ตอนที่ 285 เปิดรับพนัน
ติงตังมองรอบๆตัวอย่างใจเย็น ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด
เมืองหย่งอันคือเมืองวิญญาณเลือดที่ซึ่งองค์การวิญญาณมืดใช้พลังสายเลือดของพวกเขาและจิตวิญญาณยุทธจัดสร้างฐานทัพในภูมิภาควิญญาณ และเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นที่ติงตังใช้งานมากที่สุด แค่เพียงใช้คะแนนบางส่วนก็มีสิทธิ์ได้เข้าไปในเมืองหย่งอันแล้ว
เลือดหย่งอันหนึ่งหยด
เมื่อฉีดเลือดหย่งอันเข้าในร่างกายนักสู้ก็สามารถมาที่เมืองหย่งอันได้จากประตูดวงดาวของภูมิภาควิญญาณทุกที่
สมาพันธ์ชาวยุทธใช้ป้ายเกียรติยศชาวยุทธขณะที่องค์การวิญญาณมืดมีเมืองวิญญาณเลือด เป็นส่วนดีของแต่ละฝ่าย
เมืองหย่งอันมีการรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า เพราะทั้งหมดเป็นดินแดนขององค์การวิญญาณมืด อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่คนขององค์การวิญญาณมืดเท่านั้นที่อยู่ในเมืองหย่งอัน ยังมีนักสู้อื่นๆอีกมากมายจากพื้นที่อื่นอีกด้วย เพราะขนาดของเมืองวิญญาณเลือดอย่างเมืองหย่งอันสามารถผลิตเลือดหย่งอันถึงสามแสนหยด ก็หมายความว่าเมืองหย่งอันมีที่อยู่สำหรับคนสามแสนคน
การขายหยดเลือดหย่งอันเป็นเรื่องที่ทำกำไรได้มาก อย่างไรก็ตามยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
ติงตังไม่สนใจขายเลือดหย่งอัน เนื่องจากนางมาที่นี่เพื่อหาข้อมูลมากกว่า ในฐานะที่เป็นฐานที่มั่นขององค์การวิญญาณมืด ตำแหน่งม้าขององค์การมักจะมาปรากฏตัวที่เมืองหย่งอันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
ร้านเหล้าเขาเหล็ก มีเขาเหล็กคู่ใหญ่แขวนอยู่ที่ประตู
ขนาดของร้านเหล้าใหญ่โตน่าตกใจโต๊ะสามพันตัวที่เรียงรายเป็นแถว แลดูงดงามราวกับสถาบันขนาดใหญ่ ร้านเหล้าคนยังไม่เต็มแต่ก็มีคนเนืองแน่นกระจายกันทำกิจกรรมต่างๆเบื้องหลังร้านเหล้าเขาเหล็กคือผู้อาวุโสองค์การวิญญาณมืด มียอดฝีมืออยู่ประจำตลอดทั้งปี ไม่มีผู้ใดกล้าสร้างปัญหายุ่งยากที่นี่ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ที่นี่คือสถานที่ปลอดภัยที่สุดในเมืองหย่งอัน
ขายข้อมูล,ขายสิ่งของพิเศษ, คุยกันเรื่องธุรกิจ ฯลฯ แทบทุกอย่างที่จะคิดได้มีอยู่ที่นี่
ติงตังสั่งน้ำลูกพลัมอย่างคล่องแคล่วหามุมสงบด้านหนึ่งนั่งดื่ม การเก็บเกี่ยวข้อมูลเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทน นางอยู่กับงานนี้มาหลายปีแล้ว คุณสมบัติม้าเงินขององค์การวิญญาณมืดมิใช่จะรับมาได้ง่าย
ทันใดนั้น แก๊ง แก๊งแก๊ง เสียงค้อนเคาะในร้านเหล้าดังสามครั้ง
