ตอนที่แล้วตอนที่ 287 จ่าตรีระดับทอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 289 ซือหม่าเซี่ยว

ตอนที่ 288 การตัดสินของถังเทียน


รังสีดาบไล่มาถึงด้านหลังพวกเขาและสองคนที่เอาแต่หนีอย่างบ้าคลั่งก็รู้สึกถึงได้  พวกเขาใจหายวาบ

ทั้งสองคนมีประสบการณ์ต่อสู้มากมายและรู้ว่าถึงเวลาสู้เพื่อเอาชีวิตรอดแล้ว

รังสีบนตัวของอันไป่กระพริบและร่างของเขาแยกเป็นหก ร่างลวงตาแยกออกเป็นหกและวิ่งไปในทิศทางที่แตกต่างกันทันที

เหมาจวินร้องลั่นรอยเลือดแดงปรากฏบนหลังของเขาทำให้หน้าของเขาแดงก่ำเหมือนกับว่ามีเลือดไหลออกและปีกแสงสีแดงจู่ๆ ก็ปรากฏอยู่บนหลังของเขา  ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นกลายเป็นเหมือนประกายแสง

ทั้งสองรู้ว่าพวกเขาไม่อาจชะงักงันได้พวกเขาไม่ลังเลใจใช้วิชาเพื่อหนีเอาตัวรอด

อย่างไรก็ตามรังสีดาบเย็นยะเยียบไวกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก ร่างลวงตาทั้งหกของอันไป่เพิ่งไปได้สามก้าว สามร่างทางด้านขวาก็ถูกตัดคอทั้งหมดโดยไม่มีอะไรขวางเลยแม้แต่น้อย

เหมาจวินกำลังหนีไปรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดและความเจ็บปวดแผ่ขยาย ขณะที่เลือดพุ่งกระจายในอากาศ แต่เขาไม่ยอมหยุดเขาเพิ่มความเร็วและหายลับไปจากสายตาของพวกเขา

ขณะนั้นเองมีร่างหนึ่งส่งเสียงร้องออกมา ร่างของอันไป่ล้มลงกับพื้นทราย ศีรษะของเขาปลิวหาย เขาโชคร้ายเกินไปเขาคือหนึ่งในสามร่างที่ถูกตัดคอ

ร่างอื่นๆของอันไป่ค่อยๆ จางหายไป

ถังอี้ยังมีสีหน้าเฉื่อยชาม้าของเขาชะลอความเร็วลง เขายังอยู่ในท่าขวางดาบดูทรงพลัง

เกิดความปั่นป่วนประหลาดใจในท่ามกลางชนเผ่าทั้งหลายและเมื่อพวกเขาออกมากันหมด พวกเขามาทันได้เห็นพลังดาบของถังอี้และตกตะลึงทุกคน

ท่ามกลางความเงียบถังอี้พูดเฉื่อยชา “ไปฝึกกันต่อ”

ถังเทียนกับหลิงซิ่วยังคงประหลาดใจกับเพลงดาบของถังอี้

ดาบของเขาเกิดจากการแปรสภาพพลังของนักสู้ยี่สิบคนเบื้องหลังเขา  มันทรงพลังมากเกินกว่าทั้งสองคนจะนึกภาพออก  นักสู้ระดับสวรรค์วิถีสองคนเผชิญหน้ากับดาบของเขาคนหนึ่งตาย คนหนึ่งบาดเจ็บ

ตาของถังเทียนมีประกายลุ่มหลงเขาไม่รู้ว่าผลจะเป็นเช่นไรระหว่างกรงเล็บเพลิงภูตพรายกับรังสีดาบของถังอี้

หัวใจของหลิงซิ่วปั่นป่วนเพราะเหตุผลบางอย่าง  เขาคิดถึงพาหนะน้ำแข็งเงินและเสียงเพลงประหลาดที่ดังออกมาจากกลุ่มเมฆ เขาสะบัดศีรษะขับไล่ความคิดออกไป ยืดร่างกายตรงหมุนตัวเดินห่างออกมาพร้อมกับหอกในมือ ขณะเดียวกันก็แค่นเสียง  “ใช้คนมากมายเอาชัยนับเป็นความเข้มแข็งอะไรกัน”

ถังเทียนไม่เห็นด้วยกับเขากล่าวพลางเกาศีรษะ “ข้าคิดว่ามันทรงพลังดี!”

