41
บทที่ 41
ไลแคนโทรปวิ่งเข้าหา ฮยอนอู จากด้านหน้าพร้อมกับกรงเล็บที่แหลมคม ขณะเดียวกันไลแครโทรปอีกตัวก็พุ่งเข้ามาจากด้านข้างโดยที่ปลายกรงเล็บของมันชี้ตรงมายังช่วงท้องของเขา อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นลูกไฟลูกเล็ก ๆ ก็กระแทกเข้ากับใบหน้าของไลแครโทรปตัวแรกอย่างกะทันหัน
เมื่อ ฮยอนอู เห็นไลแครโทรปตัวนั้นเซกลับไปด้านหลัง เขาก็ไม่ลังเลที่จะใช้ดาบในมือปลิดชีพมันทันที
[ไลแคนโทรปถูกกำจัดแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
ขณะเดียวกันไลแคนโทรปอีกตัวก็ถูกสกิลสายฟ้าฟาดของ ทังอี โจมตี
[ไลแคนโทรปติดสถานะผิดปกติ อัมพาต ]
ฮยอนอู ก็ปิดฉากไลแคนโทรปตัวนี้อย่างง่ายดายอีกครั้งด้วยการใช้ออร่าดาบผสานกับสกิลสไตรค์ มันทำให้ร่างของไลแคนโทรปถูกผ่าเป็นสองส่วนราวกับเต้าหู้
[ไลแคนโทรปถูกกำจัดแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
[เลเวลอัพ ]
[พลังชีวิต และพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู ]
ฮยอนอู ไม่มีเวลาให้ตรวจสอบหน้าต่างสถานะ หรือข้อความแจ้งเตือนการเลื่อนระดับเลเวล เพราะในเวลานี้ เมสัน ก็รีบก้าวเข้ามาหาเขาพร้อมกับ ทังอี
“พี่ครับ ผมขอสัมผัสตุ๊กตาหมีของพี่สักครั้งได้ไหม” เมสัน พูดด้วยแววตาเป็นประกาย
“นายท่าน ปกป้องข้าด้วย สายตาของมนุษย์คนนี้ไม่น่าไว้ใจ !!” ทังอี คว้าขากางเกงของ ฮยอนอู พร้อมกับพยายามอ้อนวอน
“ฉันให้นายแตะต้องเขาไม่ได้ถ้าเขาไม่ชอบ” ฮยอนอู ส่ายศีรษะ เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้ ทังอี ทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ อย่างไรก็ตาม ยกเว้นเพียงสิ่งนั้นคือสิ่งที่ ฮยอนอู ต้องการ
.....
[หน้าต่างสถานะ ]
[ชื่อตัวละคร : คัง ฮยอนอู ]
[เลเวล : 86 ]
[อาชีพ : อัศวินแห่งคิออน ]
[ฉายา : ศิษย์ของ เลอบรอน , นักรบที่ ข่าน ให้การยอมรับ , ดาวดวงใหม่ที่ เลอบรอน ให้การยอมรับ , คนแรกที่ได้เข้าสู่พระราชวัง , คนแรกที่ได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิ , ชัยชนะ 100 ครั้ง ติดต่อกัน , โซโลเรดเดอร์ , นักล่ามังกรทะเลทราย ]
[ค่าสถานะ : ความแข็งแรง : 165 (+300) , ความคล่องแคล่ว : 260 (+150) , ความอึด : 140 (+280) , พลังเวทมนตร์ : 130 (330) , จิตวิญญาณต่อสู้ : 83 (+100) ]
[แต้มสเตตัส : 0 ]
‘ฉันเลเวลอัพแล้ว’
ฮยอนอู ยิ้มอย่างพอใจ เขาพอใจกับการเพิ่มระดับเลเวลอย่างรวดเร็วของตัวเองอย่างมาก นอกจากนี้ความเร็วในการเพิ่มระดับเลเวลของเขายังไม่ลดลงเลยแม้ว่าเขาจะมีเลเวลมากกว่า 80 แล้วก็ตาม
“ว่าแต่นายเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สองเป็นอาชีพอะไรเหรอ !?” ฮญอนอู ถาม เมสัน ที่กำลังเล่นอยู่กับ ทังอี
“เอิ๊ก !!”
“ฮี่ ๆ....!!”
