Chapter 17 การสร้างแนวป้องกันภูเขา
เมื่อได้ยินการแนะนำของฮั่นหยูทุกคนอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
“มันน่าทึ่งขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเทคนิคแบบนี้มาก่อน”
“ในเมื่อเจ้าสำนักพูดเช่นนั้นก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ เจ้าสำนักดูเหมือนคนที่คุยโม้รึไง?”
“ไอ้บ้าเอ๊ย เทคนิคการฝึกตนนี้ยอดเยี่ยมเกินไป ฉันก็อยากจะเรียนรู้เรื่องนั้นเหมือนกัน”
“แต่ต้องให้ไข่มุกเรืองแสงหนึ่งแสนเม็ดก่อนเนี่ยสิถึงจะได้มันมา”
พวกศิษย์สนทนากันด้วยความอิจฉาริษยา แม้แต่ผู้อาวุโสก็ยังอิจฉา ท้ายที่สุด ใครจะไม่ถูกล่อลวงด้วยเทคนิคการฝึกตนชั้นยอดเช่นนี้?
หลังจากได้ยินคำแนะนำของฮั่นหยูดวงตาของ เย่ซวนก็อดไม่ได้ที่จะสว่างขึ้น นี่คือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้ ท้ายที่สุด เขาต้องทำภารกิจให้สำเร็จและได้รับคะแนนสุรุ่ยสุร่ายมากมาย
หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มันจะดึงดูดสายตาที่โลภของผู้ที่มีแรงจูงใจซ่อนเร้น อย่างไรก็ตามระดับการฝึกตนของเขาไม่สูงนัก พฤติกรรมแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กถือทองเดินโซเซไปตามตลาด การปล้นเงินคงจะเป็นเรื่องธรรมดาในอนาคตอย่างแน่นอน
ด้วยเทคนิคการบ่มเพาะนี้ จากนี้ไปเขาสามารถท่องโลกได้อย่างอิสระ
“ขอบคุณเจ้าสำนักจากใจจริง!”
เทคนิคความเร็ว วิธีการบ่มเพาะจิตกำหนดเจตจำนงทางจิตวิญญาณ เทคนิคการหายใจกำหนดความแข็งแรงของร่างกาย และการฝึกการป้องกัน นอกจากนี้ยังมีวิชากำปั้น วิชาดาบ วิชาหอก และอื่น ๆ
เย่ซวนไม่รีบร้อนสำหรับสิ่งอื่นๆที่เหลือ ดังนั้นเขาจึงสามารถพักพวกมันไว้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม วิธีการฝึกตนทางจิตมีความสำคัญมากกว่า ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจขอคำแนะนำจากฮั่นหยูหากมีโอกาสในอนาคต
หลังจากพิธีเปิดฮั่นหยูได้รวบรวมทุกคนและศิษย์ที่โดดเด่นเข้าด้วยกัน
“ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือการสร้างแนวป้องกันภูเขา”
แนวป้องกันภูเขามีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีและหน้าตาของสำนัก จุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือสำนักไท่ฉิงก่อตั้งขึ้นในเทือกเขาฉีเซียมีสัตว์อสูรมากมายอยู่ใกล้ๆ การป้องกันเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพื่อความปลอดภัยของเหล่าศิษย์และป้องกันการโจมตีจากสัตว์ร้ายที่ทรงพลัง
ก่อนหน้านี้ฮั่นหยูได้สร้างเพียงค่ายกลที่เรียบง่าย แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะครอบคลุมทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงภูเขาทั้งลูก มันต้องการความสามารถที่แข็งแกร่งในการต้านทานศัตรูทุกประเภท
ไม่เพียงแต่ต้องใช้ความพยายามมากเท่านั้น แต่วัตถุดิบที่ต้องใช้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนปวดหัว ท้ายที่สุดเราต้องการสิ่งของจำนวนมาก แม้แต่เซี่ยอี้ซวนที่ต้องการอวดต่อหน้าฮั่นหยูก็ไม่กล้าที่จะโอ้อวด
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง มีคนแนะนำตัวเองว่า “เจ้าสำนัก ฉันค่อนข้างรู้เรื่องค่ายกล หากท่านไม่ว่าอะไร ท่านก็ปล่อยให้การก่อสร้างแนวป้องกันภูเขาเป็นหน้าที่ของฉันเถอะ”
ฮั่นหยูมองไปที่คนที่มาข้างหน้า เป็นผู้อาวุโสที่หก “ฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้กับผู้อาวุโสที่หก”
“แต่ฉันต้องตรวจสอบเป็นระยะ”
ในไม่ช้าภายใต้การนำของผู้อาวุโสที่หก ทุกคนก็เดินไปรอบ ๆ สำนักไท่ชิง คนอื่นไม่มีความรู้เรื่องค่ายกลเท่าไร ถึงบางคนจะมีความรู้บ้างแต่ก็มีความเข้าใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
วิธีการสร้างนั้นลึกซึ้งมาก วิธีการฝึกฝนหลักคือเทคนิคดาบ เทคนิคคาถา เทคนิคกำปั้น และอื่น ๆ แต่ยังมีคนเช่นผู้อาวุโสที่หกที่ฝึกฝนค่ายกล วิธีทำเครื่องรางของขลัง ยาเม็ด หรือการปรับแต่งอาวุธ
ในขณะนี้ ผู้อาวุโสคนที่หกกำลังถือเข็มทิศอยู่ในมือ มันเป็นแบบโบราณมาก สลักด้วยก้านสวรรค์และกิ่งก้านของโลก ห้าองค์ประกอบและแปดตรีโกณมิติ เข็มสั่นเล็กน้อยและดูสวยงามมาก
บางครั้งพวกเขาก็เห็นผู้อาวุโสที่หกหยุดเป็นครั้งคราว เขายังคงพึมพำและวาดภาพในหัว มันดูลึกลับทีเดียว แม้ว่าพวกเขาจะสงสัย แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะกลัวจะเป็นการรบกวนผู้อาวุโสที่หก
ผู้อาวุโสที่หกเกือบจะเดินผ่านไปทุกทิศทางแล้ว จากนั้นทุกคนก็ตามเขาไปที่ยอดเขาที่ถูกห้อมล้อมด้วยหมู่เมฆและหมอก ราวกับคนๆ หนึ่งสามารถจับดวงดาวและดวงจันทร์ด้วยมือเดียว ทิวทัศน์สวยงามมาก จากนั้นผู้เฒ่าคนที่หกก็วางเข็มทิศ
“ฉันมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับเค้าโครงของสำนักแล้ว นี่คือยอดเขาที่สูงที่สุด ที่ซึ่งฉันสามารถมองเห็นภูมิประเทศของภูเขาทั้งหมดได้ดีขึ้น และสามารถมองเห็นสถานการณ์ทั้งหมดจากมุมสูงได้”
ทุกคนยืนอยู่บนยอดเขาและมองไปในระยะไกล เช่นเดียวกับที่ผู้อาวุโสที่หกกล่าว สำนักไท่ชิงทั้งหมดอยู่ในสายตาของพวกเขา พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่บนยอดเขาและมองลงมายังภูเขาลูกเล็กๆ
“คุณจะเห็นได้ว่าทิศทางทั้งหมดของสำนักไท่ชิงของเรานั้นจากต่ำไปสูง จากเหนือจรดใต้ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเป็นที่ราบและโล่ง ทิศทางโดยรวมดีมาก จะเห็นได้ว่าที่นี่ได้รับการคัดเลือกด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดี”
ดังสุภาษิตที่ว่า “จงยืนหยัดและมองให้ไกล” อันที่จริง จะเห็นว่าต้นไม้ขึ้นต่ำทางทิศเหนือและสูงทางทิศใต้ ยิ่งกว่านั้น พืชพรรณทางตะวันออกและตะวันตกมีน้อย ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ
“ยิ่งกว่านั้น สำนักไท่ชิงตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกจากใจกลางเทือกเขาทั้งหมด ทิศตะวันออก เป็นทิศที่ดี เป็นตำแหน่งที่เป็นมงคล ดวงอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันออก และโชคลาภมาจากทิศนั้น ดังนั้น สถานที่ที่มีพลังวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในเทือกเขาจึงถูกรวบรวมไว้ที่นี่ด้วย”
“นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมมีสัตว์อสูรมากมายอยู่ใกล้ๆ ยิ่งสัตว์อสูรแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณพิเศษในที่แห่งนี้ จากนั้นพวกเขาจะเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ”
หลังจากฟังเรื่องราวของผู้อาวุโสคนที่หก ทุกคนก็รู้สึกกระจ่าง เมื่อพวกเขามองลึกลงไป พวกเขาพบว่ามีสัตว์อสูรที่ทรงพลังกว่าทางทิศตะวันออก
“มันบังเอิญมากที่เราสามารถยืมความแข็งแกร่งของพลังงานวิญญาณได้ที่นี่ ตราบใดที่เราพบจุดศูนย์กลาง เราสามารถดึงพลังงานทางจิตวิญญาณจากเทือกเขาฉีเซียเพื่อใช้ในการก่อร่างสร้างตัว สิ่งนี้จะช่วยเราประหยัดความพยายามได้มาก”
“แผนนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ” ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
เย่ซวนนึกถึงผู้อาวุโสคนที่หกที่จู่ ๆ ก็พาพวกเขามาที่นี่ ดังนั้นเขาจึงเดาว่า “นี่อาจเป็นศูนย์กลางที่ผู้อาวุโสหกพูดถึง?”
ผู้อาวุโสคนที่หกแสดงท่าทีเห็นด้วย “ผู้อาวุโสเย่เป็นคนฉลาดและมีความเข้าใจสูง นี่คือจุดที่ดวงตาของขบวนทัพทั้งหมดอยู่ และฉันจะใช้มันเป็นศูนย์กลาง”
“ในห้าธาตุและแปดเหลี่ยม ลองดูว่ารูปร่างของภูเขาในสองทิศทางนี้มีความแตกต่างหรือไม่”
ทุกคนมองไปยังทิศทางที่ผู้อาวุโสคนที่หกชี้ไป
เทือกเขาที่นั่นสูงและต่ำลงเป็นชั้นๆ ทอดตัวยาวออกไปหลายพันลี้ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าอะไรคือความแตกต่าง
“ผู้อาวุโสหก อย่าเจ้าบทเจ้ากลอนนักเลย บอกเรามาเลยเถอะ”