หลิงซิ่วเดินห่างออกไปไม่สนใจถังเทียน

สายตาถังเทียนเป็นประกายแวววาวเขาตะโกนพร้อมกับโดดตัวเลย “สินสงคราม!”

เขาหายไปราวกับม่านควันและพุ่งมาหยุดอยู่ที่ศัตรูล้มลง

นักสู้สวรรค์วิถีใจกว้างกันทั้งนั้น  นอกจากของเบ็ดเตล็ดอื่นๆ แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเกราะเงินชุดหนึ่ง “เกราะขยายตัว” จากกลุ่มดาวแมลงวัน

อันไป่แยกร่างเป็นหกร่างก็คือวิชาร่างจำแลงกลุ่มดาวแมลงวันซึ่งเป็นวิทยายุทธของเกราะ

เมื่อเห็นเกราะถังเทียนคิดถึงอาโมรี่ขึ้นมาทันที

เจ้าวัวแมลงวันคิดถึงชื่อนี้แล้วดูเหมาะสมกันดี

หลังจากบรรลุพลังระดับเจ็ด พลังของถังเทียนก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดและพลังเกลียวเงินในร่างของเขาแกร่งกร้าวทนทานเกราะเงินจากกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้คงไม่อาจทนทานต่อปราณแท้ของเขาได้อีกต่อไป

ดูเหมือนว่าดีที่สุดควรจะหาซื้อเกราะเงินจากกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือดีกว่า

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ถังเทียนค่อนข้างกระสับกระส่าย

สมาพันธ์ชาวยุทธขายเกราะจากกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนืออยู่เหมือนกัน  แต่เกราะทั้งหมดแพงมาก ราคาเริ่มต้นอย่างน้อยร้อยล้านเหรียญดาว  หลังจากมองดูชั่วขณะแล้ว เขารู้สึกอ่อนใจ  ของแพงขนาดนั้นซื้อมาย่อมไม่มีปัญหา  แต่เขาต้องซื้อเกราะให้เหมาะสมกับเขา

เขาตัดสินใจไปเมืองสามวิญญาณเพื่อถามติงตังก่อนและนับเป็นโอกาสดีที่จะได้คลายสงสัยในเรื่องพลังสายเลือดของเขา

เมื่อกลับมาเมืองสามวิญญาณเซรีนเห็นที่ปิดตาของถังเทียนแล้วรู้สึกประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้นกับตาของเจ้า?”

“มีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ นั่นแหละ”  เมื่อพูดถึงเรื่องตา  ถังเทียนรู้สึกขมขื่นใจ  เขาไม่เข้าใจมันเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตาของเขา ดังนั้นเขาดึงที่ปิดตาออก “ดูเอาเอง”

เซรีนเข้ามาดูใกล้ๆและเกิดอาการงง “โหว, น่าสนใจดี! ตาแดงข้างหนึ่ง ตาฟ้าข้างหนึ่ง  คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเป็นคนประหลาด  ประหลาดจริงๆ”

“ประหลาดเหรอ? ประหลาดยังไง?”  ถังเทียนไม่สบายใจ  “ข้าเป็นมนุษย์ปกติชัดๆ”

เซรีนล้อเลียน“คนปกติมีตาแดงตาฟ้าที่ไหนกันเล่า?”

