ตอนที่ 292 คนทั้งสาม
“ขอถามหน่อย ท่านเฟ่ยอยู่ข้างในหรือเปล่า?”
เสียงของบุรุษคนหนึ่งดังออกมาจากข้างนอก
ผู้เฒ่าเฟ่ยสะดุ้ง และเรียกสติจากความคลั่งไคล้ พลางตะโกน“เชิญเข้ามาได้!”
เกิดอะไรขึ้นในวันนี้กันแน่? ปกติจะไม่ค่อยเห็นเงาใครสักคนที่นี่ แต่กลับมีคนมาต่อเนื่องสองคนและสามคน? สถานที่ๆ เขาอยู่ในเมืองหย่งอันก็อยู่ห่างไกลจากผู้คนมาก เพราะเขาไม่สามารถเช่าร้านติดถนนได้และไม่สามารถผลิตสายเลือดระดับสูงได้สำเร็จ ดังนั้นจึงมีคนรู้จักเขาน้อยมาก
คนทั้งสามที่เดินเข้ามาคาดไม่ถึงว่าจะมีคนอื่นอยู่ข้างใน บุรุษที่เพิ่งพูดดูเหมือนคนธรรมดาในตัวไม่อะไรที่โดดเด่นถ้าเขาปนเปเข้าไปในกลุ่มคนก็จะหายวับไปทันที
เมื่อเข้ามา เขาหยีตาและกวาดตามาทางถังเทียนและติงตัง ติงตังตัดสินคนทั้งสามได้เมื่อสบตากันทั้งสองมีแววประหลาดใจพร้อมกัน
ติงตังลดเสียงและบอกถังเทียน “คนผู้นั้นคือม้าขององค์การวิญญาณมืด ระดับของเขาไม่ต่ำต้อย น่าจะเป็นระดับเงิน”
บุรุษผู้นั้นก็ทำอย่างเดียวกัน แต่คนที่เขารายงานคือสุภาพสตรีวัยกลางคน
สตรีนางนั้นสบสายตาถังเทียนโดยบังเอิญและทั้งสองก็จ้องมองกัน
สตรีนางนั้นสูงราว 1.7 เมตรสวมชุดกระชับตัวและมีแว่นตาที่คลุมได้ถึงครึ่งหน้าเห็นแต่จมูกและริมฝีมือของนาง นางรั้งสายตากลับและมีสีหน้าเป็นปกติ
เทียบกับนางแล้วบุรุษล่ำสันที่อยู่ข้างนางน่าสนใจมากกว่า เขาสูงถึง 2.5 เมตร ด้วยรูปลักษณ์ใหญ่กำยำเหมือนเสาเหล็กมัดกล้ามเนื้อเป็นรูปชัดเจน เขามีศีรษะโล้นและตาของเขาก็จ้องมองอย่างจริงจังเต็มไปด้วยพลังสยบขวัญ
“ท่านเฟย,ขอถามได้ไหมว่าท่านสามารถสร้างสายเลือดหงส์เทาได้หรือไม่?” สตรีนางนั้นถามอย่างใจเย็น
“พลังสายเลือดหงส์เทา?” ผู้เฒ่าเฟ่ยผงะ และส่ายศีรษะ “ชาวหงส์เทาสูญพันธุ์มานานหมื่นปีแล้ว และตอนนั้น ประชากรของพวกเขาก็แทบจะนับจำนวนได้ พลังสายเลือดของพวกเขาไม่บริสุทธิ์ ในสงครามกลางเมืองของกลุ่มดาวหงส์เผ่าหงส์เทารบกับเผ่าหงส์ดำและหงส์ขาวและไม่มีสายเลือดเหลืออยู่เลย นอกจากนี้ทำไมถึงต้องเป็นหงส์เทาด้วยเล่า? พลังสายเลือดของชาวหงส์โอกาสกระตุ้นได้สำเร็จมีถึง70% และอาจจะยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นพลังสายเลือดของชาวหงส์ดำหรือหงส์ขาวทั้งนี้นับว่าดีทั้งนั้น”
สายตาของสตรีผู้นั้นมีแววชื่นชมและพยักหน้า “ท่านเฟ่ยมีความรู้มากจริงๆ โอกาสสำเร็จของสายเลือดหงส์เทามีถึง 70%เชียวหรือ?”
“สายเลือดหงส์เทาโบราณใช่ไหม?” ผู้เฒ่าเฟ่ยประหลาดใจ สายตาเขาเป็นประกาย “ท่านมีตัวอย่างสายเลือดหงส์เทาโบราณด้วยหรือ? นั่นเป็นไปไม่ได้! เผ่าหงส์เทาสูญพันธุ์ไปนานกว่าหมื่นปีแล้ว จะเอาตัวอย่างเลือดของพวกเขามาได้อย่างไร?”
