่างนาย ลูเซียส มัลฟอย ฉันควรทำอย่างไรกับนายดี ฉันควรจบมันดีไหม?” แน่นอนว่าเขาเป็นแค่บลัฟ เขาไม่สามารถฆ่าคนแบบนั้นได้ อีกทั้งเขาไม่เคยฆ่าใครและไม่ต้องการทำมันตั้งแต่อายุยังน้อย
สิ่งที่เขาต้องการคือให้ลูเซียสยอมจำนน ลูเซียสตัวสั่น เขาหายใจไม่สะดวก
“ยอมจำนนซะ ลูเซียส มัลฟอย” แม็กนัสแนะนำ
มันเป็นความอัปยศอดสูอย่างมากสำหรับลูเซียส เขาปล่อยให้เรื่องนี้จบลงที่นี่ไม่ได้ มิฉะนั้น เขาจะกลายเป็นตัวตลกของทั้งโลกผู้วิเศษแห่งอังกฤษ เขาอยู่ปี 7 เป็นพ่อมดที่โตเต็มไว อย่างไรก็ตาม การพ่ายแพ้ให้กับนักเรียนปี 1 นั้นไม่มีทางเลือก
"ไม่-ไม่มีวัน!... อ-ไอ้เลือด-เลือดสีโคลน!... *คอนฟริงโก้!..."
ลูเซียสเล็งไม้กายสิทธิ์ของเขาไปที่ แม็กนัสทันที และมีแสงสีเหลืองสว่างออกมาจากปลายของมัน ตรงไปที่หัวของแม็กนัส
*ตู้มมมม...*
_____________________________
*คอนฟริงโก้ เป็นคำสาประเบิดทำลาย