ร้านเหล้าเงียบเสียงลงทันทีติงตังยังคงนั่งจิบน้ำลูกพลัมต่อไปโดยไม่กระพริบตา เพราะร้านเหล้ามักจะเปิดรับพนันทุกวัน นี่คือศูนย์กลางข้อมูล ข้อมูลจะกระจายไปในวงกว้างและไกลเดิมพันที่วางไว้ก็แปลกเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นถ้าใครบางคนต้องการโจมตีเซียนกระบี่ พวกเขาจะเปิดเดิมพันว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่
ตัวอย่างอื่นก็เช่นถ้าครอบครัวเก่าแก่จัดแต่งงานพวกเขาก็จะพนันกันว่าจะมีใครบางคนเป็นแขกไม่ได้รับเชิญและสร้างความปั่นป่วนให้
ติงตังคุ้นเคยมานานแล้ว
เสียงห้าวดังก้องขึ้นในร้านเหล้า
“การพนันประจำวันนี้เป็นเรื่องราวการต่อสู้ของกลุ่มดาวหมาป่า มีสองฝ่ายให้วางเดิมพัน ฝ่ายหนึ่งคือถังเทียน,อีกฝ่ายหนึ่งคืออูเถี่ยหวี่ ไม่มีการอั้นจำนวนเหรียญดาวเดิมพัน ทุกคนแสดงพลังของพวกเขาได้เต็มที่และจะเพิ่มมูลค่าเดิมพันของทุกคนก็ได้”
ขณะเดียวกันคำว่า“ถังเทียน ปะทะ อูเถี่ยหวี่” ปรากฏอยู่บนผนังร้านโรงเหล้า
ติงตังตะลึงทันที
ลูกค้าผู้มีความสนใจซื้อข้อมูลจากบริกรห้าเหรียญดาวซึ่งเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างมาก ขณะที่ลูกค้าที่อยู่ด้านหลังเริ่มขยับมาคุยปรึกษากันและกัน
แต่ก่อนที่ติงตังจะตั้งตัวได้จำนวนที่วางเดิมพันด้านอูเถี่ยหวี่เริ่มเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
พริบตาเดียวจำนวนวางเดิมพันด้านอูเถี่ยหวี่กระโดดขึ้นไปถึงสองล้านขณะที่จำนวนเดิมพันด้านถังเทียนเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่น
ติงตังใจตกวูบ
นี่หมายความว่าเดิมพันว่าชัยชนะจะตกเป็นของอูเถี่ยหวี่สูงถึงสองล้านเหรียญดาวแล้ว ขณะที่เดิมพันชัยชนะของถังเทียนสูงเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นเหรียญดาว!
ติงตังมีความรู้สึกไม่ดีนางคือยอดฝีมือคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ ปกติพวกที่พนันก่อนจะเป็นพวกที่มีข้อมูลมากที่สุด คนเหล่านี้ไม่ได้มองถังเทียนในแง่ดี
นางพยายามสงบอารมณ์อย่างดีที่สุดเรียกบริกรมาและขอซื้อข้อมูลชุดหนึ่ง
นางไม่สามารถทนได้อีกต่อไป สีหน้านางเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
เผ่าหมาป่าเพลิง
หลิงซิ่วกัดฟัน พลังของน้ำยาซึมซาบเข้าไปในร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง ความเจ็บปวดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทงโจมตีทั่วร่างของเขาเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นไหลลงไปตามร่องแก้มลงผสมในน้ำยาในถัง
น้ำยาดำกระเด็นและเปลี่ยนไปราวกับสัตว์ประหลาดร่างกายของเขาสั่นแต่ไม่ชัดเจน เขาพริ้มตาแน่นขณะอดทนต่อความเจ็บปวดรุนแรง
ชั่วเวลาต่อมาน้ำยาในถังค่อยๆ สงบเย็นลงและน้ำยาดำเป็นสภาพเป็นสีใส
แววสีหน้าเจ็บปวดของหลิงซิ่วค่อยๆหายไปเช่นกัน
เฮ่อ..
เขาระบายลมหายใจแผ่วเบาเม็ดเหงื่อกลิ้งลงมาตามสันจมูก ขนตาสีเงินกระตุกก่อนจะค่อยๆ ลืมตา ม่านตาสีแดงเพลิงสงบผิดปกติ ไม่มีความโกรธ ความดุร้ายเหมือนกับในอดีต
เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้ชีวิตใหม่
เขายืนอยู่หน้ากระจกเงาผิวของเขาเปล่งปลั่งมีสีเงินทองฉาบอยู่บนผิวซึ่งแสดงถึงรูปลักษณ์ที่ผิดรูปแต่ให้ความรู้สึกสวยงามประหลาด นอกจากหน้าซึ่งขาวเกินไปแล้ว ไม่มีอะไรอื่นผิดปกติ หลิงซิ่วยกฝ่ามือของเขาดูฝ่ามือที่เคยดำเหมือนเหล็ก ตอนนี้ดูเรียวยาวเหมือนมือสตรีสีเงินสะดุดตาทำให้ฝ่ามือนี้ดูเหมือนงานศิลปะ
นิ้วสีเงินรวบเข้าด้วยกันเวลาโบกฝ่ามือจะดูนุ่มนวล
ฟิ้ว
เสียงแหลมแหวกอากาศจนแทบจบร่องรอยไม่ได้
หรือว่านี่มาจากปฏิกิริยาเงิน
หลิงซิ่วรู้สึกถึงกระแสของเหลวสีเงินในฝ่ามือเขานี่คือพลังเงิน
กระบวนการแปรสภาพเป็นเงินเริ่มกัดกร่อนกระดูกของเขา
ก่อนหน้านี้กระพรวนลมเขาแกะช่วยเพิ่มพลังให้วิชาหอกทะเลจุดของเขาและระดับแปรสภาพเป็นเงินก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ผิว เนื้อ เลือดและเอ็นของเขาแปรสภาพเป็นเงินแล้วและผิวกระดูกของเขามีจุดเงินปรากฏ
ผมของเขาก็เหมือนกับเส้นเปลวเงินและแม้แต่ขนตาของเขาก็กลายเป็นเงิน
เมื่อออกมาจากถังน้ำยาแล้วกระดูกสันหลังของเขาก็เริ่มเจ็บปวด สำหรับอาการเจ็บปวดที่เกิดจากแปรสภาพเป็นเงินนั้นรุนแรงมากถ้าไม่ใช่เพราะพลังใจของหลิงซิ่วในปัจจุบันซึ่งแกร่งกว่าแต่ก่อนมากเขาคงอยู่อย่างลำบาก
เขาเหยียดนิ้วตนเองออกช่วงเวลาต่อมา มีหยดเงินออกมาจากปลายนิ้วของเขา
ตาสีแดงเพลิงของหลิงซิ่วปรับเปลี่ยนจนสีเงินลดลง
หลังจากแปรสภาพเป็นเงินร่างจะผลิตของเหลวเป็นเงิน และของเหลวเงินนี้สามารถโคจรได้ง่ายในตัวของเขา ต่างจากปราณแท้ซึ่งโคจรไปตามเส้นชีพจร ตอนนี้ร่างของเขาสร้างของเหลวเงินได้เพียงหยดเดียว
ของเหลวเงินนี้คล้ายกับหยดเงินที่หลอมละลาย
จากของเหลวเงินนี้เขาสามารถรู้สึกได้ถึงปราณอันตรายที่มิอาจบ่งบอกได้
ของเหลวคล้ายเงินซึมซาบเข้าไปในนิ้วของเขาทันทีและคงเหลือให้เห็นในนิ้วชี้จากมุมตาของเขาหลิงซิ่วเห็นโล่ทองจากด้านข้าง นี่คือโล่กองทหารทะเลทรายธรรมดา โล่นี้ไม่ใหญ่ กว้างราวๆ ครึ่งเมตรง่ายต่อการผูกรัดกับแขนมันสร้างด้วยเหล็กกล้าทั้งหมด ด้านหน้ามีการแกะสลักรูปอูฐ
หลิงซิ่วไม่ได้เรียกปราณแท้แต่อย่างใดแต่พอแตะนิ้วชี้บนผิวโล่เท่านั้น ฉึกนิ้วชี้ของเขาแทงเข้าไปในโล่ราวกะจิ้มใส่เต้าหู
หลิงซิ่วตะลึงและนัยน์ตาเขาฉายประกาย
แข็งแกร่งยิ่งนัก
โล่นี้ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งทนและเขาถ่ายกำลังลงไปมากกว่าครึ่งของปราณแท้เขา ก่อนที่เขาจะสำเร็จผลเช่นเดียวกับนิ้วของเขา เขาชูนิ้วขึ้น ฉึก ฉึก ฉึกในพริบตาโล่เป็นรูพรุนเหมือนรังผึ้ง
แต่ของเหลวเงินไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย
สีหน้าของหลิงซิ่วมีประกาย หลังจากลังเลอยู่เขาถ่ายเทปราณแท้ลงไปครึ่งหนึ่งและกระแทกนิ้วชี้ใส่โล่
ปัง!
โล่ระเบิดต่อหน้าเขาทันใดกลายเป็นเศษเหล็กและฝุ่นผง
หลิงซิ่วจ้องมองดูเศษเหล็กและฝุ่นบนพื้นอย่างงงงวย ใจของเขาปั่นป่วนเหมือนระลอกคลื่น
ของเหลวเงินนี่คืออะไรกันแน่?
เขารู้ว่ามันทรงพลังอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเขาถนัดในวิชาหมัด ฝ่ามือและกรงเล็กแค่เพียงนิ้วเดียวและฝ่ามือ ศัตรูของเขาจะถูกขยี้เป็นผุยผง
ทันใดนั้นหลิงซิ่วมีความคิดอย่างหนึ่ง เขาหยิบหอกเงินขึ้นมา
เขานึกออกว่าหอกเงินของเขายังคงเป็นสีเงินอยู่ตลอดเช่นกันในตอนแรกเริ่มกระบวนการแปรสภาพเป็นเงินดูเหมือนเป็นเชื้อที่รุนแรงสำหรับเขามันกัดกินสิ่งทั้งหมดที่เขาใช้สอย อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น เขาตระหนักได้ว่า นอกจากจะลามอยู่ในร่างของเขาแล้วการแปรสภาพเป็นเงินยังคงเกิดขึ้นกับหอกของเขาด้วยเช่นกัน!
ระดับการแปรสภาพเป็นเงินของหอกจะช้ามากมีแต่เพียงผิวชั้นบางๆ ที่เป็นเงิน แม้อย่างนั้น หอกเงินก็ดูเหมือนจะเปล่งประกายมากกว่าแต่ก่อน หลิงซิ่วพยายามถ่ายของเหลวเงินเข้าไปในหอกเงินของเขา แต่ในไม่ช้าเขาก็ต้องพบกับการต่อต้าน เพราะของเหลวเงินไม่สามารถทะลวงเข้าไปในพื้นผิวชั้นล่างของหอกได้
ของเหลวเงินสามารถโคจรผ่านพื้นที่ซึ่งแปรสภาพเป็นเงิน
ดูเหมือนหลิงซิ่วจะเข้าใจ แต่ทันใดนั้นเขาเกิดแนวความคิดที่กล้าหาญ เนื่องจากหอกเงินมีกระบวนการแปรสภาพเฉพาะผิว อย่างนั้นเขาจะกระจายของเหลวเงินคลุมเป็นชั้นบางๆทั่วหอกเงิน
ของเหลวเงินแพร่กระจายเป็นชั้นบางๆตามความคิดของหลิงซิ่วทันทีและหุ้มรอบหอกเงินไว้ในพริบตา
สายตาของหลิงซิ่วกวาดมองทั่วห้องและในที่สุดก็มองเห็นค้อนขนาดใหญ่ที่มุมห้อง หนักเกินกว่า 240 กิโลกรัม ดูเหมือนว่านักสู้ในอดีตจะใช้สำหรับฝึกฝนพลังความเข้มแข็ง แต่มันดูเหมือนไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานานแล้วเพราะมีฝุ่นจับ
เขาลูบนิ้วเงินของเขา
รังสีเย็นสายหนึ่งกระทบใส่ค้อน
ปัง!
ค้อนยักษ์แตกระเบิดเป็นเศษเหล็กเศษผงทันทีต่อหน้าต่อตาหลิงซิ่ว แม้แต่เศษเหล็กที่กระดอนออกไปกระแทกใส่ผนังก่อให้เกิดรูเล็กๆ มากมาย
หลิงซิ่วตะลึงและทึ่งอยู่กับพลังที่น่าอัศจรรย์เช่นนั้น ค้อนหนักเกินกว่า 240 กิโลกรัมไม่ใช่เรื่องยากที่จะเจาะรูหรือกระแทกให้แตกเป็นเสี่ยง แต่จะทำให้พังในทันทีแบบนี้จำเป็นต้องมีพลังที่น่ากลัว
นี่ขนาดแค่ของเหลวเงินเพียงหยดเดียวเท่านั้น....
นี่คือหอกที่ผิวฉาบของเหลวเงินนั้น...
ถ้าหอกเงินทั้งหมดผ่านกระบวนการแปรสภาพเป็นเงินมีของเหลวเงินมากมายหลายหยดถ่ายเข้าไปในปลายคมหอก หลิงซิ่วไม่กล้านึกภาพเลยว่าจะมีพลังขนาดไหน ทันใดนั้นเขาตระหนักได้ว่าหอกเงินนี้อาจเป็นสมบัติโบราณที่กองพาหนะน้ำแข็งเงินทิ้งไว้ให้ซึ่งมันถูกสร้างมาเพื่อกระบวนการแปรสภาพเป็นเงิน
ดังนั้นการแปรสภาพเป็นเงินไม่เพียงแต่นำความเจ็บปวดมาให้ แต่ก็นำประโยชน์มาให้เช่นกัน
หลิงซิ่วได้รู้แจ้งทันที
อย่างไรก็ตามหลังจากตกใจในตอนแรก หลิงซิ่วก็ฟื้นความรู้สึกกลับคืนมา และเข้าใจว่าเขาแค่กำลังฝันไป เพราะระดับแปรสภาพเป็นเงินของหอกช้ากว่าร่างกายเขามาก หลังจากร่างกายของเขาแปรสภาพเป็นเงินเต็มที่ หอกเงินอาจไม่แปรสภาพเป็นเงินก็ได้
เขาอาจไม่ตายเพราะความเจ็บปวดนั้นก็ได้...
หลิงซิ่วที่ส่องกระจกหัวเราะลั่นทันที เขาขำกับความคิดที่ตลกของเขาจริงๆ หลังจากใช้เวลานานกับเจ้าคนบ้านั่นมันทำให้ระดับสติปัญญาของเขาต่ำลงจริงๆ
เขาเริ่มใช้ผ้าพันแผลและพันตัวอย่างระมัดระวัง เขาเคยใช้พลังมากหลายครั้ง ผ้าพันแผลช่วยให้กระดูกสันหลังของเขาปลอดภัยและบรรเทาความเจ็บปวด
เมื่อพันผ้ารอบตัวเสร็จสิ้น จากนั้นเขาจึงหยุด
ภาพที่น่าขนลุกเหมือนภาพวาดเปล่งประกายเงินและรูปร่างประหลาดหายไปแล้ว และบุรุษหนุ่มที่ปรากฏในกระจกดูดีร่าเริงเป็นปกตินัยน์ตาสีแดงเพลิงทอประกายอบอุ่น เริ่มมีประกายจ้า
“หลิงซิ่ว, สู้โว้ย!”
หลิงซิ่วควงหอกและยืนตรงพูดเบาๆ กับเงาร่างในกระจกเงา