สตรีนางนั้นหัวเราะ “เรามีห้าตัวอย่าง ข้าเชื่อว่าเพียงพอให้ท่านเฟ่ยผลิตสายเลือดหงส์เทาได้สำเร็จเกินกว่า 70% แน่นอนสำหรับราคาเราจะไม่เอาเปรียบท่านเฟ่ย เรายินดีจ่ายให้ท่าน 30 ล้านเหรียญดาวเป็นค่าตอบแทน”
สตรีนางนั้นมั่นใจมากในราคา เนื่องจากบริวารของนางได้สืบเรื่องของผู้เฒ่าเฟ่ยมาเป็นเวลานานแล้ว และนางเข้าใจสถานการณ์ของเขาได้กระจ่าง แม้ว่าผู้เฒ่าเฟ่ยจะไม่ถึงกับยากจน แต่เขาก็ยังรู้สึกกดดันเรื่องการเงิน มาตรฐานของเขามักโดดเด่น แต่เขามักขาดแคลนเรื่องเงินทุน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสร้างงานดีๆออกมาได้ ชื่อของเขาจึงไม่เป็นที่รู้จัก
เงื่อนไขที่นางมอบให้ไม่ต้องคำนึงถึงมุมมองที่นางเห็น นางคิดว่าผู้เฒ่าเว่ยคงยากปฏิเสธ
ตัวอย่างของสายเลือดหงส์เทาหาได้ยากมาก ถ้าไม่ใช่เพราะวาสนาส่งเสริม นางคงไม่สามารถจัดหามาได้ ตราบใดที่นางสามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ ชื่อเสียงของผู้เฒ่าเฟ่ยจะต้องโด่งดังแน่นอนและยังคงได้เงินอีก 30 ล้านเหรียญดาว
แต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็คือผู้เฒ่าเฟ่ยยังคงเงียบ
นางชะงักถอยหลัง แต่ไม่ได้เร่งรีบ นางรออย่างอดทน แต่ผู้เฒ่าเฟ่ยไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
ผู้เฒ่าเฟ่ยกำลังขัดแย้งในใจ เขารู้คุณค่าตัวอย่างสายเลือดหงส์เทาและมันมีถึงห้าตัวอย่าง ด้วยมาตรฐานอย่างเขา ถ้าเขามีโชคสักเล็กน้อย โอกาสสำเร็จถึง80% เขามีความรู้ที่ลึกซึ้งและประสบการณ์ที่มากมายเลือดหงส์เทาถือว่าบริสุทธิ์มาก เทียบกับหงส์ดำและหงส์ขาวก็ยังบริสุทธิ์มากกว่า และนั้นคือสาเหตุให้เกิดสงครามกลางเมืองกลุ่มดาวหงส์
สามสิบล้านเหรียญดาวฟังดูไม่มากเมื่อเทียบกับ 65ล้านเหรียญของถังเทียน แต่ปริมาณเมื่อเทียบกันห่างกันราวฟ้ากับเหว ผลิตตัวอย่างสายเลือดหงส์ห้าตัวอย่างเทียบกับผลิตสายเลือดหมาป่าสามหมื่นอย่างไหนง่ายกว่าย่อมชัดเจนในตัวอยู่แล้ว
แต่....
ใจของผู้เฒ่าเฟ่ยยังเต็มไปด้วยภาพเพลิงดำที่กลืนกินแผ่นพลังงานสามเหลี่ยม ต่อให้แผ่นพลังงานสามเหลี่ยมจะไม่ใช่สมบัติที่ทรงพลังก็ตาม แต่ก็ยังเป็นสมบัติดวงดาวชั้นเงินของกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือจะทำลายมันได้จะต้องใช้พลังมากมายมหาศาล แต่เพลิงดำกลับเผาผลาญจนเหลือแต่เถ้าถ่านอย่างเงียบๆ ไม่ ไม่ แม้แต่เถ้าถ่านก็ไม่เหลือ
เพลิงดำช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
ผู้เฒ่าเฟ่ยเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือด และความเข้าใจพลังสายเลือดดีกว่าอีกหลายคน แต่เขาไม่เคยเห็นเพลิงดำมาก่อนทั้งยังไม่เคยได้ยินมาอีกด้วย
ปริศนาทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับตัวคนที่สวมหน้ากากนี้ พลังสายเลือดในร่างของเขาเป็นแบบใดกันแน่?
แม้ว่าสายเลือดหงส์เทาจะเป็นสายเลือดโบราณ แต่กลุ่มดาวหงส์เป็นเพียงกลุ่มดาวขอบเหนือ แต่สายเลือดเพลิงดำก่อนนี้มีระดับสูงยิ่งกว่าสายเลือดหงส์เทามากมายอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าเป็นพลังสายเลือดชนิดใดก็ตาม
นั่นคือสิ่งที่ผู้เฒ่าเฟ่ยไม่สามารถต่อต้านได้
หลังจากคิดดูแล้ว ผู้เฒ่าเฟ่ยจึงเงยหน้าขึ้น “ข้าเสียใจด้วยจริงๆตัวอย่างสายเลือดหงส์เทามีระดับสูงมากจริงๆ แต่ข้าไม่คู่ควรพอ โปรดหาผู้เชี่ยวชาญคนอื่นเถอะ”
คนทั้งสามตะลึงกับคำพูดเหล่านี้
พวกเขาไม่คิดว่าผู้เฒ่เฟ่ยจะปฏิเสธพวกเขา ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดที่จนและล้มเหลวจะปฏิเสธข้อเสนอเงินสามสิบล้านที่จะทำให้เขามีชื่อเสียงได้จริงๆหรือ?
ความเงียบและความกดดันทวีคูณ
ทันใดนั้น สตรีผู้นั้นพูดเฉื่อยชา “เว้นแต่มีบางคนกำลังบังคับท่านใช่ไหม?”
นั่นคือความเป็นไปได้ประการเดียวที่นางเห็น
บุรุษร่างล่ำสันข้างนางแค่นเสียงทันใดนั้นเขาสืบเท้าออกมาและกางมือใหญ่ขนาดพัดคว้าตัวถังเทียน
แววตาเย็นชาวาบผ่านในดวงตาถึงเทียน บุรุษหนุ่มถังไม่รู้ว่าความกลัวคืออะไรอยู่แล้ว เมื่อฝ่ายตรงข้ามเงื้อหมัดหนุ่มถังก็คงไม่ยินดีด้วย
เผียะ
ฝ่ามือถังเทียนคว้าข้อมือของบุรุษร่างกำยำไว้เขาบิดเอวโดยไม่คิดอะไรหันมาเผชิญหน้ากับบุรุษร่างกำยำและปล่อยพลังใส่มือของเขา
บุรุษร่างกำยำไม่คิดว่าถังเทียนที่ดูเหมือนมีร่างกายอ่อนแอจะมีพลังขนาดนั้นทำให้เขาไม่ทันป้องกันและร่างกายเสียสมดุล
ถังเทียนเหวี่ยงบุรุษกำยำราวกับเหวี่ยงกระสอบทราย
ปัง!
เสียงดังสนั่นทำให้พื้นสั่นสะเทือน บุรุษร่างกำยำราวกับหอคอยเหล็กถูกถังเทียนทุ่มลงกับพื้นหินร่างกายครึ่งหนึ่งจมลงไปในพื้น รอบๆ มีรอยแตกนับไม่ถ้วน
ติงตังเข้าใจดีถึงอารมณ์ร้อนแรงของเจ้านายนาง ดังนั้นทันทีที่ถังเทียนเคลื่อนไหวนางรีบดึงผู้เฒ่าเฟ่ยถอยหลังออกมา
เจ้านายเหมือนอสูรร้ายชัดๆ!
ติงตังพึมกับตัวเอง บุรุษร่างล่ำสันรูปร่างใหญ่โตราวกับภูเขาย่อมๆแต่กลับถูกเจ้านายทุ่มได้ทันที ส่วนผู้เฒ่าเฟ่ยนัยน์ตาเป็นประกายระยิบระยับ สายเลือดแคระและสายเลือดเทพยังไม่เพียงพอทำให้ถังเทียนมีพลังขนาดนี้แน่ มันต้องเป็นพลังสายเลือดประหลาดในตัวเขาแน่นอน!
พลังสายเลือดนั้นน่าจะเพิ่มพลังให้กับร่างกายของเขาได้มากมายและไม่ปล่อยให้ขยายจนเกินไป
ผู้เฒ่าเฟ่ยตื่นเต้นมาก สมองของเขาเต็มไปด้วยการได้รับความลับของเพลิงดำและพลังสายเลือดที่ลี้ลับนั้น
ติงตังหรี่ตาทันที แม้ว่าบุรุษร่างกำยำจะถูกทุ่มลงไปนอนข้างล่างแต่อีกสองคนยังสงบใจเย็นอยู่มาก และไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เว้นแต่..
ก่อนที่นางจะทันได้เตือนถังเทียนมือขนาดเท่าพัดก็คว้ามือถังเทียนไว้
บุรุษร่างกำยำที่คว่ำหน้าอยู่กับพื้นส่งเสียงหัวเราะชั่วร้าย เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ
เอ๋!
ถังเทียนรู้สึกประหลาดใจที่บุรุษตัวซึ่งถูกทุ่มลงพื้นยังเป็นปกติอยู่ได้ ซึ่งนักสู้ส่วนใหญ่จะใช้เวลาครึ่งวัน แต่บุรุษกำยำนี้ยังยิ้มให้เขาได้ ทำให้ถังเทียนไม่สบายใจ
เฮ้, คนที่ได้ตำแหน่งมีเปรียบคือข้านะ
ประกายตาโกรธปรากฏในตาของถังเทียนแขนของเขาอ่อนเหมือนผ้าและเหวี่ยงอย่างนุ่มนวลและปล่อยคลื่นปราณแท้เข้าไปในร่างของบุรุษร่างล่ำสันทำให้เสียงหัวเราะชั่วร้ายชะงักค้างอยู่ที่หน้า
แม้ว่าจะไม่มีอะไร แต่ถังเทียนก็เหวี่ยงออกไป
ปัง!
เหวี่ยงอีกครั้ง!
ปัง!
เหวี่ยง เหวี่ยง เหวี่ยง!
ปัง ปัง ปัง
ติงตังและผู้เฒ่าเฟ่ยจ้องมองตกตะลึง ถังเทียนจับบุรุษล่ำสันเหวี่ยงเกินกว่าสิบครั้งในอึดใจเดียวก่อนที่จะหยุด
ทั่งทั้งพื้นที่ยุ่งเหยิง ถังเทียนกระแทกจนพื้นที่เป็นหลุม
“เฮ้,เจ้าตัวเล็ก ทั้งหมดที่ทำได้เท่านี้ใช่ไหม?”
บุรุษล่ำสันยกหน้าออกมาจากพื้น หน้าของเขายังคงยิ้มเหี้ยมเกรียมเหมือนกับแมวหยอกหนู
ครั้งนี้ถังเทียนประหลาดใจจริงๆ กระดูกของเจ้าผู้นี้ทนทานมากจริงๆ โดนกระแทกหนักขนาดนี้ก็ยังเฉยๆ
“แปลกมาก”
ถังเทียนตรงไปหาบุรุษร่างล่ำสันและแตะร่างเขาด้วยความสงสัย
“นอกจากมีกล้ามเนื้อมากเกินไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรต่างกันนี่”
“แต่..ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บแต่อย่างใด”
“ประหลาดมาก!”
….
ติงตังส่ายหน้า และรู้สึกอายมาก
เจ้านาย, ทำแบบนั้นไม่ได้นะ?
“ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนใช่ไหม?” บุรุษร่างบึ้กหัวเราะลั่นทันที
“ไม่เคย!” ถังเทียนส่ายหัว
“งั้นข้าจะแสดงให้เจ้าดู!”
บุรุษร่างกำยำหยีตา จับแขนของถังเทียนเขาปลดปล่อยพลังก้มตัวจากนั้นดีดตัวงอกลับหลังทันที
ทุ่มกลับหลัง (ซูเพลกซ์)
ไม่มีการใช้ท่าพิเศษ แค่ใช้กำลังภายนอกล้วนๆ
ปัง!
หินที่ถูกกระแทกแตกกระจายร่วงกราวดราวกับฝันติงตังปกป้องผู้เฒ่าเฟ่ยทันที แต่ท่าทีอีกสองคนทำให้ติงตังประหลาดใจ ม้าขององค์การวิญญาณมืดยังพอทำเนาพุ่งหลบหินตามปกติ ขณะที่สตรีนั้นไม่ขยับเลยแม้แต่นิ้วเดียวแต่หินที่ปลิวเข้าหานางจะหยุดอยู่กลางอากาศเหมือนกับปะทะพลังไร้สภาพและไม่สามารถเขยื้อนเข้าใกล้ได้สักนิ้ว
แข็งแกร่งมาก!
ดูเหมือนว่าพวกเขาพบเรื่องยุ่งยากเข้าแล้ว
บุรุษร่างกำยำผ่อนคลายและยืนขึ้นปัดฝุ่นในมือตนเองและแค่นเสียงว่า“เทียบพลังกับข้า เจ้าก็ต้องลำบากหน่อย” เขาไม่มองร่างถังเทียน และหันไปมองผู้เฒ่าเฟ่ย “ตาเฒ่า อย่าปฏิเสธสุราคารวะไม่ชอบหรือจะให้จับกรอก”
เขาไม่สนใจติงตังที่ปกป้องผู้เฒ่าเฟ่ยแม้แต่น้อย
“เจ้าตัวใหญ่เจ้าก็มีพลังอยู่บ้าง”
เสียงดังมาจากด้านหลังทำให้สีหน้าของบุรุษกำยำเคร่งเครียด สตรีที่มีสีหน้าเฉื่อยชา จู่ๆ ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นครั้งแรก และตะโกนเตือน“ระวัง!”
ร่างของถังเทียน ปรากฏอยู่ด้านหลังของบุรุษร่างกำยำ
หน้ากากอุรังอุตังที่ฝุ่นปกคลุมดูอำมหิตจนพูดไม่ออก
หน้าที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากเยือกเย็นเหมือนดาบ