ถังเทียนตอบเสียงอ่อย“มันอาจเป็นปัญหาที่พลังสายเลือดของข้าก็ได้”

“พลังสายเลือด?”  เซรีนทำตาประหลาดใจเมื่อคิดเรื่องแปลกประหลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับร่างกายถังเทียน  นางไตร่ตรอง “เจ้าคงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน”

“นั่นคือสาเหตุที่ข้าต้องมาตามหาติงตัง”  ถังเทียนตอบอย่างจนใจ

“ติงตังยังไม่กลับ” เวลานั้นผี่ผาเดินเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงถังเทียน นางขออภัย “แต่นางน่าจะกลับมาในไม่ช้านี้”

“ที่ปิดตาของเจ้ามันน่าเกลียดมาก”  เซรีนตบโต๊ะ “ข้าจะทำของบางอย่างให้เจ้า”

พูดจบนางเดินเข้าไปในห้องทำงาน  หลังจากนั้น 15 วินาที นางถือของบางอย่างออกมา

“แว่นตา?” ถังเทียนประหลาดใจ เขารับแว่นตาจากเซรีนมาสวมดู

เลนส์สีเทาหม่นปิดตาที่ผิดปกติของเขาได้ แต่สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจก็คือเลนส์สีเทาหม่นทำให้การมองเห็นของเขาเป็นปกติอีกครั้ง

“เลนส์สร้างจากผลึกเทา  หลายๆ คนที่ฝึกใช้ตาปล่อยพลังยุทธบางอย่างจะมีความผิดปกติที่ตาของพวกเขา  ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่จะใช้แว่นกระจกเทา”  เซรีนมีท่าทางดีใจ  “เทียบกับที่ปิดตาของเจ้าแล้ว  แว่นตาดูดีกว่ามาก”

“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”  ถังเทียนส่องกระจกดูตนเองเป็นครั้งแรกที่เขาใส่แว่นตาและเงาสะท้อนในกระจกของเขาให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นคนอื่น  หน้าของเขาดูได้สัดส่วน เส้นหน้าแนวกรามให้ความรู้สึกของคนที่มีสุขภาพที่ดีแกร่งกร้าว  แต่พอสวมแว่นตาเขากลับดูมีท่าทีสุภาพขึ้นและดูเหมือนคนทรงภูมิปัญญา

ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นเซรีนและผี่ผาก็ประหลาดใจเช่นกัน

“ตอนนี้เจ้านายดูสุภาพมากขึ้น”ผี่ผาประหลาดใจมาก

เซรีนลูบคางนาง  นางถอยเล็กน้อย  “ใช่แล้ว ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น ข้าไม่เคยคิดเลยว่า เนื้อตัวที่มอมแมมของเจ้าจะมีแก่นแท้แบบนั้น”

ความทึ่งและประหลาดใจของเซรีนและผี่ผาทำให้ถังเทียนมีความสุขมาก

สุภาพ คำนั้นพูดถึงคนที่ได้รับการอบรมและมีสติปัญญา

ถังเทียนที่เป็นเหมือนพวกบ้านนอกเข้ากรุงเชิดหน้ายืดอก และพยายามอย่างหนักทำให้ตนเองดูเป็นผู้ได้รับการอบรมและมีภูมิรู้ปัญญา

“ข้ากลับมาแล้ว”  เสียงของติงตังดังมาจากข้างนอกประตู

ถังเทียนลืมเรื่องท่าทางภูมิฐานของเขาและตะโกนอย่างดีใจ “ติงตัง!  ติงตัง!”

ติงตังมองดูถังเทียนแม้ว่านางจะตกใจกับการแต่งตัวของถังเทียน แต่นางก็อดถอนหายใจไม่ได้ “เจ้านาย,ข้าจำเป็นต้องรายงานข่าวที่ไม่ค่อยดีสองเรื่องกับเจ้า  เบื้องหลังของอูเถี่ยหวี่ก็คือสมาคมรวมตระกูลที่แข็งแกร่ง พวกเขาได้รับข้อมูลบางส่วนจากคนที่ชื่อตี๋หานมาว่าสมบัติระดับเซียนของกลุ่มดาวกางเขนใต้ตกอยู่ในมือของเจ้าซึ่งเกี่ยวข้องกับสมบัติลับของกลุ่มดาวกางเขนใต้ ข่าวร้ายอีกข่าวก็คือ องค์การวิญญาณมืดยังคงมีคนร่วมเคลื่อนไหวด้วย  พวกเขาเลือกหวยไป่หัวและเป้าหมายของพวกเขาก็คือสมบัติเซียนแห่งกลุ่มดาวกางเขนใต้”

“ตี๋หาน? เจ้าตี๋หานนั่นน่ะหรือ?” ถังเทียนประหลาดใจ “เขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ หรือนี่?”

“และดูเหมือนเขาจะเข้าร่วมกับสมาคมรวมตระกูลด้วย”  ติงตังเสริม

“อ้อ” ถังเทียนเข้าใจ  แต่เขายังทำท่ามั่นใจ  “สมบัติลับแห่งกลุ่มดาวกางเขนใต้น่ะ? อุ๊บ...ข้ายังไม่เคยเห็นแม้แต่เหรียญดาวสักชิ้นมาก่อน ปิงเจ้าบ้านี่ก็ยังล้างผลาญเงินของข้าไปมากมายด้วยซ้ำ ฮึ่ม ฮึ่ม,ขอให้เขาไม่มีสมบัติอะไรดีกว่า ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าจะต้องทำให้เขาคายทุกอย่างออกมาให้ได้”

ปิงเพิ่งเข้าประตูมาพอได้ยินคำพูดโมโหของถังเทียน หัวใจเขาสั่น และค่อยๆ ถอยออกมาเงียบๆ

“สมาคมรวมตระกูลและองค์การวิญญาณมืดทั้งสององค์กรทรงพลังมาก”ติงตังอดเตือนถังเทียนไม่ได้ สมองเจ้านายมอดไหม้หมดแล้วหรือไง?

ถังเทียนโบกมือ“ใครจะไปสนเล่า, ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมดรวดเดียวเลย”

ติงตังไม่รู้จะพูดยังไง นางไม่เข้าใจบุรุษหนุ่มที่อยู่ต่อหน้านางเลย  เขาจะเอาแต่กวาดทุกอย่างลงใต้พรมได้อย่างไร  เขาไม่รู้ว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ใดหรือ?เขาไม่เข้าใจพลังขององค์การวิญญาณมืดและสมาคมรวมตระกูลว่า พวกเขาทรงพลังแค่ไหน?

นางกระวนกระวายใจทันที  แต่ถังเทียนไม่สนใจ

“ข้ามาที่นี่ครั้งนี้ด้วยเหตุสองประการ”  ถังเทียนพูดตามตรง “เรื่องแรกข้าต้องการทำความเข้าใจ พลังสายเลือดที่มีอยู่ในตัวข้าเป็นแบบไหนกันแน่  เรื่องต่อมา ข้าอยากซื้อเกราะมาตรฐานของกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  ติงตังเจ้ามีการติดต่ออะไรได้บ้างหรือไม่?”

ติงตังผงะ  “พลังสายเลือด?  พลังสายเลือดของเจ้านายน่ะหรือ?”

ถังเทียนถอดแว่นตาออกและอวดตาแดงตาฟ้าของเขา

ติงตังตกตะลึง  “เจ้านาย!  เกิดอะไรขึ้นกับตาเจ้า?”

“นั่นคือเรื่องที่ข้าต้องการค้นหา”  ถังเทียนตอบจริงจัง “องค์การวิญญาณมืดมีการค้นคว้าพลังสายเลือดมามาก,ข้าคิดว่าพวกเขาสามารถค้นหาคำตอบให้ข้าได้ว่า พลังสายเลือดแบบไหนกันแน่ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายข้า”

“ข้าเข้าใจแล้ว” ติงตังพยักหน้า  “เมื่อทุกอย่างจบแล้ว  ข้าจะพาไป อยู่ไม่ไกลนักหรอก อาจใช้เวลาเดินทางสามวันข้ารู้จักผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดที่เก่งอยู่คนหนึ่ง”

“เราจะไปกันเดี๋ยวนี้” ถังเทียนตอบ

“ตอนนี้...” ติงตังรู้สึกว่านางกำลังจะบ้า  เจ้านายนางไม่เห็นหรือไงตอนนี้อันตรายเพียงไหน?  เจ้านาย,โปรดจริงจังกว่านี้ได้ไหม?  นั่นคือองค์การวิญญาณมืดและสมาคมรวมตระกูล!

ถังเทียนกลับส่ายหน้าอย่างคาดไม่ถึง  “เนื่องจากเจ้าบอกว่าเป็นองค์การวิญญาณมืดและสมาคมรวมตระกูลกำลังมา   อย่างนั้นเรื่องนี้จะยังไม่เกิดขึ้นชั่วคราว”

“ทำไมหรือ?” ติงตังโพล่งออกมา

“เพราะพวกเขายังกังวลคุมเชิงกันเองอยู่  เนื่องจากเหยื่อมีเพียงรายเดียวและนักล่ามีสอง การล่าจะยังไม่เริ่มขึ้นเร็วนัก” ถังเทียนพูดด้วยความมั่นใจ เขาไม่รู้ว่าปัจจุบันเขาเหมือนกับเป็นอีกคนหนึ่งไปโดยปริยายมีความใจเย็นมากขึ้น

ติงตังกับเซรีนตกใจกับพฤติกรรมของถังเทียน

ตาของผี่ผามีประกายงดงาม“เจ้านายพูดมีเหตุผล”

ได้รับคำชมจากผี่ผาผู้ฉลาด  หัวใจถังเทียนยิ่งมีความสุขมาก  เขาเท้าสะเอวเชิดหน้าแหกปากหัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่าของมันแน่อยู่แล้ว, หนุ่มชาวฟ้า..ฉลาดมากจริงๆ”

ติงตังที่ตกใจกับความหน้าหนาของถังเทียนก่อนนั้น  นางไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเจ้านายของนางแท้จริงเป็นคนแบบไหน

แต่ถ้าแม้แต่ผี่ผาก็ยังเห็นด้วยว่ามีเหตุผล  อย่างนั้นก็ต้องมีเหตุผลแน่  เนื่องจากติงตังเชื่อการตัดสินใจของผี่ผา

ติงตังดึงหลอดแก้วออกมาและข้างในมีเลือดอยู่หยดหนึ่ง

“นี่คือเลือดหย่งอัน”  ติงตังอธิบาย “เจ้านาย, ทันทีที่เจ้าดูดซับเลือดนี้ เจ้าจะสามารถเข้าเมืองหย่งอันได้ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสายเลือดพักอยู่อย่างสันโดษในที่นั้น”

ติงตังดึงฝาของหลอดแก้วออกและให้เลือดไว้ในมือถังเทียน

เลือดหย่งอันซึมเข้าไปในผิวของถังเทียนทันที และถังเทียนรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่กระพริบเข้ากระพริบออก

“การเข้าเมืองวิญญาณมืดอย่างเมืองหย่งอันจำเป็นต้องไปให้ถึงภูมิภาควิญญาณ เจ้านายต้องตั้งสมาธิและเชื่อมโยงจากนั้นบริกรรมคำว่าหย่งอันในใจ...”

“หยดเลือดหย่งอันหนึ่งหยดมีราคาประมาณแปดแสนเหรียญดาว  เจ้านายท่านต้องจ่ายเงินให้ข้าด้วย”

โดยมิทันได้พูดสักประโยค  ถังเทียนที่อยู่หน้านางก็หายไป

ติงตังตะลึง  ร้ายกาจนักนะ? ข้าแค่ทวงเงินเท่านั้นเอง....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด