ตอนที่แล้วตอนที่ 285 เปิดรับพนัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 287 จ่าตรีระดับทอง

ตอนที่ 286 ฝ่ายใครฝ่ายมัน


นักสู้วัยกลางคนมองดูคนที่กำลังเข้ามาหาหน้าครึ่งหนึ่งของเขามีหมวกใหญ่ปิดบังไว้ และไม่มีใครบอกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของเขา

ผู้มาถึงเป็นบุรุษอายุราว 45 ปี ท่าทางหน้าตาดูธรรมดาและใบหน้าของเขาประดับรอยยิ้มแสดงท่าทีนอบน้อม “ท่านหวย ข้ายินดีมากจริงๆที่ได้พบท่าน”

เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกมาใต้หมวก  “ข้าสงสัยจริงๆ ท่านหาข้าพบได้อย่างไร?”

“ตะขอฟ้าหวยไป่หัว  หนึ่งในสามผู้ทรงอิทธิพลของกลุ่มดาวหมาป่า  มีชื่อเสียงมีเกียรติภูมิไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดก็ตามก็ซ่อนประกายไว้ไม่ได้แน่นอน”  บุรุษผู้นี้กล่าวยกย่อง

หวยไป่หัวรู้ว่าคนผู้นี้ไม่เคยพูดความจริง แต่ก็ไม่ถือสาเขายังคงร่าเริง  “ข้าว่าหลังจากใช้ความพยายามมากมายเพื่อค้นหาข้าคงไม่ใช่แค่แลกเปลี่ยนคำชมหรอกนะ”

“ท่านฉลาดจริงๆ”  บุรุษผู้นั้นยังคงพูดอย่างเคารพ  “เกี่ยวกับการมาพบในครั้งนี้ก็เพื่อทำข้อตกลงกับท่านหวย”

“ข้อตกลง?”  เสียงหัวเราะดังมาจากใต้หมวก  “ลองว่าให้ฟังซิ”

“อูเถี่ยหวี่ตอนนี้กำลังย่ามใจอย่างหนัก ท่านหวยจะทนได้อย่างไร?” บุรุษนั้นมีสีหน้าเคารพ แต่คำพูดของเขาตรงยิ่งนัก  “อูเถี่ยหวี่ใจคับแคบ  ขณะที่ท่านหวยเป็นคนชั้นสูงมีศักดิ์ศรีไม่ต้องพึ่งคนอื่นต้องมีการแสดงฝีมือบ้างแล้ว”

หวยไป่หัวไม่ตื่นเต้น “อย่ามัวแต่อ้อมค้อมเลย  พูดมาตรงๆดีกว่า”

บุรุษผู้นั้นยิ้ม “เรายินดียื่นมือช่วยท่านหวย สถานการณ์ได้ประโยชน์แก่พวกเราทั้งสองฝ่าย”

“ฝ่ายของพวกเจ้า?  พวกเจ้าเป็นใครกัน?”  หวยไป่หัวมีท่าทางเหมือนคาดหวังและถามอย่างเยือกเย็น

“ข้ามาจากองค์การวิญญาณมืด”  บุรุษผู้นั้นตอบ

“งั้นทำไมพวกเจ้าถึงต้องมาด้วยเล่า? ข้าไม่เชื่อว่าอูเถี่ยหวี่จะให้ความสนใจเจ้ามากนัก” หวยไป่หัวหัวเราะเบาๆ

บุรุษผู้นั้นลอบประหลาดใจ บุรุษที่สามารถใช้คำพูดครอบงำได้ไม่ใช่มีนิสัยง่ายๆ แน่  แค่คำพูดไม่กี่คำ ไม่มีการเตือนใดๆหวยไป่หัวก็ข่มเขาได้เสียแล้ว หน้าของเขามีแววเคารพ “เรามาเพราะถังเทียน”

หวยไป๋หัวพอจะคาดเดาได้ แต่พอได้ยินอีกฝ่ายสารภาพโดยตรง นัยน์ตาภายใต้หมวกใหญ่หรี่ลงโดยมิได้ตั้งใจแล้วกล่าว“คิดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนจะเกี่ยวข้องกับองค์การวิญญาณมืด”

บุรุษผู้นั้นยังมีสีหน้าใจเย็น “เราแค่ต้องการให้ท่านหวยสู้กับถังเทียนแทนเรา  เงื่อนไขแลกเปลี่ยนเรายินดีมอบสมบัติดวงดาวให้ท่านหวย สมบัตินี้มิได้ด้อยกว่าคลื่นหมีปฐพีแน่ นอกจากนี้เรายังจะส่งยอดฝีมือมาให้เป็นกำลังหนุนอีกด้วย”

หวยไป่หัวครุ่นคิดลึกและจู่ๆ ก็ถามขึ้นทันที“ใครอยู่เบื้องหลังอูเถี่ยหวี่?”

“สมาคมรวมตระกูล”  บุรุษผู้นั้นตอบตามตรง

หวยไป่หัวตกตะลึงหนักนี่เป็นครั้งแรกที่เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เขานึกได้ว่าถังเทียนมีเบื้องหลังมาจากสมาพันธ์ชาวยุทธและในที่สุดเขาก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกับกลุ่มพลังใหญ่สามฝ่าย

ความรู้สึกสงบก่อนพายุจะมาทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจ กลุ่มดาวหมาป่าซึ่งสงบมายาวนานกลายเป็นสถานที่ขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มพลังที่มีอิทธิพลใหญ่ทั้งสามแทบจะจินตนาการได้ว่าความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมไม่ธรรมดาแน่นอน

แม้ว่าหน้าของบุรุษนั้นจะเต็มไปด้วยความยกย่องนับถือ  แต่หวยไป่หัวรู้ว่าเขาไม่มีพลังพอปฏิเสธ

ติงตังมองดูข้อมูลในมือนางและพยายามกลั่นกรอง นางยอมรับว่ามีความรู้สึกไวต่อข้อมูลรายละเอียดเป็นพิเศษ  วัยอย่างนาง ไม่มีพลังหนุนหลังสามารถกลายเป็นม้าเงินขององค์การวิญญาณมืด นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

มีเนื้อหาในข้อมูลไม่มาก แต่นางยังคงพบร่องรอยบางอย่าง

กลุ่มดาวหมาป่าเป็นแค่กลุ่มดาวเล็กๆ และอยู่ในลำดับท้ายๆของสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ นอกจากนี้กลุ่มดาวหมาป่า ยังไม่ใช่กลุ่มดาวที่พัฒนาขึ้นใหม่  มันคือกลุ่มดาวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานทรัพยากรและแร่ธาตุถูกสำรวจมานานแล้ว  ความกันดารของกลุ่มดาวหมาป่าเป็นที่รู้จักกันดี  นอกจากนี้พลังสายเลือดของชาวกลุ่มดาวหมาป่าทางองค์การวิญญาณมืดได้ค้นคว้าจากหลายกลุ่มบุคคลแล้ว และพบว่ายังไม่มีค่ามากนัก

สถานที่อย่างนั้นสำหรับองค์การวิญญาณมืดไม่มีค่าเท่าใดนัก ไม่เพียงแต่องค์การวิญญาณมืดเท่านั้น แม้แต่สมาพันธ์ชาวยุทธและสมาคมรวมตระกูลไม่ได้ให้ความสนใจกลุ่มดาวหมาป่าแม้แต่น้อย

เป็นเวลานานแล้ว ที่กลุ่มดาวหมาป่าเป็นแผ่นดินของชาวดาวหมาป่าอยู่เสมอ

เถียนจื่อซี ทำเนียบสวรรค์วิถีอันดับ 9370

อันไป่ ทำเนียบสวรรค์วิถีอันดับ 9503

เหมาจวิน ทำเนียบสวรรค์วิถีอันดับ 9632

ติงตังคุ้นเคยกับรายชื่อทั้งสามนี้ดี  นางเคยติดต่อกับเถียนจื่อซีแล้วทั้งสามคนคือนักล่าเงินรางวัลที่มีชื่อเสียง ที่ไม่ได้สังกัดกลุ่มอำนาจใด ความแตกต่างระหว่างนักล่าเงินรางวัลกับนักฆ่าก็คือตราบเท่าที่พวกเขาได้รับเงินเพียงพอ พวกเขาจะรับงาน ทั้งสามคนนี้กล้าหาญมาก และเป็นนักล่าที่มีประสบการณ์มากมาย

คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งสามคนนี้จะมาปรากฏตัวในกลุ่มดาวหมาป่า  นอกจากอูเถี่ยหวี่แล้วเห็นได้ชัดว่าเป้าหมายอยู่ที่ถังเทียนและพวก

ติงตังเข้าใจเรื่องตลาด สามารถเชิญทั้งสามคนนี้ได้  ราคาที่ต้องจ่ายก็ต้องหนักด้วย นักสู้ระดับสวรรค์วิถีปกติจ้างกันวันละสามแสนเหรียญดาว  แค่นั้นยังดึงดูดใจได้ไม่กี่คนฉะนั้นเมื่ออู่กวงได้ยินว่าถังเทียนจ้างงานวันล้าน  เขารับปากทันทีโดยไม่คิดอะไรอื่น ขณะที่สำหรับยอดฝีมือที่มีชื่อในทำเนียบจะเป็นอีกราคาหนึ่ง  ราคาของเหมาจวินอย่างน้อยวันละสองล้านเหรียญดาว  อันไป๋วันละสามล้าน  ขณะที่เทียนจื่อซีอย่างน้อยก็ต้องวันละห้าล้าน

ราคาของทั้งสามคนอย่างน้อยต้องจ่ายวันละสิบล้านเหรียญดาว

ทั้งสามคนอยู่ที่กลุ่มดาวหมาป่ามานานมากกว่าสิบวัน  ก็หมายความว่าจ่ายค่าจ้างใช้ไปร้อยล้านเหรียญดาวแล้ว

ติงตังมีสีหน้าหวาดหวั่นทันทีเพราะนั่นหมายความว่าอีกฝ่ายไม่ใช่แค่รวยอย่างเดียวเท่านั้น  แต่ยังไม่ใช่คนธรรมดาอีกด้วย  นางไม่แน่ใจอีกฝ่าย  แต่สำหรับเถียนจื่อซี  นางมีความเข้าใจของนาง  ถ้าไม่ใช่คนที่มีอิทธิพลนางคงไม่มีทางรับจ้างแน่

การตัดสินใจของคนเจ้าแผนการเป็นธรรมดาที่จะเห็นได้

ตอนนี้ติงตังสงบใจได้แล้ว นางลุกขึ้นกวาดตามองไปรอบๆในที่สุดก็มาหยุดนิ่งที่ลุงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงมุม  นางตาเป็นประกายทันทีเดินไปที่โต๊ะของลุงผู้นั้นแล้วนั่งลง

ลุงผู้นั้นมีผมหงอก อายุราวๆ สี่สิบ  เสื้อผ้าของเขาเก่าขาดรุ่งริ่งและกำลังดื่มเบียร์ราคาถูก เอนหลังอย่างสบาย

“เฮ้, ลุงอู๋,ข้าอยากจะถามอะไรบางอย่าง” ติงตังดูมีท่าทางเกียจคร้าน

“เฮ้,นังหนูก็อยู่นี่ด้วย ข้ารู้ว่าคนพวกนี้ไม่สามารถทำให้เจ้าพอใจได้” ลุงอู๋ตอบร่าเริงหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยย่นและดูยู่ยี่

ติงตังจ้องดูเขา “ลุงอู๋, เราคบกันมาหลายปีแล้ว ลุงจะไม่ให้ข้อมูลข้าเลยสักนิดหรือ?”

ลุงอู๋ทำท่าทางช่วยไม่ได้ “เจ้าไม่อยู่ในช่วงเวลานั้น จะมีก็แค่แมลงเล็กน้อย  พวกนั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้อย่างไร?”

ติงตังและลุงอู๋กำลังคุยเรื่องที่นางติดตามก่อนนั้น  แต่ทั้งสองไม่ถือสาเรื่องนี้  ติงตังได้รับข้อมูลของนางนานแล้ว และถูกคนพวกนั้นกำจัดไปแล้ว  ตอนนี้ติงตังไม่ยากจนและโง่ต่อไป  ถังเทียนอาจดูเหมือนไม่ห่วงอะไร  แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับข้อมูล  ดังนั้นติงตังรวบรวมข้อมูลไว้ในมือให้มากดีกว่า

คนที่มีประสบการณ์อย่างนาง  ตราบใดที่จ่ายได้ นางสามารถเตรียมกับดักฆ่าคนได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย

“ฮื่ม..ข้าจะไม่เถียงเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว!  แต่เรื่องที่ข้าอยากถามวันนี้ท่านอย่าให้ข้อมูลเท็จกับข้าดีกว่า” ติงตังกล่าว

ลุงอู๋พยักหน้าร่าเริง “จริงแท้แน่นอน”

ติงตังชี้ไปที่การพนันขันต่อบนกระดาน  “ข้าต้องการถามเรื่องนี้”

ลุงอู๋มีสีหน้าประหลาดใจ และจ้องมองติงตัง  “เจ้าสนใจเรื่องนี้ด้วยจริงๆ หรือ?”

ติงตังยิ้มเห็นฟันขาว “โธ่ลุงอู๋คนดี ข้าเตรียมเงินหนึ่งล้านเหรียญดาวไว้ให้ลุงแล้ว  ขึ้นอยู่กับว่าลุงจะจัดการได้จริงหรือไม่”

“มีอยู่คนหนึ่งชื่อตี๋หาน”ลุงอู๋โพล่งออกมา “แมลงตัวน้อยในองค์การเราตอนนั้นหายสาบสูญไปที่เมืองซิงฟง  คิดไม่ถึงเลยว่าเขาไปเข้ากับพวกสมาคมรวมตระกูลและปล่อยข่าวลือว่าสมบัติระดับเซียนของกลุ่มดาวกางเขนใต้ตกอยู่ในมือของถังเทียน”

สีหน้าของติงตังยังสงบ แต่หัวใจนางเต้นถี่แรง ถังเทียนไม่เคยปิดบังความตั้งใจไปกลุ่มดาวกางเขนใต้ แม้ว่านางไม่เคยเห็นสมบัติระดับเซียนมาก่อน  แต่นางคาดว่าข้อมูลนี้ควรจะแม่นยำระดับสูง  เพราะนางก็คาดเดาได้เช่นเดียวกัน

“เจ้าน่าจะเคยได้ยินตำนานของกลุ่มดาวกางเขนใต้มาบ้างนี่เป็นวัฏฏจักรมานานแล้ว สมบัติของกลุ่มดาวกางเขนใต้ เก็บงำความลับขนาดใหญ่ไว้มาก”ลุงอู๋หัวเราะ

ติงตังแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ  “ลุงหมายถึงสมบัติของกองทัพดาวกางเขนใต้น่ะหรือ?”

“ฮ่าฮ่า ไม่มีไฟย่อมไม่มีควัน  กองทัพกลุ่มดาวกางเขนใต้ ห้าวหาญชาญศึกมากในตอนนั้นพวกเขาคงไม่ทิ้งสมบัติอะไรไว้เลยกระมัง” ลุงอู๋หัวเราะ

“ดูเหมือนสมเหตุสมผล”ติงตังพยักหน้าเห็นด้วย  แต่แอบหยันในใจกองทัพดาวกางเขนใต้ตกมาอยู่ในเงื้อมมือเจ้านาย ประวัติศาสตร์ของกองทัพดาวกางเขนใต้ของลุงปิง ทุกคนก็ได้รู้จักเช่นกัน

“ถังเทียนมีพื้นเพมาจากสมาพันธ์ชาวยุทธดังนั้นสมาคมรวมตระกูลจึงกังวลและไม่ต้องการจะพัวพันขัดแย้งกับสมาพันธ์ชาวยุทธ”ลุงอู๋แค่นเสียง “สมาคมรวมตระกูลที่น่าสงสาร เป็นกลุ่มที่ร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่รู้ตัวว่าถูกแทรกแซงจากองค์กรเราและสมาพันธ์ชาวยุทธอย่างลึกซึ้ง  พวกเขาคิดว่ากำลังทำงานได้ดีปกปิดความลับได้อยู่ แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่าทุกคนรู้เรื่องมานานแล้วสมาพันธ์ชาวยุทธที่หนุนหลังเขาอยู่จะไม่ช่วยได้อย่างไร?  คนของถังเทียนก็ไม่ใช่พวกปวกเปียก”

จากนั้นเสียงแก๊งก็ดังขึ้นและมีอีกชื่อหนึ่งปรากฏบนกระดาน

หวยไป่หัว

ร้านเหล้ามีเสียงโวยวายทุกคนกำลังถกเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด

ลุงอู๋พูดเฉื่อยชา “ดูเหมือนว่าคนขององค์การวิญญาณมืดของเราไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป”

สมาพันธ์ชาวยุทธ

จิ่งหาวนั่งสงบเสงี่ยมอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสคนหนึ่งผู้อาวุโสท่านนี้มีผมขาวโพลนก็คืออาจารย์ของเขา

“วางใจได้เราไม่ทำตัวเป็นคนตาบอดแน่” ผู้เฒ่ายิ้มอย่างเมตตา “เนื่องจากถังเทียนเข้าร่วมกับเรา เราจะไม่ยอมให้เขาถูกรังแกแน่ อย่างไรก็ตามกลุ่มนักสู้เราไม่มีฐานอยู่ในกลุ่มดาวหมาป่า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งคนไปช่วยได้มาก  อย่างไรก็ตามข้าจะขอความช่วยเหลือจากผู้เฒ่าเกอให้ส่งไปสี่คน”

จิ่งหาวดีใจ “เยี่ยมเลย ข้าจะไปด้วย!”

นำความรุ่งเรืองมาให้กลุ่มเป็นคุณลักษณะที่เด่นของสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่ว่ามันต้องจ่ายราคามากหากจะทำเช่นนั้น  ดังนั้นช่องทางมีจำกัด  อาจารย์จะต้องทุ่มเทต่อสู้เพื่อโอกาสครั้งนี้

“เจ้าจะไปไม่ได้”  ผู้อาวุโสยืนยัน  “สมบัติดาวพิณเกือบจะทำงานแล้ว  เจ้าจะจากไปได้ยังไง?”

จิ่งหาวห่วงใย “แต่ว่า...”

ผู้อาวุโสยกมือห้าม และยืนยัน “ไม่ต้องต่อรอง”

เมื่อเห็นว่าศิษย์รักไม่สบายใจ ผู้เฒ่าถึงกับหัวเราะ  “อย่าห่วงเลยอาโมรี่และพวกพ้องในช่วงนี้ฝีมือก้าวหน้าดีขึ้นมาก  ได้เวลาที่พวกเขาจะออกไปฝึกฝนหาประสบการณ์จริงๆแล้ว”

จิ่งหาวเพิ่งได้พบกับทั้งสี่คนมาแล้ว  ความก้าวหน้าของพวกเขาเกินหน้ากว่าเพื่อนคนอื่น

ได้คนทั้งสี่คอยช่วยเหลือ เขายิ่งวางใจได้มากขึ้น

เมื่อผู้อาวุโสเห็นว่าจิ่งหาวมีสีหน้าผ่อนคลาย“เจ้าห่วงตัวเองดีกว่า ถังเทียนมีพรสวรรค์ ความก้าวหน้าของเขาไวกว่าพวกเจ้าเขาสามารถสร้างสุดยอดวิชาโดดเด่นขึ้นมาได้ อันดับของเขากระโดดก้าวหน้าไปมาก อย่าได้ถูกเขาทิ้งห่างเสียเล่า”

จิ่งหาวกระตือรือร้นและมั่นใจ “อาจารย์วางใจได้  ข้าได้ความคิดดีๆ เกี่ยวกับวิชากระบี่แล้ว ข้าจะบัญญัติวิชาเฉพาะขึ้นมาได้แน่”

ผู้เฒ่าพยักหน้ายินดี “เจ้ามักฝึกฝนมิได้ขาด ข้าสามารถวางใจได้ แต่เรื่องสมบัติกลุ่มดาวพิณครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของกลุ่มเราในอีกยี่สิบปี  เจ้าต้องระมัดระวัง”

น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสอย่างพวกเขาไม่สามารถเข้าไปดูสมบัติกลุ่มดาวพิณได้ในครั้งนี้ซึ่งทำให้เขาเป็นกังวล

จิ่งหาวคำนับ “ข้าจะทำอย่างดีที่สุด!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด