ตอนที่ 10-21 กฎแห่งแสง
โอเซนโนและเลห์แมนบินด้วยความเร็วสูงมุ่งสู่ภูเขาแบล็คคราเวน ขณะเดียวกัน พวกเขาได้กระจายพลังจิตของพวกเขาปิดล้อมภูเขาแบล็คคราเวน
“ลินลี่ย์อยู่ที่ภูเขาแบล็คคราเวน เขาเป็นคนที่สวมชุดสีฟ้า!” โอเซนโนพูดทันที
“เข้าใจแล้ว”
ตาของเลห์แมนเป็นประกายแสง และขณะเดียวกันพลังในร่างของเขาเริ่มพุ่งสูงในมือของเลห์แมนมีไม้เท้ายาวสามเมตรปรากฏขึ้นมาทันที แม้ว่าจะเป็นไม้เท้ายาวสำหรับเขา แต่สำหรับคนธรรมดาต้องใช้คำว่ากิ่งไม้จึงจะเหมาะกว่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากเลห์แมนมีส่วนสูงถึง 2.5เมตรมือที่ใหญ่ของเขาสามารถกำได้รอบไม้เท้าหนาซึ่งมีอักษรรูนลึกลับสลักไว้
“อสูรเวทประเภทหนูไม่อยู่ที่นั่น,แต่ยังมีเซียนอีกสองคนปรากฏตัวอยู่ รวมทั้งสตรีธรรมดาอีกคนหนึ่ง หรือว่าจะเป็นเดเลีย?” โอเซนโนค่อนข้างสงสัย
แต่มาถึงตอนนี้แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาจะต้องคิดมาก
“บึ้ม” เหมือนกับสายฟ้าฟาดระเบิดข้างล่าง เลห์แมนกระชับไม้เท้าในมือพุ่งลงไปข้างล่างด้วยความเร็วสูง เขาไม่สนใจคนอื่น เป้าหมายของเขามีอยู่คนเดียวนั่นคือลินลี่ย์
ลินลี่ย์และเดเลียในตอนนี้กำลังต้อนรับอาคันตุกะ เดลี่และภรรยา! เดลี่กับภรรยาเพิ่งจะเดินทางไปที่ตำหนักเจ้าแม่น้ำแข็งหิมะและระหว่างทางกลับ พวกเขาแวะมาเยี่ยมลินลี่ย์เพื่อแสดงความยินดีกับเขา ขณะที่สองสามีภรรยากำลังสนทนาอย่างมีความสุข...
พลังงานที่น่ากลัวก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า เป้าหมายอยู่ที่ลินลี่ย์!
“หลบไปให้พ้น!” ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยนและผลักเดเลียออกไปทันที กระแสลมทะลักรอบตัวเดเลียทันที ขณะที่ลินลี่ย์เองแปลงร่างเป็นนักรบเลือดมังกรทันที ชุดสีฟ้าของเขาขาดเป็นชิ้นๆและดาบหนักอดาแมนเทียมปรากฏอยู่ในมือของเขา
ไม้เท้ายาวที่บรรจุพลังไม่มีที่สิ้นสุดปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาลินลี่ย์
“วืดดด!”
ตัวอากาศเป็นระลอกและชั้นราวกับว่ามิติเองถูกฉีกออกไม้เท้าเงินกระแทกใส่ลินลี่ย์โดยตรงเขารู้สึกว่ากำลังเผชิญอันตรายอย่างใหญ่หลวงอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเขาถูกตรึงอากาศโดยรอบกดดันใส่เขา
“ลินลี่ย์” เดเลียถูกผลักออกไปด้านข้าง จ้องมองเขาด้วยนัยน์ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แต่ขณะนี้เอง...
ลำแสงที่ขาวนวลเหมือนน้ำนมปรากฏอยู่ข้างหน้าลินลี่ย์ลักษณะเหมือนกับผ้าไหมสีขาว ไม้เท้าเงินซึ่งดูเหมือนบรรจุพลังไว้มากมายเพียงพอจะถล่มเขาแบล็คคราเวนได้ทั้งลูกกระแทกใส่ลำแสงสีขาวน้ำนมและเหมือนกับผ้าไหมสีขาวที่สร้างขึ้นจากพลังงาน
ผ้าไหมขาวเพียงแต่ยุบเข้าไปเล็กน้อย และไม้เท้ายาวไม่สามารถดันเข้าไปได้อีก
แต่ไม้เท้ายาวกลับสะท้อนพลังของเลห์แมนส่งผลให้เขาปลิวกระเด็นกลับไปก่อนจะลงยืนกับพื้นห่างออกไปร้อยเมตร โอเซนโนลงมายืนอยู่ข้างเลห์แมนจ้องมองเดลี่อย่างประหลาดใจ เขารู้ว่าคนผู้นี้เป็นผู้ขัดขวางเลห์แมน
“เจ้าเป็นใคร?” โอเซนโนกล่าว
“โอเซนโน, เป็นเจ้านั่นเอง!” ลินลี่ย์มีสีหน้าน่ากลัว เดเลียวิ่งมาอยู่ข้างลินลี่ย์ นางกังวลมาก
ตอนนี้ลินลี่ย์และเดลี่อยู่ในใจกลางทะเลสาบ ขณะที่เลห์แมนและโอเซนโนอยู่ที่ริมฝั่ง ทั้งสองฝ่ายต่างจ้องหน้ากันโดยมีน้ำกั้นกลาง
“กองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัส?” เดลี่ขมวดคิ้ว
ลินลี่ย์ลอบตกใจ “เดลี่เคยเป็นคนของศาสนจักรเจิดจรัส เขาคงไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์ผูกพันกับพวกเขาหรอกนะ?” ในเวลาเดียวกัน ลินลี่ย์คุยกับบีบีทางใจ “บีบี! เลิกเล่นที่ไพรทมิฬก่อน รีบกลับมาได้แล้ว กองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสบุกมาเคาะประตูบ้านแล้ว”
“พี่ใหญ่,ข้าจะรีบกลับไปอย่างสุดฝีเท้าทันที” บีบีตอบทันที
ลินลี่ย์มองดูโอเซนโนและเลห์แมนอย่างระมัดระวังทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลห์แมนผู้มีร่างสูงถึง 2.5เมตรให้ความรู้สึกที่น่ากลัวและน่าจดจำแก่ลินลี่ย์ “งั้นคนที่เพิ่งโจมตีข้าก็คือคนตัวใหญ่นี่สินะ คนตัวโตนั้นไม่ได้อ่อนด้อยกว่าโอเซนโนเลย”
“เดเลีย! เจ้าต้องปกป้องตัวเองให้ดีก่อน” ลินลี่ย์กระซิบบอกเดเลียที่อยู่ข้างๆ เขา
เดเลียไม่กล้าส่งเสียง นางไม่ต้องการรบกวนลินลี่ย์
“เจ้าเป็นใคร?” โอเซนโนจ้องมองเดลี่ “นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างลินลี่ย์กับศาสนจักรเจิดจรัส ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่แทรกแซง และดูเหมือนว่าเจ้าก็เป็นผู้ฝึกกฎธรรมชาติธาตุแสงเช่นกัน..วันนี้ถ้าเจ้าหลีกทางให้ ถือเสียว่าเห็นแก่หน้าของศาสนจักรเจิดจรัส ในอนาคตเราจะต้องตอบแทนแน่นอน”
เลห์แมนผู้หยิ่งผยองไม่พูดอะไรสักคำ
วิชาที่เดลี่เพิ่งใช้ออกทำให้เลห์แมนรู้ดีว่าคนผู้นี้คุกคามมากแค่ไหน
“ข้าคือ...เดลี่” เดลี่พูดในที่สุด
“เดลี่, เป็นเจ้าเองหรือ?”โอเซนโนและเลห์แมนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
เดลี่คือบุคคลในตำนานในศาสนจักรเจิดจรัสนานมาแล้ว เอินส์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ในตำนานได้ก่อตั้งสหภาพศักดิ์สิทธิ์ ในยุคนั้นเดลี่เป็นผู้นำหัวหน้าโยคีแห่งศาสนจักรเจิดจรัส
ตำแหน่งของเขาเสมอเทียบเท่ากับโยคีใบไม้ร่วงในปัจจุบัน
โอเซนโนและเลห์แมนมองหน้ากันเอง พวกเขาทั้งสองต่างคนต่างรู้สึกถึงความหวั่นเกรงกัน พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับเซียนจากยุคจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เอินส์ในตำนาน จากตอนนั้นถึงตอนนี้คงจะนึกภาพได้ว่าคนผู้นี้มีพลังเพิ่มขึ้นมากมายเพียงไหน
“ใต้เท้าเดลี่,ข้าหวังว่าท่านจะคิดถึงความสัมพันธ์แต่เก่าก่อนระหว่างเราทั้งสองฝ่ายไม่เข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้” โอเซนโนพูดอย่างจริงใจ
“ฮืม.. พวกเจ้าฝันอยู่แน่” เสียงเย็นชาดังขึ้นจากด้านหลัง เป็นเพนน์สลีนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ นั่นเอง
เพนน์สลีนส่งสัญญาณให้ลินลี่ย์ ‘ไม่ต้องเป็นห่วง’ เมื่อได้ยินคำพูดของเพนน์สลีนความกังวลของลินลี่ย์ก่อนนั้นผ่อนคลายลงไป แต่ลินลี่ย์ยังคงหันไปมองเดลี่.. ที่สำคัญ ผู้ตัดสินใจที่นี่ก็คือเดลี่
“เจ้ากำลังคิดอะไร?” เพนน์สลีโกรธเนื่องจากเห็นว่าเดลี่กำลังลังเล เท่าที่เพนน์สลีนกังวล ไม่จำเป็นต้องลังเลอะไร
เดเลียเริ่มกังวลมากขึ้นเช่นกัน นางมองดูเดลี่ด้วยความกังวล
“ใต้เท้าเดลี่หรือว่าท่านลืมความเมตตาที่ท่านเอินส์มีต่อท่านในอดีต?” โอเซนโนรีบกล่าว เดลี่ลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่จากนั้นก็ถอนหายใจกล่าว “ข้าไม่ยอมให้พวกเจ้าฆ่าลินลี่ย์ ตอนนี้พวกเจ้าไปได้แล้ว”
เดลี่รู้สึกเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีต่อศาสนจักรเจิดจรัสในกาลก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านเอินส์ ในอดีตทั้งสองสนิทสนมกันเหมือนกับเป็นพี่น้องที่แท้จริง
“ใต้เท้าเดลี่” โอเซนโนพูดอย่างไม่ยินยอม “ลินลี่ย์ผู้นี้ฆ่าหกเทวทูตและไม่แสดงความปราณีต่อศาสนจักรเจิดจรัสเลยแม้แต่น้อย ถ้าเขายังถูกปล่อยให้พัฒนาเติบโตขึ้นไปอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักรบอมตะอีกห้าคนข้างกายเขาจะต้องเป็นภัยคุกคามต่อศาสนจักรอย่างใหญ่หลวง ท่านเดลี่! หรือว่าท่านจะยอมมองดูศาสนจักรถูกเขาทำลายไป?”
เดลี่ขมวดคิ้ว
“ข้าบอกให้พวกเจ้าออกไป” น้ำเสียงของเดลี่หนักแน่นขึ้น
โอเซนโนและเลห์แมนมองหน้ากันเอง พวกเขาตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว
เลห์แมนจ้องมองเดลี่และพูดเสียงดัง “เดลี่ ในเมื่อเจ้าเป็นแบบนี้ เราไม่มีทางเลือกอื่น” ตอนนี้พวกเขาเรียกระบุชื่อของเดลี่โดยตรง ร่างของเลห์แมนมีเพลิงขาวสว่างทันที และพลังที่น่ากลัวเริ่มปะทุออกมาจากร่างของเขาหญ้าที่อยู่โดยรอบหายไปหมด
ไม้เท้ายาวสีเงินในมือของเขากระพริบเปล่งประกายเหมือนสายฟ้า
“ซีลล็อท?” เดลี่หัวเราะอย่างใจเย็น
ร่างของโอเซนโนเริ่มเปล่งเพลิงดำพอมีเพลิงดำร่างของเขาก็กลายสภาพเป็นโอเซนโนสี่ร่าง “เลห์แมน ข้าจะรับมือเดลี่นี้เอง ข้าจะปล่อยลินลี่ย์ให้เจ้าจัดการ” โอเซนโนรู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะอ่อนแอกว่าเดลี่ แต่พอใช้เงามายา เขาน่าจะตรึงเดลี่ไว้โดยไม่ลำบากอะไรมาก
“ท่านหญิงเพนน์สลีน, ข้าขอฝากเดเลียด้วย” ลินลี่ย์กระซิบ
“ไม่ต้องห่วง” เพนน์สลีนดึงเดเลียออกมาทันที เดเลียไม่พูดอะไร ได้แต่มองลินลี่ย์อย่างมีความหมาย ลินลี่ย์รู้สึกหัวใจพองโตต้องการจะเข้าสู้รบ “ไม่ว่ายังไง เพื่อเดเลียแล้ว ข้าจะตายไม่ได้”
ลินลี่ย์จ้องมองเลห์แมนอย่างเย็นชาทันที
“แล้วยังไงเล่าถ้าพลังโจมตีของเจ้ามีพลังมาก? สามารถฆ่าข้าด้วยการฟาดจากไม้เท้าเจ้าครั้งเดียวน่ะหรือ?” ร่างของลินลี่ย์เริ่มล้อมไปด้วยพลังปราณสีฟ้า-ดำ “พลังชีพจรคุ้มกันของข้าถึงระดับ 152 ชั้นแล้วบวกกับเกล็ดมังกรข้าคอยป้องกันตัวด้วย.. จะฆ่าข้าในท่าเดียวน่ะหรือ? ฝันไปเถอะ!” ลินลี่ย์รู้สึกมั่นใจในใจ
สัจจธรรมแห่งธาตุดินของเขาไม่ใช่เรื่องล้อเล่น “ขณะนี้ ข้าจะใช้วิชาสำรองล่าสุดของข้า” มือซ้ายของลินลี่ย์ถือกระบี่เลือดม่วงไว้แน่น ในช่วงเวลาวิกฤติเขาใช้พลังรังสีที่น่ากลัวที่อยู่ภายในกระบี่เลือดม่วง
“บึ้ม!” เสียงระเบิดกำแพงเสียงดังได้ยินขณะที่เลห์แมนพุ่งไปข้างหน้า
ขณะเดียวกันโอเซนโนสี่ร่างก็ปล่อยพลังระเบิดกำแพงเสียงขณะที่เขาพุ่งไปข้างหน้าขณะพัวพันเดลี่เอาไว้ เนื่องจากเขาเร่งความเร็วอย่างกะทันหัน ลมที่อยู่ใกล้ๆ เริ่มหวีดหวิว และหินถูกพัดกระเด็นหลุดจากบ้านศิลาของลินลี่ย์และหล่นกระแทกในที่ห่างออกไป ขณะที่น้ำในทะเลสาบยกตัวเป็นคลื่น
“น่าขัน!”
เสียงชัดเจนดังจากปากของเดลี่ เดลี่ยืนอยู่กับที่ในกลางอากาศ ขณะที่รอบตัวเขาเริ่มเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า ทันใดนั้น...เดลี่กลายเป็นดวงอาทิตย์และฉายแสงสีขาวตรงไปที่ร่างทั้งสี่ของโอเซนโนและเลห์แมนด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าใครจะไวเพียงไหน พวกเขาก็ไม่ไวไปกว่าแสง
ร่างทั้งสี่ของโอเซนโนและเลห์แมนสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนแสงสีขาวทันที ร่างทั้งสี่ของโอเซนโนสั่นสะท้านและสามร่างล่มสลายไปทันที ขณะที่ร่างสุดท้ายอยู่ในท่ามกลางเปลวเพลิงดำและเขาใช้มันต่อต้านแสงขาว
“ฮ่าหหห์” เลห์แมนคำรามด้วยความโกรธ และผนึกเพลิงขาวที่หน้าผากเปล่งแสงทันที
“ปัง!” เลห์แมนใช้ไม้เท้ายาวกระแทกกับม่านพลังป้องกันของเดลี่โดยตรง เดลี่ตกใจมาก ก่อนที่เขาจะมีโอกาสโจมตีครั้งที่สองลินลี่ย์กับเลห์แมนต่างก็ปะทะกันแล้ว
หลังจากทำลายผ่านม่านพลังแรกของเดลี่แล้ว เลห์แมนเห็นดวงตาสีทองเข้มและดาบหนักสีน้ำเงินเข้ม เลห์แมนตกใจทันที “เป็นลินลี่ย์!” เขาไม่ลังเลและตวัดไม้เท้าฟาดใส่ลินลี่ย์อย่างหนักหน่วง
ลินลี่ย์ไม่ยั้งมือแม้แต่น้อยใช้ดาบหนักอดาแมนเทียมและกระบี่ยาวเลือดม่วงโจมตีใส่อย่างต่อเนื่อง
“ตาย!” เลห์แมนคำรามด้วยความโกรธ หน้าตาของเขามีแววดุดัน ผนึกเพลิงขาวบนหน้าผากของเขาเริ่มสว่างเจิดจ้า และไม้เท้าเงินในมือของเขาดูเหมือนระลอกพลังกดดันใส่ลินลี่ย์อย่างน่ากลัว
ลินลี่ย์กระตุ้นพลังที่ร้ายกาจซึ่งแฝงอยู่ในกระบี่เลือดม่วงออกมาทันที
ตาสีทองของลินลี่ย์พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีและจิตสำนึกของเขาเต็มไปด้วยฉากภาพที่คุ้นเคยนั้นทันที...ทะเลเลือดไม่มีที่สิ้นสุด เต็มไปด้วยโครงกระดูกและซากศพเผ่าพันธุ์ต่างๆกองเต็มไปหมด ศพของยักษ์ที่สูงเกินสิบเมตรเต็มไปด้วยเกล็ดและเขาทั้งสอง โครงกระดูกสีขาวที่มีรอยสีทองประหลาด...
ซากศพและโครงกระดูกทั้งหมดมีรังสีของเซียนเป็นอย่างน้อย และบางส่วนก็น่ากลัวยิ่งกว่า
“อ๊า...” เลห์แมนคำรามอย่างเกรี้ยวกราดทันที
พลังที่ร้ายกาจนั้นทะลวงเข้าไปในจิตสำนึกของเขา รังสีที่น่าสยดสยองนั้นเป็นของยอดฝีมือที่ทรงพลังยากจะเข้าใจได้ ทำให้แม้แต่คนอย่างเลห์แมนนั้นก็ยังสั่นด้วยความกลัว แม้แต่เพลิงผนึกสีขาวที่หน้าผากของเขาก็ยังสั่น และไม้เท้าในมือของเขามีพลังอ่อนแอลง
“ปัง!”
ไม้เท้าเงินและดาบหนักอดาแมนเทียมปะทะกัน
สัจจธรรมแห่งธาตุดิน – พลังคลื่น 152 ชั้น!
ดาบหนักอดาแมนเทียมของลินลี่ย์ปะทะอย่างหนักมันสะท้อนกลับมาที่ร่างของเขาเมื่อพลังที่น่ากลัวสะท้อนปะทะกับพลังชีพจรป้องกัน พลังป้องกันก็พุ่งออกมาทันที พลังงานที่น่ากลัวซึ่งไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อนทะลวงผ่านแนวป้องกันได้
ลินลี่ย์ถูกกระแทกปลิวถอยหลัง...
“ลินลี่ย์” เสียงเดเลียดังอยู่ในระยะไกล
ลินลี่ย์ตีลังกาลงยืนที่ขอบทะเลสาบ เขายิ้มให้เดเลีย “ไม่ต้องห่วง, ข้าไม่เป็นไร” ขณะพูดลินลี่ย์ฝืนกล้ำกลืนเลือดที่พุ่งมาถึงลำคอ เมื่อเห็นเกล็ดมังกรที่หน้าอกแตก ลินลี่ย์อดรู้สึกสะดุ้งกลัวไม่ได้
ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาไม่ได้ใช้กระบี่เลือดม่วงบางทีเขาอาจจะบาดเจ็บหนักและล้มไปแล้วก็ได้
เลห์แมนยังคงยืนอยู่ในกลางอากาศ มีรอยเลือดไหลออกมาจากปากของเขา สายตาของเขาเห็นได้ชัดแล้ว
“บัดซบ” เลห์แมนคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว และหวดไม้เท้าเงินใส่ลินลี่ย์อีกครั้ง
“ฮึ่ม..”
เสียงแค่นเยือกเย็นสามารถได้ยินชัดและระลอกคลื่นที่มองเห็นด้วยตาเปล่าแผ่ออกมาจากร่างของเดลี่ ในพริบตาก็ปะทะใส่ร่างเลห์แมน ร่างขนาดมหึมาของเลห์แมนสั่นสะท้านและจากนั้นก็ร่วงลงจากท้องฟ้า “ตูม!” เขาจมลงในทะเลสาบ
“พวกเจ้าทั้งสองอย่าบีบบังคับให้ข้าลงมือจะดีกว่า” เดลี่มีสีหน้าที่น่ากลัว