2079 - เหน็ดเหนื่อยจนราชาอมตะยังต้องกระอักเลือด
2079 - เหน็ดเหนื่อยจนราชาอมตะยังต้องกระอักเลือด
“แม้ว่าเขาจะมาจากดินแดนเบื้องล่างที่ยากจน แต่คนผู้นี้ก็ไม่อ่อนแอจริงๆ” มีคนกล่าวชื่นชม
ในสนามประลองนั้นเข้มข้นเป็นพิเศษ ทั้งสองต่อสู้กันมานานกว่าแปดร้อยกระบวนท่า
ในท้ายที่สุดสิงโตเก้าเศียรก็ถูกสือฮ่าวกระแทกฝ่ามือใส่หน้าอกจนทำให้เขากระอักเลือดออกมาและปลิวตกจากสนามประลอง
“เจ้าค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับข้าแล้วมันแตกต่างกันราวกับสวรรค์และปฐพี เจ้าถือว่าอ่อนแอเกินไป! เห็นแก่หน้าพี่น้องร่วมสาบานของข้าที่อยู่ในอาณาจักรด้านล่างวันนี้พอแค่นี้เถอะ”
สือฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นและพูดเสียงดัง
ฟ่อ!
หลายคนปล่อยเสียงคำราม พวกเขาต่อสู้กันถึงแปดร้อยกระบวนท่า การต่อสู้ที่ขมขื่นขนาดนี้เจ้ายังคงบอกว่าความแตกต่างเหมือนสวรรค์และปฐพี?
นี่นับว่าผ่อนปรนได้หรือ? เจ้าเพิ่งได้รับชัยชนะด้วยความบังเอิญต่างหาก!
เส้นเลือดขนาดใหญ่สั่นกระตุกบนหน้าผากของจินซู เขาพ่ายแพ้ พ่ายแพ้ต่อหน้าทุกคนโดยเจ้าเด็กเหลือขอคนนั้น นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถยอมรับได้
“หากเจ้ากล้าก็สู้อีกรอบ!”
“เจ้ามีอะไรมาเดิมพัน? ถ้าจะสู้กับข้าเจ้าต้องเอาเดิมพันที่มากกว่าเดิมสิบเท่าออกมาก่อน มิฉะนั้นข้าไม่มีอารมณ์ร่วมเล่นกับเจ้า” สือฮ่าวมองเขาด้วยความรังเกียจ
จินซูโกรธมาก เขาหันหลังจากไป เขาจะไปเอาอาวุธและยืมทรัพยากรของสหายของเขามาเดิมพันก่อนจะกลับมาต่อสู้อีกครั้ง
หลายคนแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าคนจากอาณาจักรล่างนี้หยิ่งผยองเกินไป
“ถ้ารับไม่ได้ก็มาเถอะ จักรพรรดิองค์นี้จะสอนความอ่อนน้อมถ่อมตนทั้งหมดให้กับพวกเจ้าอย่างเหมาะสม” สือฮ่าวชี้ไปที่บุคคลที่กำลังตะโกนด่าเขา
"เจ้ารนหาที่ตาย?!" คนผู้นั้นคำรามด้วยความโกรธ
ในเวลานี้ผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและองค์หญิงเหยาเยว่ก็มาทันเหตุการณ์พอดี
พวกเขาล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตในเก้าสวรรค์สิบแผ่นพิภพและยังมาเข้าร่วมการชุมนุมที่โดดเด่นอีกด้วย เมื่อทราบข่าวพวกเขาก็รีบมาที่นี่ทันที
แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งสองคนถึงกับพูดไม่ออก เจ้าเด็กคนนี้ที่จริงก็เข้าสู่ดินแดนอมตะเช่นกัน
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเขาจะติดอยู่ในอาณาจักรล่าง แต่ตอนนี้ เขาวิ่งไปที่เมืองราชาพาน ยิ่งกว่านั้นยังเริ่มความวุ่นวายแบบเดิมอีก สมกับเป็นเขาจริงๆ ไม่ว่าจะไปที่ใดก็สามารถสร้างความปั่นป่วนได้!
“เจ้าพูดอยู่กับใคร!” ข้างล่างเด็กหนุ่มผมสีเขียวจ้องเขม็ง ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน
“ผมสีเขียวหากเจ้ากล้าต่อสู้ก็ขึ้นมา? จักรพรรดิองค์นี้จะสอนวิธีปฏิบัติอย่างถูกต้องให้เจ้ารู้ซึ้งถึงความหมายของความอ่อนน้อมถ่อมตน!” สือฮ่าวชี้มาที่เขาและทำหน้าหยิ่งผยองราวกับว่าเขาเป็นจักรพรรดิองค์เดียว
“เจ้ารออยู่ตรงนั้นก่อน!” บุคคลนั้นโกรธมากจริงๆการที่ถูกเรียกว่าผมเขียวนั้นทำให้เขารู้สึกรับไม่ได้
ทุกคนที่เป็นผู้สูงสุดล้วนมีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะมีชื่อเล่น แต่ชื่อเล่นของพวกเขานั้นมีความองอาจกล้าหาญไหนเลยจะมีเจ้าผมเขียวผมเหลืองอะไร
ไม่น่าแปลกใจที่จินซูโกรธจัดและยืนกรานที่จะต่อสู้กับเขา มันมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังนี่คือสิ่งที่เด็กหนุ่มผมสีเขียวคิด จากนั้นเขาก็ไม่สามารถนั่งเฉยๆได้อีกต่อไป
“ผมเขียว ข้ากำลังพูดถึงเจ้าอยู่ จงรีบขึ้นมาที่นี่แล้วจักรพรรดิคนนี้จะล้มเจ้าด้วยแขนเดียวให้ดู พวกเจ้าก็เหมือนกัน ผมขาว ผมม่วง ผมฟ้า?” สือฮ่าวตะโกน
ด้านล่างทุกคนพบว่ามันยากที่จะสงบลง ในหมู่พวกเขามีผู้บ่มเพาะผมสีเงิน ผมสีม่วง และผมสีฟ้า ซึ่งใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที
เด็กเหลือขอคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการยั่วยุคนอื่น คนกลุ่มที่อยู่ด้านล่างไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้อีกต่อไป
สือฮ่าวไม่เคยวางแผนที่จะยอมจำนนต่อความอับอายหลังจากที่เขาเข้าสู่ดินแดนอมตะ เนื่องจากเขามีสัตว์ประหลาดสี่ตัวมาด้วยเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมาก
นี่เป็นสถานที่ที่เขาถูกเชิญมาเพื่อทำให้อับอายขายหน้า ดังนั้นจึงไม่มีความหมายอะไรที่เขาจะต้องแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนออกมา
ตอนนี้เขาเล่นเป็นคนโง่อยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ผิดหรอกแค่หน้าด้านเท่านั้น ใครก็ตามที่มองเขาด้วยความเกลียดชังจะถูกตอบโต้ทันที
“ข้าจะสู้กับเจ้าเอง!” แน่นอนว่าชายหนุ่มผมเขียวคนนั้นไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่สนามประลอง
“เดี๋ยวก่อน เจ้ามีทรัพยากรระดับเซียนหรือไม่? จักรพรรดิองค์นี้จะไม่ต่อสู้กับคนยากจน ข้ามีเมตตาและเป็นกุศลเสมอมา” สือฮ่าวตะโกนขวางหน้าเขา
บางคนสาปแช่ง ความเมตตากรุณา นี้เป็นความโลภอย่างเห็นได้ชัด เจ้าเป็นคนขี้เหนียวกล้าแม้กระทั่งเอ่ยปากขอดูกระเป๋าเงินของผู้อื่น
“เจ้า…” ชายผมเขียวชี้มาที่เขาใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย
“ผมเหลือง อย่ารีบร้อนออกไป ให้ข้าตรวจสอบสินค้าคงคลังก่อน ดูว่าทรัพยากรที่เจ้าทิ้งไว้เพียงพอหรือไม่” สือฮ่าวตะโกนตามจินซู
จินซูส่ายหน้าเกือบล้มลง
เด็กหนุ่มผมสีเขียวขึ้นไปบนเวทีด้วยเสียง ฮัวลา เขาวางกองทรัพยากรขนาดใหญ่ที่ข้างเวที พวกมันพร่างพรายอย่างเหลือเชื่อ บางส่วนลอยอยู่ในอากาศ บางส่วนกองอยู่ที่พื้น ลึกลับและทรงพลังเต็มไปด้วยสีสันสดใส
ทรัพยากรเหล่านั้นเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆ ที่ปลดปล่อยพลังชีวิตมากมายมหาศาลออกมา
“มากกว่าของเจ้าผมเหลืองนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่มาก…” สือฮ่าวกล่าว เขาพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
ฮ่อง!
ทันใดนั้น เถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของชายผมสีเขียว มันกลายเป็นโซ่ศักดิ์สิทธิ์ที่พันเข้าหาสือฮ่าว เขาดำเนินการทันทีหลังจากก้าวขึ้นมาบนเวที
"ดี!" สือฮ่าวเผชิญหน้ากับศัตรูของเขา
นี่คือการต่อสู้ระหว่าง 'มังกรพยัคฆ์' การต่อสู้ครั้งนี้ยิ่งใหญ่ยาวนานกว่าเก้าร้อยกระบวนท่า
สือฮ่าวปลดปล่อยรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์จากฝ่ามือ ระเบิดชายผมสีเขียวบินออกไปนอกเวที เลือดพุ่งออกมาจากปากและจมูกของเขาไม่หยุด
“เจ้าแข็งแกร่งกว่าผมสีเหลืองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เทียบกับข้าแล้วเจ้ายังห่างชั้นอีกมากกลับไปฝึกฝนพันปี!” สือฮ่าวกล่าว ใบหน้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและหายใจไม่ออกเล็กน้อย
ทุกคนอ้าปากค้างเมื่อมองมาที่เขา เจ้าเหนื่อยถึงขนาดนี้แล้ว ต่อสู้มาจนถึงเก้าร้อยกระบวนท่า อะไรคือความห่างชั้นที่เจ้าพูดถึง? เจ้าเพียงชนะผิวเผินเท่านั้น
ไป๋เจ๋อและจื่อคุนต่างก็สาปแช่งในใจ รู้สึกเหมือนกับว่าไอ้คนนี้มันไร้ศีลธรรมเกินไปหน่อย นี่เป็นความตั้งใจ เขาต้องการหลอกล่อให้คนอื่นลงมือต่อสู้มากกว่านี้
สิ่งมีชีวิตสูงสุดสองคนจากตระกูลเอ๋าก็อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าบิดเบี้ยวเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถพูดความจริงได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้น่าละอายเกินไป
ด้วยเสียงฮัวลา สือฮ่าวรวบรวมกองทรัพยากรเก็บไว้ไหนสิ่งประดิษฐ์เชิงพื้นที่
“เดี๋ยวก่อน ค่านายหน้าของเราเจ้ายังไม่ได้จ่าย” เจ้าของร้านพูดขึ้นก่อนหน้านี้เขาอึ้งเล็กน้อยเกือบลืมไป
“เจ้าของร้าน ที่ประทับของราชาอมตะของโรงเตี๊ยมนี้เจ้ายินดีขายหรือไม่? ข้าต้องการซื้อมัน” สือฮ่าวกล่าว
เจ้าของร้านกลอกตา มีที่ประทับของราชาอมตะไม่มากนักในเมืองราชาพาน แต่ว่าเจ้ามีปัญญาซื้อหรือ?
คนอื่นๆพูดไม่ออกทุกคนมองมาที่เขา ชายผู้นี้กล้าพูดจริงๆ เขาหมายปองแม้กระทั่งที่ประทับของราชาอมตะ
มีเพียงผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและองค์หญิงเหยาเยว่เท่านั้นที่เข้าใจเจตนาของเขา แม้ว่าตอนนี้สือฮ่าวจะแกล้งเป็นคุ้มคลั่งเหมือนคนสติไม่สมประกอบ แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เขาต้องการคือที่ประทับของราชาอมตะนั้นเอง
“ของที่กองอยู่ตรงนี้ยังไม่พออีกเหรอ” สือฮ่าวกล่าวด้วยความงุนงง
“เจ้าหนู จริงจังหน่อยสิ ต่อให้มีทรัพย์สมบัติมากกว่าของพวกนี้อีกแสนเท่าล้านเท่าก็ไม่สามารถแลกที่ประทับของราชาอมตะได้ ที่ประทับของราชาอมตะเจ้ารู้หรือไม่ว่าต้องทำลายจักรวาลมากเท่าไหร่ถึงจะรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์ได้พอ” เจ้าของร้านที่มีเคราหลอมแหลมกล่าว
สือฮ่าวรู้สึกตกใจจากภายในใจ ที่ประทับของราชาอมตะต้องใช้พลังงานมากถึงขนาดนี้? พวกเขาต้องทำลายดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตไปมากมายเท่าไรถึงจะพอเลี้ยงดูมัน?
“มีใครอีกไหมที่อยากจะต่อสู้กับข้า” สือฮ่าวถามเสียงดัง
ด้านล่างผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและองค์หญิงเหยาเยว่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
นี่เป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ เขาปลุกปั่นให้เกิดความโกลาหลไม่รู้จบในดินแดนเบื้องล่าง และตอนนี้เขาเริ่มมันอีกครั้งในดินแดนอมตะ
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมา เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวว่าผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลราชาอมตะเอ๋าเฉิงมีความเกลียดชังต่อฮวง
ก่อนหน้านี้เขาพยายามเกี้ยวพาชิงยี่ อย่าบอกนะว่าการที่ฮวงมาที่นี่ครั้งนี้ก็เป็นแผนการของเขาด้วย?
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความตกใจ
“ข้าจะสู้กับเจ้าเอง!” แน่นอนว่ามีคนที่ทนไม่ได้จึงต้องกระโดดขึ้นไปบนเวทีเพื่อต่อสู้กับเขาอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน ข้าขอพักสักหน่อย ข้าต่อสู้สองรอบติดต่อกันแม้แต่ราชาอมตะก็ยังต้องเหน็ดเหนื่อยจนต้องกระอักเลือดออกมา!” สือฮ่าวโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย
หลายคนมองเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม ราชาอมตะจะกระอักเลือด?
ในระดับนั้นพวกเขาสามารถต่อสู้เป็นเวลาหลายปีโดยไม่หยุดพัก ก่อนหน้านี้เคยมีราชาอมตะที่ไม่มีใครเทียบได้ได้ต่อสู้กันเป็นเวลาเกือบพันปีจนกระทั่งมีใครคนหนึ่งตายการต่อสู้จึงยุติลง