‘ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะเข้ากันได้ดีแบบนี้’
ทังอี ดูเหมือนจะเป็นอันธพาลตัวเล็ก เพราะเขาเอาแต่ขี่คอของ เมสัน อยู่ตลอดเวลา
“ผมเหรอ !?ผมเป็นจอมเวทของหอคอยเวทมนตร์ครับ ผมได้ยินว่านี่เป็นคลาสอาชีพที่ดีมากผมก็เลยเลือกมัน”
“จอมเวทของหอคอยเวทมนตร์ !?”
หลังจากได้ยินแบบนั้น ฮยอนอู ก็คิดว่ามันดูเหมาะสมกับเขาแล้ว อันที่จริงด้วยความสามารถในการจัดการเวทมนตร์ของ เมสัน มันก็เพียงพอให้เขากลายเป็นจอมเวทของหอคอยเวทมนตร์ได้ นอกจากนี้มันก็คล้ายกับคลาสอาชีพลิรูมองค์ของ คิม ซอกจอง จอมเวทของหอคอยเวทมนตร์เป็นคลาสอาชีพที่สามารถหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ง่าย
ความยากหลัก ๆ ของการเปลี่ยนคลาสอาชีพเป็นจอมเวทของหอคอยเวทมนตร์ก็คล้ายกับลิรูมองค์อยู่เช่นกัน ผู้เล่นที่ต้องการเปลี่ยนเป็นคลาสอาชีพนี้ พวกเขาจะต้องรู้วิธีควบคุมพลังเวทมนตร์ได้ในระดับหนึ่งก่อน นอกจากนี้ในภารกิจเปลี่ยนคลาสอาชีพ พวกเขาจะต้องใช้สกิลเวทมนตร์ที่แตกต่างกันได้อย่างน้อยสามประเภท
อย่างไรก็ตาม มีผู้เล่นเพียง 1% เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนคลาสอาชีพเป็นจอมเวทของหอคอยเวทมนตร์ได้ มันเป็นเพราะมีเพียงผู้เล่นส่วนน้อยมากที่สามารถทำตามเงื่อนไขทั้งหมดได้
“ฉันไม่คิดเลยว่านายมีพรสวรรค์ขนาดนี้” ฮยอนอู พูด
“พี่อย่าพูดแบบนั้นเลย มันน่าอายเกินไปที่ถูก อัลเลย์บอส ออกปากชม” เมสัน บิดตัวไปมาเล็กน้อยให้กับคำพูดกึ่งจริงจังกึ่งล้อเล่นของ ฮยอนอู
เขารู้สึกเขินอย่างแท้จริง ท้ายที่สุดแล้ว ฮยอนอู ก็คือ อัลเลย์บอส สตรีมเมอร์หน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดในอารีน่าตอนนี้ นอกจากนี้เขายังมีทักษะที่น่าเหลือเชื่อ เขากลายเป็นไอดอลของผู้เล่นนับไม่ถ้วนที่ต้องการเดินตามรอยเขา สถานะของ ฮยอนอู เปลี่ยนไปอย่างมากนักตั้งแต่เขาปล่อยวีดีโอ และสตรีมหลายครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมันแตกต่างจากที่พวกเขาพบกันในครั้งแรกอย่างมาก
“มาลุยกันต่อเถอะ ยังมีเวลาเหลืออยู่”
ทั้ง ฮยอนอู และ เมสัน มีเวลาพักเพียง 30 นาที นี่คือเวลาที่เหลืออยู่สำหรับพวกเขาทั้งสองคน
.....
ฮยอนอู ออกจากอารีน่าเพื่อจัดการสิ่งต่าง ๆ เขาเปิดแล็บท็อปไว้ก่อนจะผละไปอาบน้ำให้ชื่นใจ
“ไอ้เจ้าบ๊า ยองชาน เอ๊ย !!ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าปรับเครื่องทำน้ำอุ่นที่ค่าเริ่มต้น !!”
ฮยอนอู โพล่งขึ้นมาทันทีที่น้ำเย็นไหลออกจากฝักบัวชโลมไปที่ศีรษะของเขา อย่างไรก็ตาม ความเหนื่อยล้าสะสมที่เกิดขึ้นก็ดูเหมือนจะถูกชะล้างออกไปได้อย่างดี
“ตอนนี้มีความคืบหน้ามากแค่ไหนแล้วนะ !?มีอีเมลอะไรถูกส่งมาหาฉันหรือเปล่า !?”
ฮยอนอู กำลังรอคำตอบจาก NIKE เขากำลังรอแผนดำเนินการทั้งหมดของรายการศึกราชันหน้ากากของเขา
“อันดับแรก ฉันจะต้องซ่อนตัวตนของฉัน และใช้รูปลักษณ์ใหม่ในการเข้าร่วมรายการ รายการนี้จะมีผู้เล่นที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมจำนวนมากแน่”
ฮยอนอู หยิบนมช็อกโกแลตของโปรดออกมาจากตู้เย็น จากนั้นเขาก็หย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาหน้าแล็บท็อปเพื่อเช็คอีเมล
“โอ้ !!มีเมลถูกส่งมาหาฉัน !?เอลลิส ต้องการอะไรหว่า !?” ฮยอนอู พบอีเมลสองฉบับในกล่องขาเข้า อีเมลฉบับแรกถูกส่งมาจาก เคล และอีกหนึ่งฉบับถูกส่งมาจาก เอลลิส ปกติแล้ว เอลลิส จะไม่ส่งอีเมลมาหาเขาก่อน ฮยอนอู รู้เรื่องนี้หลังจากที่พวกเขาทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว “หรือมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา !?”
ฮยอนอู รีบคลิกไปที่อีเมลจาก เอลลิส เพื่อตรวจสอบทันที
[ขอแสดงความยินดีกับการเปิดตัวบนรายการทีวีของคุณ ]
[รายการศึกราชันหน้ากากของคุณ ผมเองก็ได้เข้าร่วมรายการนี้ในฐานะผู้กำกับด้วยเหมือนกัน ตอนนี้ผมบรรลุความฝันของผมแล้วระดับหนึ่ง ผมจึงอยากส่งอีเมลฉบับนี้มาเพื่อขอบคุณคุณ]
[ปล. ต่อจากนี้ไม่ต้องจ่ายค่าตัดต่อวีดีโอให้ผมแล้ว มันเพียงพอแล้วที่คุณทำให้ผมสามารถบรรลุความฝันของผมได้ ]
“อืม ...” ฮยอนอู พยักหน้าเบา ๆ ขณะที่ยังคงดื่มนม เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลก ๆ ในใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ใครบางคนรู้สึกขอบคุณเขาแบบนี้
“เคล ส่งอีเมลเรื่องอะไรมาให้ฉันกันนะ !?”
ฮยอนอู ตรวจสอบอีเมลจาก เคล ต่อทันที
[ถึง มิสเตอร์จี ข่าวดี !!]
[ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น การวางแผนทั้งหมดไม่สามารถทำให้สมบูรณ์แบบไปได้มากกว่านี้แล้ว สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวคือเราไม่สามารถรวบรวมแรงค์เกอร์ได้มากกว่านี้ เรารวบรวมคนที่มีชื่อเสียงมาได้ประมาณ 30 คนแล้ว มีไฟล์แนบ ... ]
“30 คน !?นี่มากกว่าที่ฉันคิดอีก ... มันจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า !?”
ฮยอนอู คิดว่ารูปแบบรายการของศึกราชันหน้ากากจะสามารถใช้เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้มากสุดเพียงสี่ถึงห้าครั้ง และมันน่าจะสามารถนำมาสตรีมได้เพียงหนึ่งเดือน แต่ทว่า NIKE กลับมีแนวคิดที่ต่างไปจากแนวคิดเดิมของเขาอย่างสิ้นเชิง NIKE คิดว่า ศึกราชันหน้ากาก สามารถนำมาถ่ายทอดบนรายการโทรทัศน์ได้ อีกทั้งพวกเขายังวางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดสตรีมมิ่งด้วยช่นกัน นี่จะกลายเป็นอาวุธลับที่ไม่เพียงแต่สามารถใช้จัดการกับคู่แข่งของ ฮยอนอู ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ NIKE ชิงความได้เปรียบจากคู่แข่งทางการตลาดของพวกเขาได้อีกด้วย
[ปล. วันที่เริ่มถ่ายรายการศึกราชันหน้ากาก ผมจะเดินทางไปที่เกาหลีใต้ด้วย นอกจากผมแล้วบอสของผมก็จะเดินทางไปกับผมเหมือนกัน ]
หลังจากอ่านอีเมลของ เคล แล้ว ฮยอนอู ก็เปิดไฟล์ที่ถูกแนบมาพร้อมกับอีเมล ไฟล์นี้คือรายละเอียดของรายการศึกราชันหน้ากาก ในนี้ยังมีรายชื่อของแรงค์เกอร์ที่ตอบรับคำเชิญของรายการถูกระบุไว้ด้วย ฮยอนอู กวาดตามองไปยังรายชื่อทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็หรี่แคบลงเมื่อเขาอ่านมาจนถึงชื่อของคนคนหนึ่ง
[ดาบอินทรี (จอง ฮันแบค) ]
ชื่อของคนที่ทำลายครอบครัวของเขาปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่าโอกาสในการแก้แค้นของเขาจะมาถึงเร็วกว่าที่เขาคาดไว้
“สวรรค์กำลังเข้าข้างฉัน”
ฮยอนอู เหลือบมองนาฬิกาพลางเขย่าขวดนมที่ว่างเปล่า
“ฉันต้องคว้าโอกาสนี้ไว้”
เขากลับไปในแพลตฟอร์ม A-World ยังเหลือเวลาอีกมากกว่าจะถึงเวลานัดกับ เมสัน อย่างไรก็ตาม แทนที่จะพักผ่อน ฮยอนอู ยังมีบางอย่างที่สำคัญกว่าให้เขาต้องทำ ... แก้แค้น !!
.....
ฮยอนอู ไล่ฆ่าไลแคนโทรปอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าเขาจะยังใช้ดาบคมยาวมือเดียวของคนแคระอยู่เหมือนเดิม แต่ทว่าไลแคนโทรปที่มีระดับเลเวลสูงกว่า 100 ก็ไม่สามารถรอดชีวิตไปจากดาบของ ฮยอนอู ที่ถูกเสริมด้วยสกิลต่าง ๆ ได้
[ไลแคนโทรปถูกกำจัดแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
[เลเวลอัพ ]
[พลังชีวิต และพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู ]
“ทังอี !!” ฮยอนอู อัญเชิญ ทังอี ออกมาตามปกติ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอนายท่าน !?” อย่างไรก็ตาม ทังอี กลับถามออกมาด้วยความสับสน
ในตอนนี้ใบหน้าของ ฮยอนอู น่ากลัวอย่างมาก ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงดาบออกไปมันทำให้เขาดูเหมือนกับปีศาจร้ายจากขุมนรก โดยปกติแล้วไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากแค่ไหน ฮยอนอู มักจะยิ้ม และแสดงถึงความตื่นเต้นออกมาเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่ตอนนี้ ทังอี กลับไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นบนใบหน้าของ ฮยอนอู แม้แต่นิดเดียว
“ทำไมฉันถึงเป็นคนใจแคบแบบนี้ !!”
“นายท่าน มีคนใจแคบคนไหนทำให้ท่านอารมณ์เสียเหรอ !?’ เมื่อได้ยินเสียงพึมพำจากปากของ ฮยอนอู , ทังอีก็รีบถามขึ้นมาทันที
“เปล่าหรอก มันไม่ใช่แบบนั้น” ฮยอนอู พูดพร้อมกับอุ้ม ทังอี ขึ้นมาบนไหล่ “ฉันหมายถึงฉันเป็นคนใจแคบ ฉันใช้ชีวิตเพื่อตัวฉันเอง และไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี แต่จริง ๆ แล้วฉันเป็นคนที่ไม่ยอมให้อภัยใครง่าย ๆ”
“แล้ว !?”
“เมื่อไม่นานมานี้ฉันตระหนักได้ว่าฉันมีความแค้นที่ต้องจัดการ”
“นายท่าน ท่านเป็นคนดี นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านเป็นเจ้านายของข้า” ทังอี พูดพร้อมกับเปลี่ยนที่นั่งจากไหล่ของ ฮยอนอู ไปเป็นหลังคอของเขา จากนั้นก็เริ่มใช้อุ้มเท้านวดไปบนศีรษะของ ฮยอนอู
“พี่ เป็นอะไรไหมครับ” ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนา ฮยอนอู รีบหันศีรษะกลับไปก็มองเห็น เมสัน กำลังเดินเข้ามา “พี่เป็นคนดี หากพี่รู้สึกโกรธแค้น มันไม่ได้หมายความว่าพี่เป็นคนใจแคบ แต่มันหมายความว่าคนที่ทำให้พี่โกรธแค้นคือคนที่ชั่วช้าจริง ๆ ผมเชื่อว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นมากกว่า”
ความเคารพ และชื่นชมของ เมสัน ที่มีต่อ ฮยอนอู ยังคงหนักแน่นไม่สั่นคลอน
‘ฉันคงเป็นคนดีจริง ๆ’
“ไปล่ากันเถอะ” ฮยอนอู พูดพร้อมกับลูบศีรษะ เมสัน เบา ๆ
“ไปลุยกันเลยนายท่าน”
…..
ฮยอนอู สะบัดดาบในมือเล็กน้อยเพื่อล้างคราบเลือดที่ปกคลุมอยู่ออก
ห้าชั่วโมง นี่คือเวลาที่ทีมของ ฮยอนอู ใช้ไปกับการล่าในดันเจี้ยนลับแห่งนี้ ช่วงหยุดพักเลือนหายไป ทุกวินาทีคือการตามหาและกำจัดไลแคนโทรปอย่างบ้าคลั่ง เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการล่า
และมันก็ค่อนข้างน่าพอใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ระดับเลเวลของตัวเองมาถึง 88 แล้ว ขณะเดียวกัน เมสัน ที่เพิ่งเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สอง และมีเลเวลอยู่ที่ 100 ก็เพิ่มระดับเลเวลมาถึง 101 ได้แล้ว ความเร็วในการล่าของพวกเขาดูไม่สมเหตุสมผลแม้แต่นิดเดียว ท้ายที่สุดแล้วผู้เล่นทั่ว ๆ ไปในระดับเลเวล 100 พวกเขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันกว่าจะเพิ่มระดับเลเวลได้หนึ่งระดับ
[ไลแคนโทรปถูกกำจัดแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
“พี่ ผมคิดว่าเราน่าจะเคลียร์ดันเจี้ยนลับนี่ได้แล้วไม่ใช่เหรอ !?” เมสัน พูดขึ้นด้วยความสับสนหลังจากจัดการกับไลแคนโทรปตัวสุดท้ายในกลุ่ม เมสัน ครุ่นคิดเงียบ ๆ ‘ฉันคิดว่าเราน่าจะเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ได้สักรอบแล้วไม่ใช่เหรอ!?’
“ทำไมเรายังไม่เห็นห้องบอสเลย !?” เมสัน พูดขึ้นอย่างสงสัย
“ฉันเห็นมันก่อนหน้านี้แล้ว” ฮยอนอู ตอบ
เมื่อสามชั่วโมงก่อน ฮยอนอู ได้เห็นสถานที่บางจุดที่ดูเหมือนจะเป็นห้องบอส
“เอ้าพี่ !!แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมล่ะครับ !!”
“ถ้างั้นเราจะหยุดล่าพวกไลแคนโทรป แล้วกลับไปจัดการกับบอสกัน นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าฉันกำลังบอกนายอยู่ตอนนี้เหรอ !?” ฮยอนอู พูดราวกับเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
“งั้นเราก็ไปจัดการกับบอสกันเถอะ” เมสัน พูดพลางส่ายศีรษะให้กับท่าทีของ ฮยอนอู
.....
ด้วยเหตุนี้ ฮยอนอู , เมสัน และ ทังอี จึงใช้เวลานานมากกว่าปกติกว่าจะเข้าสู่ห้องบอส บอสน่าจะอยู่ในพื้นที่แปลก ๆ ที่ ฮยอนอู พบเห็นก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงเริ่มย้อนกลับไปตรวจสอบตามตำแหน่งพื้นที่แปลก ๆ โดยเริ่มจากจุดที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน อย่างไรก็ตาม ทีมของพวกเขาได้ล่าไลแคนโทรปลึกเข้าไปในดันเจี้ยนเป็นเวลานาน นั่นทำให้เมื่อพวกเขาย้อนกลับมาบนเส้นทางเดิมอีกครั้ง ไลแคนโทรปก็เริ่มเกิดใหม่กลับมาอีกครั้งแล้ว นั่นทำให้พวกเขาเริ่มตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ตรงพื้นที่แปลก ๆ จุดที่สองพวกเขาก็ยังคงล้มเหลว ‘ได้โปรดอยู่ที่จุดต่อไปเถอะ’ ทุกคนรุดหน้าไปยังจุดที่สามด้วยความคาดหวัง และความกระวนกระวายในใจ ทุกคนต่างหวังว่าที่จุดสุดท้ายจะมีบอสปรากฏตัวอยู่
ภายในห้องบอสขนาดใหญ่ มอนสเตอร์ที่แตกต่างจากกลุ่มมอนสเตอร์ที่ทีมของ ฮยอนอู ได้ต่อสู้ด้วยกำลังรอพวกเขาอยู่ มันคือมนุษย์หมาป่ายักษ์ที่มีขนสีเทา ไลแคนโทรปต่ำทราม !!!!